ตอนที่ 93 พ่ายแพ้ทั้งสองฝ่าย

 

แสงสีขาวพุ่งออกไปจากมือของมู่อี้ในทันที ตอนนี้มู่อี้เหมือนกับว่าเป็นเซียนผู้วิเศษคนหนึ่ง

 

บางทีนางอาจจะรับรู้ได้ว่าแสงสีขาวที่กำลังพุ่งออกมาในตอนนี้มีความอันตรายอย่างยิ่ง ชิวเยวี่ยถงจึงรีบถอยออกไปอย่างกะทันหันและในเวลาเดียวกันดาบในมือของนางก็พุ่งเข้ามาหามู่อี้อย่างรวดเร็ว

 

มู่อี้ถือตะเกียงทองแดงเอาไว้ในมือข้างหนึ่งและมืออีกข้างหนึ่งของเขาถือยันต์สายฟ้าเอาไว้

 

เมื่อเผชิญหน้ากับชิวเยวี่ยถงมีเพียงยันต์สายฟ้าเท่านั้นที่สามารถเอาชนะนางได้

 

“ตู้ม!”

 

ยันต์สายฟ้าระเบิดออกไปทันทีและก็ส่งสายฟ้าพุ่งตรงลงมาที่ชิวเยวี่ยถงอย่างรวดเร็ว

 

ในเวลาเดียวกันมู่อี้ก็รู้สึกได้ถึงอันตรายที่กำลังเข้ามาใกล้อย่างรุนแรงและในตอนนี้เขาแทบไม่ต้องคิดอะไรเลย ผืนธงราชันย์แห่งวิญญาณที่อยู่ด้านหลังของเขาถูกพลิกกลับมาด้านหน้าอย่างรวดเร็วเพื่อใช้ป้องกันอันตรายที่กำลังเข้ามาใกล้

 

“แคว่ก!”

 

มู่อี้ได้ยินเสียงที่เหมือนกับผ้าที่กำลังฉีกขาดอย่างชัดเจนและเขาก็เห็นรอยขาดที่อยู่บนธงราชันย์แห่งวิญญาณทันที

 

ในตอนนี้มู่อี้ไม่สนใจความเจ็บปวดในหัวใจของเขาอีกต่อไป เขาเก็บธงราชันย์แห่งวิญญาณกลับไปและนำยันต์สายฟ้าออกมาอีกแผ่นนึง

 

ชิวเยวี่ยถงปะทะเข้ากับสายฟ้าของมู่อี้ในตอนที่นางกำลังลอยอยู่กลางอากาศ นางเป็นเหมือนกับแมงเม่าที่กำลังบินเข้าสู่กองไฟและสายฟ้าที่พุ่งลงมานั้นก็รวดเร็วจนน่ากลัว

 

นางรีบยกดาบในมือของตนเองขึ้นมาป้องกันสายฟ้าที่กำลังผ่าลงมาทันที

 

แม้ว่าพลังของชิวเยวี่ยถงจะเพิ่มขึ้นแต่ยันต์สายฟ้านั้นก็เต็มเปี่ยมไปด้วยพลังแห่งสวรรค์และโลก มันเป็นตัวแทนของความยิ่งใหญ่แห่งโลกใบนี้

 

ดังนั้นแม้ว่าชิวเยวี่ยถงจะใช้ดาบของนางป้องกันสายฟ้าเอาไว้ได้แต่นางก็ต้องกระเด็นลงมาอย่างรุนแรงและอยู่ในสภาพไม่อาจเคลื่อนไหวได้ไปครู่หนึ่ง จากนั้นเมื่อนางเริ่มขยับตัวได้ก็รีบถอยหลังกลับไปทันที

 

แต่ก่อนที่นางจะตั้งตัวได้ทันนั้นสายฟ้าครั้งที่ 2 ก็ผ่าลงมาทันที

 

เมื่อมู่อี้เล็งเป้าหมายด้วยพลังแห่งจิตใจของเขาไม่ว่าชิวเยวี่ยถงจะมีความเร็วมากเพียงใดก็ไม่มีทางที่ความเร็วของนางจะมากไปกว่าความเร็วของสายฟ้าได้อย่างแน่นอน นางไม่มีทางหลบสายฟ้าที่ผ่าลงมาในตอนนี้ได้เลย

 

และชิวเยวี่ยถงเองก็เข้าใจเรื่องนี้เป็นอย่างดี นางไม่ได้พยายามหลบเลี่ยงและหันไปเผชิญหน้ากับสายฟ้าที่กำลังผ่าลงมาในตอนนี้

 

ชิวเยวี่ยถงสูดหายใจเข้าลึกๆพร้อมกับยกดาบในมือของตนเองขึ้นมาอีกครั้งหนึ่ง นิ้วมือของนางกำด้ามดาบเอาไว้แน่น จากนั้นแสงสีขาวก็พุ่งลงมาที่ดาบของนางในทันที

 

“ตู้ม!”

