จอมยุทธ์ระบบเลเวล Invincible Level Up – ตอนที่ 56
อ่านนิยายจีนเรื่อง จอมยุทธ์ระบบเลเวล Invincible Level Up ตอนที่ 56 อ่านนิยายจีน.COM | อ่านนิยายจีนแปลไทย.
++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
จอมยุทธ์ระบบเลเวล ตอนที่ 56 มีสองแก่น!
ราชสีห์เนตรโลหิตลุกขึ้นยืน จ้องมองมนุษยที่บุกล่วงล้ำเขตแดนของมัน ละอองน้ำถูกพ่นออกมาตามจังหวะหายใจ อุ้งเท้าทั้งสี่ค้ำยันพื้น แยกเขี้ยวจนฟันที่แหลมคม มันคำรามและปลดปล่อยกลิ่นอายแห่งจ้าวป่าออกมา
ด้วยแรงกดดันที่หนักหน่วงเช่นนี้ มีเพียงสัตว์ปีศาจที่สูงกว่าขั้นที่ห้าเท่านั้นจึงสามารถปลดปล่อยออกมา
เหงื่อเย็นเยียบไหลผ่านแผ่นหลัง มองดูมีดกระดูกเล่มเล็กในมือแล้ว หน้าเขาก็เปลี่ยนสีพลางคิดขึ้นในใจ “หนังเหนียวน่าดู”
โฮกกกกก
เสียงคำรามดังขึ้นอีกหน ครั้งนี้แทบจะทำให้แก้วหูของเขาฉีกขาดไป
ฉินเทียนพลันลงมือ เขาพุ่งเข้าหาราชสีห์เนตรโลหิตที่กำลังคลุ้มคลั่ง เมื่อเขาอยู่ห่างจากมันราวสามสิบเมตร เขากระโดดลอยตัว รั้งรวมปราณเข้าสู่มีดและเล็งแทงไปที่ดวงตาของมัน พลังมังกรพิสุทธ์ที่ผสานกับคลุ้มคลั่ง ทักษะศักดิ์สิทธิ์และเคล็ดวิชา ก่อเป็นพลังอันน่าหวาดหวั่นขุมหนึ่งที่สามารถสั่นสะเทือนสวรรค์และปฐพี ฉินเทียนมีความเชื่อมั่นในพลังนี้ยิ่ง
ขณะที่เขาคิดว่าสำเร็จนั้น ราชสีห์เนตรโลหิตก็เคลื่อนไหว คมมีดสายลมอันแหลมคมสามสายก่อรูปก่อจะพุ่งฝ่าอากาศเข้าหาฉินเทียน
คมมีดสายลมของราชสีห์เนตรโลหิตนั้นรุนแรงยิ่ง มันสามารถตัดผ่านก้อนหินขนาดใหญ่ได้ราวกับตัดเนย ฉินเทียนหน้าเปลี่ยนสี คมมีดสองสายสามารถทำลายการโจมตีของเขาได้อย่างสมบูรณ์ เมื่อไร้ทางเลือก ฉินเทียนก็เร่งโคจรพลังปราณเพื่อต้านทานคมมีดสุดท้าย
เปรี้ยงงง!
