บทที่ 19 พรสวรรค์ดีเลิศ

พลังวิญญาณ 23

4 เท่าของคนอายุเท่าๆกัน

ผ่านแบบคาบเส้น

ธาตุ ดินระดับกลางและ ธาตุลมระดับต่ำ

“เย้!!!!!!”

พ๊อตเตอร์ตื่นเต้นตะโกนเสียงดังลั่นเหมือนกับเขาได้ยินสิ่งที่ดีที่สุดในชีวิตน้ำตาแห่งความสุขไหลออกมาท่วมท้นเลอะหน้าเลอะตาเลอะเสื้อผ้าไปหมด

“โอ้พระเจ้า มังกรช่วย” (โลกนี้ไม่มีพระเจ้ามีแต่เทพมังกร)

“ชาวบ้านแบบนั้นเป็นจอมเวทได้งั้นเหรอ โลกนี้ช่างไร้ความยุติธรรมเสียจริง”

“จริงเหรอเนี่ย”

เสียงพูดคุยนินทางด้วยความอิจฉาดังออกมาไกลๆ

เหมิงเหล่ยเองก็มองพ๊อตเตอร์ด้วยความปลื่มใจนิดหน่อย ถึงแม้ว่าพอตเตอร์จะใส่แค่ชุดชาวบ้านธรรมดา แต่ด้วยพรสวรรค์เวทมนตร์ของเขาที่เขามี ทำให้มีคนหลายคนอิจฉาในสิ่งที่เขามีไม่น้อย

หรือจะให้พูดง่ายๆ ขอแค่เขาจบจากวิทยาลัยเวทมนตร์มาได้ เขาก็จะได้กลายเป็นจอมเวท หลังจากนั้นเขาก็จะได้ตำแหน่งและหน้าที่การงานในระดับสูง มีผู้หญิงสาวสวยๆรายล้อม และมีเงินทองไหลมาเทมากองอยู่ตรงหน้าของเขา

ตอนนี้นี่เองที่ชะตาของเขาเปลี่ยนไปโดยสิ้นเชิง

“คนต่อไป

“เอาละ ตาฉันแล้วซินะ”

เหมิงเหล่ยหายใจเข้าลึกๆ แล้วเดินตรงเข้าไปช้าๆ

“ชาวบ้านอีกแล้วเหรอ”

“อนาจสายตาจริงๆเลย”

“ไอ้หมอนั้นไม่มีทางมีพรสวรรค์เวทมนตร์หรอก”

“โอกาสที่ชาวบ้านจะมีพรสวรรค์ทางเวทมนตร์หน่ะมันน้อยกว่าพวกชนชั้นสูงอยู่แล้ว โอกาสมันแทบจะ 1 ในแสนด้วยซ้ำ แล้วยิ่งเป็นไอ้พวกบ้านนอกเข้ากรุงแบบนั้นด้วย..”

“ข้าพนันด้วยใส้กรอกแผงนึงเลยว่าหมอนั้นไม่มีพรสวรรค์เวทมนตร์

“ข้าให้2แผงเลย…”

กลุ่มลูกขุนนางคุยนินทากันเสียงเบาๆ น้ำเสียบเหน็บแนมอย่างเห็นได้ชัด ในจักรวรรดิเทพมังกรนั้น ความเหลื่อมล้ำทางชนชั้นสังคมนั้นมันใหญ่มมาก

โจน่าห์โจเซฟแอนดริวต่างก็มองเหมิงเหล่ยด้วยความหวัง ถึงแม้ว่าพวกเขาเองจะไม่ค่อยมีความหวังเลยก็ตาม

“ไปเลยพี่เหมิงเหล่ย”

“มันน่าจะต้องได้ซิ ใช่ไหม”

เหมิงเหล่ยหายใจเข้าลึกๆ ก่อนจะกดมือของตัวเองลงไปบนลูกครัสตัล ในตอนนั้นเอง ความกังวลของเขาก็เริ่มผุดขึ้นมา ถึงแม้ว่าเขาจะเก็บพรสวรรค์เวทมนตร์ของจอมเวทระดับเซียนเทพได้ แล้วเขาก็ยังทำจิตสมาธิได้ แต่ในใจของเหมิงเหล่ยก็ยังไม่มั่นใจอยู่ดี เพราะยังไง พรสวรรค์ของเขาก็ไม่ได้ ได้มาตั้งแต่เกิด ถ้าเป็นอย่างนั้นเครื่องตรวจจะตรวจจับได้ไหมนะ

จื้ตต!!

แต่เหมิงเหล่ยนั้นคิดมากเกินไป ทันทีที่ลูกแก้วนั้นสัมผัสมือของเขา แสงสีเงินคือช๊อตผ่านมือของเขาเข้าไปในลูกแก้วทันที ทำให้ลูกแก้วผลึกนั้นส่องแสงออกมาเหมือนดวงอาทิตย์

ปะจุพลังงานสีเงินนั้นกระเด้งและช๊อตลูกแก้วไปมาเหมือนกับว่ามันจะอยากออกมาจากลูกแก้วนั้นให้ได้

โครม!

