หลอมศาสตราสะท้านยุทธจักร – ตอนที่ 41 ศิษย์

อ่านนิยายจีนเรื่อง หลอมศาสตราสะท้านยุทธจักร ตอนที่ 41 อ่านนิยายจีน.COM | อ่านนิยายจีนแปลไทย.

หลอมศาสตราสะท้านยุทธจักร

 

ตอนที่ 41 ศิษย์

 

“โกหก” หนิงหลงได้ยินเช่นนั้นย่อมไม่เชื่ออยู่แล้ว อาจารย์ของตนไม่ตายง่ายๆแบบนี้หรอก ท่านแข็งแกร่งมาก…แถมยังมีคนปกป้องตั้งมากมายด้วย

 

“ข้าฆ่ามันไปแล้ว ไม่มีเหตุผลอะไรที่ข้าต้องโกหก” ชายตรงหน้าหนิงหลงตอบด้วยท่าที่เฉยชาราวกับไม่ได้ใส่ใจเรื่องที่ตนสังหารช่างตีเหล็กในตํานานอย่าง หมิงซาน ลงไปแล้วเลย

 

“ไม่จริง ข้า…”แม้จะโดนพูดใส่เป็นครั้งนี้สองหนิงหลงก็ยังไม่อยากเชื่อหูตัวเองอยู่ดี อาจารย์เนี่ยนะ….

 

“งั้น…” ชายร่างใหญ่ตรงหน้าเห็นหนิงหลงไม่ยอมเชื่อก็เก็บค้อนสดับทศทิศลงไปในกําไลมิติก่อนจะใช้มือข้างนั้นจับไปที่คอของหนิงหลงอย่างรวดเร็วก่อนที่จะ

 

โครม!!!

 

ร่างของหนิงหลงโดนเหวี่ยงกระแทกเข้ากับกําแพงบ้านทะลุเข้ามาในตัวบ้านอย่างรุนแรงท่ามกลางทะเลเพลิง แต่ความตกใจที่ร่างโดนเหวี่ยงหรือความเจ็บปวดที่ร่างกระแทกกําแพงกลับไม่ทําให้หนิงหลงรู้สึกตัวเลยสักนิดเมื่อเห็นภาพที่อยู่ตรงหน้า ภายในตัวบ้านท่ามกลางกองเพลิงร่างของอาจารย์นอนอยู่บนพื้นท่ามกลางกองเลือดที่ไหลไปทั่ว ร่างของอาจารย์นอนแน่นิ่งไม่ขยับเขยื้อนแถมสีผิวยังซีดเผือดอีกต่างหาก 

 

“ไม่จริง ทําไม…” หนิงหลงเห็นภาพตรงหน้ากับตาก็จะไม่เชื่อก็คงไม่ได้แล้ว อาจารย์ที่เลี้ยงดูตนเองมาราวกับเป็นพ่อแท้ๆกําลังนอนแน่นิ่งอยู่กับพื้น ทั้งๆที่ระหว่างทางกลับบ้านกําลังคิดอยู่แท้ๆว่าจะทําอะไรให้ท่านคืนนี้ดี ทั้งๆที่คิดว่าจะทําให้ท่านเห็นแท้ๆว่าตนเองพัฒนาไปขนาดไหนแล้ว

 

“มัน…สร้างอาวุธไม่ได้แล้ว ก็เลยฆ่าทิ้ง” ชายร่างใหญ่ที่เป็นคนลงมือสังหารอาวุโสหมิงซานเดินตามเข้ามาในตัวบ้านด้วยท่าที่เฉยชาราวกับกําลังบอกเล่าเรื่องราวปกติเสียอย่างนั้น เหมือนกับที่บอกกับหลินฟานไป อาวุโสหมิงซานปิดบังเรื่องที่ตนเองไม่สามารถสร้างอาวุธวิเศษระดับสูงได้อีกแล้วเอาไว้ เพราะหากบอกออกไปตนเองจะเป็นอันตราย เช่นนั้นแล้วอันตรายที่อาวุโสหมิงซานเคยบอกเอาไว้หรือว่าจะเป็นเจ้าหมอนี่งั้นหรือ เพราะสร้างอาวุธไม่ได้แล้วก็เลยฆ่าทิ้ง เหตุผลบ้าบออะไรของมันกัน

 

“ตาย” หนิงหลงได้เห็นศพของอาจารย์ก็เรียบเรียงได้เสียทีว่าผู้ที่ยืนอยู่ตรงทางเข้าบ้านนั่นคือผู้ที่ลงมือสังหารอาจารย์ของตนนั่นเอง พริบตานั้นความรู้สึกโกรธแค้นก็หลั่งไหลออกมาจากภายในร่างทําเอาพลังวิญญาณของหนิงหลงพลุ่งพล่านออกมาอย่างบ้าคลั่ง ยามนี้หนิงหลงคิดได้เพียงอย่างเดียวว่าต้องฆ่าไอ้สารเลวนี้ให้ได้

 

วูบ…

 

หนิงหลงเรียกมีดเล่มหนึ่งออกมาจากกําไลมิติก่อนจะบีบอัดพลังธาตุลงไปในมีดเล่มนั้นจนกลายเป็นสีแดงเข้ม วิชาที่หนิงหลงได้เห็นมาจากในสํานักเพลิงบัญญัติมีมากมาย และนี่ก็เป็นวิชาหนึ่งที่รุนแรงที่สุดเท่าที่หนิงหลงได้พบเจอ

 

เปรี้ยง!!!

