วิวาห์พลิกรัก ฉบับซุปตาร์ – ตอนที่ 1139 คุณหายโกรธหรือยัง
หนานกงเฉวียนไม่ได้ตอบขณะยื่นนามบัตรของเขาให้ก่อนกลับมายืนอยู่ข้างซูโยวหราน
“ดูเหมือนสัมภาระของคุณจะเก็บเรียบร้อยแล้วนะ เรื่องนี้ก็ไม่น่าเป็นห่วงแล้ว ขอบคุณนะครับ คุณซู” หนานกงเฉวียนกล่าวอย่างสุภาพกับคุณพ่อซู
ทันทีที่คุณพ่อซูมองนามบัตรของหนานกงเฉวียน ก็รู้ว่าเขาคือชายที่ปรากฏตัวบนหน้าหนังสือพิมพ์บ่อยๆ ช่วงนี้ ประธานกรรมการบริหารของชุนชิวฟิลม์ ยิ่งไปกว่านั้นยังเป็นผู้ก่อตั้งบริษัทด้านเทคโนโลยีในอเมริกาอีกด้วย
“คุณหนานกงกับลูกสาวผม…”
“โยวหรานเป็นคู่หมั้นผม ผมยังไม่ได้มีโอกาสมาเยี่ยมสักที แต่นึกไม่ถึงว่าจะมาเจอเรื่องอย่างนี้ในครั้งแรกที่มาหา” หนานกงเฉวียนหัวเราะก่อนยกแขนโอบซูโยวหรานไว้และหันหลังเดินจากไป “ไปกันเถอะครับ…”
“คุณหนานกง ช่วยอยู่สักครู่ด้วยนะครับ”
“โอ๊ะ ใช่แล้วครับคุณ คุณควรเตรียมรับจดหมายจากทนายความของผมนะ คุณก็เหมือนกันนะครับ คุณผู้หญิง พวกคุณเป็นชู้กันและกระทำรุนแรงกับคุณน้าซู ผมว่าต้องมีใครสักคนรับผิดชอบเรื่องนี้นะ ผมรู้ว่าคุณป้าของโยวหรานเป็นทนายความชื่อดัง แต่ไม่ว่าคุณจะดังแค่ไหน ผมก็สงสัยว่าจะสู้กับทีมกฎหมายของผมได้หรือเปล่าเหมือนกันครับ
“ต่อไปนี้ซูโยวหรานไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกับครอบครัวซูอีก คุณซู ถ้าผมรู้ว่าคุณติดต่อมาหาโยวหรานหรือคุณน้าซูอีก ผมก็ต้องขอโทษด้วยที่ต้องทำให้คุณต้องทุกข์ทรมาน
“เดิมทีผมว่าจะเสนอความช่วยเหลือตอนที่รู้ว่าครอบครัวซูกำลังลำบากอยู่สักหน่อย แต่ดูจากสถานการณ์ตอนนี้ ผมว่ายกมันให้โยวหรานเป็นเงินติดกระเป๋าไว้ดีกว่า…คุณว่าอย่างนั้นไหมครับ โยวหราน”
ตอนนี้ซูโยวหรานอยู่ในอ้อมแขนของหนานกงเฉวียน แม้เธอจะไม่รู้ว่าทำไมหนานกงเฉวียนถึงช่วยเธอ เธอก็นึกขอบคุณกับการช่วยเหลือของเขาเหลือเกิน
เป็นจังหวะที่คุณพ่อซูพลันเปลี่ยนท่าทีต่อซูโยวหรานและกลับกลายเป็นนอบน้อมอย่างมาก “โยวหราน หนูให้พ่อยืมเงินได้ใช่ไหมล่ะ… พ่อรับรองว่าจะใช้คืนให้นะ”
ทว่าซูโยวหรานทำเพียงระบายยิ้ม “ถ้าหนูมีเงินมากขนาดนั้นจริงๆ หนูคงใช้เงินนั่นจ่ายค่าทำคดีของแม่แล้ว เธอจะได้ดำเนินคดีกับพ่อ อย่างน้อยก็จะได้ทรัพย์สินครึ่งหนึ่งของพ่อ! ถึงหนูจะไม่ได้สนใจเลยก็ตาม…”
ทันทีที่คุณพ่อซูได้ยินดังนี้ สีหน้าเขากลับกลายเป็นซีดเผือดด้วยความกลัว