เสียงกระทบดังกังวาน
ฝ่ามือทั้งสองของฉินเทียนแสบร้อน พลังของคมมีดสายลมนั้นเหนือกว่าที่เขาคิด แต่โชคดีที่เขาต้องรับมือเพียงสายเดียว หากว่าต้องรับทั้งสามสาย เช่นนั้นชีวิตของเขาคงหลุดลอย
สัตว์ปีศาจระดับหกนั้นแข็งแกร่งยิ่ง เพียงเคลื่อนไหวเปะปะก้สามารถบีบให้เขาต้องหลีกหนีนับร้อยเมตร
“ปะทะโดยตรงไม่ได้ผล ต้องหาวิธีอื่น”
ฉินเทียนขบริมฝีปากพลางใช้ความคิด ด้วยความแข็งแกร่งของเขาในตอนนี้ยังไม่เพียงพอจะต่อกรกับสัตว์ปีศาจระดับหก และเขาจำต้องพึ่งพิงไหวพริบ
ไม่ว่าโจมตีหรือป้องกัน สัตว์ปีศาจระดับหกก็ผิดสามัญสำนึก ยิ่งกว่านั้นพวกมันยังฉลาดไม่แพ้มนุษย์ ดังนั้นการจะเอาชนะพวกมันจึงยากเย็นอย่างที่สุด
กระนั้นฉินเทียนก็ไม่ใช่มนุษย์ทั่วไป
บอสทุกตัวย่อมต้องมีจุดอ่อน ไม่มีผู้ใดที่เพียบพร้อมสมบูรณ์ มันจะต้องมีอยู่สักอย่าง เพียงแต่เขายังหาไม่เจอเท่านั้น
เพื่อที่จะต่อกรกับสัตว์ปีศาจระดับหกแล้ว ฉินเทียนจำต้องเยือกเย็น ไม่ขลาดเขลา เขาจ้องมองราชสีห์เนตรโลหิต ค้นหาจุดอ่อนของมันพลางพุ่งตัวอย่างรวดเร็ว
ขณะที่มองสำรวจอยู่นั้น ฉินเทียนก็ต้องประหลาดใจ เขาฉีกยิ้มกว้างพลางคิดในใจ “จุดอ่อน…เฮ้ สหาย ดูว่าคราวนี้เจ้าจะหลบอย่างไร….”
ฉินเทียนแค่นเสียงพลางลงมืออีกครั้ง
ในครั้งนี้เขาไม่ได้เล็งไปที่หัวของมันอีก หากแต่เป็นหาง
ขณะที่วิ่งอยู่เขาก็พลันพบปัญหา ไม่ว่าเขาวิ่งไปทางใด ราชสีห์เนตรโลหิตก็สามารถดักทางได้ทุกครั้ง หางของมันหลุบต่ำคล้ายปกปิดบางสิ่ง เขานึกถึงเลือดบริเวณก้นที่ไหลย้อมพื้นดินของมัน นั่นทำให้มั่นใจอย่างยิ่งว่าก้นของมันจะต้องได้รับบาดเจ็บอย่างรุนแรง
ในระหว่างการต่อสู้ย่อมไม่มีผู้ใดเปิดเผยบาดแผลให้อีกฝ่ายเพ่งเล็งโจมตี
นี่เป็นอีกข้อสังเกตที่ทำให้ฉินเทียนสงสัย
สัตว์ปีศาจระดับหกนั้นรักการต่อสู้อย่างมาก แล้วไฉนใยมันจึงไม่เข้ามาจัดการเขาเล่า? ฉินเทียนเป็นเพียงผู้บ่มเพาะขั้นก่อตั้งวิญญาณและการที่มีมนุษย์ระดับต่ำเช่นนี้มาก่อกวนมัน มันยังจะสามารถทนรับการดูหมิ่นเช่นนี้ได้หรือ?
มันไม่คิดที่จะโถมเข้ามาสังหารเขา หากเอาแต่หลุบหาง และในบางครั้งมันยังแสดงอาการทรมาณออกมา และฉินเทียนยังจำได้ว่า มันเหลือพลังชีวิตอยู่ราว 140,000 จุดจาก 480,000 จุด ด้วยเหตุนี้ฉินเทียนจึงมั่นใจอย่างยิ่งว่ามันเพิ่งผ่านการต่อสู้อันรุนแรงมาจนทำให้มันอ่อนแอ
ยิ่งเขาใคร่ครวญมากเท่า ความสุขก็เอ่อล้นออกมาเท่านั้น นี่เพียงกล่าวได้ว่าดวงของเขาในวันนี้นั้นดียิ่ง
แต่ละก้าวย่างของเขาทำให้เคลื่อนที่ไปได้ราว 10 ก้าว และเพียงไม่กี่ก้าวก็ทำให้เขามาหยุดอยุ่ที่เบื้องหน้าของราชสีห์เนตรโลหิต และก่อนที่มันจะทันได้ปล่อยคมมีดสายลมออกมา ฉินเทียนก็เปลี่ยนทิศทางและเร่งความเร็วขึ้นจนมาโผล่ที่ด้านหลังส่วนหางของมัน เมื่อเห็นรอยเลือดที่เปรอะเปื้อนอยู่บริเวณก้นของมันแล้ว ฉินเทียนก็แสยะยิ้ม “ตายซะ!”
