รุ่งอรุณแห่งโลกาวินาศ – ตอนที่ 30 : ค้นหาดันเจี้ยน (3)
วันต่อมาลู่หมิงขับรถเข้าสู่ตัวเมืองไห่ผิง ระหว่างทางเข้าสู่ตัวเมืองนั้นลู่หมิงก็เริ่มที่จะพบเห็นซอมบี้มากขึ้นเรื่อยๆ จนกระทั้งรถของลู่หมิงมาถึงย่านการค้าแห่งหนึ่งที่ค่อนข้างจะเงียบสงบและไร้วี่แววของพวกซอมบี้
ลู่หมิงลงมาจากรถก่อนจะหันซ้ายหันขวาพร้อมกับเปิดแผนที่ขึ้นมาดู
“อืม… อีกประมาณสิบกิโลฯ งั้นเหรอ ?”
เขาถอนหายใจออกมาก่อนจะปิดแผนที่และกลับเข้าไปในรถ ก่อนจะขับออกไป
ลู่หมิงมาถึงเขตตัวเมืองในช่วงเที่ยงซึ่งระหว่างทางเขาก็ได้พบเจอกับซอมบี้จำนวนไม่น้อย แต่โชคดีที่ซอมบี้พวกนั้นเชื่องช้าเกินกว่าจะไล่ตามรถของเขาได้ทัน ไม่อย่างงั้นลู่หมิงคงจะลากฝูงซอมบี้นับร้อยมาด้วยเป็นแน่
เมื่อมาถึงในตัวเมืองลู่หมิงก็อดไม่ได้ที่จะต้องตกใจ เพราะภายในตัวเมืองนั้นมีซอมบี้มากกว่าแทบชานเมืองหลายเท่า เรียกได้ว่าภายในสายตาของลู่หมิงนั้นมีแต่ซอมบี้เต็มไปด้วย
ลู่หมิงรีบกลับเข้าไปในรถและขับมันไปจอดยังที่จอดรถของอาคารสูงแห่งหนึ่ง เขาต้องที่จะขึ้นไปที่ดาดฟ้าเพื่อดูสภาพของตัวเมืองในตอนนี้ว่าย่ำแย่แค่ไหน
และเมื่อเข้ามาในตัวตึกลู่หมิงก็พบเจอกับซอมบี้จำนวนมากที่เดินกันอยู่เต็มไปหมด ซอมบี้พวกนี้สวมใส่เสื้อผ้าของพนักงานบริษัท เขาจึงคาดว่าในอดีตตึกนี้คงเป็นตึกสำนักของบริษัทยักษ์ใหญ่สักแห่งและเมื่อซอมบี้แพร่ระบาด ทำให้พนักงานส่วนใหญ่ของตึกนี้กลายเป็นซอมบี้ไป
และทันทีที่พวกซอมบี้สังเกตุเห็นลู่หมิงพวกมันก็เดินตรงเข้ามาหาเขาทันที ลู่หมิงไม่รอช้าจับดาบในมือและไล่ฟันพวกซอมบี้ที่มาขวางทางเขา
[ ผู้เล่นได้กำจัดซอมบี้ ได้รับ 10 BP ]
[ ผู้เล่นได้รับคริสตัลค่าสถานะ Agi ระดับต่ำ ]
ลู่หมิงไล่ล่าฆ่าซอมบี้ทีละตัว แต่เขานั้นไม่มีเวลามากพอที่จะไล่ฆ่าซอมบี้ทุกตัวในตึกเพราะตอนนี้เป้าหมายหลักของเขาคือการเคลียร์ดันเจี้ยน ไม่ใช่การมาไล่ฆ่าซอมบี้พวกนี้
และอีกเหตุผลหนึ่งที่ทำให้ลู่หมิงไม่ให้ความสนใจกับซอมบี้พวกนี้ก็เพราะพวกมันไม่คุ้มค่ากับการที่เขาจะต้องมาเสียเวลาล่า เนื่องจากพวกมันให้แต้ม BP ที่น้อยและยังดรอบแต่คริสตัลค่าสถานะระดับต่ำ แม้การที่ซอมบี้เชื่องช้าพวกนี้จะเหมาะกับการฟาร์มคริสตัลค่าสถานะก็ตาม แต่การที่จำนวนของมันมีกันนับล้านตัว ทำให้มันเป็นการเสียเวลาโดยใช้เหตุ
แต่ถ้าหากลู่หมิงนั้นสามารถใช้เวทมนต์ได้ก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง เพราะเวทมนต์บางบทนั้นมีพลังทำลายล้างสูงและมีรัศมีที่กว้างขวาง ทำให้ในภาวะสงครามนั้นจอมเวทย์จึงเป็นสิ่งที่จำเป็น
ดังนั้นจะดีกว่าไหมที่จะให้ทางกองทัพที่มีอาวุธหนักอย่างเช่นระเบิด ปืนใหญ่ หรืออาวุธพลังทำลายล้างสูงจัดการซอมบี้พวกนี้แทนเขา
ลู่หมิงบุกฝ่าฝูงซอมบี้มาถึงหน้าลิฟท์ก่อนจะกดขึ้นไปยังชั้นบนสุด และใช้เวลาไม่นานนักเขาก็มาถึงชั้นบนสุดที่ลิฟท์จะมาได้ก่อนที่เขาจะเดินขึ้นบันไดไปอีกเล็กน้อยเพื่อมาถึงชั้นดาดฟ้า
ปึง !!