“โยวหราน อย่าทำอย่างนี้กับพ่อนะ…โยวหราน”
“พ่ออยากให้หนูช่วยพ่อจริงๆ เหรอ ดีค่ะ พ่อรู้หรือเปล่าว่าหนูต้องการอะไร!” ซูโยวหรานถามพ่อตัวเองขณะจ้องป้าของเธอเขม็ง
คุณพ่อซูเข้าใจว่าเธอหมายถึงอะไร เขาจึงยกมือขึ้นอย่างยอมจำนน “ฉันจะไล่เธอออกไป จะทำให้เธอไปให้พ้นสายตาของฉันเดี๋ยวนี้ และไม่มีทางให้เธอกลับมาที่บ้านอีก”
“แค่นั้นพอแล้วเหรอ เธอติดค้างแม่ของหนูเอาไว้มากกว่านั้นนี่”
“ฉี่จง คุณทำอย่างนี้กับฉันได้ยังไง” ป้าของซูโยวหรานถามขณะมองคุณพ่อซูด้วยความอึ้ง “คุณแลกฉันเพื่อเงินอย่างนั้นเหรอ”
“ตอนนี้ไม่มีอะไรสำคัญมากไปกว่าธุรกิจของฉันแล้ว ถ้าฉันไม่เหลืออะไร ฉันก็สงสัยว่าเธอจะอยู่กับฉันหรือเปล่าเหมือนกัน!” คุณพ่อซูขึ้นเสียง
“ฉันรักคุณจริงๆ นะ เพื่อคุณแล้วฉันยอมหย่าด้วยซ้ำ แล้วตอนนี้คุณจะให้ฉันไปที่ไหนล่ะ”
“ฉันไม่สนว่าเธอจะไปที่ไหนหรอก แค่ทำให้โยวหรานหายโกรธก็พอแล้ว!” คุณพ่อซูทำตัวเป็นคนดีขึ้นมาทันที “ทีนี้ก็ออกไปจากที่นี่ซะ ออกไปเดี๋ยวนี้เลย!” คุณพ่อซูไม่ได้เพียงแค่ว่าด้วยคำพูด แต่ยังแสดงให้เห็นขณะเริ่มผลักหญิงสาวไปทางประตู
กระดานจะพลิกไวเกินไปหรือเปล่า
ป้าซูไม่อยากจะเชื่อว่าหลังจากที่พยายามมาหลายปีและเกือบจะถึงเส้นชัยอยู่แล้ว อยู่ๆ คู่หมั้นของซูโยวหรานจะปรากฏตัวขึ้นมาและทำลายทุกสิ่ง
“ฉี่จง…ได้โปรดอย่าไล่ฉันออกไปเลยนะ”
ขณะที่เฝ้ามองการกระทำของทั้งสองคน ซูโยวหรานได้แต่คิดสิ่งหนึ่ง “น่ารังเกียจจริงๆ!”
“ไปกันเถอะครับ” หนานกงเฉวียนไม่สนใจจะดูทั้งสองยื้อยุดกันไปมาอีกต่อไป เขาช่วยซูโยวหรานหยิบสัมภาระของเธอ
“ไม่นะ โยวหราน ลูกจะไปไม่ได้นะ ดูสิ คุณหนานกง…”
“พ่ออยากให้หนูช่วยเหรอ แน่ละค่ะ แต่ว่าหนูต้องดูว่าพ่อทำกับแม่หนูยังไงก่อนนะคะ…” ซูโยวหรานว่าก่อนหันหลังเดินตามหนานกงเฉวียนออกไปโดยไม่ปรายตามองกลับไป
วันนี้หนานกงเฉวียนได้ช่วยเธอไว้อย่างปฏิเสธไม่ได้
อย่างไรเสียนับตั้งแต่เกิดมา เธอก็ไม่เคยลุกขึ้นมาสู้กับพ่อตัวเองสักครั้ง
“คุณหายโกรธหรือยังครับ”
ได้ยินคำถามของหนานกงเฉวียน เธอก็ส่ายหน้า “สิ่งที่แม่ฉันต้องทุกข์ทรมานมามันลืมไม่ลงหรอกค่ะ ต่อให้สองคนนั้นจะถูกมีดเป็นพันๆ เล่มแทงก็ตาม”
“ถ้าผมบอกคุณว่าผมช่วยทวงความเป็นธรรมให้คุณได้ คุณจะทำให้สิ่งที่ผมเพิ่งพูดกับพ่อคุณไปเป็นเรื่องจริงไหมครับ” หนานกงเฉวียนถาม เห็นได้ชัดว่าเขากำลังฝืนตัวเองเอาไว้ หากแต่อยู่ๆ เขาก็เผลอตัวพูดเร่งรัดก่อนจะได้ยินว่าตัวเองหลุดคำพูดเหล่านี้ออกไป
