STARGATE ปริศนาประตูแห่งดารา – ตอนที่ 15-3 ขอบเขตพลังเหนือธรรมชาติ (3)

อ่านนิยายจีนเรื่อง STARGATE ปริศนาประตูแห่งดารา ตอนที่ 15-3 ขอบเขตพลังเหนือธรรมชาติ (3) อ่านนิยายจีน.COM | อ่านนิยายจีนแปลไทย.

“แบบที่สอง ดึงพลังเข้าสู่ร่างกาย! นั่นก็คือวิธีการเลื่อนขั้นที่พบเห็นได้ทั่วไป ดูดซับพลังลี้ลับเหนือธรรมชาติ ใช้พลังลี้ลับเหนือธรรมชาติรับการทดสอบเพื่อเปิดใช้งานพลังลี้ลับเหนือธรรมชาติในร่างกาย ผู้มีพลังเหนือธรรมชาติแบบนี้เป็นตัวหลักเลยทีเดียว หรือก็คืออีกขั้นหนึ่งที่ผู้มีพลังเหนือธรรมชาติส่วนใหญ่ต้องก้าวผ่าน! คนประเภทนี้ ในระบบพลังเหนือธรรมชาติทั้งหมดจะถูกขนานนามว่าเป็นปรมาจารย์แสงดารา!”

“พลังลี้ลับเหนือธรรมชาติ สว่างไสวดุจแสงดารา ผู้มีพลังเหนือธรรมชาติได้รับพลังลี้ลับเหนือธรรมชาติจากการฝึก เลยเรียกกันเองว่าแสงดาราส่องประกายถือกำเนิดใหม่”

ปรมาจารย์แสงดารา!

หลี่ฮ่าวจดจำอีกครั้ง

เช่นนี้แล้วทั้งระบบของพลังเหนือธรรมชาติ เพราะวิธีถือกำเนิดที่แตกต่างกันจึงมีส่วนแตกต่างบางอย่างและถูกจำแนกออกเป็นสองประเภทใหญ่หรอก

“มีแค่สองแบบเหรอครับ”

หลิวเยี่ยนพยักหน้ารับ “จริงๆ แล้วเราก็นับว่าเป็นประเภทที่สอง อยากกลายเป็นปรมาจารย์แสงดาราจากการดูดซับพลังเหนือธรรมชาติให้ได้มา ดังนั้นเราไม่นับว่าเป็นประเภทที่สาม”

คิดๆ เธอก็เอ่ยหลังครุ่นคิดไปอึดใจ “แต่ลือกันว่าความจริงยังมีวิธีการเลื่อนขั้นอีกแบบหนึ่ง”

หลี่ฮ่าวรู้สึกสนใจเล็กน้อยก็ถาม “วิธีอะไรเหรอ”

หลิวเยี่ยนยิ้มหน้าบานเป็นดอกไม้ “ว่ากันว่าวัตถุเหนือธรรมชาติที่แข็งแกร่งบางอย่างเปลี่ยนแหล่งกำเนิดได้โดยตรง ช่วยให้คนเลื่อนขั้นไปอยู่ในขอบเขตพลังเหนือธรรมชาติได้! หรือก็คืออาศัยของภายนอกผันตัวเป็นผู้มีพลังเหนือธรรมชาติ”

หลี่ฮ่าวใจหายวูบเล็กน้อย!

วัตถุเหนือธรรมชาติ!

กระบี่ดาราพรายกับหินมีดนับไหมนะ?