 

สายฟ้าเส้นที่ 2 นี้ผ่าลงมาที่ชิวเยวี่ยถงโดยตรงแต่เจตจำนงแห่งดาบของนางนั้นก็ไม่ได้ถือว่าอ่อนแอเลยพลังของทั้งสองอย่างเข้าปะทะกันอย่างรุนแรง

 

เมื่อแสงสว่างที่เกิดขึ้นหายไปนั้นมู่อี้ก็จ้องมองไปที่ชิวเยวี่ยถงที่โดนยันต์สายฟ้าเข้าไป 2 แผ่นติดต่อกัน

 

ในตอนนี้ชิวเยวี่ยถงไม่อาจพูดได้ว่ายังสมบูรณ์เหมือนเดิมแต่นางก็ไม่ได้รับบาดเจ็บสาหัสแต่อย่างใด นี่ทำให้เขารู้สึกอับอายขึ้นมาเล็กน้อย

 

นี่เป็นครั้งแรกที่มู่อี้เห็นว่ามีคนสามารถรับสายฟ้าของเขาได้ถึง 2 ครั้งและยังไม่ได้รับบาดเจ็บหนักอีกด้วย แม้แต่ฉือกุยที่ได้รับพลังของยันต์สายฟ้าไปเพียงครึ่งเดียวก็ยังบาดเจ็บสาหัสถึงตาย. .

 

แต่มู่อี้ก็สัมผัสได้ว่าลมหายใจของชิวเยวี่ยถงดูเหมือนจะติดขัดไปเล็กน้อย เห็นได้ชัดว่าการทนรับสายฟ้าถึง 2 ครั้งนั้นย่อมไม่ใช่เรื่องง่ายเลย

 

ในตอนนี้มู่อี้เหลือยันต์สายฟ้าแผ่นสุดท้ายเท่านั้น

 

แต่ดูจากสภาพของชิวเยวี่ยถงในตอนนี้แล้วแม้ว่าเขาจะใช้ยันต์สายฟ้าแผ่นสุดท้ายของตนเองออกไปก็ไม่แน่ว่าจะเอาชนะนางได้และถ้าหากเป็นเช่นนั้นมู่อี้ก็จะกลายเป็นฝ่ายเสียเปรียบทันที

 

ดังนั้นมู่อี้จึงไม่ได้รีบร้อนใช้ยันต์สายฟ้าแผ่นสุดท้ายออกไป แต่หยิบยันต์ปราบปีศาจออกมาอีกครั้งหนึ่งจากนั้นก็โจมตีไปที่ชิวเยวี่ยถงทันทีโดยไม่ให้นางได้ตั้งตัว

 

แสงสีขาว 2 เส้นพุ่งตรงเข้าไปหาชิวเยวี่ยถงในทันทีแต่ชิวเยวี่ยถงก็สะบัดมือของนางอย่างรวดเร็วและดาบในมือของนางก็ทำลายแสงสีขาวทั้ง 2 เส้นได้อย่างง่ายดาย

 

ทุกๆคนที่อยู่รอบๆต่างก็ต้องตกตะลึงในตอนนี้

 

เห็นชัดว่าสิ่งที่เกิดขึ้นในตอนนี้มันเกินกว่าความรู้ความเข้าใจของพวกเขาไปแล้ว แสงสีขาวที่พุ่งออกมาจากมือของมู่อี้ ตะเกียงทองแดงที่ส่องแสงสว่างออกมา และยังมีสายฟ้าที่ผ่าลงมาอีกด้วย ทุกสิ่งทุกอย่างล้วนเป็นสิ่งที่พวกเขาไม่เคยเห็นในชีวิตมาก่อน. .

