หลอมศาสตราสะท้านยุทธจักร – ตอนที่ 15 เพื่อความโปร่งใส
ตอนที่ 15
เพื่อความโปร่งใส
“คารวะท่านเจ้าสำนัก”เสียงของเหล่าศิษย์และอาจารย์ในสำนักเพลิงบัญญัติต่างดังออกมาอย่างพร้อมเพรียงจนเสียงสะท้อนไปทั่วทั้งสำนัก ยามนี้เพราะเรื่องของหนิงหลงเจ้าสำนักเพลิงบัญญัติอย่างหยางเยี่ยนเหว่ยต้องออกมาเรียกประชุมศิษย์ในสำนักทุกคนเพื่อจัดการทดสอบใหม่ตามคำขอ?ของภรรยา
“ช่วงนี้ข้าได้ยินข่าวลือแปลกๆที่พวกเจ้ากำลังคุยกันอยู่”เจ้าสำนักหยางเยี่ยนเหว่ยว่าพลางนั่งลงบนเก้าอี้ที่อยู่บนแท่นเบื้องหน้าลานฝึกของสำนัก ยามนี้มีเหล่าอาวุโสรองเจ้าสำนักและครูฝึกล้อมรอบทำให้หยางเยี่ยนเหว่ยดูน่าเกรงขามอย่างมากต่างจากสภาพสามีที่โดนภรรยาต่อว่าเอาเมื่อวานอย่างกับคนละคน
“หลานของข้าหนิงหลง แต่เดิมข้ารับเขาเข้าสำนักทันทีเพราะความสามารถของเขามากพอจะเข้าสำนักอยู่แล้ว เป็นข้าเองที่คิดน้อยไป”หยางเยี่ยนเหว่ยว่าพลางถอนหายใจออกมาช้าๆ เพราะศิษย์คนอื่นไม่ทราบความเป็นมาเลยเอาไปคุยกันต่างๆนาๆเสียแล้ว เพราะงั้นวันนี้หยางเซียงเซียนเลยสั่งให้จัดการทดสอบขึ้นมาเพื่อทำให้เหล่าศิษย์ได้ทราบว่าการเข้าสำนักของหนิงหลงไม่ใช่เรื่องเส้นสายแต่อย่างไร
“วันนี้ข้าเลยจัดการทดสอบขึ้นมาต่อหน้าทุกคนในสำนักเพื่อยืนยันว่าหลานหนิงหลงนั้นมีความสามารถเพียงพอจะเข้าสำนักของเราได้”เสียงของหยางเยี่ยนเหว่ยทั้งหนักแน่นและทรงพลังทำให้เหล่าศิษย์ต่างพากันเกร็งไปทั้งตัว ความจริงหยางเยี่ยนเหว่ยจะออกมาบอกว่าหนิงหลงเป็นหลานของตนและจะรับเขาเข้าสำนักก็ได้ แต่หากทำแบบนั้นต่อไปศิษย์ของสำนักก็คงไม่สามารถพูดกับคนอื่นได้อย่างเต็มปากเต็มคำได้อีกว่าสำนักเพลิงบัญญัติไม่ต้อนรับศิษย์ด้วยวิธีการฝากเข้าเช่นนี้
“เฮ้อ….หรือจะประกาศเรื่องหนิงหลงเป็นช่างตีเหล็กออกไปด้วยดี แบบนั้นอาจจะช่วยให้ทุกคนในสำนักยอมรับได้ แต่ถ้าทำแบบนั้นก็อาจจะทำให้หนิงหลงโดนรบกวนได้”หยางเยี่ยนเหว่ยประกาศจบก็แอบพูดคนเดียวออกมาเสียอย่างนั้นเล่นเอาภรรยาอย่างหยางเซียงเซียนต้องยื่นนิ้วเข้ามาหยิกเขาทีหนึ่ง
“เรื่องหลานหนิงหลงเป็นช่างตีเหล็กที่สามารถสร้างอาวุธวิเศษได้เป็นความลับไม่ใช่หรือ”เซียงเซียนมองไปรอบๆก่อนจะถอนหายใจออกมา ช่างตีเหล็กที่สามารถสร้างอาวุธวิเศษได้เป็นบุคคลที่มีค่าพอๆกับผู้ฝึกฝนพลังวิญญาณชั้นสูงเลย แม้ปกติจะไม่ปกปิดฐานะกัน แต่เพราะหนิงหลงยังเด็กอาวุโสหมิงซานก็เลยกังวลว่าหนิงหลงจะโดนคนไม่หวังดีเข้าหาก็เลยไม่ให้หยางเยี่ยนเหว่ยบอกเรื่องที่หนิงหลงสามารถสร้างอาวุธวิเศษได้ออกไป
