เทพสังหาร ยุทธการระห่ำ – บทที่ 196 พลังพิเศษสายวารี

อ่านนิยายจีนเรื่อง เทพสังหาร ยุทธการระห่ำ ตอนที่ 196 อ่านนิยายจีน.COM | อ่านนิยายจีนแปลไทย.

อำนาจของมีดเจ็ดดาวแข็งแกร่งอย่างหาที่เปรียบมิได้ เป็นมีดเล่มหนึ่งที่รวบรวมเทคโนโลยีระดับสูงของปัจจุบันและเคล็ดวิชาลับอันแข็งแรงของพรรควรยุทธโบราณเข้าด้วยกัน ถึงแม้ว่าหลินตวนจะเป็นศิษย์ของพรรควรยุทธโบราณ แต่ดูเหมือนว่ากระบวนท่าที่เขาใช้จะไม่มีพลังภายในอันแข็งแกร่งของพรรควรยุทธโบราณอยู่เลย ตรงจุดนี้ทำให้เย่เทียนเฉินรู้สึกสงสัยและประหลาดใจในเวลาเดียวกัน

สิ่งที่สงสัยก็คือ หลินตวนมีฐานะเป็นศิษย์ของพรรควรยุทธโบราณ ไม่สามารถฝึกแค่เคล็ดวิชาของพรรควรยุทธโบราณโดยที่ไม่ฝึกพลังภายในอันแข็งแกร่งร่วมด้วยได้ หรือว่าจะมีสิ่งใดปิดบังอยู่อีก?

ที่ประหลาดใจก็คือ ภายใต้สถานการณ์ที่ไม่ได้ใช้พลังภายในอันแข็งแกร่ง หลินตวนก็ยังสามารถใช้มีดเจ็ดดาวได้ และออกกระบวนท่าการโจมตีอันแข็งแกร่งเช่นนี้มาได้ อย่างน้อยก็เป็นครั้งแรกที่เย่เทียนเฉินได้เห็นได้พบตั้งแต่มาเกิดใหม่ในโลกปัจจุบัน

มหาวิทยาลัยหลงเถิง บนสนามหญ้าในภูเขาด้านหลัง มีฝุ่นควันฟุ้งตลบ เงามีดสองสายกลายเป็นมังกร ราวกับเป็นพลังที่แท้จริง มังกรคำรามออกมา พุ่งเข้ามาเพื่อฆ่าเย่เทียนเฉิน

ฉากนี้ทำให้ผู้คนต้องตกตะลึงจริงๆ หากมีคนมาดูอยู่ที่นี่ จะต้องตกใจจนตาค้างแน่นอน บนสนามหญ้าอันใหญ่โตมีเงามังกรตัวใหญ่สองตัว อ้าปากกว้าง และพุ่งตรงไปที่เย่เทียนเฉินจนทำให้เกิดฝุ่นควันฟุ้งกระจาย กระทั่งอากาศก็สั่นไหว ภาพอันน่าหวาดกลัวนี้ได้เกินกว่าความเข้าใจของผู้คนในยุคปัจจุบันที่มีต่อเคล็ดวิชาวรยุทธโบราณไปแล้ว แม้ในความฝันพวกเขาก็คิดไม่ถึงว่าเคล็ดวิชาโบราณของจีนที่มีสีสันเล่าลือต่อๆ กันมาจะกว้างขวางและลึกซึ้ง ถ้าพูดกันตามความเป็นจริงแล้วก็เช่น การเหาะเหินเดินกำแพง การทลายภูผาพลิกมหาสมุทร การเจาะทะลุภูเขาป่นหิน หากพูดอย่างเกินจริงสักหน่อยก็เช่น การขี่เมฆมังกร การขี่กระบี่ ขี่เมฆท่องไปทั่วหล้า…

