หลอมศาสตราสะท้านยุทธจักร – ตอนที่ 22 รักษาระดับ
ตอนที่ 22
รักษาระดับ
“ท่านเจ้าสำนัก เดี๋ยวก่อนสิขอรับ”ทันทีที่หยางเยี่ยนเหว่ยเข้าไปในคลังเก็บของของสำนัก เสียงโอดครวญก็ดังออกมาแทบจะทันทีเพราะสิ่งที่หยางเยี่ยนเหว่ยเดินเข้าไปหยิบออกมาก็คือทวนแทงตะวันทั้งสองท่อนที่ได้มาจากเจ้าสำนักเทพอัคคีนั่นเอง
“ท่านเจ้าสำนักใจเย็นๆก่อนสิขอรับ ท่านรองเจ้าสำนักบอกว่ารู้จักช่างตีเหล็กที่สามารถซ่อมทวนแทงตะวันเล่มนี้ขึ้นมาใหม่ได้นะขอรับ ถ้าเอามันไปซ่อมละก็สำนักเราก็จะมีอาวุธวิเศษระดับตำนานเพิ่มอีกชิ้นเลยนะขอรับ”เสมียนบัญชีประจำคลังของสำนักเพลิงบัญญัติพยายามห้ามหยางเยี่ยนเหว่ยอย่างสุดความสามารถ เพราะหยางเยี่ยนเหว่ยบอกว่าจะเอาทวนแทงตะวันไปใช้ทำอย่างอื่นเสียได้
“ข้าจะคุยกับรองเจ้าสำนักเอง ยังไงข้าก็เป็นเจ้าสำนักนะ”หยางเยี่ยนเหว่ยไม่ฟังที่เสมียนบัญชีพูดเลยแม้แต่น้อย ตรงกันข้ามหยางเยี่ยนเหว่ยยังเร่งเดินออกมาจากคลังของสำนักอีกต่างหาก
“ทะ ท่านเจ้าสำนัก…..”เสมียนที่พยายามหาเหตุผลมาอ้างตามเจ้าสำนักมาถึงตรงที่หนิงหลงยืนอยู่ แต่ไม่ว่าจะใช้เหตุผลอะไรเจ้าสำนักก็ไม่มีท่าทีจะยอมเลยแม้แต่น้อย
“หลานหนิงหลง รับไปสิ”หยางเยี่ยนเหว่ยพูดออกมาด้วยใบหน้ายิ้มแย้มก่อนจะนำทวนแทงตะวันมอบให้กับหนิงหลงต่อหน้าเสมียนโดยไม่สนใจเสียงทักท้วงของเขาเลย
“ขอบคุณขอรับท่านลุง เช่นนั้นข้าจะขอยืมห้องฝึกของท่านด้วยนะขอรับเพราะข้าต้องหลอมทวนเล่มนี้เสียก่อน”หนิงหลงตอบพลางมองทวนแทงตะวันอย่างพินิจพิจารณา แต่ฝ่ายเสมียนที่ได้ยินว่าหนิงหลงจะหลอมทวนเล่มนี้ทิ้งก็ถึงกับเข่าอ่อนราวกับจะเป็นลมเสียให้ได้ ถึงท่านเจ้าสำนักจะคุยกับรองเจ้าสำนักให้ แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าเขาจะไม่โดนต่อว่าเสียหน่อยที่ปล่อยให้ท่านเจ้าสำนักเข้ามาหยิบของในคลังตามใจ แถมท่านรองเจ้าสำนักยังชอบทวนเล่มนี้มากเสียด้วย ท่านยังบอกว่าหากซ่อมสำเร็จจะต้องขอมาเป็นอาวุธของตนเองให้ได้
.
.
.
พรึบ…….