“อย่างน้อยก็แค่บอกว่าเป็นช่างตีเหล็กธรรมดาก็ได้ไง เจ้าเล่นให้หลี่ซานจงมาทดสอบเองแบบนี้หลานหนิงหลงจะได้แสดงความสามารถหรือ”หยางเยี่ยนเหว่ยกุมหัวตัวเองด้วยท่าทีหนักใจ อย่างน้อยถ้าบอกว่าหนิงหลงเป็นช่างตีเหล็กที่กำลังฝึกฝนเพื่อจะสร้างอาวุธวิเศษออกไปก็คงช่วยได้ไม่มากก็น้อย
“แบบนั้นไม่ได้ ถ้าคนอื่นรู้เข้าคงหวังจะให้หลานหนิงหลงคอยเป็นโรงงานผลิตอาวุธให้สำนักเราแน่ๆ ท่านพี่ไม่คิดจะรั้งหลานหนิงหลงเอาไว้อยู่แล้วไม่ใช่หรือ”เซียงเซียนยังคงส่ายหน้ากับเรื่องนี้อยู่ดี สำนักใหญ่เช่นสำนักเพลิงบัญญัตินั้นย่อมสร้างยอดฝีมือขึ้นมามากมาย สำนักเช่นนี้ย่อมมีช่างตีเหล็กประจำของสำนักอยู่แล้ว แต่หากเทียบช่างตีเหล็กที่ทำงานให้กับสำนักเพลิงบัญญัติกับท่านอาวุโสหมิงซานละก็ ออกจะเป็นการเสียมารยาทกับท่านอาวุโสเสียด้วยซ้ำ
“ก็จริง เด็กคนนั้นยังต้องเติบใหญ่มากกว่านี้ ข้าไม่อยากให้เขาทำงานในสำนักเท่านั้นหรอก”หยางเยี่ยนเหว่ยพยักหน้าช้าๆด้วยท่าทียอมรับ เช่นนั้นเรื่องที่หนิงหลงเป็นช่างตีเหล็กก็ต้องเก็บเอาไว้ก่อนไม่สมควรบอกออกไป แต่แบบนั้นก็ต้องหวังพึ่งพาฝีมือของหนิงหลงล้วนๆเท่านั้น
“เช่นนั้น เชิญน้องหนิงหลงออกมาเถอะ”หลี่ซานจง ศิษย์อันดับ 1 ของสำนักเพลิงบัญญัติเดินออกมากลางลานฝึกหลังจากเหล่าศิษย์คนอื่นๆพากันแยกย้ายออกไปยืนด้านข้างกันหมดแล้ว เพราะเรื่องของหนิงหลงถูกพูดกันจนทั่วสำนักแล้ว พวกลูกศิษย์ก็เลยดูตื่นเต้นกันมากที่จะได้เห็นการทดสอบ
“ขอรับ….”หนิงหลงเดินออกไปด้านหน้าก่อนจะประสานมือให้หลี่ซานจงอย่างอ่อนน้อม เพราะเพิ่งเข้ามาในสำนักหนิงหลงเลยยังไม่มีชุดเครื่องแบบของสำนัก ตอนนี้เลยดูเหมือนคนนอกเข้ามารับการทดสอบทั่วไปเลย เพียงแต่การทดสอบครั้งนี้หลี่ซานจงเป็นผู้ลงมือทดสอบเองซึ่งเหล่าศิษย์ต่างก็รู้กันว่าหลี่ซานจงเป็นคนเข้มงวดมาก ผู้ที่มาขอทดสอบแล้วบังเอิญเจอกับหลี่ซานจงแล้วทดสอบไม่ผ่านมีเยอะกว่าศิษย์ระดับสูงคนอื่นๆมาก