ราชสีห์เนตรโลหิตอยู่ในสภาพที่อ่อนแอมาก เมื่อเห็นว่าฉินเทียนกำลังวิ่งตรงมาที่มัน มันก็ตะปบกรงเล็บลงโดยไม่ลังเล ทั้งยังปลดปล่อยคมมีดสายลมหกสายออกมา มันคาดไม่ถึงว่าฉินเทียนจะพลันเปลี่ยนทิศและไปปรากฏตัวขึ้นที่สว่นหางของมัน มันพลันคำรามอย่างตื่นตระหนก
สำหรับฉินเทียนแล้ว มันเป็นรูปแบบที่เขาคุ้นเคยยิ่ง มันคือ “ราชสีห์คำราม”
การคำรามนี้ปลดปล่อยคลื่นเสียงที่สามารถมองเห็นได้อย่างชัดเจนออกมา
ฉินเทียนรู้สึกราวกับสมองจะระเบิด ความเจ็บปวดที่ได้รับนี้ทำให้สมองของเขามึนงงไปชั่วขณะ ต้องขอบคุณมังกรภายในตันเถียนของเขาที่คำรามตอบโต้และฉุดดึงสติเขากลับมา ฉินเทียนรีบลืมตาขึ้น พยายามสะกดอดกลั้นโลหิตที่ไหลที่จะปริแตกจากเส้นเลือด เขาบังคับมือยกมีดทั้งสองเล่มแทงเข้าไปที่รูทวารของราชสีห์เนตรโลหิต
โฮกกกกกกก
เสียงคำรามอย่างเจ็บปวดดึงกึกก้องจนทำให้หมู่วิหคบินหนีอย่างตื่นตระหนก
เมื่อมีดสั้นทั้งสองแทงเข้าไปที่รูทวารของมันแล้ว โลหิตก็ไหลรินจนกลายเป็นแอ่งโลหิตอยู่บนนพื้น ฉินเทียนที่ตกใจจึงก้าวถอยไปหลายก้าว
“มันคลอดลูก!”
“สัตว์ปีศาจสามารถคลอดลูกได้ด้วย?”
“สถานการณ์แบบนี้มันอะไรกัน?”
ไม่เพียงแค่นั้น ฉินเทียนยังเห็นหัวขนาดใหญ่ที่เขาจดจำออกว่ามันเป็นศีรษะของสัตว์ปีศาจระดับห้าโผล่ออกมาด้วย
รูปลักษณ์ของศีรษะนั้นกระตุ้นฉินเทียนขึ้นมา โลหิตในร่างของเขาพลันพลุ่งพล่าน ขณะที่แววตาทอประกายอย่างมีความสุข “ฆ่าหนึ่งได้ถึงสอง นี่เป็นธุรกิจที่คุ้มค่าจริงๆ”
ราชสีห์เนตรโลหิตนั้นคลอดลูกออกมา มันเป็นอย่างที่เขาคิด ตัวของราชสีห์เนตรโลหิตนั้นอยุ่ในสภาพวะที่ยากลำบาก
ในหมู่สัตว์ปีศาจนั้น เมื่อผู้เข้มแข็งแสดงความอ่อนแอออกมา มันก็จะสัตวืปีศาจที่ติดตามกลิ่นอายนั้นมาหาถึงหน้าประตูบ้านเพื่อท้าทายแย่งชิงอาณาเขต
ศีรษะสัตว์ปีศาจระดับห้าที่โผล่ออกมาเป็นราชสีห์เนตรโลหิต หลังจากผ่านการต่อสู้อย่างดุเดือดมาครึ่งค่อนวัน ร่างกายของมันก็แทบจะแตกเป็นเสี่ยงๆ อีกทั้งมันยังเร่งกำหนดคลอดให้ไวเข้ามา และนั่นทำให้มันตกอยู่ในสภาวะที่อ่อนแอ