หลังจากได้ทวนแทงตะวันมาตามที่ต้องการ หนิงหลงก็ตรงมายังห้องฝึกของเจ้าสำนักที่มีพื้นที่กว้างขวางพอจะให้หนิงหลงสามารถทำงานได้อย่างเหลือเฟือ เพียงแต่ตอนนี้ในห้องฝึกกลับมีหยางเยี่ยนเหว่ยและหยางเซียงเซียนยืนดูอยู่ด้วย
“ถึงกับไม่ต้องใช้เตาหลอมแล้วงั้นเหรอ”หยางเยี่ยนเหว่ยมองการทำงานของหนิงหลงอยู่ห่างๆเพราะไม่อยากเข้าไปรบกวนสมาธิ ตัวหยางเยี่ยนเหว่ยและหยางเซียงเซียนรู้จักกับท่านอาวุโสหมิงซานอยู่แล้ว เลยเห็นการทำงานของช่างตีเหล็กมาบ้าง ว่ากันว่าหากเป็นช่างตีเหล็กที่มีฝีมือมากพอ ขอเพียงมีทั่งและค้อนก็สามารถสร้างได้ทุกสิ่ง
“ท่านพี่ หลานหนิงหลงจะสร้างอะไรงั้นหรือ”หยางเซียงเซียนที่เข้ามาร่วมวงระหว่างทางถามออกไปด้วยท่าทีสงสัย สามีนางบอกแค่ว่าหนิงหลงจะสร้างอะไรบางอย่างให้กับอี้เฟยเท่านั้นเลยไม่รู้รายละเอียดเท่าไหร่ แต่เห็นหลานหนิงหลงเอาทวนแทงตะวันที่เป็นอาวุธระดับตำนานออกมาหลอมด้วยไฟของตน นางจะไม่ถามก็คงไม่ได้แล้ว
“ข้าเองก็ไม่รู้เหมือนกัน”หยางเยี่ยนเหว่ยตอบพลางหัวเราะออกมาเบาๆ ความรู้เรื่องวิชาตีเหล็กของเขาตื้นเขินมาก เอาไปเทียบกับหนิงหลงตอนนี้คงเหมือนเด็กทารกกับผู้เชี่ยวชาญ แถมตัวเขายังใจร้อนเอาทวนให้หนิงหลงโดยไม่ถามอะไรทั้งสิ้นอีกต่างหากเลยไม่รู้ข้อมูลอะไรเลย
“เช่นนั้นก็ได้แต่รอดูสินะเจ้าคะ”หยางเซียงเซียนพยักหน้าก่อนจะมองไปทางหนิงหลงด้วยท่าทีเชื่อมั่น หนิงหลงเป็นศิษย์ของอาวุโสหมิงซาน เป็นช่างตีเหล็กที่สร้างดาบเพลิงบูรพาให้กับหยางเยี่ยนเหว่ย ในโลกนี้หยางเซียงเซียนไม่เชื่อมือใครเรื่องอาวุธเท่าท่านอาวุโสอีกแล้ว ศิษย์ที่ได้รับการสืบทอดโดยตรงหยางหนิงหลงมีหรือจะธรรมดาได้
พรึบ…..
หนิงหลงเร่งความร้อนของตนให้มากขึ้นเพื่อหลอมทวนแทงตะวันให้ได้ แต่ทวนแทงตะวันสร้างมาจากแร่ที่สามารถดูดซับพลังธาตุไฟได้เป็นอย่างดี ทำให้การจะหลอมมันนั้นเป็นเรื่องยาก ยามนี้แม้หนิงหลงจะส่งพลังเข้าไปหลอมทวนแทงตะวันอยู่พักใหญ่ก็ยังไม่มีทีท่าว่าจะหลอมสำเร็จเลย
“แปลกจริงๆ….พลังไฟของหลานหนิงหลงทำไมถึงได้น้อยนัก”หยางเยี่ยนเหว่ยขมวดคิ้วพลางมองไปทางหนิงหลงด้วยท่าทีประหลาดใจ หนิงหลงเป็นหลานชายของหยางเยี่ยนเหว่ย ครอบครัวฝั่งมารดาเป็นตระกูลผู้ใช้พลังธาตุไฟที่เก่งกาจมากตระกูลหนึ่ง ตามหลักแล้วหนิงหลงควรจะใช้พลังธาตุไฟได้อย่างยอดเยี่ยม ไม่สิ ตอนนี้หนิงหลงก็ใช้พลังไฟได้อย่างยอดเยี่ยมแล้วแต่มันควรจะเหนือไปกว่านั้น
“……….”หยางเซียงเซียนเองก็ไม่เข้าใจเหมือนกัน หนิงหลงมีทักษะควบคุมเพลิงที่ยอดเยี่ยมมาก ระดับพลังของเขาเองก็ไม่น้อยปกติควรสร้างไฟที่ร้อนกว่านี้ออกมาได้ไม่ใช่หรือ แต่นี่หนิงหลงเค้นพลังออกมาอยู่นานสองนานก็ยังหลอมทวนแทงตะวันไม่ได้
