บทที่ 11 เพิ่มค่าความสามารถฉับพลัน ซาลามันเดอร์น้ำคลั่ง

ตู้ม ตู้ม ตู้ม!!

น้ำตกเป็นม่านสีขาวกว้างหลายเมตร ตกลงมาจากด้านบนของหน้าผา เสียงน้ำนั้นดังจนแทบหูดับ น้ำตกนั้นตกลงมาบนสระน้ำด้านล่าง ทำให้ประกายสายน้ำที่ใสเหมือนไข่มุก สาดกระเซนเต็มไปหมด น้ำในสระนั้นใสมากเสียจนมองเห็นก้นสระได้ง่ายๆ มันถูกห้อมล้อมไว้ด้วยป่าไม้สวยงามขึ้นดก เป็นภาพที่สวยงามเหมือนกับอยู่ในรูปวาดยังไงอย่างงั้น

“จระเข้” ยักษ์ตัวสูง หลาย10เมตรเกลือกกลิ้งลงบนพื้นทรายข้างๆกับสระน้ำนั้น กำลังนอนอาบแดดอย่างสบายใจ เปลือกตาของมันปิดสนิท มันหายใจเข้าออกอย่างสบายอารมณ์

เปรี้ยง!

เสียงฟ้าผ่าดังลั่นพร้อมกับกระแสไฟฟ้าที่ผ่าลงมาจากท้องฟ้า ผ่าตรงลงไปตัวของจระเข้อย่างแม่นยำ ร่างกายอันใหญ่โตของมันชักดิ้นทุรนทุรายด้วยความเจ็บปวดเหมือนกับว่ามันกินยาพิษเข้าไปยังไงอย่างงั้น

“ไปเลย!”

วินาทีต่อมาชายหนุ่มกล้ามโตก็กระโดดออกมาจากพุ่มหญ้าข้างๆแล้วโจมตีจระเข้ที่กำลังดิ้นอยู่

“ไมโล ขวางทางมันอย่าให้มันลงน้ำได้นะ ถ้ามันลงน้ำไปละก็ยุ่งแน่!”

“เยล บ๊อบบี้ เข้าทางสีข้างมันไว้นะ พยายามล่อมันไว้”

“รับทราบ”

“รับทราบ”

จากนั้นเอริสัน จอมเวทหญิงก็ร่ายเวทอีกครั้ง

ใช่แล้ว กลุ่มคนพวกนี้คือ ทีม4 คนเดียวกันกับที่เหมิงเหล่ยเจอก่อนหน้านี้ พวกเขาออกมาฝึกกัน แต่ถึงอย่างนั้น สิ่งที่ต่างออกไปรอบนี้คือเขาพบคนหลงทางมาเพิ่มอีก1 คน นั้นก็คือเหมิงเหล่ยนั้นเอง

เหอะๆ พวกนั้นเริ่มสู้กันอีกแล้ว เขาซ่อนตัวอยู่ในพุ่มหญ้า เหมิงเหล่ยมองดูเอริสันและคนอื่นๆอีก3 คน เข้าต่อสู้กันอย่างดุเดือดอีกครั้ง พร้อมด้วยสายตาที่กระตือรือร้นเป็นอย่างมาก

นี้เป็นการต่อสู้ครั้งที่ 4 ของพวกเขาแล้วตั้งแต่ที่เหมิงเหล่ยเข้ามาติดตามทีมนี้

ครั้งแรกเป็นการต่อสู้อย่างดุเดือดกับมดคันไฟเหล็ก 8 ตัว

มดคันไฟเหล็กนั้นเป็นสัตว์เวทมนตร์ธาตุไฟระดับ 1 มันมีพละกำลังมหาศาลและร่างกายที่แข็งเหมือนเหล็ก มดคันไฟเหล็กจึงแกร่งพอที่จะฆ่าได้แม้กระทั้งสัตว์เวทมนตร์ระดับ2 ถ้าเกิดพวกมันมากันเป็นกลุ่ม ความสามารถในการต่อสู้ของพวกมันถือว่าน่ากลัวมากทีเดียว