“การทดสอบหลอมโลหะนิลเยือกข้าได้เห็นไปแล้ว วันนี้เลยจะทดสอบเพียงวิชาต่อสู้ของเจ้าเท่านั้น น้องหนิงหลงเจ้าจะใช้อาวุธก็ได้นะ”หลี่ซานจงว่าพลางตั้งท่าฝ่ามือออกมา หลี่ซานจงเป็นศิษย์อันดับ 1 ย่อมฝีมือไม่ธรรมดา นอกจากจะมีพลังระดับ หยก ขั้นที่ 3 แล้วตัวหลี่ซานจงยังมีความสามารถควบคุมเพลิงระดับ 6 รวมถึงฝึกวิชาฝ่ามือโลกันตร์หนึ่งในวิชาเอกของสำนักเพลิงบัญญัติจนชำนาญอีกต่างหาก ไม่ใช่เพียงในหมู่ศิษย์ว่ากันว่าหลี่ซานจงมีฝีมือพอจะเทียบชั้นเหล่าครูฝึกเสียด้วยซ้ำ
“รบกวนด้วยขอรับศิษย์พี่”หนิงหลงได้ยินก็นำค้อนออกมาจากกำไลมิติทันที แต่เพราะการทำแบบนั้นกลับทำให้เหล่าศิษย์รอบๆแตกตื่นเป็นอย่างมาก กำไลมิติเป็นของมีค่าไม่ได้หากันได้ง่ายๆยิ่งตอกย้ำเรื่องที่หนิงหลงใช้เส้นสายเข้าสำนักเข้าไปใหญ่ แต่ที่น่าสนใจที่สุดกลับเป็นอาวุธของหนิงหลง มันเป็นค้อนขนาดใหญ่ที่ดูยังไงหนิงหลงก็ไม่น่าจะถือไหว น้ำหนักของมันหากดูจากภายนอกแล้วคงหนักเกินร้อยกิโลเป็นแน่ ต้องมีกำลังระดับไหนกันถึงสามารถยกค้อนอันนั้นได้สบาย
วูบ…
หนิงหลงผ่อนคลายร่างกายตนเองพลางมองไปทางหลี่ซานจงอย่างใจเย็น แม้ก่อนหน้านี้หนิงหลงจะได้เรียนวิชากระบี่มาจากหลินฟาน แต่เพราะหนิงหลงรู้สึกว่าเขาถือค้อนแล้วรู้สึกคุ้นมือมากกว่าเขาก็เลยพยายามผสมกระบวนท่ากระบี่เข้ากับค้อนของเขาแทน แม้จะทำได้ไม่ดีนักแต่หนิงหลงก็สร้างกระบวนท่าค้อนของตัวเองขึ้นมาจากเคล็ดกระบี่ของหลินฟานและท่วงท่าการทุบค้อนของอาจารย์ แม้จะไม่ทราบว่ามันถือว่าดีเยี่ยมหรือไม่แต่ก็ช่วยให้หนิงหลงเอาชนะสัตว์อสูรกับพวกโจรป่าที่โผล่มาระหว่างเดินทางได้
“…………..”แม้เรื่องกำไลมิติกับค้อนจะน่าประหลาดใจ แต่หลี่ซานจงที่ยืนอยู่ใกล้ๆกับหนิงหลงกลับไม่ได้ประหลาดใจเรื่องนั้นเท่าไหร่ เพียงแต่สิ่งที่หลี่ซานจงประหลาดใจกลับเป็นระดับพลังที่หนิงหลงแผ่ออกมามากกว่า ตัวหลี่ซานจงกว่าจะขึ้นมาเป็นระดับหยกขั้นที่ 3 ได้นั้นก็อายุ 26 ปีเข้าไปแล้ว แต่หนิงหลงผู้นี้อายุน่าจะไม่เกิน 18 ปีเหตุใดถึงมีพลังวิญญาณไหลออกมามากมายเช่นนี้ได้
“ระดับทอง…ขั้นสี่ ไม่สิ ห้ามั้ง”หลี่ซานจงกลืนน้ำลายลงคอก่อนจะตั้งท่าให้รัดกุมกว่าเดิม ก่อนจะขึ้นทดสอบหลี่ซานจงได้รับคำขอจากอาจารย์หญิงให้ช่วยออมมือให้หนิงหลงสักหน่อย ปล่อยให้หนิงหลงได้แสดงความสามารถก่อนค่อยจบการทดสอบก็ได้ แต่ยามนี้หลี่ซานจงเริ่มกังวลแล้วว่าตนจะออมมือให้หนิงหลงผู้นี้ได้จริงๆงั้นหรือ
พรึบ…..
