บรรลุอรหันต์กับระบบพุทธองค์ – ตอนที่ 11

อ่านนิยายจีนเรื่อง บรรลุอรหันต์กับระบบพุทธองค์ ตอนที่ 11 อ่านนิยายจีน.COM | อ่านนิยายจีนแปลไทย.

ตอนที่ 11 มีเงินแล้ว!
“ในอุโบสถห้ามใช้ส้นเท้าเดิน ห้ามพิงผนัง พิงโต๊ะหรือยืนเท้าสะเอว แล้วก็ห้าม ยันผนังหรือถ่มน้ำลายอะไรพวกนี้ ตอนนั่งก็ห้ามนั่งอ้าขา เวลายืนก็ต้องวางมือ หรือประสานมือยืนตรง เพื่อแสดงความเคารพ
ในอุโบสถห้ามหาวนอน ห้ามถ่มน้ำลาย ห้ามผายลม เป็นต้น หากทนไม่ไหวก็ควรออกไปนอกอุโบสถ ตอนหาวก็ควรจะใช้แขนเสื้อปิดปาก ตอนถ่มน้ำลายก็ให้ใช้ กระดาษทิชชูปิดปากไว้ ห้ามเข้าๆ ออกๆ จะรบกวนทุกคน
แน่นอนว่าวัดเอกดรรชนีของอาตมาไม่มีคนมาจุดธูปเลย จึงไม่เกิดเรื่องรบกวนทุกคน”
พูดถึงตรงนี้ฟางเจิ้งถอนหายใจ หว่างคิ้วมีความหดหู่ใจเพิ่มมาเสี้ยวหนึ่ง พูดถึงตรงนี้เขาเพิ่งนึกออกว่าภารกิจที่ระบบมอบให้เขายังทำไม่สำเร็จเลย! นั่นคือ จุดธูปสิบดอก ในหนึ่งเดือน ดูเหมือนง่าย แต่ทำจริงยากมาก
ฟางอวิ๋นจิ้งเห็นดังนั้นจึงหยั่งเชิง “ไต้ซือ กังวลเรื่องจุดธูปหรือคะ?”
ฟางเจิ้งพยักหน้าเล็กน้อย “ใช่”
“ไต้ซือ ท่านเก่งกาจขนาดนี้ ทำนายภัยความเป็นตายได้ ทั้งยังสั่งสอนสัตว์ป่าได้อีก เป็นพระอาจารย์ที่มีความสามารถแท้จริง ยังกลัวเรื่องไม่มีคนมาจุดธูปอีกหรือคะ? เดี๋ยวพวกเรากลับไปแล้วจะช่วยท่านประกาศให้ ถึงตอนนั้นรับรองว่าวัดนี้จะต้องมี แสงธูปสว่างไสว!” หม่าเจวียนพูดเสริม
จ้าวต้าถงกับหูหานก็พากันพยักหน้า จากนั้นพวกเขาก็เริ่มปรึกษากันถึงกลยุทธ์ในการป่าวประกาศ อย่างเช่นส่งรูปภาพลงบนอินเทอร์เน็ต เขียนบรรยายลงกลุ่มQQ[1] และก็จัดหมู่คณะให้มาเที่ยวกันอีกครั้ง…
ฟางเจิ้งฟังจนงง แต่ก็ไม่ได้อะไรนัก นักศึกษาเหล่านี้ทรมานเขาจริงๆ ถึงอย่างไร ตอนเขาเรียนหนังสือก็โดดเรียนตลอด…
ระหว่างนั้นพวกเขายังถามถึงปัญหาเกี่ยวกับพระธรรม ฟางเจิ้งก็ยังตอบได้ ความจริงแล้วอันไหนตอบไม่ได้ก็จะยิ้มและเงียบไป ให้อีกฝ่ายคาดเดาเอา
‘พอมาถึงคราวต้องใช้ความรู้ ทำไมฉันถึงไม่ตั้งใจเรียนกันนะ เรื่องง่ายๆ ก็ยังพออาศัยเรื่องที่ได้ยินมาเมื่อก่อนได้ แถแบบเป็นพิธีไป ซับซ้อนเกินไปจริงๆ ดูแลทางนี้ ทางนั้นก็ดูแลไม่ถึง การเป็นไต้ซือคงไม่ใช่เรื่องง่าย ฉันก็ควรจะอ่านหนังสือเยอะๆ แล้ว เติมเต็มความรู้บ้าง’ ฟางเจิ้งมองคนเหล่านี้ที่หลับไปแล้วพลางปลงในใจ
หนึ่งคืนผ่านไปเงียบเชียบ วันที่สองฟ้าสาง ฟางเจิ้งถึงกลับเข้าไปในวัด
ในวัดมีเขาคนเดียว งานที่ต้องทำทุกวันก็มีไม่น้อย ทำวัตรเช้าขาดไม่ได้ ทำความสะอาดอุโบสถก็ขาดไม่ได้ และยังต้องทำอาหารเช้าอีก จึงยุ่งมากจริงๆ
อาหารเช้าเป็นโจ๊กหนึ่งชามกับผักดองเค็มจานเล็ก ถึงจะยากจนอยู่บ้าง แต่ตอนนี้ฟางเจิ้งก็ยากจนจริงๆ และก็หมดทางเลือกแล้ว
ส่วนหมาป่าเดียวดาย ฟางเจิ้งให้มันออกไปหาอาหารกินเอง ตอนนี้เขาเลี้ยงมันไม่ไหว หมาป่าเป็นฝ่ายหากินเองมาตลอด…ทว่าเขาก็กำชับมันแล้วว่าห้ามโจมตีคน และก็ห้ามลงเขาไปขโมยของ ได้แต่ล่าสัตว์อยู่บนเขาเองเท่านั้น
ฟางเจิ้งกินโจ๊กไปสามชามติดกันจนตัวเองยังรู้สึกว่าฟุ่มเฟือยไปบ้าง ก่อนลูบท้อง ที่อิ่มจนนูนออกมา ขณะกำลังจะไปบูชาพระกลับได้กลิ่นธูป! ตั้งแต่เยาว์วัยจนเติบโตมาในวัดเขาชินกับกลิ่นธูปแล้ว! ชัดเจนว่านี่คือกลิ่นธูปหลังจุดไฟแล้ว!

คอมเม้นต์

การแสดงความเห็นถูกปิด