หลิวหลงก็น่าจะรู้ถึงขั้นคาดเดาว่าของพวกนี้อยู่ในมือของตน แต่ทำไม…ไม่เห็นเขาเอ่ยถึง ตกลงเขามีแผนลับอยู่หรือว่าไม่สนใจจริงๆ กันแน่นะ

วินาทีถัดไปหลิวเยี่ยนก็พูดอีกว่า “แน่นอนว่าวิธีนี้ไม่เป็นที่กล่าวถึงเพราะมันยากมาก! เพราะข้อแรก จำเป็นต้องมีวัตถุเหนือธรรมชาติที่แข็งแกร่งมาก คนทั่วไปไม่มีทางครอบครองมันได้อยู่แล้ว ข้อที่สอง ว่ากันว่าวัตถุเหนือธรรมชาติก็มีเงื่อนไขจำกัดบางอย่าง ใช่ว่าทุกคนที่ได้มันมาจะผันตัวเป็นได้เลย รายละเอียดปลีกย่อยฉันไม่ค่อยรู้หรอก ลูกพี่อาจจะรู้ แต่นายไม่ต้องใส่ใจก็ได้”

หลี่ฮ่าวไม่ว่าอะไร แค่พยักหน้ารับอย่างเดียว

หลี่ฮ่าวถามขึ้นอีกเพื่อเลี่ยงประเด็นนี้ไป “แล้วที่ลูกพี่เคยพูดก่อนหน้านี้ว่าเลือกพลังเหนือธรรมชาติที่เข้ากันได้แล้วดึงเข้าสู่ร่างกาย คือยังไงเหรอครับ”

“ศักยภาพร่างกายแต่ละคนไม่เหมือนกัน ถนัดด้านที่ต่างกัน พลังเหนือธรรมชาติจึงไม่ใช่ประเภทเดียวกัน แต่ปรากฏในรูปแบบที่หลากหลาย อย่างเช่นลูกพี่ถนัดการจู่โจม แต่ตัวเขายังไม่รู้ด้วยซ้ำว่าตัวเองถนัดการจู่โจมแบบไหน เป็นสายฟ้า ไฟ น้ำแข็งหรืออะไรก็ตาม เอาเป็นว่าเป็นความต่างของพลังธาตุ ตัวเขายังไม่รู้เลยว่าตัวเองครอบครองพลังแบบไหนได้ เวลานี้ถ้าเกิดดูดซับพลังลี้ลับเหนือธรรมชาติที่ไม่เหมาะกับร่างกายเข้าไป ความจริงก็ยากจะปลดกลอนล็อกพลังเหนือธรรมชาติในร่างกายตัวเองได้!”

“กลอนล็อกพลังเหนือธรรมชาติเหรอ”

“ก็คือสิ่งกีดขวางพลังเหนือธรรมชาติที่เราเข้าใจกันนั่นแหละ! ความจริงมีหรือไม่มีฉันก็ไม่รู้ ลูกพี่บอกว่าคนภายในหน่วยพิทักษ์รัตติกาลว่ากันแบบนี้ ความจริงทุกคนล้วนมีกลอนล็อกอยู่อันหนึ่ง ซึ่งจะล็อกเก็บพลังเหนือธรรมชาติกับธรรมดาเอาไว้! มีเพียงแค่ปลดล็อกนี้ได้ นายถึงจะก้าวข้ามไปอยู่ในขอบเขตพลังเหนือธรรมชาติได้!”

หลี่ฮ่าวเข้าใจอย่างถ่องแท้แล้ว

ปลดล็อกพลังเหนือธรรมชาติ!

นี่ก็คือสิ่งที่ปุถุชนธรรมดาต่างใฝ่ฝันถึง

หลี่ฮ่าวถามเรื่องผู้มีพลังเหนือธรรมชาติเพียงเท่านี้ วินาทีถัดมาเขาก็ถามถึงประเด็นสำคัญโดยตรง “รองหัวหน้าหลิว ถ้าผมอยากเลื่อนขั้นเป็นผู้มีพลังเหนือธรรมชาติ มีวิธีใช่ไหม”

“ดูดซับเข้าร่างกาย เพียงแต่ตอนนี้นายอาจจะรับแบ่งพลังลี้ลับเหนือธรรมชาติได้ยาก นอกจากว่าครั้งนี้จะฆ่าฆาตกรคดีไฟคลอกได้ ดูว่าจะช่วยหานายได้บ้างหรือเปล่า…”