อยู่ๆที่ฝ่ามือของหลี่ซานจงก็ปรากฏเปลวเพลิงลุกโชนขึ้นมาพร้อมๆกับค้อนของหนิงหลงที่ปรากฏเปลวเพลิงออกมาเช่นกัน พวกเขาต่างเป็นผู้ฝึกฝนพลังธาตุไฟการใช้พลังธาตุเข้าช่วยในการต่อสู้นั้นเป็นเรื่องปกติ แต่เพลิงของหนิงหลงกลับดูจะร้อนแรงกว่าของหลี่ซานจงอยู่นิดหน่อยทำเอาหลี่ซานจงเหงื่อตก ถึงจะได้ยินจากท่านอาวุโสมาแล้วว่าหนิงหลงมีวิชาควบคุมเพลิงระดับเดียวกับตน แต่มาดูตอนนี้ก็เข้าใจแล้วว่าหากเป็นเรื่องควบคุมเพลิงหนิงหลงน่าจะเหนือกว่าตนเสียอีก มิน่าเล่าเขาถึงหลอมโลหะนิลเยือกจนบิดงอได้อย่างง่ายดาย แล้วก็เป็นอย่างที่ท่านเจ้าสำนักบอกจริงๆด้วย คนเช่นนี้ไม่เห็นจะต้องทำการทดสอบอะไรเลย
วูบ….
เปรี้ยง!!!
เพราะเป็นการทดสอบ หลี่ซานจงเลยปล่อยให้หนิงหลงเป็นฝ่ายโจมตีเพื่อแสดงทักษะที่มี แต่พริบตาที่หนิงหลงหวดค้อนเข้ามาหลี่ซานจงก็สัมผัสได้ถึงความรู้สึกหนักอึ้งที่แผ่ไปทั่วร่างเลยต้องยกฝ่ามือแสดงกระบวนท่าออกไป
“อึก…….”ฝ่ามือโลกันตร์กระบวนท่าที่หนึ่งฝ่ามือเพลิงสะท้านเป็นกระบวนท่าที่เรียบง่ายแต่รุนแรง แต่ทว่าหลี่ซานจงที่เป็นฝ่ายพลังวิญญาณเหนือกว่ากลับรู้สึกปวดแขนไปหมด หรือเพราะค้อนของหนิงหลงไม่ใช่ค้อนธรรมดา
เปรี้ยง!!