“หรือว่าหลานหนิงหลงจะ….”หยางเยี่ยนเหว่ยคิดอยู่ครู่ใหญ่ก็เหมือนคิดอะไรออก แค่พลังไม่พอจนสร้างไฟที่ร้อนมากๆออกมาไม่ได้อาวุโสหมิงซานไม่ถึงกับส่งหนิงหลงมาหาตนหรอก เพราะมีเรื่องกังวลเกี่ยวกับบุตรสาวและศัตรูบุกสำนักหยางเยี่ยนเหว่ยก็เลยยังไม่ทันได้ลองตรวจสอบพลังของหนิงหลงเลย เห็นหนิงหลงสู้ได้ยอดเยี่ยมแถมใช้พลังไฟต่อสู้กับศัตรูของอีกสำนักได้ก็เลยลืมไป
แต่พอมาคิดดูดีๆแล้ว ทุกการต่อสู้แม้หนิงหลงจะใช้ไฟเข้าต่อสู้ แต่ไฟของหนิงหลงไม่เคยเหนือกว่าคู่ต่อสู้เลย ที่ไฟของคู่ต่อสู้ทำอะไรหนิงหลงไม่ได้ส่วนใหญ่เป็นเพราะทักษะควบคุมของหนิงหลงนั้นยอดเยี่ยมมาก ส่วนสาเหตุที่ชนะก็มาจากกำลังมหาศาลของร่างกายเสียด้วย
“หลานหนิงหลง ไม่ใช่ผู้ใช้วิชาธาตุไฟแต่กำเนิด”หยางเซียงเซียนมองอยู่ครู่หนึ่งก็เริ่มเข้าใจเช่นกัน อย่างที่บอกไปผู้ฝึกฝนพลังวิญญาณล้วนแล้วแต่มีพลังธาตุสายใดสายหนึ่งเหนือกว่าสายอื่นๆ ส่วนใหญ่แล้วจะสืบทอดทางสายเลือดหรือมาจากสภาพแวดล้อม หนิงหลงมีมารดาเป็นน้องสาวของหยางเซียงเซียน เป็นตระกูลธาตุไฟอย่างแท้จริง ส่วนที่อยู่ก็เป็นเพียงบ้านของช่างตีเหล็กเท่านั้น แต่พวกเขาก็ลืมไปว่าบิดาของหนิงหลงนั้นไม่ได้เป็นคนจากตระกูลธาตุไฟเสียด้วย เช่นนั้นแล้วบางทีหนิงหลงอาจจะไม่ได้เกิดมาพร้อมพลังธาตุไฟที่สูงกว่าปกติเช่นเดียวกับผู้เข้าสำนักธาตุไฟคนอื่นๆก็ได้
พรึบ….
ระหว่างสองสามีภรรยากำลังวิเคราะห์พลังของหนิงหลงอยู่นั้น หนิงหลงก็หลอมทวนแทงตะวันจนเริ่มอ่อนตัวได้สำเร็จพอดี ยามนี้ทวนแทงตะวันทั้งสองส่วนที่ลอยอยู่กลางท้องฟ้าเปลี่ยนเป็นสีแดงส้มเช่นเดียวกับเหล็กที่ถูกหลอมละลายชนิดอื่นๆ แม้หนิงหลงจะไม่ได้มีพลังธาตุไฟเป็นธาตุหลักของตนเอง แต่พลังของเขาตอนนี้ก็สามารถหลอมโลหะที่ใช้ทำทวนแทงตะวันได้อย่างเหลือเฟือ
หมับ….
ทันทีที่เปลวเพลิงของหนิงหลงหายไป หนิงหลงก็ยื่นมือไปจับทวนแทงตะวันด้านที่มีคมด้วยมือเปล่าก่อนจะนำมันมาวางบนทั่งตีเหล็กที่เอาออกมาจากกำไลมิติตั้งแต่แรก
เคร๊ง!! เคร๊ง!!
หนิงหลงยกมือขึ้นหวดค้อนลงไปบนทั่งจนเกิดเสียงดังไปทั่วห้อง แถมเขายังค่อยๆหมุนทวนไปตามจังหวะเหมือนกำลังพยายามตีตรงส่วนคมทวนให้บี้แบนจนเป็นทรงกระบอกเช่นเดียวกับส่วนด้าม
กึก….
ทันทีที่หนิงหลงวางค้อนลง ทวนแทงตะวันยามนี้ก็สมควรเปลี่ยนเป็นชื่อกระบองแทงตะวันแทนเสียแล้ว ยามนี้ทวนแทงตะวันมีรูปร่างเหมือนไม้พลองเรียบๆไม่มีส่วนคมให้เห็นเลยแม้แต่น้อย แถมหนิงหลงก็ยังไม่ได้ต่อทวนทั้งสองเข้าด้วยกันอีกต่างหาก แต่กลับตีตรงส่วนรอยแตกให้เขารูปและปล่อยให้มันเป็นทวนสองท่อนแบบนั้นต่อไป ส่วนที่หนิงหลงจะทำกับทวนทั้งสองเล่มนั่นก็คือ…..
วืด………….