หลิวเยี่ยนเองก็ตอบกลับไปตรงๆ ไม่อ้อมค้อม “นี่ขึ้นอยู่กับว่านายสร้างผลงานได้เท่าไร! ไม่ใช่ว่านายอ่อนแอกว่านายเลยมีเหตุผลมาอ้างว่าสมควรได้รับการแบ่งพลังมากหน่อย! ทีมล่าปีศาจของเราค่อนข้างเที่ยงธรรมในเรื่องนี้ ใครสร้างคุณงามความดีไว้มากก็ได้รับแบ่งมาก”

หลี่ฮ่าวพยักหน้าเป็นเชิงเข้าใจ

“แล้วผม…”

“นายอยากถามว่ามีวิธีที่จะแข็งแกร่งขึ้นหรือเปล่าใช่ไหม”

หลิวเยี่ยนยิ้มพยักหน้า “มี! ก่อนที่จะเลื่อนขั้นเป็นผู้มีพลังเหนือธรรมชาติ ถ้าไม่สามารถก้าวไปอยู่ขอบเขตพลังเหนือธรรมชาติโต้งๆ ได้ก็ต้องเสริมสร้างพลังตัวเองให้แข็งแกร่งขึ้น! นายอ่อนแอเกินไป ความจริงก็มีวิธีเสริมสร้างพลังตัวเองอยู่มากมาย”

หลี่ฮ่าวตั้งตารอฟังอย่างคาดหวัง

หลิวเยี่ยนครุ่นคิดชั่ววูบ “อย่างแรกต้องฝึกอย่างเคร่งครัดไม่มีหยุด!”

“อย่างที่สอง ก็คือวิธีการฝึกศิลปะการต่อสู้ที่ดี วิชาห้าปาณภูตของนายความจริงไม่เลว ถึงอย่างไรหยวนซั่วก็เป็นถึงปรมาจารย์นักรบระดับทะลวงร้อย เรื่องนี้คงไม่ต้องพูดอะไรมาก อีกอย่างวิถีห้าปาณภูตค่อนข้างครอบคลุม ไม่ว่าจะถนัดด้านการจู่โจม ป้องกันตัว หรือตั้งรับ”

หลี่ฮ่าวหยักหน้ารับ เรื่องนี้ก็จริงอยู่หรอก วิถีห้าปาณภูตมีถึงห้าประเภทใหญ่ เขาแค่เรียนไปแค่เคล็ดวิชาลิงเท่านั้น

“อย่างที่สาม ปัจจัยภายนอก!”

หลิวเยี่ยนยิ้ม “ปัจจัยภายนอกนี้ ความจริงหลักๆ ก็คือพลังลี้ลับเหนือธรรมชาติ พอดูดซับพลังลี้ลับเหนือธรรมชาติเข้าสู่ร่างกาย ถึงจะช่วยปลดล็อกพลังเหนือธรรมชาติให้เราไม่ได้แต่ก็ช่วยเสริมสร้างร่างกายเราให้แข็งแรงขึ้นได้ ศักยภาพร่างกายเป็นรากฐานสำคัญ! สุขภาพนายดี มีศักยภาพ คู่กับฝีมือการต่อสู้ที่แข็งแกร่ง นายย่อมแข็งแกร่งมากขึ้นอยู่แล้ว!”

พลังลี้ลับเหนือธรรมชาติ!

หลี่ฮ่าวครุ่นคิดในใจ อันนี้…ผมมี!

น้ำแช่จี้หยกกระบี่!

