Picking Up Attributes From Today ไปเก็บสเตตัสที่ต่างโลก – บทที่ 1 ทวีปแดนสวรรค์ คลื่นอสูรกำลังมา
บทที่ 1 ทวีปแดนสวรรค์ คลื่นอสูรกำลังมา
เบื้องบนท้องฟ้าห่างไกล บนทะเลที่ไร้ซึ่งพรมแดนแห่งแดนสวรรค์
“ข้า เหมิงเหล่ย จักพิพากษาความตายให้แก่เจ้า”
ชายคนหนึ่งยืนเด่นสง่าท่ามกลางพายุโหมกระหน่ำ ถือหอกอัสนีและมีปีกสายฟ้าที่หลัง ดั่งเทพแห่งพายุจุติลงมาจากสวงสวรรค์ ประกาศกร่าวด้วยความเด็ดขาด
เปรี้ยง!
ทันใดนั้น มังกรอัสนีคู่ ร่างกายกำยำก็พุ่งทิ้งดิ่งลงมาจากสวรรค์ ผ่าเข้ากลางสิ่งมีชีวิตขนาดยักษ์ด้านหน้า พลังทำลายล้างมันมากพอที่จะทำลายโลกได้ทั้งใบด้วยซ้ำ
ทางซ้ายมือ คือมังกรขนาดยักษ์สีทองมีปีกที่แผ่ขยายออกไปได้มากกว่า 1000 เมตร เปล่งประกายแสงสีทองออกมาทั่วตัว
ทางด้านขวาเป็นยักษ์สายฟ้าตัวมโหฬาร ขนาดตัวเท่าภูเขา ถือค้อนคู่สีทองในมือ
“บ้าจริง!”
ทันทีที่เห็นพลังทำลายล้างมหาศาลที่แพร่ออกมาจากมังกรอัศนี มังกรทองกับยักษ์สายฟ้าประสานสายตากันแล้ว รีบตอบสนองในทันที
พวกมันร่ายเวท แสงสีทองกับสายฟ้าสีม่วงผสานกันจนกลายเป็นโล่พลังงาน ปกป้องพวกเขาจากมังกรอัศนี
แต่ถึงอย่างนั้น โล่นั้นก็ไร้ความหมาย
มังกรอัศนีที่ผ่าลงมาจากฟ้าทำลายโล่พลังพังทลายลงอย่างง่ายดาย
“อ๊ากก!!”
ทั้งมังกรทองและยักษ์สายฟ้าคำรามร้องออกมาอย่างเจ็บปวดพร้อมๆกัน ควันดำเริ่มขโมงขึ้นมาจากตัวของพวกมัน พลังมังกรอัศนีฉีกและเผาผลาญผิวหนังและกล้ามเนื้อของพวกมันจนหมดสิ้น
จากนั้นพวกมันก็กระเด็นจากแรงกระแทกทิ้งดิ่งตกลงสู่ห้วงมหาสมุทรเบื่องล่างเหมือนอุกาบาศขนาดยักษ์ตกลงมาจากฟ้า
เหมิงเหล่ยแทบอดกลั้นความสะใจไว้ไม่อยู่ตอนที่มองดูความพินาศ
ในใจของเขาเต็มไปด้วยอารมณ์ต่างๆหลั่งไหลเข้ามาพร้อมกับภาพความทรงจำในอดีตที่เริ่มย้อนกลับเข้ามา
เขาทำได้สำเร็จแล้ว
ในที่สุดเขาก็ทำได้สำเร็จแล้ว
พอเขานึกย้อนกลับไปยังวันวานในอดีต ก่อนหน้านี้ เขายังเป็นเพียงแค่ใครก็ไม่รู้ ที่ไม่เคยมีใครพูดถึง ก่อนหน้านี้เขาเป็นเพียงแค่พนักงานเงินเดือนที่ทั้งวันอยู่แต่หน้าคีย์บอร์ดพิมงานทั้งวัน ใช้ชีวิตปรกติธรรมดา
แต่ถึงอย่างนั้น ชะตาชีวิตกลับพลิกผัน เมื่อเขาโดนส่งมาอยู่โลกนี้ เขาเริ่มใช้ชีวิตปรกติก่อนที่จะผ่านเหตุการณ์ต่างๆนานามากมาย เรื่องปาฏิหารย์และอัศจรรย์ ก่อนที่เขาจะได้มายืนอยู่ ณ จุดนี้ บนจุดยอดสุดของโลก ใต้เท้าขอเขาคือสิ่งมีชีวิตที่แข็งแกร่งและทรงอานุภาพที่สุดบนแดนสวรรค์ มังกรทอง และยักษ์สายฟ้านั้นเอง
เหมิงเหล่ยมองดูกวาดสายตาไปรอบๆ แต่ทันใดนั้นจู่ๆก็มีแสงวาปรุนแรงเกิดขึ้น
วิ้ง!!