 

หลายๆคนเริ่มคิดว่ามู่อี้อาจจะเป็นเทพเจ้าองค์หนึ่งจริงๆก็ได้ เพราะนอกจากเทพเจ้าแล้วพวกเขาก็ไม่เคยรู้จักใครที่สามารถควบคุมท้องฟ้าได้เลย

 

สำหรับชิวเยวี่ยถงนั้นทุกๆคนต่างก็รู้สึกเคารพในตัวนางมากยิ่งขึ้น เดิมทีชิวเยวี่ยถงก็เป็นผู้ที่แข็งแกร่งในใจของพวกเขาอยู่แล้วแต่ในวันนี้ทุกๆคนก็ได้เห็นพลังที่แท้จริงของนาง

 

นางยังใช่หัวหน้าหมู่บ้านคนเดิมของพวกเขาหรือเปล่า?

 

มู่อี้รีบฉวยโอกาสใช้ยันต์ปราบปีศาจออกไปโจมตีชิวเยวี่ยถงอีกครั้งหนึ่ง แต่ในตอนที่แสงสีขาวกำลังเข้าไปใกล้นางนั้นตะเกียงทองแดงในมือของเขาก็ระเบิดแสงสว่างจ้าออกมาทันที และยังมีเปลวเพลิงที่พุ่งเข้าไปหาชิวเยวี่ยถงอีกด้วย

 

ชิวเยวี่ยถงรู้สึกตกตะลึงมากยิ่งขึ้นและนางก็แสดงเคล็ดวิชาดาบของตนเองออกไปทันที เมื่อนิ้วชี้ของนางสัมผัสลงไปที่ใบดาบ ดาบในมือของนางก็เปลี่ยนเป็นสีแดงทันทีและจากนั้นดาบในมือของนางก็ดูราวกับว่ากำลังเปียกชุ่มไปด้วยเลือดในตอนนี้

 

“กึก!”

 

ดาบของนางกำลังสั่นและพร้อมกันนั้นมันก็เปล่งแสงสีแดงออกมา จากนั้นชิวเยวี่ยถงก็ฟันดาบในมือของนางออกไปทันที

 

แสงสีแดงพุ่งออกไปปะทะกับแสงสีขาวที่กำลังเข้ามาอย่างรวดเร็ว

 

“ตู้ม!”

 

เสียงระเบิดดังขึ้นกลางอากาศจากนั้นแรงระเบิดก็พุ่งเข้าใส่มู่อี้และชิวเยวี่ยถงจนทำให้ทั้งสองคนต้องกระเด็นออกไปทันที

 

มู่อี้หรี่ตาของเขาลง ในตอนนี้เขาพร้อมที่จะใช้ยันต์สายฟ้าแผ่นสุดท้ายของตนเองแล้ว

 

แต่ทันใดนั้นชิวเยวี่ยถงก็เริ่มมีการเคลื่อนไหวที่ดูแปลกประหลาดทันทีและจากนั้นสายตาของมู่อี้ก็รู้สึกเหมือนกับได้เห็นภาพลวงตา ชิวเยวี่ยถงที่อยู่ตรงหน้าของเขาในตอนนี้ได้แยกร่างออกเป็น 7-8 คนอย่างรวดเร็ว และชิวเยวี่ยถงทุกๆคนนั้นก็มีการเคลื่อนไหวที่แตกต่างกัน จากนั้นทั้ง 7-8 ร่างก็กลับมารวมเป็นคนเดียวอีกครั้ง

 

ในสายตาของมู่อี้ ดาบในมือของชิวเยวี่ยถงตอนนี้ดูเหมือนจะเปลี่ยนไปแล้วด้วยเช่นกัน พลังของดาบนั้นกำลังเพิ่มขึ้นมาอย่างรวดเร็ว

 

“ตู้ม!”

 

สายฟ้าก็พุ่งเข้าไปหาชิวเยวี่ยถงอีกครั้งหนึ่งทันที

 

มู่อี้รู้สึกได้เพียงว่ามีแสงสว่างสีขาวเจิดจ้าส่งหน้าของตนเองและมันทำให้เขาต้องหรี่ตาลงทันที

 

ในตอนนี้มู่อี้รู้สึกได้ถึงอันตรายที่กำลังเข้ามาใกล้ทันทีแต่ธงราชันย์แห่งวิญญาณก็มีรอยฉีกขาดและได้รับความเสียหายไปแล้ว เขาไม่สามารถนำมันมาใช้ได้อีกต่อไป ดังนั้นในตอนนี้เขาจึงทำได้เพียงเอนตัวให้มากที่สุดเพื่อหลบการโจมตีที่กำลังเข้ามา

 

“ฉัวะ!”