“แน่นอนว่าปัจจัยภายนอกไม่ได้มีแค่อย่างเดียว พลังลี้ลับเหนือธรรมชาติเป็นแค่ส่วนหนึ่ง ความจริงยังมีปัจจัยภายนอกอีกมากมายที่จะทำให้เราแข็งแกร่งขึ้นได้! เรื่องนี้…บางทีนายอาจจะไปถามจากอาจารย์ของนายได้”

หลี่ฮ่าวชะงัก หมายความว่าอย่างไร

หลิวเยี่ยนยิ้มอย่างมีความสุข พูดติดสนุกว่า “ในฐานะหัวหน้าคณะตามรอยอารยธรรมโบราณ ศึกษาร่องรอยอารยธรรมโบราณมาไม่รู้เท่าไร หน่วยพิทักษ์รัตติกาลเอาของปฏิกรรมสงครามไปส่วนใหญ่ แต่เพื่อปลอบประโลมอาจารย์นายย่อมต้องเหลือไว้ให้เขาอยู่ไม่มากก็น้อย! และในร่องรอยอารยธรรมโบราณพวกนี้ย่อมมีทรัพย์สมบัติมากที่สุด! นายอ่อนแอขนาดนี้ อาจารย์ของนายให้ของดีๆ สักหน่อย ย่อมเป็นผลดีต่อนายมาก!”

หลี่ฮ่าวไม่พูดอะไร เขาจะกล้าไปขอสมบัติจากอาจารย์ได้อย่างไร

ล้อเล่นหรือไรกัน!

“ฮ่าๆ อย่าขัดเขินไปเลย ไม่ใช่แค่อาจารย์ของนาย ความจริงทีมล่าปีศาจเราก็มีของดีๆ แบบนี้อยู่เหมือนกัน!”

จากนั้นหลิวเยี่ยนก็เอ่ยเสียงเบา “ถ้าเชื่อฟังพี่สาวพูดไม่มีทางเสียเปรียบหรอก ขอแค่นายทำตัวให้มีคุณค่าต่อหน้าลูกพี่ มีค่ามากพอจะลงทุน ลูกพี่ไม่มีทางมองข้ามหรอก! ฆ่าผู้มีพลังเหนือธรรมชาติไม่กี่คน บวกกับเราที่เป็นหน่วยปฏิบัติการของเมืองหยินอยู่แล้ว คลังเงินเล็กๆ ก็ยังพอมีอยู่”

หลี่ฮ่าวกะพริบตา เข้าใจแล้ว!

คิดอยู่ครู่หนึ่งหลี่ฮ่าวก็ถามอีก “พี่หลิว แล้วการพัฒนาความสามารถ นอกจากรู้สึกไปเองแล้วไม่มีสัญญาณอะไรที่จะบ่งบอกได้เด่นชัดบ้างเหรอครับ อย่างเช่นถึงระดับขั้นสิบสังหารจะมีการเปลี่ยนแปลงอะไรบ้างทำนองนั้น”

“การเปลี่ยนแปลงเหรอ”

หลิวเยี่ยนชะงัก ก่อนจะยิ้มตอบในไม่ช้า “มีน่ะก็มีอยู่หรอก แต่ความจริงความสามารถของปรมาจารย์นักรบขึ้นอยู่กับการลงสนามจริง ดูฝีมือแท้จริง! มีห้องฝึกห้องหนึ่งอยู่ด้านหลังของห้องชั้นใต้ดิน นายเข้าไปก็จะรู้เอง ถ้านายผ่านด่านในนั้นได้ ผ่านด่านแรกนายก็เป็นมือสิบสังหารแล้ว! บ่งบอกว่านายมีศักยภาพพอที่จะประชันกับหน่วยลับสิบคนซึ่งๆ หน้าได้แล้ว”

ห้องฝึกเหรอ?

หลี่ฮ่าวจำได้ขึ้นใจและเริ่มสนใจขึ้นมา

เขามองหลิวเยี่ยนอีกครั้ง นอกจากเรื่องพวกนี้ การเข้าร่วมทีมล่าปีศาจก็ไม่มีข้อดีอื่นและตัวช่วงอื่นอีกแล้วหรือ

หลิวเยี่ยนถูกเขาจับจ้องจนชะงัก และเหมือนจะเข้าใจความหมายเขาเลยหลุดเสียงขำออกมา หัวเราะเสียงสดใส “เจ้าเด็กนี่ ก็ไม่ได้ดูซื่ออย่างที่แสดงให้เห็นนี่นา!”