ดังนั้นในโลกปัจจุบันนี้ มีหลายสิ่งหลายอย่างที่ไม่สามารถอธิบายได้ ดูเหมือนว่าจะมีน้อยคนที่รู้ถึงการมีอยู่ของผู้แข็งแกร่งแห่งพรรควรยุทธโบราณ และยังมีเรื่องราวและเหตุการณ์อีกมากมายที่ผู้คนไม่รู้ ถ้าหากใช้เพียงวิธีการที่อยู่ในความคิดของคนธรรมดาในสังคมมาวิเคราะห์ ย่อมไม่มีทางรับและอธิบายได้โดยเด็ดขาด แต่ถึงแม้ว่าคุณจะไม่เชื่อ ขออันนี้ล้วนเป็นความจริงที่ดำรงอยู่

ในตอนนี้ ขณะที่หลินตวนได้ปล่อยเงาดาบใหญ่ยักษ์สองเงา ใช้พลังอำนาจที่แข็งแกร่งที่สุดของมีดเจ็ดดาวออกมานั้น เย่เทียนเฉินก็ได้รวบรวมพลังพิเศษในขอบเขตจอมราชันทั้งหมดในร่างกายเตรียมที่จะรับกระบวนท่าอันแข็งแกร่งใหญ่โตนี้ เมื่อถึงตอนนี้เขาไม่กล้าที่จะประมาทเลยแม้แต่น้อย อย่างไรเสียถึงแม้ว่ามีดเจ็ดดาวจะไม่ได้เป็นหนึ่งในสามสุดยอดอาวุธของพรรควรยุทธโบราณ แต่ก็เพียงพอที่จะสั่นสะท้านโลกทั้งเบื้องหน้าและเบื้องหลังแล้ว

ในตอนนี้เอง มีดวงตาอันงดงามคู่หนึ่งจ้องมองฉากนี้โดยไม่ละสายตา เมื่อเห็นหลินตวนใช้มีดเจ็ดดาว ปล่อยเป็นเงามีดที่กลายสภาพเป็นมังกรตัวใหญ่เหนือจินตนาการออกมา โจมตีไปยังเย่เทียนเฉิน ก็อดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้ว มังกรตัวใหญ่ทั้งสองตัวที่คำรามจนอากาศแทบจะฉีกขาดนั้น ในสายตาของคนธรรมดาที่ไม่มีประสาทสัมผัสอันเฉียบแหลมอะไร ก็จะไม่มีผลกระทบอะไรมาก กระทั่งสามารถกล่าวได้ว่า ไม่สามารถสังเกตเห็นได้ แต่ว่าสำหรับยอดฝีมือแห่งพรรควรยุทธโบราณและผู้มีพลังพิเศษที่มีประสาทสัมผัสและสัญชาตญาณสูงนี้ พลังของเสียงมังกรคำรามที่ระเบิดออกมา ไม่สามารถหลุดลอดไปจากการรับรู้ของพวกเขาได้

ฉินเหยาเยว่ยืนอยู่บนตึกของภาควิชาโบราณคดี ในตอนที่เย่เทียนเฉินและหลินตวนเพิ่งจะเดินมาถึงสนามและประลองกันด้วยกระบวนท่าเล็กๆ น้อยๆ เพื่อลองเชิงกันนั้น เธอก็จับตามองทุกการกระทำของเย่เทียนเฉินแล้ว ถึงแม้ว่าหลินตวนเองก็ทำให้เธอต้องแปลกประหลาดใจอยู่บ้าง คิดไม่ถึงว่าในภาควิชาโบราณคดีนี้จะมีพยัคฆ์หมอบมังกรซ่อนอยู่ด้วย แต่ฉินเหยาเยว่ก็ให้ความสนใจกับเย่เทียนเฉินมากกว่า เนื่องจากสิ่งที่เธอกระทำมาโดยตลอดเกี่ยวข้องกับการข้ามมิติ ยังไม่ต้องพูดถึงว่าเธอรู้ได้อย่างไรว่าเย่เทียนเฉินเป็นผู้แข็งแกร่งที่ทะลุมิติมาจากช่วงยุคสิ้นโลก เพียงแค่เธอคิดว่าจะได้รับข้อมูลในช่วงยุคสิ้นโลกมาจากเย่เทียนเฉิน เธอก็ให้ความสนใจกับเย่เทียนเฉินมากแล้ว