ส่วนการต่อสู้ที่ 2 นั้น พวกเขาปะทะเข้ากับ กบพิษหนองน้ำ

กบพิษหนองน้ำนั้นเป็นสัตว์เวทมนตร์ธาตุน้ำ ระดับ 2 นอกจากความสามารถทางด้านเวทมนตร์น้ำแล้ว มันยังสามารถโจมตีออกไปด้วยพิษความเข้มข้นสูงและคลื่นเสียงรุนแรงอีกด้วย มันเป็นสัตว์ที่เจ้าเล่ห์ ทำให้มันเป็นสัตว์เวทมนตร์ระดับ 2 คนที่ยากที่จะรับมือมากๆ

ส่วนการต่อสู้ที่ 3 นั้นสู้กับหมูนภาเบญจมาศ

หมูนภาเบญจมาศนั้น เป็นสัตว์เวทมนตร์ธาตุดินระดับ 2 เก่งฉกาจใจด้านเวทมนตร์สายดิน กลิ่นตดของมันยังเหม็นสุดๆไปเลยด้วย สัตว์ป่าธรรมดาแค่ได้กลิ่นตดของมันก็เป็นลมได้ง่ายๆ มันเป็นสัตว์เวทมนตร์ที่รับมือยากแถมยังน่ารังเกียจสุดๆไปเลยด้วย

หลังจากที่เฝ้ามองการต่อสู้ทั้ง 3 ครั้งนั้น นอกจากจะได้เห็นเอฟเฟ็กอลังการณ์จากการต่อสู้เหมือนอยู่ในหนังฮอลลีวูดแล้ว เหมิงเหล่ยเองยังได้ของมามากมายอีกด้วย

ค่าความสามารถของเขาเองเพิ่มขึ้นอย่างมากเลยจากการแค่ตามเก็บของเหลือจากพวกเขา

เจ้าของ เหมิงเหล่ย

เผ่าพันธุ์มนุษย์

ความมั่งคั่ง 239 เหรียญทอง

ค่าร่างกาย นักรบฝึกหัด 75/100

ค่าวิญญาณ มนุษย์ธรรมดา  9/10

ค่าพลังเวท มนุษย์ธรรมดา 7/10

เวทมนตร์ วิชาลูกไฟ เถาวัลย์หนาม ฟองวารี

ค่าร่างกาย วิญญาณและเวทมนตร์ของเขาเพิ่มขึ้นอย่างมากถ้าเทียบกับที่ผ่านมา ในขณะเดียวกันเขาเองก็ได้เวทใหม่มาเพิ่มเหมือนกันนั้นก็คือ วิชาฟองวารี ถึงแม้ว่ามันจะเป็นแค่เวทมนตร์ระดับ1 แต่ยังไงมันก็เป็นเวทมนตร์ มันมีคุณค่าในตัวมันเองมากอยู่ดี

ส่วนค่าความมั่งคั่งนั้น ตอนนี้ เขามีมากถึง 239 ทอง เหมิงเหล่ยได้มาจากการฆ่ามดคันไฟ 2 ตัว…. อะแฮ่ม ไม่ซิ เหมิงเหล่ยเองยังฆ่ามดคันไฟไม่ได้หรอก แต่ถึงอย่างนั้นฆ่าลาสชอตมดคันไฟที่บาดเจ็บสาหัสถึงขนาดปางตายแล้ว มันก็ทำให้เขาได้เงินมามหาศาลเหมือนกัน

ในสายตาของระบบ ถึงมันจะเป็นการปลิดชีพด้วยการโจมตีที่เบาแค่ไหน แต่สุดท้าย มันก็ไม่ต่างอะไรกับที่เหมิงเหล่ยฆ่ามันด้วยมือตัวเองอยู่ดี

นั้นทำให้เหมิงเหล่ยได้ทองมาจำนวน 200 เหรียญทองทันทีหลังจากฆ่ามดคันไฟเสร็จ เรียกได้ว่ามันเป็นบัคของระบบก็ได้ ซึ่งมันก็ทำให้เขาตกใจพอสมควร

อยากรู้จังเลยว่ารอบนี้ฉันจะได้อะไรกันนะ

จากประสบการณ์ที่ผ่านๆมา เหมิงเหล่ยนั้นเฝ้ามองการต่อสู้ของทั้ง4คนมาตลอด จากข้อมูลที่เอริสันบอก จระเข้..ตัวที่อยู่ด้านหน้าพวกเขานั้น ไม่ซิ ถ้าจะให้พูดให้ถูกต้อง มันคือ ซาลามันเดอร์น้ำคลั่งตั่งหาก