เสียงแหลมดังขึ้น
ซากของมังกรทองหายไป
ศพยักษ์สายฟ้าก็หายไปด้วย
ทุกอย่างมลายหายไปหมด
เหมิงเหล่ยลืมตาขึ้นมาแล้วมองไปมาอย่างสับสน
อะไรกัน ฉันเป็นใครกัน
ฉันอยู่ที่ไหน
เกิดอะไรขึ้นกันเนี่ย
เอาเถอะ
ทุกอย่างมันก็คงเป็นแค่ความฝันเท่านั้นซินะ มิน่าทำไมมันถึงดูปลอมได้ขนาดนี้
เหมิงเหล่ยหัวเราะออกมาเสียงดัง เขาคิดว่าบางทีมันอาจจะเป็นแค่ความฝันแปลกๆก็ได้ เพราะว่ายังไง เขาก็พึ่งมาถึงโลกนี้ได้ไม่นานนี้เอง คงเป็นแค่ยังปรับตัวไม่ได้แล้วเก็บมาฝันเท่านั้นละ
ปังปังปัง
“เหมิงเหล่ย ตื่นได้แล้ว คลื่นอสูรกำลังมา!”
เสียงเคาะประตูหนักๆดังขึ้นมาจากประตูไม้เก่าๆพังๆ นอกประตูนั้นคือหัวหน้าหมู่บ้าน ตาแก่ปีเตอร์ ที่กำลังตะโกนขึ้นมาอย่างตระหนกตกใจ “ไอ้หนุ่ม คลื่นอสูรกำลังมาแล้วนะ เร็วเข้ารีบไปที่หลุมหลบภัยใต้ดินเดี๋ยวนี้ เดี๋ยวข้าจะไปเตือนคนอื่นเอง”
“อะไรนะคลื่นอสูรงั้นเหรอ!”
สติพุ่งกลับเข้า เขารีบลุกขึ้นมาจากเตียงแล้ววิ่งตรงไปทางกลางเมืองทันที
“คลื่นอสูร!!!”
บ้าเอ้ย! พอมาถึงก็มาเจอคลื่นอสูรเลยเหรอวะ! ดวงต้องซวยขนาดไหนวะเนี่ย
เหมิงเหล่ยบ่นความซวยของตัวเองในใจขณะที่วิ่งสุดแรงเกิด
เมื่อไม่กี่วันก่อน เขายังเป็นแค่พนักงานออฟฟิศทำงานงกๆเดินทางไปกลับบ้านกับที่ทำงาน เหนื่อยตายไปวันๆอยู่เลย
แต่แล้ววันนึง เขาก็ตื่นขึ้นมาแล้วก็พบว่า ด้วยเหตุผลอะไรบางอย่าง เขาโดนส่งมายังโลกนี้ แล้วก็มายังหมู่บ้านสัตว์วิเศษในฐานะชาวบ้านธรรมดา ๆ ที่นี้
ทวีปแดนสวรรค์ !
นี่คือชื่อที่คนบนโลกนี้เรียกที่นี้
โลกนี้มันแตกต่างจากโลกที่เขาอยู่อย่างสุดขั้ว
ไม่มีคอมพิวเตอร์ ไม่มีเน็ต ไม่มีนวัตกรรมเทคโนโลยี แต่เสือกมีทั้งมังกรตัวขนาดใหญ่เบิ้มที่ระเบิดโลกนี้ทิ้งได้ง่ายๆ มียักษ์ที่ทุบภษเขาแตกได้ มีสิ่งมีชีวิตแปลกประหลาดเต็มไปหมด มีภูติผีที่เสกนู้นนี้มาได้ มีสัตว์วิเศษทุกประเภท….แถมยังมีเวทมนตร์ลึกลับและพลังวิเศษต่างๆ
มันเป็นโลกที่เต็มไปด้วยมหัศจรรย์และเรื่องที่คาดไม่ถึง
ทุก ๆ อย่างที่นี้มันน่ากลัวและไม่คุ้นชินสำหรับเหมิงเหล่ย มันเป็นโลกที่อันตรายและไม่ปลอดภัยสำหรับมนุษย์สุดๆ
นั้นก็เพราะ เผ่าพันธ์ที่ครอบครองโลกใบนี้อยู่ไม่ใช่เผ่ามนุษย์แต่เป็นมังกร ยักษ์ มนุษย์สัตว์ ภูติแห่งป่า และสัตว์เวทมนตร์ทั้งหลาย
ส่วนมนุษย์เหรอ
มนุษย์บนโลกใบนี้เป็นเพียงแค่สิ่งมีชีวิตมีปัญญาธรรมดาๆเท่านั้น ไม่มีอารยธรรม ไม่มีอาณาจักร ไม่มีวัฒนธรรม ไม่มีอิสระ
ไม่มีห่าอะไรซักอย่าง!