 

มู่อี้รู้สึกได้ถึงความเจ็บปวดบนไหล่ซ้ายของเขา จากนั้นแขนข้างซ้ายของเขาก็ไม่อาจเคลื่อนไหวได้อีกต่อไปและร่างกายของเขาก็กระเด็นลงไปอยู่ที่พื้น

 

หลังจากรีบถอยออกมาอย่างน่าอับอาย ในที่สุดมู่อี้ก็ได้มีโอกาสตรวจสอบไหล่ข้างซ้ายของตนเอง ซึ่งในตอนนี้ไหล่ซ้ายของเขาเต็มไปด้วยคราบเลือดและมีรอยแผลลึกขนาดใหญ่แสดงให้เห็นอย่างชัดเจน ถ้าหากเขาไม่รีบหลบในตอนนั้นน่ากลัวว่าบาดแผลนี้คงเกิดขึ้นที่ตำแหน่งหัวใจของเขาอย่างแน่นอน

 

นอกจากนี้ด้วยเจตจำนงแห่งดาบที่รุนแรงนั้น คงมากพอที่จะทำลายหัวใจของเขาได้เลย

 

แม้ว่ามันจะไม่ใช่การบาดเจ็บสาหัส แต่ในตอนนี้แขนซ้ายของมู่อี้ก็ไม่อาจใช้งานได้อีกต่อไปและร่างกายของเขาก็ยังเคลื่อนไหวได้อย่างยากลำบากขึ้นอีกด้วย

 

หลังจากที่แสงสว่างจ้าหายไปแล้วเขาก็ได้เห็นชิวเยวี่ยถงอีกครั้งหนึ่ง ภายนอกร่างกายของนางยังคงเหมือนเดิมแต่ดูเหมือนว่าภายในร่างกายนั้นจะได้รับผลกระทบที่รุนแรงพอสมควร เขาเห็นว่านางคุกเข่าข้างหนึ่งลงกับพื้นและดาบในมือของนางก็หักไปจนเหลือเพียงครึ่งเดียวในตอนนี้

 

เส้นผมของนางก็ดูกระจัดกระจายจนทำให้นางต้องอยู่ในสภาพที่น่าอับอายเหมือนกันกับเขา

 

พ่ายแพ้ทั้งคู่!

 

นี่คือผลการต่อสู้ของมู่อี้และชิวเยวี่ยถงในตอนนี้ ยังไม่มีใครยืนขึ้นมาได้และไม่มีใครที่เป็นฝ่ายชนะ

 

ถ้าจะให้พูดจริงๆดูเหมือนว่ามู่อี้จะเป็นฝ่ายที่เสียเปรียบมากกว่าเล็กน้อย เพราะบาดแผลของเขาเห็นได้ชัดมากกว่าและคงยากที่จะรักษาหายในช่วงเวลาสั้นๆนี้

 

แต่บางครั้งปัญหาก็ไม่สามารถมองจากทางด้านเดียวได้ อย่างน้อยที่สุดในตอนนี้มู่อี้ก็ยังสามารถใช้ยันต์ปราบปีศาจของเขาออกไปได้และดูเหมือนว่าชิวเยวี่ยถงจะไม่สามารถต่อสู้ได้อีกต่อไปแล้ว

 

แต่มู่อี้ก็ไม่ได้ทำแบบนั้นเพราะเขารู้ดีว่าชิวเยวี่ยถงไม่ได้อยู่ตัวคนเดียว ยังมีพี่น้องกลุ่มโจรภูเขามากมายที่พร้อมจะเข้ามาช่วยเหลือนางในตอนนี้

 

ถ้าหากอยู่ในสภาพปกติมู่อี้คงไม่มีทางกลัวคนพวกนี้อย่างแน่นอน แต่ในตอนนี้ถ้าหากศัตรูล้อมเขาเอาไว้เขาคงต้องตายแน่นอน

 

ยิ่งไปกว่านั้นมู่อี้ยังรู้สึกได้ว่ามีพลแม่นปืนและนักธนูมากมายที่ล้อมรอบจัตุรัสแห่งนี้เอาไว้

 

ถ้าหากชิวเยวี่ยถงออกคำสั่ง เช่นนั้นมู่อี้คงต้องตายแน่ๆ