ว่ากันว่ามันมีสายเลือดของมังกรยักษ์ธาตุน้ำผสมอยู่เล็กน้อย ทำให้ไม่ใช่แค่ร่างกายที่แข็งแกร่ง แต่ยังรวมถึงเวทมนตร์ธาตุน้ำที่เรียกได้ว่าแข็งแกร่งมากถ้าเทียบกับระดับ2ด้วยกัน

โดยเฉพาะอย่างยิ่งการที่มันอยู่ใกล้สระน้ำ ด้วยสภาพแวดล้อมที่เป็นใจทำให้มันได้เปรียบเป็นอย่างมาก ทำให้ยากที่จะฆ่ามันได้ง่ายๆ

“ติ้ง ค้นพบไอเทมดรอป จะเก็บมารึไม่”

เหอะๆ ไอเทมดรอปง่ายจังเว้ยรอบนี้ จะได้อะไรมาน้า

“เก็บมาเลยเดี๋ยวนี้เลย”

“ติ้ง เก็บเสร็จสมบูรณ์  ค่าร่างกาย เจ้าของเพิ่มขึ้น +8”

จิจิจิ ค่าร่างกายเพิ่มขึ้นอีกแล้ว ค่าร่างกายของฉันตอนนี้ก็ 83 แล้วซิ อีกไม่นานก็จะทะลุ100แต้มแล้วแน่ๆ

ถ้าเกิดครบ 100 แต้ม ก็จะกลายเป็นนักรบอันดับ 1

ถึงแม้ว่านักรบฝึกหัดกับนักรบระดับ 1 จะต่างกันแค่ขั้นเดียว แต่ความต่างของพลังนั้น ห่างกันเยอะมากพอสมควรเลย  ตัวของเหมิงเหล่ยเองก็รอที่จะกลายเป็นนักรบระดับ 1 ไม่ไหวแล้ว

ตู้ม ตู้ม ตุ้ม

ทางอีกด้านนึง การต่อสู้ยังคงดำเนินต่อไปด้วยความดุเดือด

ซาลามันเดอร์นั้นถึงจะดูโง่ๆ แต่มันก็รวดเร็วและว่องไวมาก ด้วยกล้ามเนื้อและเกล็ดที่หนาของมันทำให้มันเคลื่อนไหวได้อย่างคล่องตัว ผสมกับหางที่ทรงพลัง ทำให้ไมโลกับคนอื่นๆไม่ได้รู้สึกว่าได้เปรียบเลยแม้แต่น้อย

“ไอ้บ้าเอ้ย เกล็ดมันหนาโคตรเลย ทำยังไงก็ไม่แตกเลยซักนิด เอาไงกันดีวะ เร็วเข้า ช่วยกันคิดหน่อย”

“ทางนี้ก็คิดไม่ออกเหมือนกัน ดูเหมือนว่าเราต้องโจมตีจุดอ่อนมันนะ”

“เอริสัน ช่วยร่ายเวทอัมมพาตใส่มันหน่อย เดี๋ยวฉันจะโจมตีลูกตามันเอง”

“ได้เลย”

เมื่อเอริสันร่ายเวทจบลง มังกรสายฟ้าก็พุ่งตัวลงมาจากท้องฟ้า ผ่าลงมายังซาลามันเดอร์อย่างแรง

พลังของมังกรสายฟ้านั้นรุนแรงมากจนทำให้แผ่นหลังของมันเป็นสีดำสนิท และแตกออกมาเผยให้เห็น กล้ามเนื้อสีแดงสดของมัน ในขณะเดียวกันก็ทำให้มันเริ่มชักด้วย

“ตอนนี้ละ”

ในจังหวะได้เปรียบแค่เสี้ยววินาทีที่มันหยุดนิ่งนั้นเอง บ๊อบบี้หนุ่มร่างบาง ก็ฉวยโอกาสนี้เคลื่อนที่พริบตาไปที่หัวของซาลามันเดอร์ แล้วใช้มีดแทงเข้าตรงไปที่ลูกตาของมันทันที

“ตายซะ!!!”