กล่าวให้ถูกก็คือ ในตอนนี้คนเพียงคนเดียวที่รู้ฐานะที่แท้จริงของเย่เทียนเฉินก็คือฉินเหยาเยว่ เธอเข้าใกล้เย่เทียนเฉิน กระทั่งไม่ลังเลที่จะใช้วิชาสะกดใจออกมาอย่างกะทันหัน เพื่อต้องการควบคุมเย่เทียนเฉิน ก็เพราะต้องการที่จะได้รับข้อมูลของช่วงยุคสิ้นโลก ฉินเหยาเยว่เองก็คิดที่จะทะลุมิติไปที่นั่น ต้องการไปที่โลกของการล่มสลาย เนื่องจากที่นั่นมีของที่เธอต้องการมาโดยตลอด เป็นสิ่งที่ไม่ว่าใครก็ตามจะต้องหวั่นไหว นั่นก็คือการมีชีวิตยืนยาวเป็นอมตะ!

ยังคงเป็นเช่นนั้น ช่วงยุคสิ้นโลก เป็นโลกที่ไม่สามารถใช้ตรรกะตามปกติได้ ไม่เช่นนั้นคงจะไม่ได้ชื่อว่าโลกแห่งการล่มสลาย คุณสามารถจินตนาการถึงมันได้เลยว่าเป็นโลกที่เกิดจากการรวบรวมยุคปัจจุบัน ความเพ้อฝัน และโลกแห่งเทพเซียนเข้าด้วยกัน ที่นั่นไม่ได้มีเพียงเผ่าพันธุ์มนุษย์ แต่ยังมีสัตว์อสูร มีมนุษย์กลายพันธุ์และสัตว์กลายพันธุ์ มีกระทั่งภูตผีปีศาจ หากคุณใช้ความคิดของคนในปัจจุบันไปใคร่ครวญเรื่องของโลกแห่งการล่มสลายนั้น คุณคงจะต้องล้มเหลว และถูกทำให้ตกใจตาย

“มีดเจ็ดดาวแข็งแกร่งจริงๆ มิน่าล่ะถึงได้เป็นอาวุธชั้นยอดห้าอันดับแรกของพรรควรยุทธโบราณได้ หากสามารถได้มาไว้ในมือจะดีแค่ไหนกัน!” มุมปากของฉินเหยาเยว่ปรากฏรอยยิ้มเซ็กซี่ พูดกับตนเองเสียงเบาด้วยรอยยิ้มชั่วร้าย

ทันใดนั้นเอง เย่เทียนเฉินก็เคลื่อนไหว เมื่อต้องเผชิญหน้ากับเงามีดที่กลายเป็นมังกรตัวใหญ่ทั้งสอง เขาเองก็ไม่กล้าลำพองใจ มีดเจ็ดดาวเล่มนี้เดิมทีก็มีความโหดเหี้ยมร้ายกาจอยู่แล้ว ในตอนที่หลินตวนตวัดมีดฟาดฟันออกมา ลายมังกรบนตัวมีทั้งสองฝั่งก็เปล่งประกาย ดูคล้ายกับว่าจะพุ่งทะยานยานออกมาได้ ในจุดนี้เย่เทียนเฉินค้นพบแล้ว เขาคาดเดาได้ว่าอาจจะเป็นอาจารย์ของหลินตวนที่ใช้เคล็ดวิชาของพรรควรยุทธโบราณอันลึกล้ำ ใช้พลังภายในอันแข็งแกร่งผสานรวมไปบนลายมังกรทั้งสอง จึงทำให้มีผลลัพธ์ที่ร้ายกาจเช่นนี้ได้

“ย๊าก!”

เสียงตะโกนดังขึ้น เย่เทียนเฉินยืนเผชิญหน้ากับฟ้า กระโดดขึ้นสูงสองเมตรกว่า ในหมัดทั้งสองรวบรวมพลังพิเศษในขอบเขตจอมราชันเอาไว้จนเปล่งประกาสว่าง ทำให้หลินตวนที่อยู่ด้านล่างที่ได้เห็นต้องตกตะลึงจนตาค้าง ในใจคิดว่าเย่เทียนเฉินคนนี้คิดจะทำอะไร คงไม่ใช่ว่าต้องการปะทะกับมังกรสองตัวนี้อีกแล้วนะ? คนคนนี้รนหาที่ตายหรือไง?