ด้านหลังชายหนุ่มที่คุมการสอบ ชายวัยกลางคนที่นั่งง่วงอยู่บนเก้าอี้ตั้งนาน จู่ๆก็ลุกพรวดขึ้นมาแล้วจ้องเขม็งไปที่ลูกแก้วคริสตัล สีหน้าของเขาตื่นเต้นมากๆที่ได้เห็น

“นะ…นั้นมัน ธาตุสายฟ้าระดับดีเลิศ!” ชายวัยกลางคนพูดขึ้นมาพร้อมดวงตาเปร่งประกาย

หลังจากที่ได้ยินแบบนั้น ทุกคนแถวๆนั้นก็ตกใจทันที เหล่าลูกขุนนางที่เคยนินทาไว้ต่างอึ้งจนพูดไม่ออก

“ระดับดีเลิศเลยเหรอ”

“โอ้พระเจ้ามังกรช่วย นี้ข้าไม่ได้หูฝาดใช่ไหมเนี่ย”

“เป็นไปได้ไงกันระดับธาตุดีเลยเลยงั้นเหรอ กับชาวบ้านธรรมดาเนี่ยนะ”

ชายหนุ่มที่คุมการสอบทั้ง 3 คนตึง เพราะโดนส่วนใหญ่แล้ว คนที่เข้ามาทดสอบพลังธาตุนั้นส่วนมากที่ผ่านจะเป็นธาตุระดับต่ำ ซึ่งเป็นระดับที่ต่ำที่สุดในการสัมผัสพลังเวทมนตร์

เหนือกว่าระดับต่ำ คือระดับปานกลาง

ตอนที่คนที่มีธาตุระดับปานกลางทำจิตสมาธิ เขาสามารถตั้งจิตสมาธิแล้วสัมผัสธาตุเวทมนตร์ได้ชัดกว่าคนที่มีระดับต่ำถึง 10 เท่า

เหนือกว่าระดับกลางคือระดับสูง ซึ่งสัมผัสได้ชัดกว่า 100 เท่า

นั้นหมายความว่าในขณะที่คนอื่นใช้เวลา 100 ชั่วโมงในการสกัดพลังเวทจำนวนหนึ่ง คนที่มีธาตุระดับสูงนั้น จะใช้เวลาเพียงแค่ชั่วโมงเดียวเท่านั้นในการสกัดพลังเวทจำนวนเท่ากัน

ถามว่าต่างกันแค่ไหน

ต่างกันแบบฟ้ากับเหวเลยก็ว่าได้

ดังนั้น ด้วยพื้นฐานทางพลังเวทมนตร์ที่ต่างกันนั้นเอง ทำให้ไม่ว่าพลังใจหรือความพยายามจะมากแค่ไหน แต่ถ้ามีธาตุระดับต่ำละก็ ฝึกให้ตายยังไงก็เป็นได้นักเวทระดับต่ำ ถ้าถามว่าระดับต่ำที่ว่ามันอยู่ขั้นไหน มันอยู่แค่ระดับ 1 2 แล้วก็ 3 เท่านั้น

ในขณะเดียวกันถ้าเป็นคนที่มีพลังธาตุระดับสูงละก็ พยายามแค่นิดเดียวก็ได้เป็นนักเวทระดับต่ำแล้ว พยายามขึ้นมาอีกหน่อยก็ได้เป็นจอมเวทระดับกลาง ถ้าเกิดฝึกหนัก ก็จะกลายเป็นจอมเวทระดับสูงได้

นั้นคือความต่างของระดับพรสวรรค์ ระหว่างระดับสูงกับระดับต่ำ

ส่วนระดับดีเลิศนั้น มันยิ่งกว่าหายากซะอีก แม้แต่ในหมู่ครึ่งมังกรที่สืบทอดพลังเวทมนตร์จากมมังกรและมีพลังธาตุแข็งแกร่งตั้งแต่เกิดยังหา ผู้ที่มมีพลังธาตุระดับดีเยี่ยมได้ยากเลย

เพราะมันทำให้คนๆนั้น สัมผัสพลังเวทมนตร์ได้ชัดเจนมากกว่า 1000 เท่า

ชายวัยกลางคนเดินตรงเข้ามาผลักชายที่คุมการสอบอยู่แล้วเข้าควบคุมการสอบด้วยตัวเอง “เจ้าน่ะ รีบไปวัดค่าวิญญาณเดี๋ยวนี้เลย” เขาพูดเสียงสั่น

สำหรับคนที่มีพรสวรรค์ระดับนี้แล้ว ถึงจะไม่เคยทำจิตสมาธิอะไรเลย ธาตุเวทมนตร์ก็จะไหลเข้าสู่ร่างของเขาเองโดยอัตโนมัติทำให้คนๆนั้นมีพลังระดับขี้โกงเลยทีเดียว