ค้อนของหนิงหลงหนักจนน่าตกใจ แต่ที่ประหลาดคือหนิงหลงเหวี่ยงมันอย่างกับเป็นกิ่งไม้ทั่วไป แต่ละท่าที่เขาหวดออกมาสร้างแรกกระแทกและแรงระเบิดจากพลังธาตุที่แฝงอยู่ภายในจนเสียงปะทะแต่ละครั้งดังกระหึ่มไปทั้งลานฝึกสร้างความแตกตื่นใจให้กับเหล่าศิษย์รวมถึงตัวหยางเยี่ยนเหว่ยเองด้วย วิชาค้อนที่หนิงหลงแสดงออกมาแม้จะหยาบไปหน่อย แต่ก็มีแบบแผนและทักษะให้เห็น ไม่ใช่วิชาค้อนที่อาวุโสหมิงซานสอนแน่ๆ และเหมือนจะดัดแปลงมาจากวิชาอื่นกระมัง แต่มีเรื่องหนึ่งที่หยางเยี่ยนเหว่ยมั่นใจได้ การทดสอบครั้งนี้ไม่ต้องเอาเรื่องช่างตีเหล็กมาพูดอีกแล้ว
กึก….
ระหว่างใช้ฝ่ามือต้านค้อนของหนิงหลง อยู่ๆเท้าของหลี่ซานจงก็เริ่มถอยไปทีละก้าวเสียอย่างนั้น แม้ระดับพลังวิญญาณจะมากกว่า แต่หนิงหลงมีกำลังกายเหนือกว่าลิบลับประกอบกับค้อนที่หนิงหลงใช้ยังหนักมากทำให้กำลังทำลายเพิ่มขึ้นจนหลี่ซานจงเริ่มรับมือไม่ไหว โชคยังดีที่ทักษะค้อนของหนิงหลงยังหยาบอยู่มาก หลี่ซานจงเลยยังมองกระบวนท่าออกแล้วสวนกลับไปได้ง่ายขึ้น ไม่อย่างนั้นวันนี้เขาได้เสียหน้าแล้วแน่ๆ
วูบ….
อยู่ๆหนิงหลงก็เพิ่มพลังวิญญาณของตนขึ้นทำเอาหลี่ซานจงใจหายวาบ หรือว่าหนิงหลงคิดจะใช้กระบวนท่าอื่นออกมา…..
ตูม!!
พริบตาเดียวฝ่ามือของหลี่ซานจงก็ระเบิดพลังเพลิงออกมามหาศาลผลักร่างของหนิงหลงถอยออกไปจนสุดขอบสนามเล่นเอาเหล่าศิษย์พากันตกใจกันถ้วนหน้า ฝ่ามือเมื่อครู่ของหลี่ซานจงเป็นฝ่ามือที่รุนแรงที่สุดในชุดฝ่ามือโลกันตร์ ปกติแล้วไม่ควรใช้ออกมาตอนทดสอบรับศิษย์ใหม่เพราะมันรุนแรงเกินไป และเป็นวิชาที่กินพลังวิญญาณอย่างมากอีกด้วย หากไม่จวนตัวจริงๆผู้ฝึกวิชาฝ่ามือโลกันตร์จะไม่ค่อยใช้มันออกมาหรอก เว้นแต่ว่าเมื่อครู่หนิงหลงทำให้หลี่ซานจงรู้สึกกดดันจนต้องใช้มันออกมาเพื่อป้องกันตัว….
“น้องหนิงหลง เจ้าทดสอบผ่านแล้ว”หลี่ซานจงมองหนิงหลงที่ยืนอยู่เบื้องหน้าตนเองก่อนจะหัวเราะออกมาเบาๆ หนิงหลงผู้นี้รับฝ่ามือไม้ตายของตนเข้าไปเพียงแค่กระเด็นเท่านั้นไม่แม้แต่จะล้มด้วยซ้ำ แถมพอรับฝ่ามือนี้เข้าไปนอกจากเพลิงจะทำอันตรายอะไรหนิงหลงไม่ได้เลยแล้วเขายังทำท่าจะบุกเข้ามาต่ออีกต่างหาก รู้อย่างนี้ไม่น่ารับปากอาจารย์หญิงเสียก็คงดี น่าจะจับเจ้าหว่านจือมาเป็นผู้ทดสอบแทนให้เจ้านั่นโดนค้อนทุบเสียให้แขนหักไปเลย
คอมเม้นต์