ลู่หมิงถีบประตูดาดฟ้าออกก่อนจะหันไปปิดมันอย่างดี เพื่อไม่ให้มีตัวอะไรเข้ามาขัดจังหวะเขา ลู่หมิงเดินไปยังริมดาดฟ้าก่อนจะเอากล้องส่องทางไกลออกมาส่องดูบริเวณรอบๆ
หลังจากที่ลู่หมิงจ้องมองผ่านกล้องไปได้ไม่นาน เขาก็ต้องขมวดคิ้วเพราะสภาพในเมืองนั้นย่ำแย่กว่าที่เขาคิดมากทีเดียว ในตอนแรกเขาคิดว่าจะมีซอมบี้ไม่มากนักในตัวเมือง เพราะคิดว่าพวกมันจะกระจายๆกันไป
แต่ลู่หมิงนั้นคิดผิด ดูเหมือนว่าสถานะการณ์ในเมืองไห่ผิงนั้นจะย่ำแย่เกินไปมากทีเดียว มีซอมบี้เดินไปเดินมาอยู่ทั่วไปหมด เรียกได้ว่ามันอยู่เกือบทุกตารางนิ้วของถนนเลยทีเดียว
และจากที่ลู่หมิงสังเกตุคร่าวๆคาดว่าจะมีซอมบี้อยู่ในเมืองมากกว่าสามล้านตัว ทำเอาเขาเหงื่อแตกเล็กน้อยเพราะจำนวนของมันเยอะเกินกว่าที่จะให้เขาออกสำรวจเมืองได้
แต่ถึงอย่างงั้นก็ยังมีเรื่องดีอยู่บ้าง เพราะจากที่ดูแล้วไม่มีซอมบี้ชนิดพิเศษเลยแม้แต่ตัวเดียว แต่ถึงอย่างงั้นลู่หมิงก็ไม่อาจจะวางใจได้ เพราะพวกซอมบี้พิเศษนั้นอาจจะรวมตัวกันอยู่ที่หน้าประตูของดันเจี้ยน
และที่น่าปวดหัวไปกว่านั้นก็คือ เขาไม่เห็นวี่แววของประตูดันเจี้ยนเลย ลู่หมิงถอนหายใจเล็กน้อยก่อนจะหันมองไปยังบริเวณอื่นของตัวเมือง
ในจังหวะที่สายตาของเขาเลื่อนผ่านไปยังสถานที่ต่างๆนั้น เขาก็อดไม่ได้ที่จะภาวะนาในใจให้เจอกับประตูของดันเจี้ยน เพราะตัวของลู่หมิงนั้นไม่ใช่นักเวทย์จึงไม่สามารถรับรู้ความผันผวนของเวทมนต์ที่ประตูดันเจี้ยนปล่อยออกมาได้ ทำให้ยากในการจะค้นหามัน
เพราะประตูของดันเจี้ยนนั้นมีขนาดไม่แน่นอน มันมีตั้งแต่เล็กพอๆกับประตูบ้านของคุณ หรือกระทั้งใหญ่พอๆกับประตูเมืองและในขณะที่สายตาของลู่หมิงกำลังสอดส่องไปทั่วอยู่นั้น เขาก็สังเกตุเห็นอะไรบางอย่างที่ทำให้มุมปากของเขายกยิ้มขึ้นมา
มันเป็นประตูสีเงินขนาดเท่ากับประตูห้องพักของเขา แต่มันทำมาจากเงินทั้งหมดและถูกสลักด้วยลวดลายอันงดงาม สายตาของลู่หมิงจ้องไปที่ประตูเงินบานนั้นพร้อมกับพูดออกมาด้วยรอยยิ้ม
“ฉันเจอแกแล้ว”
คอมเม้นต์