เหมิงเหล่ย เดินตรงเข้าไปที่เครื่องวัดพลังวิญญาณ ด้วยสีหน้าที่ผ่อนคลายลงบ้างแล้ว ค่าวิญญาณของเขานั้นสูงถึง 215 ซึ่งเทียบได้กับจอมเวทระดับ 2 เขาเองก็คงไม่ต้องกังวลอะไรแล้ว

“เหอะ ไอ้หมอนี้มันก็คงมีแค่ดวงละว้า”

ลูกขุนนางมองเหมิงเหล่ยด้วยความอิจฉา “มีพรสวรรค์พลังธาตุดีขนาดนั้น ค่าวิญญาณของเขาคงจะต่ำเรี่ยดินแน่ๆ ยังไงซะ จะเอาดีทั้ง2อย่างจับปลา 2 มือคงจะยากหน่อยละ”

แต่น่าเสียดายที่คนพวกนี้ คิดผิดอีกครั้ง

ดวงตาของเหมิงเหล่ยเพ่งไปที่จุดสีแดง และทันใดนั้นเส้นสีแดงของเครื่องวัดก็พุ่งสูงขึ้นอย่างรวดเร็วเหมือนจรวด ภายในพริบตาเดียว มันก็พุ่งขึ้นไปเกินครึ่งของมาตราวัดและยังคงพุ่งขึ้น

“อะไรกันวะนั้น!?”

“ร…เร็วมาก!”

คนที่เห็นเหตุการณ์ต่างตกใจจนลูกตาแทบจะหลุดออกมาจากเบ้า

ปรกติแล้วตอนที่คนอื่นวัดพลังวิญญาณ เส้นสีแดงจะค่อยๆขึ้นช้า ๆ เนิ้บ ๆ แต่สำหรับเขามันพุ่งทยานเหมือนจรวด

“…อ…อัจฉริยะ เขาเป็น…อัจฉริยะ…ของจริงเลย!”

ชายวัยกลางคนสั่นเทาไปทั้งร่างกายด้วยความตื่นเต้น แถวของเขาในที่สุดก็เจออัจฉริยะระดับเทพซักที

และไม่นานหลังจากนั้น สายตาของทุกคนก็ต้องตกใจ ที่ปลายเส้นของเครื่องวัดนั้น วิ่งไปจนกระทั้งสุดปลายของมาตราวัดก่อนจะหยุดลง แต่ถึงอย่างนั้น ทุกคนเองก็ต่างเห็นได้ชัดๆเลยว่า สุดปลายของมาตราวัดที่ว่านั้น มันยังไม่ใช่ที่สุดของเหมิงเหล่ย ถ้าเกิดมาตราวัดมันยาวกว่านี้ เส้นสีแดงที่เป็นพลังวิญญาณของเหมิงเหล่ยคงได้ไปต่อแน่ๆ

“ต…เต็ม ค่าพลังวิญญาณ เหนือกว่าคนในระดับอายุเดียวกัน 100 เท่า”

ชายวัยกลางคนพูดขึ้นมาด้วยเสียงสั่นเหมือนเจอสมบัติ

“ธาตุ สายฟ้าระดับดีเลิศ

ค่าพลังวิญญาณ 100 เท่าเหนือคนอายุเท่ากัน

“ผลประเมินโดยรวม พรสวรรค์เวทมนตร์ ดีเยี่ยม!”

ทั้งจัตุรัสฮือฮากันอีกรอบ

“100 เท่าเลยเหรอ!?”

“ยอดเยี่ยม งั้นเหรอ!!!”

“มันยังเป็นคนอยู่รึเปล่าวะเนี่ย?”

“ไม่ใช่คนแล้ว มันเป็นปีศาจ!!”

“ระดับพลังเวทดีเยี่ยมแถมพลังวิญญาณทะลุเกณฑ์อีก คนแบบนี้มีบนโลกด้วยเหรอ?”

“จู่ๆก็มีไอ้บ้านนอกที่มาจากไหนก็ไม่รู้มีพลังมหาศาลระดับนี้ เทพแห่งพลังเวทคงตาบอดไปแล้วแน่ๆเลย”

“เจ้าหมอนั้นไม่เลวเลยนี่ เทียบๆกับออดอสได้เลยใช่ไหม”

“ก็เกือบๆนะ”

“หึ ออดอสน่ะเป็นลูกของมังกรที่มีสายเลือดของมังกรทองคำในตัวเลยนะ”

ทุกๆคนมองเหมิงเหล่ยด้วยความอิจฉาตาร้อน โดยเฉพาะชนชั้นสูงและพวกลูกครึ่งมังกรที่ดวงตาเปร่งประกาย

“ขออภัยด้วย ข้าคือเฟรดจากสำนักงานรับสมัครแห่งวิทยาลัยเวทมนตร์ดักลาส”

ในตอนนั้นเองชายสูงวัยสวมผ้าคลุมเวทมนตร์ก็ฝ่าฝูงชนเข้ามา “ข้าขอเทียบเชิญเจ้ามาเข้าร่วมวิทยาลัยเวทมนตร์ดักลาสของเราด้วย!”