ต้องกล่าวว่าเมื่อสักครู่นี้ในตอนที่หลินตวนใช้มีดเจ็ดดาวครั้งแรก เขาทำเพียงแค่ฟาดฟันออกมาง่ายๆ ครั้งหนึ่งเท่านั้น เย่เทียนเฉินปะทะเข้าไปก็ทำให้เขาตกใจแล้ว แต่ก็ยังไม่ถึงขั้นสั่นสะท้าน จะอย่างไรเขาก็ไม่ได้ลงมือเต็มที่ พลังอำนาจของมีดเจ็ดดาวก็ไม่ได้ใช้ออกมาเต็มที่ เย่เทียนเฉินสามารถหยุดยั้งเงาดาบขนาดใหญ่นั้นได้ ก็นับว่ามีความสามารถแข็งแกร่งมากแล้ว แต่ก็ไม่ได้ถึงขั้นที่น่าหวาดผวา อย่างไรก็ตามพลังอำนาจของมีดเจ็ดดาวที่ปรากฏขึ้นในตอนนี้ถึงขั้นเท็จเป็นจริง ดูเหมือนจะสามารถเห็นเงาของมังกรอหังการทั้งสองตัวได้ นี่เป็นความน่าเหลือเชื่อและความแข็งแกร่งระดับไหนกัน เย่เทียนเฉินถึงกับกล้าเข้าปะทะเชียว?

ตู้ม!

เสียงดังสนั่นดังขึ้น มือขวาของเย่เทียนเฉินต่อยออกไปยังศีรษะของมังกรตัวนั้น เพื่อหยุดยั้งมังกรตัวนั้นเอาไว้ แต่มังกรอีกตัวหนึ่งก็มาถึงแล้ว มันอ้าปากหวังกลืนกินเย่เทียนเฉินลงไป เย่เทียนเฉินใช้มือซ้ายยื่นออกไป ในฝ่ามือปรากฏลำแสงของคมกระบี่ขึ้นมาในพริบตา นี่เป็นการสร้างขึ้นจากการรวบรวมพลังพิเศษในขอบเขตจอมราชัน เขาฟาดฟันกระบี่ไปยังมังกรอีกตัวหนึ่ง

ตู้มๆ!

เสียงดังสนั่นขึ้นอีกสองครั้ง บริเวณใจกลางของสนามเกิดระเบิดขึ้นอย่างรุนแรง มังกรสองตัวที่ออกมาจากมีดเจ็ดดาวระเบิดกลางอากาศ ถึงแม้ว่าเย่เทียนเฉินจะใช้คมกระบี่ในมือซ้ายฟาดฟันมังกรตัวหนึ่ง และใช้หมัดในมือขวาต่อยปะทะมังกรตัวใหญ่อีกตัวหนึ่งเข้าไป แต่กลับไม่สามารถขัดขวางการโจมตีอันแข็งแกร่งของมังกรทั้งสองตัวได้ จากนั้นมังกรทั้งสองรวมกันเป็นหนึ่งและระเบิดออกมาอย่างรุนแรง ซึ่งใจกลางการระเบิดก็คือเย่เทียนเฉิน

การต่อสู้อันดุเดือดพลุ่งพล่านและการระเบิดอันน่าตื่นตะลึง กลับไม่มีเสียงใดออกมาเลย กระทั่งฉินเหยาเยว่ที่ยืนอยู่บนตึกภาควิชาโบราณคดีก็เห็นเพียงฉากการระเบิดที่น่าตื่นตะลึงเท่านั้น แต่ไม่ได้ยินเสียงใดๆ เลยแม้แต่น้อย เธออดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้วอันงดงาม จากนั้นมุมปากจึงปรากฏรอยยิ้มขึ้น “ที่แท้นายก็ใช้พลังพิเศษเขตแดนปิดกั้นตั้งนานแล้ว ต้องเผชิญหน้ากับการโจมตีอันแข็งแกร่งถึงขนาดนี้ยังมีใจไปใช้เคล็ดวิชาพลังพิเศษได้อีก เย่เทียนเฉิน ฉันจะต้องหาข้อมูลเกี่ยวกับยุคสิ้นโลกมาจากนายให้ได้ จะต้องไปที่โลกแห่งการล่มสลายให้ได้…”

