STARGATE ปริศนาประตูแห่งดารา – ตอนที่ 12-3 ตัดสินใจ (3)
ผู้พิทักษ์รัตติกาลก็แค่ปล่อยข่าวลือล่อเหยื่อเท่านั้น แต่สุดท้ายก็ต้องเป็นสมาชิกผู้พิทักษ์รัตติกาลของกองตรวจการณ์อยู่ดี เพราะผู้พิทักษ์รัตติกาลเป็นหน่วยงานทางการและดั้งเดิม!”
ในเมื่อเคยชินกับการเป็นข้าราชการ น้อยคนนักที่จะออกไปเป็นโจร
“นี่เป็นเพียงกับดักเท่านั้นแหละ!”
หลิวหลงเอ่ยเสียงเรียบ “คนอื่นฉันไม่รู้ แต่กลุ่มคนที่ล้มเหลวในทุกๆ ปีล้วนไม่พอใจที่จะเป็นมนุษย์ธรรมดาแน่นอน! ขาข้างหนึ่งของพวกเราเคยก้าวเข้าไปในขอบเขตพลังเหนือธรรมชาติแล้วแต่กลับถูกคัดออก ย่อมไม่มีใครพอใจหรอก! อีกอย่างคนอย่างพวกเราล้วนเป็นกำลังหลักของกองตรวจการณ์ พวกเรามีทั้งอาวุธ อำนาจ และมีฝีมืออันยอดเยี่ยมเพื่อช่วงชิงโอกาสนั้นมา!”
“ผู้พิทักษ์รัตติกาลไม่ต้องเสียอะไรเลย มุมหนึ่งปล่อยให้พวกเราต้องปะทะต่อสู้กันไป ส่วนอีกมุมหนึ่งก็ช่วยกำจัดเสี้ยนหนามส่วนหนึ่งในทีม ทำไมจะไม่ยินดีทำล่ะ?”
ในวินาทีนี้สมาชิกในทีมเข้าใจอย่างโจ่งแจ้งแล้ว
ก่อนหน้านี้หลิวหลงไม่ได้อธิบายรายละเอียดขนาดนี้ สมาชิกในทีมบางคนรู้ แต่บางคนก็ยังกังวลว่าจะถูกผู้พิทักษ์รัตติกาลจับได้ว่าพวกเขาคอยแย่งชิงพลังลี้ลับอยู่เบื้องหลังเหมือนเจ้าอ้วนนี่ไง
แต่วินาทีที่ฟังหัวหน้าพูดจบ ทุกคนก็กระจ่างขึ้นมาทันที!
เจ้าอ้วนถามขึ้นอีกครั้ง “ลูกพี่ แล้วการดึงหลี่ฮ่าวมาร่วมงานกับเรา…มีประโยชน์อะไรเหรอ?”
“มีสิ!”
หลิวหลงพูดเพียงประโยคเดียวโดยไม่ได้อธิบายอะไรเพิ่ม
ทุกคนต่างขบคิดกันไปต่างๆ นาๆ แต่ก็ไม่มีใครกล้าซักไซ้เขา
ส่วนหลี่ฮ่าว…จะเข้าร่วมไหมยังต้องถามอีกเหรอ?
เข้าร่วมแน่นอนสิ!
ทุกคนคิดว่าหากรู้จักขอบเขตพลังเหนือธรรมชาติแล้วคงไม่มีใครปฏิเสธคำเชิญชวนของหลิวหลงได้หรอก
ผู้พิทักษ์รัตติกาลมีการคัดเลือกอย่างเป็นทางการ แต่อัตราความสำเร็จมีเพียงหนึ่งในร้อยเท่านั้น ที่สำคัญเกรงว่าหลี่ฮ่าวคงไม่ได้เป็นผู้ถูกเลือกของเมืองหยินด้วยซ้ำ
เมืองหยินอันกว้างใหญ่นี้ คนที่รู้เรื่องผู้มีพลังเหนือธรรมชาติไม่น้อยเลยทีเดียว
อีกอย่างมีแต่คนระดับสูงๆ ทั้งนั้น!