โลกนี้มันอันตรายเกินไป แล้วอย่างนี้ฉันจะอยู่ยังไงได้วะเนี่ย !
แย่ยิ่งกว่านั้นคือเหมิงเหล่ยยังต้องมาเจอกับคลื่นอสูร ฝูงอสูรที่แห่กันมาเพื่อทำลายล้าง หลังจากที่เขาพึ่งย้ายเข้ามาอยู่นี้แค่ไม่กี่วัน พูดง่ายๆคือโลกนี้แม่งต้อนรับเขาได้โหดร้ายสุดๆจริงๆ
“เร็วๆเข้า พวกผู้ใหญ่ตามฉันไปต้านพวกอสูรนอกหมู่บ้าน!!”
“ส่วนเด็ก คนแก่ คนป่วยผู้หญิง ไปหลบในหลุมหลบภัยซะ!!”
ชายร่างกายกำยำกล้ามใหญ่ตัวสูงกว่า2เมตร ยืนบนหินก้อนใหญ่แล้วตะโกนบกทุกคนในหมู่บ้าน ชื่อของเขาคือฮัดเด้อ เขาเป็นหัวหน้าหน่วยป้องกันหมู่บ้าน และเขายังเป็นนักสู้ที่แข็งแกร่งที่สุดของหมู่บ้านอีกด้วย ทำให้คนในหมู่บ้านนั้นเคารพและเชื่อฟังเขามากๆ
ภายใต้คำสั่งของเขา เหล่าชายหนุ่มก็รวมตัวกันต่อหน้าเขาทีละคน ส่วนคนแก่ คนป่วย ผู้หญิง และเด็กต่างวิ่งกันเข้าไปในที่หลบภัยใต้ดนของหมู่บ้านด้วยความหวาดกลัว แต่ถึงแม้ว่าทุกคนจะหวาดวิตก ลนลาน แต่ทุกๆคนก็เรียงตัวกันเข้าไปอย่างเป็นระเบียบและว่องไว
นี้เป็นหลักฐานที่เห็นชัดได้เลยว่าเหตุการณ์แบบนี้ไม่ได้เกิดขึ้นครั้งแรกหรือครั้ง2 แต่มันเกิดขึ้นมาแล้วหลายครั้งด้วยกัน
ซึ่งก็เป็นเรื่องจริง หมู่บ้านสัตว์วิเศษนั้นตั้งอยู่ที่ขอบของสันเขาสัตว์วิเศษ ทำให้มันเป็นเป้าโจมตีของคลื่นอสูรอยู่แล้ว ชาวบ้านเลยมีประสบการณ์ต้านทานกับคลื่นอสูรมากกว่า 1 ครั้งแน่นอน
เหมิงเหล่ยถอนหายใจหนักๆ
เขาสัตว์วิเศษนั้นตั้งอยู่ตลอดแนวของทวีป เกือบๆจะแบ่งทวีปแดนสวรรค์ออกเป็น2 ฝั่ง ฝั่งตะวันตก กับฝั่งตะวันออก ด้านบนนั้นเป็นที่อยู่อาศัยของสัตว์ป่าและสัตว์อสูรมากมาย มันถูกเรียกว่าเป็น “พื้นที่ ที่อันตรายที่สุดในทวีป”
สัตว์ป่าในป่านั้น หลายๆครั้งก็จะคลั่งแล้วโจมตีหมู่บ้านที่อยู่ตามขอบป่า ประชาชนต้องสูญเสียเป็นจำนวนมาก การฆ่าฟัน การตาย เกิดขึ้นได้เป็นเรื่องปรกติ ซึ่งศพส่วนมากก็คือศพมนุษย์นั้นละ
จะบอกว่าบนโลกนี้มนุษย์เป็นได้แค่เศษสวะเลยก็ยังได้
คลื่นอสูรรอบนี้จะมีคนตายกี่ศพก็ยังไม่มีใครรู้ได้
ก่อนที่เหมิงเหล่ยจะรู้ตัว เขาก็ได้วิ่งมาถึงกลางหมู่บ้านแล้ว คนแก่ คนป่วย เด็ก ผู้หญิง ต่างต่อแถวกันเต็มไปหมด ลุงลีโอ ผู้เป็นคนคุมการป้องกันหลุมหลบภัยพูดขึ้นมาอย่างดัง “อย่ามุงกันนะ ค่อยๆเข้าไปทีละคน ส่วนคนที่อยู่ข้างล่างก็จับบันไดไว้แน่นๆนะ”