“สหายเย่…” หลินตวนเห็นสถานการณ์เช่นนี้ก็ตกตะลึงไป เขาไม่ต้องการฆ่าเย่เทียนเฉิน เขาต้องการเพียงเอาชนะเพื่อที่จะทำให้ชื่อเสียงของสำนักงานเทียนหลินยิ่งใหญ่เท่านั้น ในขณะเดียวกันก็ต้องการให้เย่เทียนเฉินเข้าร่วมกับสำนักงานเทียนหลิน เพื่อช่วยทำงานให้เขา

ไหนเลยจะรู้ว่าจะเกิดเหตุการณ์เช่นนี้ขึ้น เย่เทียนเฉินเข้าปะทะกับมีดเจ็ดดาวโดยไม่รู้ว่าเป็นหรือตาย ถูกมังกรตัวใหญ่ทั้งสองตัวที่เกิดจากพลังของมีดเจ็ดดาวอันมหาศาลตัดขาดเป็นชิ้นๆ เกรงว่าระเบิดจนไม่เหลือกระทั่งกระดูกแล้ว

จนถึงตอนนี้หลินตวนก็ยังไม่รู้ว่า ความจริงแล้วในตอนที่พวกเขาทั้งสองคนมาถึงสนามหญ้า เย่เทียนเฉินได้ลอบกางเขตแดนปิดกั้นนานแล้ว ไม่เช่นนั้นด้วยอำนาจของมีดเจ็ดดาวที่ยิ่งใหญ่ถึงเพียงนั้น ฟาดฟันเพียงครั้งเดียวก็เกิดเป็นเงาดาบอันใหญ่ ถ้าไม่ทำให้เหล่าอาจารย์และนักศึกษาในมหาวิทยาลัยหลงเถิงต้องตกใจก็แปลกแล้ว โดยเฉพาะครั้งสุดท้ายที่หลินตวนลงมือเต็มกำลัง ใช้พลังอำนาจอันยิ่งใหญ่ของมีดเจ็ดดาวออกมาจนเงามีดกลายเป็นมังกรสองตัว ในอากาศมีเสียงมังกรกู่ร้องคำราม ถ้าหากว่าถูกคนอื่นได้ยินเข้าจะต้องคิดว่าเกิดการล่มสลายอย่างแน่นอน กระทั่งคงจะตกใจตายก็เป็นได้

จินตนาการได้เลยว่า มังกรตัวใหญ่ทั้งสองตัวที่พุ่งทะยานมายังตนเอง ส่งเสียงคำรามกู่ก้อง หากคุณยืนอยู่บนสนามหญ้าโล่งๆ จะมีความรู้สึกอย่างไร คงจะตกใจจนฉี่แทบราด

“ร้ายกาจ ร้ายกาจ พลังของมีดเจ็ดดาวร้ายกาจจริงๆ…”

ชั่วขณะนั้นเองหลินตวนก็ได้ยินเสียงของเย่เทียนเฉิน เขาตกใจจนชะงัก มองไปยังอากาศด้วยอาการตกตะลึงจนตาค้าง ฝุ่นควันค่อยๆ สลายไป เห็นว่าในอากาศปรากฏลูกบอลน้ำขึ้นอันหนึ่ง เย่เทียนเฉินถูกห้อมล้อมเอาไว้ตรงกลาง แขนเสื้อบริเวณมือขวาแหลกสลายเป็นเสี่ยงๆ ไปหมดแล้ว เมื่อสักครู่นี้ที่มังกรที่เกิดจากเงาดาบพุ่งเข้าไปและระเบิดออกมาครั้งใหญ่ เย่เทียนเฉินรีบใช้พลังพิเศษสายวารีคุ้มครองตนเอง แต่กลับช้าไปเล็กน้อย มือขวาจึงถูกระเบิดอย่างรุนแรง