มีคนระดับสูงๆ มากมายตั้งเท่าไรหวังว่าตนเองหรือลูกหลานของตนจะได้เป็นผู้มีพลังเหนือธรรมชาติ คนประเภทอย่างหลี่ฮ่าวมีโอกาสที่จะถูกเลือกน้อยถึงน้อยมาก แม้ว่าอาจารย์ของเขาจะช่วยออกหน้าให้ แต่สุดท้ายเขาก็คงไม่สามารถเข้าสู่ตำแหน่งผู้ถูกคัดเลือกได้แน่นอน
ขอแค่หลี่ฮ่าวรู้ถึงระดับความยากที่แฝงอยู่ เขาคงเข้าใจว่ามีเพียงการเข้าร่วมกับหน่วยปฏิบัติการทางเดียวเท่านั้นที่จะได้เข้าไปพัวพันกับผู้มีพลังเหนือธรรมชาติ
……………
ค่ำคืนที่งดงาม
บนท้องถนน หลี่ฮ่าวยังคงระมัดระวังตัวและเดินจากไปอย่างเงียบๆ
บ้านตระกูลจางไม่ไกลจากบ้านตนมากนัก
ตลอดทางที่เดินมาเขาคิดทบทวนหลายเรื่อง สุดท้ายเขาก็ตัดสินใจจะพูดคุยกับอาจารย์ของเขาสักหน
“ตู๊ด ตู๊ด …”
ปลายสายยังคงรับสายอย่างรวดเร็วเหมือนเคย หยวนซั่วยังไม่นอนและรอเขาอยู่แล้ว
“อาจารย์ครับ!”
“จัดการเรียบร้อยแล้วเหรอ?”
“ครับ หลิวหลงนำทีมมาแล้ว ตอนนี้ผมกำลังอยู่ระหว่างทางกลับครับ”
หลี่ฮ่าวพูดพลางครุ่นคิด สักพักเขาก็เอ่ยขึ้นว่า “อาจารย์ครับ หัวหน้าหลิวบอกว่าผมกำลังตกอยู่ในอันตราย คนที่ฆ่าเสี่ยวหย่วน เขาอาจจะต้องการฆ่าผมด้วย”
“ไม่เป็นไร!”
หยวนซั่วเหมือนจะคาดเดาได้แต่แรกแล้ว เขาไม่สนใจและเอ่ยอย่างไม่ใส่ใจว่า “ตั้งแต่พรุ่งนี้เป็นต้นไปเธอย้ายมาอยู่ที่กู่ย่วนแต่ไม่ต้องอยู่หอพักให้มาอยู่กับฉันที่นี่เลย และอย่าไปไหนอีก! ซ่อนตัวสักปีสองปี คงไม่ใช่ปัญหาใหญ่อะไร”
หยวนซั่วพูดออกมาอย่างง่ายดายแต่หลี่ฮ่าวกลับเข้าใจ หยวนซั่วกำลังเอาตัวเองเป็นเดิมพัน เดิมพันว่าเป็นไปไม่ได้ที่ผู้พิทักษ์รัตติกาลจะไม่สนใจความปลอดภัยของเขา
หากหลี่ฮ่าวหลบอยู่ที่นี่ นอกเสียจากเงาโลหิตจะแข็งแกร่งมากจริงๆ ไม่อย่างนั้นพวกเขาไม่กล้าหาเรื่องผู้พิทักษ์รัตติกาลหรอก
แต่หลี่ฮ่าวรู้ว่าเงาโลหิตไม่มีวันยอมถอยง่ายๆ ด้วย
ยิ่งไปกว่านั้นจะให้ตนเอาแต่หลบๆ ซ่อนๆ หลี่ฮ่าวไม่ต้องการแบบนั้นแน่นอน
“อาจารย์ครับ ผมอยากอยู่ที่กองตรวจการณ์ต่อครับ”
“ดื้อรั้น!”