หลุมหลบภัยนั้น ถูกสร้างขึ้นลึกลงไปใต้ดินหลายสิบเมตร มันเป็นเหมือนอุโมงหรือฐานลับใต้ดินที่เชื่อมต่อกับโลกภายนอกได้ผ่านบันไดลิง ข้างๆปากหลุมจะมีหินขนาดใหญ่มากเพื่อใช้พลางประตูและกั้นประตูให้ปลอดภัย
หินก้อนนั้นมันใหญ่มากๆ สูง 2-3 เมตรได้ ใครเห็น ใครต่างก็บอกว่ามันไม่แตกง่ายๆแน่นอน พอเหมิงเหล่ยเห็นแบบนั้นก็ถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอก ด้วยหินขนาดใหญ่แบบนี้ อย่างน้อยก็น่าจะกั้นทางได้อย่างปลอดภัยละ …. มั้งนะ
แต่เดี๋ยวก่อนซิ ไม่ซิ ถ้าคนข้างนอกโดนฆ่าตายหมด แล้วคนแก่กับคนป่วยเด็กผู้หญิงที่อยู่ข้างใต้นั้น จะไปมีแรงยกหินก้อนเบ้อเร้อแบบนั้นได้ไงกันวะ
ความไม่แน่ใจและความกลัวเริ่มก่อขึ้นมาในใจเขา
อาวู้วววววว
แฮ่!!!!
“ฆ่าพวกมัน!”
“ฆ่าพวกมันให้หมด!!”
เสียงสัตว์อสูรเห่าหอนและเสียงการต่อสู้ดังมาแต่ไกลสร้างความหวาดกลัวให้กับทุกคน ถึงแม้ว่าเหมิงเหล่ยเองจะหวังว่าจะได้เห็นว่าสัตว์อสูรในโลกนี้มันหน้าตาเป็นยังไง แต่สุดท้าย สิ่งที่เขาทำได้ก็มีแค่หวังเท่านั้น
เขาเป็นเพียงแค่เด็กหนุ่มที่แก่ขึ้นมาจากเด็กในหมู่บ้านนิดหน่อยเท่านั้นเอง ตอนนี้เขาเป็นคนที่ต้องได้รับการปกป้องมากกว่า สิ่งที่เขาควรทำตอนนี้คือเข้าไปในหลุมหลบภัยแล้วหนีห่างออกจากอันตรายให้มากที่สุดที่ทำได้
“รออะไรอยู่เล่า รีบๆลงไปเดี๋ยวนี้เลย”
คุณลุงลีโอตะโกนขึ้นมาจากด้านหลัง เหมิงเหล่ยที่รู้ตัวก็รีบวิ่งตรงเข้าไปที่หลุมหลบภัยทันที แต่ทันใดนั้นเขาก็สังเกตุเห็นก้อนอะไรบางอย่างเรืองแสงหล่นออกมาจากตัวของลีโอ
“คุณลุงลีโอ คุณทำของตก!”
เหม่ยเหล่ยหยุดวิ่งแล้วชี้ลูกกลมๆนั้น แต่ทันใดนั้นเขาก็ได้ยินเสียงเย็นเฉียบพูดขึ้นมาอย่างไร้อารมณ์ “ติ้ง ค้นพบไอเทมดรอป จะเก็บไหม”
เหมิงเหล่ยตกใจ เขาหันไปมองทางลุงลีโออย่างงงๆ ในตอนนั้นทุกๆคนเข้าหลุมหลบภัยหมดแล้ว เหลือเพียงเขากับลุงลีโอเท่านั้น
“มองอะไรของเจ้าหน่ะ รีบๆเข้าไปเดี๋ยวนี้”
ลุงลีโอหันกลับมาตะโกนอย่างอารมณ์เสีย “อย่ามารบกวนเวลาของข้า ข้าต้องรีบไปช่วยพวกพ้องของข้าที่หน้าประตูเมือง”
ชัดเจนเลยว่าเสียงที่เขาได้ยินนั้นไม่ได้เป็นเสียงของลุงลีโอ
แล้วฉันได้ยินเสียงใครวะเนี่ย
คอมเม้นต์