ความจริงแล้ว ในตอนที่มือขวาของเย่เทียนเฉินต่อยปะทะไปยังบริเวณศีรษะของมังกรที่เกิดจากเงาดาบตัวนั้น เขาก็รู้ว่าตนเองไม่อาจสู้ได้ พลังอำนาจของมีดเจ็ดดาวนี้แข็งแกร่งมาก มังกรที่เกิดจากเงาดาบสองตัวนั้นมีความสามารถถึงขั้นก่อสร้างรูปลักษณ์ให้เป็นจริง มีพลังอำนาจอันแข็งแกร่ง การโจมตีของมังกรตัวเดียวก็แข็งแกร่งมากแล้ว เมื่อทั้งสองตัวรวมเป็นหนึ่ง  พลังในการทำลายล้างก็เพิ่มขึ้นในพริบตา ทำให้เขาไม่อาจจะป้องกันได้ ดังนั้นมือซ้ายจึงรีบรวมพลังพิเศษในขอบเขตจอมราชันและก่อสร้างเป็นรูปลักษณ์ของคมกระบี่ขึ้นมา ฟาดฟันลงไปยังมังกรอีกตัวหนึ่งเพื่อจะยืดเวลาออกไปและให้ตนเองมีโอกาสได้ใช้เคล็ดวิชาพลังพิเศษสายวารี

ครั้งนี้เย่เทียนเฉินไม่ได้ใช้โล่พลังพิเศษคุ้มครองตนเอง เป็นเพราะเขาสัมผัสได้ว่าภายในพลังและบรรยากาศของมังกรคมมีดสองตัวนี้ ปะปนไปด้วยธาตุดินซึ่งเป็นธาตุที่ถูกธาตุน้ำกดข่ม นี่จึงเป็นวิธีที่ดีที่สุด

โพล๊ะ!

ลูกบอลน้ำที่ห่อหุ้มเย่เทียนเฉินเอาไว้ระเบิดออก น้ำทั้งหมดหยดลงสู่พื้น เย่เทียนเฉินลงมายืนที่พื้นมองไปยังหลินตวนแล้วพูดว่า “พลังของมีดเจ็ดดาวไม่น้อยเลยทีเดียว เป็นอาวุธที่ยอดเยี่ยมชิ้นหนึ่ง!”

“นาย…ไม่เป็นอะไรใช่ไหม?” หลินตวนมองเย่เทียนเฉินด้วยความตกตะลึงจนตาค้าง จะอย่างไรเขาก็คิดไม่ถึงว่าบนโลกนี้จะมีคนที่สามารถเข้าปะทะกับมีดเจ็ดดาวและยังไม่ได้รับอันตรายจากพลังอำนาจอันแข็งแกร่งที่ถูกใช้ออกไปของมีดเจ็ดดาวอยู่อีก เย่เทียนเฉินแข็งแกร่งมากขนาดไหนกันแน่?

ในตอนนี้เอง ฉินเหยาเยว่ที่ยืนอยู่บนตึกภาควิชาโบราณคดีก็ดวงตาเบิกกว้าง การที่เย่เทียนเฉินหยุดยั้งมีดเจ็ดดาวได้ทำให้เธอต้องสั่นสะท้าน แต่ที่ทำให้เธอต้องตกตะลึงที่สุดก็คือ เย่เทียนเฉินถึงกับสามารถใช้พลังพิเศษในสายวารีได้ จากข้อมูลที่ตนเองมีอยู่ในมือในปัจจุบันนี้ เย่เทียนเฉินเคยใช้พลังพิเศษในสายอัสนีและสายพสุธา ซึ่งก็ทำให้เธอต้องประหลาดใจมากแล้ว ตอนนี้ถึงกับสามารถใช้พลังพิเศษในสายวารีได้ ช่างทำให้เธอต้องสั่นสะท้านเกินไปแล้ว

“หรือว่า หรือว่าเย่เทียนเฉินจะ…เป็นผู้มีพลังพิเศษห้าสาย?” ในพริบตานั้น ฉินเหยาเยว่ก็อ้าปากอันเซ็กซี่ของเธอ มองเย่เทียนเฉินที่อยู่ไกลออกไปอย่างเหลือเชื่อ พูดพึมพำกับตนเองด้วยความสงสัย

……………………………..

คอมเม้นต์

การแสดงความเห็นถูกปิด