หยวนซั่วโมโหเล็กน้อย “รู้ทั้งรู้ว่าอันตรายแต่ยังดันทุรังอยู่ต่อ! ไม่ใช่กล้าหาญ!”
“อาจารย์ ผมอยาก…เข้าร่วมหน่วยปฏิบัติการ! หัวหน้าหลิวชวนผมให้ไปเข้าร่วมหน่วยปฏิบัติการ เขาบอกว่าจะรักษาความปลอดภัยให้ผมได้”
“หน่วยปฏิบัติการ?”
“ใช่ครับ อีกอย่าง…เขาบอกกับผมว่าเข้าร่วมแล้วอาจจะนำไปสู่อีกขอบเขตหนึ่งด้วย”
“หึหึ!”
เสียงหัวเราะที่ไม่พอใจดังผ่านปลายสายมา
“หลิวหลงคนนี้ยังไม่ยอมแพ้อีกสินะ! มันง่ายขนาดนั้นที่ไหนกัน? ถ้ามันง่ายขนาดนั้นทุกคนคงเป็นผู้มีพลังเหนือธรรมชาติกันหมดแล้ว! ทุกอย่างที่เขาทำฉันรู้ทุกอย่าง หลิวหลงเป็นคนที่อุตสาหะและกล้าหาญมากเลยล่ะ”
หยวนซั่วกล่าวชมเชยแต่ไม่นานก็เอ่ยขึ้นว่า “แต่บางเรื่องเธอก็ไม่เข้าใจ สิ่งที่เขาพูดกับเธอมันต้องดูง่ายดายมากอยู่แล้ว! แต่ความเป็นจริง หนึ่ง การจะฆ่าคนพวกนั้นต้องเสี่ยงอันตรายทุกรูปแบบ! สอง การจะดูดพลังเข้าร่างกาย สำหรับผู้พิทักษ์รัตติกาลอัตราความปลอดภัยคือร้อยละ 90 ถึงแม้จะทำไม่สำเร็จก็ไม่ตาย แต่วิธีการของหลิวหลง ขั้นตอนการดูดพลังเข้าสู่ร่างกายกลับมีโอกาสตายครึ่งหนึ่ง!”
แววตาของหลี่ฮ่าวลูบไหวเล็กน้อย เรื่องนี้หลิวหลงไม่ได้เอ่ยถึงจริงๆ
หยวนซั่วเอ่ยอีกว่า “อีกอย่างนายคิดว่าในหน่วยปฏิบัติการมีคนใจเด็ดแค่พวกเขาหรือไง? หึหึ เดิมทีหลิวหลงรวมคนมากกว่าสิบคน แต่ตอนนี้คนรอบข้างเขาเหลือกี่คน? บางคนก็ตายระหว่างลอบสังหาร บางคนก็ตายระหว่างดูดพลังเข้าสู่ร่างกาย!”
หยวนซั่วถอนหายใจพร้อมเอ่ยต่อ “ถ้าเธอต้องการเดินทางสายนี้ บางที…ฉันอาจจะช่วยยื่นเรื่องนี้ให้เธอได้อยู่…”
เขารู้สึกลังเลเล็กน้อย ไม่นานเขาก็กลับมายืนหยัดอีกครั้ง
แต่หลี่ฮ่าวสัมผัสได้ถึงความลำบากใจของอาจารย์ เรื่องนี้คงไม่ใช่เรื่องธรรมดา
เมื่อนึกถึงคำพูดของหลิวหลง ผู้พิทักษ์รัตติกาลไม่อยากให้ทางฝ่ายอาจารย์กระทำการสำเร็จ หลี่ฮ่าวมีแผนในใจ จากนั้นเขาเอ่ยเสียงเบาว่า “ไม่ต้องหรอกครับ!”
“ก็ดี!”