ดวงตาของบ๊อบบี้เย็นเยือกเหมือนกับกำชัยชนะไว้ในมือแล้ว

แต่ถึงอย่างนั้นสิ่งที่เขาไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น จู่ก็มีกำแพงน้ำปรากฏขึ้นมาต่อหน้าซาลามันเดอร์ในจังหวะความเป็นความตาย และขวางมีดของบ๊อบบี้เอาไว้ มีดนั้นเสียบเข้าไปกลางกำแพงน้ำ ทำให้ความเร็วของมีดมันลดลงมากพอที่จะทำให้ซาลามันเดอร์รู้ตัวและโยกหัวหลบการโจมตีเข้าจุดตายไปได้อย่างฉิวเฉียด

มีดนั้นพลาดเป้าที่ดวงตาแต่ไปเสียบที่คอของมันแทน ด้วยเกล็ดที่แข็งของมันกระแทกเข้ากับมีดทำให้เกิดประกายไฟแต่ไม่ได้ทำให้เกิดความเสียหายกับตัวของมันแม้แต่น้อย

“เวรเอ้ย ฉันพลาด”

บ๊อบบี้ตกใจจนต้องถอยหนีออกมาด้วยความเร็วสูง ไม่กล้าที่จะฝืนสู้ต่อ

“น่าเสียดายแหะ โอกาสดีๆแบบนั้นแท้ๆ

“ถ้าบ๊อบบี้โจมตีโดนเมื้อกี้เจ้านั้นคงได้ตายแน่ๆ”

พอเห็นแบบนั้นแล้วสายตาเสียดายก็เกิดขึ้นมาในแววตาของไมโลที่ถือขวานในมือกับเยล คนที่ถือดาบใหญ่ทันที หลังจากพลาดโอกาสทองแบบนี้ คงจะเป็นเรื่องยากแล้วละที่จะหาโอกาสฆ่าซาลามันเดอร์ได้ หรือไม่อย่างน้อยก็ต้องรอจนกว่าเอริสันจะร่ายเวทเสร็จอีกรอบนึง

แต่ก่อนจะถึงเวลานั้น เจ้าซาลามันเดอร์คงคลั่งมากกว่าเดิมแน่ๆ

เอริสันเองก็คิดว่าน่าเสียดายมากๆเหมือนกัน

แต่ถึงอย่างนั้น สิ่งที่ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้นอีกครั้ง เจ้าซาลามันเดอร์จู่ๆก็ร้องออกมาอย่างดังก่อนจะเริ่มลงไปดิ้นทุรนทุราย

“เกิดอะไรขึ้น”

เอริสันกับพวกตกใจมากๆ แต่แล้วพวกเขาก็เห็นใครบางคนอยู่บนหลังของซาลามันเดอร์ คนๆนั้นถือมีดในมือกำลังแทงมีดเล่มนั้นลงบนหลังของมันด้วยความรุนแรงจนเลือดพุ่งกระจายเต็มไปหมด

“นั้นมัน”

ไมโล บ๊อบบี้ และคนอื่นๆต่างตาโตด้วยความตกใจ เพราะคนที่อยู่บนหลังของมันนั้น แท้จริงแล้ว คือเหมิงเหล่ย ที่ใช้มีดแทงลงไปยังจุดที่มังกรสายฟ้าของเอริสันฟาดลงไปที่หลังของซาลามันเดอร์ก่อนหน้านี้ จุดนั้นเป็นสีดำและแตกออกมาเป็นกล้ามเนื้อสีแดงเลือด

“ตายซะ ตาย!!!”

เหมิงเหล่ยแทงซ้ำแล้วซ้ำอีกด้วยแรงทั้งหมดที่มีและความบ้าคลั่งเกินคน แต่ถึงอย่างนั้น เขาไม่ใช่ว่าจะแทงมั่วโดยไม่มีเป้าหมาย สิ่งที่เขาตั้งใจจะแทงนั้นแท้จริงแล้ว คือกระดูกสันหลังของซาลามันเดอร์นั้นเอง

เขาเคยดูรายการท่องโลกกว้างในทีวีของชาติที่แล้ว รายการของคนที่ชื่อแบร์กิลด์ เคยสอนใช้มีดแทงหลังเข้าไปตรงกระดูกสันหลังจระเข้ ทำให้มันตายอย่างรวดเร็ว

เหมิงเหล่ยเองเลยอยากจะลองดูว่าวิธีการแบบนี้มันจะใช้ได้กับซาลามันเดอร์น้ำคลั่งไหม