เมื่อซูโยวหรานไม่ตอบ หนานกงเฉวียนโพล่งขึ้นมาทันที “ผมขอโทษครับ ผมคงทำให้คุณกลัว…”
“ไม่หรอกค่ะ จริงๆ แล้วฉันอยากจะถามคุณว่าคำพูดส่วนไหนที่คุณหมายถึงต่างหาก”
“ส่วนที่ผมบอกว่าคุณเป็นคู่หมั้นไงครับ…” หนานกงเฉวียนตอบ “อย่าเข้าใจผิดนะครับ มันไม่ได้เป็นการตัดสินใจชั่ววูบ ผมคิดเรื่องนี้มาหลายเดือนแล้วครับ”
“คุณ…”
“ผมรู้ว่าคุณยังไม่สนิทกับผม แต่…”
เธอเริ่มหลุดหัวเราะออกมาขณะที่มองท่าทีประหม่าของเขา “ฮ่าๆ ”
“เรื่องนี้มันน่าขำเหรอครับ” หนานกงเฉวียนรู้สึกห่อเหี่ยวเล็กน้อย หากเขารู้ว่าจะเป็นอย่างนี้ เขาคงจะไม่พูดเรื่องอย่างนั้นออกไป
“คุณหนานกงคะ ฉันดูออกว่าคุณเป็นคนดีแล้วก็ขอบคุณที่ช่วยวันนี้มากเลยค่ะ แต่คุณโผล่มาฉวยโอกาสตอนที่ฉันกำลังอ่อนแออยู่นี่คะ”
“จริงเหรอครับ แต่ว่าผมจริงจังนะครับ” เขาเอ่ยยืนกราน
“ฉันไม่ถือที่จะเป็นเพื่อนกับคุณหรอกนะคะ แต่ว่ามันออกจะแปลกๆ ไปสักหน่อยที่จะข้ามขั้นไปหมั้นกันเลยน่ะค่ะ”
“ถังหนิงกับโม่ถิงก็แต่งงานกันตั้งแต่ครั้งแรกที่เจอกันนะครับ”
หลังจากได้ยินเช่นนี้ ซูโยวหรานก็รู้ว่าเขาจริงจังขนาดไหน เธอสบตาเขาพร้อมรอยยิ้ม
จริงอยู่ที่เธอสัมผัสได้ถึงแรงปรารถนา อยากจะลากเขาตรงไปยังสำนักงานกิจการพลเรือนเสีย แต่เหตุผลในหัวฉุดรั้งเธอไว้…
ด้วยเธอรู้ว่าตัวเองแค่หลงเสน่ห์ของเขาตั้งแต่ครั้งก่อนหน้านี้
หากแต่เธอไม่อยากจะเสียผู้ชายที่ดีขนาดนี้ไป เธอจึงหัวเราะและเอ่ย “คิดซะว่าวันนี้เป็นนัดบอดแล้วกันนะคะ นับตั้งแต่วันนี้ไปก็มาทำความรู้จักกันให้มากขึ้นเถอะค่ะ คุณว่าไงล่ะคะ”
เมื่อได้ยินดังนั้น หนานกงเฉวียนก็พ่นลมหายใจออกมาอย่างโล่งอก “แต่คุณยอมก็พอแล้วครับ”
มีผู้ชายร่ำรวยเงินทองขนาดนี้ที่ยินดีช่วยเธอครั้งแล้วครั้งเล่า ในฐานะผู้หญิง ซูโยวหรานจะไม่ซาบซึ้งใจได้อย่างไรกัน ถึงอย่างไรผู้หญิงทุกคนก็ใฝ่ฝันถึงชีวิตในเทพนิยายกันทั้งนั้น
ทว่าซูโยวหรานรู้ตัวเองดี หนานกงเฉวียนทั้งมั่งคั่งและทรงอำนาจ เขาจะหาผู้หญิงคนไหนก็ได้ตามใจตัวเองไม่ได้เลยหรือ
เธอจึงต้องมั่นใจว่าเป็นความคิดชั่ววูบของเขาหรือว่าต้องการคบกับเธอจริงๆ ด้วยทุกอย่างนั้นเกิดขึ้นอย่างกะทันหันเกินไป…
แต่เธอไม่รู้หนานกงเฉวียนได้ตามเฝ้ามองเธอมาหลายเดือนแล้ว
คอมเม้นต์