อยู่ๆหนิงหลงก็จับทวนชิ้นหนึ่งยืดออกด้วยมือทั้งสองข้างจนเหล็กรูปทรงเหมือนพลองยืดออกจนจะกลายเป็นพลองด้ามยาวเสียแล้ว แถมหนิงหลงยังไม่หยุดแค่นั้น เขาพับทวนเข้าหากันก่อนจะยืดมันออกอีกรอบ หลังจากนั้นก็พับเข้าหากันแล้วยืดมันออกอีกรอบๆแบบนี้สลับไปหลายต่อหลายครั้งราวกับเหล็กของทวนแทงตะวันเป็นเส้นก๋วยเตี๋ยวเสียอย่างนั้น
วืด……
หนิงหลงหยิบทวนอีกชิ้นออกมายืดเช่นเดียวกัน ก่อนจะเริ่มทำซ้ำจนเส้นโลหะที่เคยเป็นทวนแทงตะวันยามนี้กลายเป็นเส้นบางๆเหมือนเส้นลวดไม่มีผิด ไม่สิมันคือเส้นลวดอย่างไม่ต้องสงสัยเลยเพียงแต่มันเส้นบางไปหน่อยเท่านั้น
“เอ๊ะถัก?”หยางเซียงเซียนเห็นหนิงหลงเปลี่ยนทวนเป็นเส้นลวดจากการยืดด้วยมือก็อึ้งมากแล้ว แต่อยู่ๆหนิงหลงก็เริ่มเอาเส้นลวดมาถักเข้าด้วยกันอย่างสวยงามก็ยิ่งอึ้งเข้าไปใหญ่ พริบตาเดียวเส้นลวดที่สร้างจากทวนแทงตะวันก็เริ่มกลายเป็นเสื้อคลุมโซ่ถักที่ดูบางเบาอย่างมากเสียอย่างนั้น แถมไม่ใช่แค่ทำออกมาเป็นเสื้อคลุมได้เท่านั้น การถักโซ่ของหนิงหลงยังละเอียดอ่อนและมีการใส่ลวดลายที่ดูสวยงามลงไปอีกต่างหาก เรื่องนั้นทำเอาเซียงเซียนอึ้งกว่าเดิมอีก
“แบบนี้นี่เอง ทวนแทงตะวันดูดซับพลังเพลิงได้ ถ้าทำเป็นเครื่องสวมใส่ให้อี้เฟยน้อยนางอาจจะไม่ทำร้ายใครเวลาควบคุมพลังไม่ได้ก็ได้”หยางเซียงเซียนเห็นชิ้นงานที่เกือบจะเสร็จแล้วก็กะพริบตาถี่เหมือนเพิ่งจะนึกได้ ตอนต่อสู้กับเจ้าสำนักเทพอัคคี นางก็โดนดูดซับพลังไฟไปไม่น้อย ระดับเพลิงที่นางปล่อยออกไปเพื่อปะทะกับเจ้าสำนักเทพอัคคีนั้นเหนือกว่าพลังที่อี้เฟยควบคุมไม่ได้หลายเท่า เช่นนั้นเสื้อคลุมที่หนิงหลงสร้างมาจากทวนแทงตะวันก็น่าจะรับมือกับพลังของอี้เฟยได้แน่ๆ
“จริงด้วย อาจจะเป็นเช่นนั้นก็ได้”หยางเยี่ยนเหว่ยมองเสื้อคลุมที่หนิงหลงกำลังสร้างด้วยท่าทีตื่นเต้น อาวุธระดับตำนานอะไรนั่นช่างมันเถอะ หากหลอมดาบเพลิงบูรพาของเขาแล้วทำให้อี้เฟยไม่ต้องทนทุกข์ได้ ตัวเขาก็ยินดีจะยกดาบเพลิงบูรพาให้หนิงหลงมันตอนนี้เลยด้วยซ้ำ
“ท่านลุง เสร็จแล้วขอรับ”หนิงหลงว่าพลางนำผ้าคลุมออกมาให้หยางเยี่ยนเหว่ยดู
“ข้าพยายามรักษาระดับของเสื้อคลุมเอาไว้แล้วขอรับ แต่เพราะน้องอี้เฟยตัวเล็กข้าเลยไม่อยากให้เสื้อคลุมมีน้ำหนักมากเกินไปก็เลยต้องลดความหนาของเสื้อคลุมลง ระดับของมันก็เลยลดลงมาเป็นระดับตำนานขั้นที่สองเองขอรับ”หนิงหลงตอบออกมาด้วยท่าทีเสียดาย แต่เดิมทวนแทงตะวันเป็นอาวุธระดับตำนานขั้นที่ 3 แต่พอเปลี่ยนสภาพเป็นผ้าคลุมแล้วกลับลดลงเหลือเพียงระดับตำนานขั้นที่ 2 เสียได้ เรื่องนี้ทำให้หนิงหลงรู้สึกผิดเป็นอย่างมาก แต่เพราะกลัวว่ามันจะหนักเกินไปสำหรับอี้เฟย หนิงหลงเลยต้องยอมทำใจ
คอมเม้นต์