ครั้งนี้หยวนซั่วไม่ได้รั้งอะไร เมื่อได้ยินหลี่ฮ่าวพูดเช่นนี้เขาก็ไม่ได้ต่อความยาวสาวความยาวอีก เพราะหยวนซั่วรู้ หากหลี่ฮ่าวไปจริงๆ อาจจะจัดอยู่ในกลุ่มผู้พิทักษ์รัตติกาลในสิบเปอร์เซ็นต์ที่จะต้องตาย
ส่วนตัวหยวนซั่วเอง เขาเคยลองแล้ว เขาจัดอยู่ในเก้าสิบเปอร์เซนต์ ไม่ตายแต่ก็ไม่ประสบความสำเร็จ
แต่หลี่ฮ่าวเป็นเพียงลูกศิษย์ของเขาเท่านั้น มีความเป็นไปได้สูงที่จะเกิดเรื่องอะไรขึ้นกับเขา
เมื่อคิดแบบนี้ เขาก็ไม่อยากพูดอะไรมาก
พอหลี่ฮ่าวรู้ว่าอาจารย์ของเขาพอจะรู้เรื่องการกระทำของพวกหลิวหลง เขาก็รู้สึกสบายใจขึ้นเล็กน้อย เขาเอ่ยขึ้นทันทีว่า “อาจารย์ งั้นผมตัดสินใจแล้วว่าผมจะเข้าร่วมหน่วยปฏิบัติการ ผมอาจจะไม่ลองวิธีการแบบนั้น แต่ผมต้องการแก้แค้น!”
“เธอนี่นิสัยช่าง…”
หยวนซั่วส่ายหน้าเอ่ย “เอาเถอะ แล้วแต่! นิสัยเธอมันเหมือนฉัน ในเมื่อเธอยืนหยัดที่จะทำก็ไม่มีเหตุผลอะไรที่ต้องถอย แต่ถ้าว่างก็แวะมาหาฉันหน่อย ฉันคงไม่สามารถช่วยอะไรได้มาก แต่ฉันสามารถเล่าเรื่องการเดินทางเส้นนี้ให้เธอฟังได้ เส้นทางนี้ไม่ได้เดินง่ายๆ หรอกนะ!”
เมื่อพูดถึงตรงนี้ จู่ๆหยวนซั่วก็หัวเราะ “ถ้าเธอประสบความสำเร็จขึ้นมาจริงๆ บางที…อาจจะเป็นเรื่องดีก็ได้! งั้นในอนาคตเราอาจจะร่วมมือกันทำบางสิ่งบางอย่างโดยไม่ต้องอยู่ภายใต้การควบคุมของใคร ความจริงมีคนอยากให้ฉันล้มเหลวอยู่ตลอด หึหึ ฉันจะหลุดพ้นจากพวกมันให้ได้ในไม่ช้าก็เร็ว!”
หลี่ฮ่าวแอบเข้าใจคำพูดนี้อยู่ลึกๆ แต่เขาก็ไม่ได้ซักไซ้อะไร
เพราะถ้าอาจารย์อยากจะบอกเขา แน่นอนว่าอาจารย์ต้องเล่าอย่างละเอียดแล้ว เห็นได้ชัดว่าเขายังคงมีความกังวลอยู่
และในวินาทีนี้หลี่ฮ่าวก็ตัดสินใจได้แล้วว่าจะเข้าร่วมหน่วยปฏิบัติการ!
อาจารย์ไม่ได้ห้ามปราม แสดงว่าเขาก็พอจะรู้สถานการณ์บ้างแล้ว หลิวหลงเองก็อาจจะมีแผนการอะไรบางอย่างเช่นกัน แต่ในระยะเวลาอันสั้นนี้คงไม่ได้มีผลเสียอะไรกับตนหรอก
“เงาโลหิต…ผู้มีพลังเหนือธรรมชาติ…ฉันมาแล้ว!”
หลี่ฮ่าวคิดในใจ ผ่านมาหนึ่งปีแล้ว ให้ฉันได้เห็นได้สัมผัสถึงความลี้ลับและความสุดยอดของพวกคุณทีเถอะ!
คอมเม้นต์