หลี่ฮ่าวยิ้มอย่างไร้เดียงสาตอบเสียงเบาว่า “เพื่อความเที่ยงธรรม!”

เพื่อความเที่ยงธรรม!

หลิวเยี่ยนหัวเราะไม่ออก แต่ผ่านพักใหญ่ถึงส่ายศีรษะถอนหายใจเฮือกหนึ่ง “รู้จักเอาที่เรียนรู้มาใช้แล้วสินะ! อย่างอื่นคงให้นายไม่ได้ในเมื่อนายเพิ่งเข้ามาใหม่ แต่…อาวุธในห้องทำงานฉัน นายหยิบได้ตามสบาย เอาไปได้เท่าไรก็เอาไป! อีกอย่างเป็นของถูกกฎหมายหมดเลยนะ บางทีตอนนี้นายอาจต้องการของพวกนี้ การเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้ตัวเองไม่ใช่เรื่องที่จะใจร้อนได้ พี่สาวฝึกฝนศิลปะการต่อสู้มาเกือบยี่สิบปีแล้ว ก็แบบนี้เหมือนกัน…”

หลี่ฮ่าวพยักหน้ารับ ยี่สิบปีแล้ว เริ่มเรียนตั้งแต่เมื่อไรกันนะ?

คนตรงหน้าดูอายุราวๆ สามสิบปี ไม่ใช่ว่าอายุเกินสี่สิบปีแล้วหรอกนะ?

แน่นอนว่าหลี่ฮ่าวไม่กล้าถามไปเช่นนั้น

คนพวกนี้เอะอะก็เรียนการต่อสู้มาสิบยี่สิบปี ช่างน่ากลัวเสียจริง หลี่ฮ่าวรู้ถึงความยากลำบากของการฝึกฝนการต่อสู้แล้ว อีกทั้งความจริงก็เป็นคนที่อดทนอดกลั้นมากพอสมควร สามปีมานี้ขาบอกว่าไม่ได้ตั้งใจ แต่ความจริงหากมีเวลาว่างก็จะฝึกเคล็ดวิชาลิงอย่างสม่ำเสมอ ห่วงที่ห้อยอยู่ในบ้านถูกดึงจนขาดไปตั้งเจ็ดแปดตัวแล้ว แถมยังตกลงมาจนเจ็บปางตายมาไม่น้อย

จากนั้นหลี่ฮ่าวก็ถามคำถามไปอีกไม่กี่คำถาม วันเวลาผ่านพ้นไปช้าๆ โดยไม่รู้ตัว

กระทั่งหลี่เยียนเตือนว่าใกล้ถึงเวลาทานอาหารแล้ว หลี่ฮ่าวถึงหยุดถามทั้งที่ยังไม่อยากหยุด

ยิ่งเข้าใจก็ยิ่งใฝ่ฝัน!

หากไม่สามารถเข้าไปอยู่ในขอบเขตพลังเหนือธรรมชาติได้เร็ว ถ้าอย่างนั้นพัฒนาการระหว่างทางที่ฝึกฝน ขอเพียงมีความสามารถในการป้องกันตัวมากขึ้นก็ยังดี

“น้ำแช่จี้หยกกระบี่เป็นของดี ทำเองเยอะๆ ดื่มให้มาก!”

หลี่ฮ่าวรู้สึกถึงสัมผัสเย็นที่แผ่ซ่านมาจากหน้าอก อันนี้ บางทีอาจเป็นเพียงวิธีเดียวที่จะช่วยย่นระยะห่างของเขากับคนอื่นได้

คอมเม้นต์

การแสดงความเห็นถูกปิด