หากว่ามันไม่ได้อยู่ในสภาวะอ่อนแอแล้วล่ะก็ ฉินเทียนคงคงจะแปลงกายเป็นชิ้นเนื้อก่อนที่เขาจะมีโอกาสได้เข้าใกล้มันเสียอีก
โลหิตที่สดใหม่ยังคงหลั่งรินออกมา ราชสีห์เนตรโลหิตร้องคำรามอย่างเจ็บปวด ประกายตาของมันเริ่มขุ่นมัวขณะที่จับจ้องมายังฉินเทียน มันเค้นเรี่ยวแรงเฮือกสุดท้ายพยายามดันตัวลุกขึ้น
มันเตรียมจะโจมตี…
ฉินเทียนเบิกตากว้างด้วยความตกใจ
แต่วินาทีถัดมาราชสีห์เนตรโลหิตก็ทรุดลงไปอีกครั้ง ทัง้ยังหลั่งโลหิตจากรูทวารยิ่งกว่าเดิม ทัสนวิสัยของมันเริ่มพล่ามัว มันอ้าปากและพยายามจะเปล่งเสียงร้องออกมา หากแต่มันก็ไม่อาจกระทำ
“นี่เป็นโอกาส…”
“เจ้าสิงโตน้อยเอ๋ย ข้านั้นไม่ใช่คนโหดเหี้ยมอะไร…แต่ข้านั้นไม่มีทางเลือกก็เพราะว่าเจ้านะั้นเป็นสัตว์ปีศาจระดับสูง”
ฉินเทียนเปิดใช้งานแก่นที่มีจนมันกระพริบวูบวาบเป็นแสงสีขาวอยู่ภายในตันเถียน ระบบพลันแจ้งเตือนอย่างรวดเร็ว “พลังปราณ +100 จุด พลังปราณ +100 จุด….”
จากนั้นเขาจึงใช้พลังมังกรพิสุทธิ์พร้อมด้วยคลุ้มคลั่ง
เป็นอีกครั้งที่ความแข็งแกร่งของเขาพุ่งทะยาน
การโจมตีเพียงหนึ่งครั้งได้สร้างบาดแผลขึ้นหลายแห่ง
ฉินเทียนเคลื่อนตัวย้ายตำแหน่งไปรอบๆ ด้วยร่างกายที่อ่อนแอของราชสีห์เนตรโลหิตแล้ว มันย่อมไม่จับความเคลื่อนไหวของฉินเทียนได้ทัน กระนั้นมันก็ยังคงส่งคมมีดสายลมออกมา ทุกแห่งที่คมมีดสายลมกรีดผ่านก็ถูกทำลายไป ต้นไม้ที่ด้านหลังล้วนถูกโค่นระเนระนาด
คมมีดสายลมยังคงโจมตีใส่ฉินเทียนไม่หยุด กระนั้นระยะห่างระหว่างทั้งคู่ก็ถูกลดลงทีละน้อย ด้วยพลังของทักษะคลุ้มคลั่ง มังกรฟ้าและคชสารบรรพกาลก็เดือดพล่านอยู่ในตันเถียนของเขาก่อนจะถูกปลดปล่อยออกมา
ความแข็งแกร่ง ฉินเทียนสามารถสมัผัสถึงความแข็งแกร่งที่ไหลเวียนอยู่ทั่วร่างได้อย่างชัดเจน
ด้วยแรงขับเคลื่อนจากพลังปราณของเขา มีดสั้นกระดูกทั้งสองก็คล้ายเปลี่ยนเป็นสายวิชชุ มันกลายเป็นคมมีดสีขาวทิ่มแทงเข้าไปที่ส่วนท้องของราชสีห์เนตรโลหิต
โฮกกกกกกกกกกกก
สัตวืปีศาจคำรามอย่างเจ็บปวด มันต้องการจะกลิ้งตัวหลบ แต่มันก็กลัวว่าตกเลือดและแท้ง ด้วยเหตุนี้มันจึงทำได้เพียงอดทนและคำรามอย่างสิ้นหวัง…
คอมเม้นต์