 

วิชาอัสนี้แดงของราชวงศ์เวยสําแดงความเร็วราวสายฟ้าฟาดพุ่งเข้าใส่ร่างของชายแปลกหน้าเข้าอย่างจัง แม้จะไม่ทราบเคล็ดวิชาแต่หนิงหลงก็เรียนรู้วิชานี้มาได้หลายส่วน ประกอบกับเพลิงอสูรและกําลังมหาศาลของหนิงหลงทําให้การปาครั้งนี้รุนแรงกว่าตอนที่เวยหยุนจูแสดงให้เห็นเสียอีก แถมมีดที่หนิงหลงใช้ปาออกไปยังเป็นมีดวิเศษระดับชั้นเลิศที่หนิงหลงตีขึ้นเองอีกด้วย

 

“อัสนีแดง…” ชายร่างใหญ่ผู้สังหารอาจารย์ของหนิงหลงโดนวิชาอัสนีแดงเข้าอย่างจังแต่กลับยืนเฉยราวกับไม่รู้สึกอะไรน่าเสียดายแม้จะปาได้รุนแรงกว่าเวยหยุนจูแต่ทั้งหนิงหลงทั้งเวยหยุนจูก็เป็นเพียงเด็กรุ่นใหม่ แม้จะโดดเด่นแต่คู่ต่อสู้ตรงหน้าหนิงหลงยามนี้ไม่ใช่คนธรรมดาที่จะเอาชนะได้ ด้วยพลังเท่านี้ แม้จะโดนอัสนีแดงปาอัดเข้ากลางอก แต่ชายร่างใหญ่ตรงหน้ากลับไม่ได้รับบาดเจ็บเลยแม้แต่น้อย 

 

“… ” หนิงหลงมองรอยขาดของเสื้ออีกฝ่ายด้วยท่าทีตกใจ ภายใต้เสื้อของชายคนนั้นปรากฏเกราะอ่อนสีดําสนิทให้เห็นจากรอยขาดที่หนิงหลงสร้างเกราะอ่อนนั่นเป็นเกราะอ่อนระดับราชันขั้นที่ 1 เลยทีเดียว

 

เปรี้ยง!!

 

แต่…เกราะระดับราชันแล้วยังไงล่ะ อีกฝ่ายเป็นคนที่ถือค้อนสดับทศทิศด้วยมือข้างเดียว หนิงหลงทราบดีอยู่แล้วว่ากําลังมันต่างกัน แถมระดับพลังวิญญาณของอีกฝ่ายยังสูงจนหนิงหลงเทียบไม่ติดอีกด้วย ตอนนี้หนิงหลงเพียงใช้ค้อนของตนพุ่งเข้าไปโจมตีด้วยความเดือดดาลเท่านั้น

 

“มีดนี่ไม่ใช่ฝีมือของหมิงซานนี่นา”ชายร่างใหญ่มองค้อนของหนิงหลงครู่หนึ่งก่อนจะใช้มือข้างเดียวรับค้อนของหนิงหลงโดยไม่สะทกสะท้านแม้แต่น้อย ตรงกันข้ามมันกลับหยิบเอามีดที่ปาใส่ตนเมื่อครู่ขึ้นมามองด้วยท่าทีสนใจอีกต่างหาก

 

“จริงสิ ก่อนหน้านี้เจ้าเรียกหมิงซานว่าอาจารย์นี่นา เจ้าเป็นศิษย์ของมันงั้นสินะ” ชายร่างใหญ่เลิกคิ้วด้วยท่าที่สนใจก่อนจะมองหนิงหลงสลับกับมีดอยู่ครู่หนึ่ง แต่ท่าที่สนใจของมันกลับทําให้หนิงหลงโมโหมากกว่าเดิมเสียอีก

 

วูบ…

 

หนิงหลงปล่อยเปลวเพลิงอสูรออกมาจากร่างก่อนจะควบคุมมันให้ปกคลุมร่างของตนเอง วิชาอาภรณ์ดอกเหมยของหยางเซียงเซียนเป็นวิชาธาตุไฟที่สร้างความร้อนมหาศาลรอบตัว แม้แต่ไฟที่กําลังเผาไหม้บ้านของหนิงหลงอยู่ก็ยังโดนดูดเข้าไปในรวมกับอาภรณ์ดอกเหมยของหนิงหลงเสียด้วยซ้ำ

 

เปรี้ยง!!

 

หนิงหลงปล่อยค้อนที่โดนจับเอาไว้แล้วเปลี่ยนท่วงท่าเข้าไปซัดฝามือเพลิงโลกันตร์ใส่ร่างของชายร่างใหญ่เข้าอย่างจัง วิชาอาภรณ์ดอกเหมยไม่ได้เพียงสร้างเปลวเพลิงรอบๆตัวเท่านั้น แต่ยังทําให้วิชาธาตุไฟทั้งหมดรุนแรงขึ้นด้วย เพราะแบบนั้นวิชาฝ่ามือโลกันตร์ที่ลอกเลียนมาจากหลี่ซานจงเลยรุนแรงกว่าที่หลี่ซานจงใช้เสียอีก แต่ถึงอย่างนั้นชายตรงหน้าหนิงหลงก็ยังไม่ไหวติงแม้แต่น้อย แถมไฟที่หนิงหลงสร้างก็ยังเผาได้เพียงเสื้อชั้นนอกของมันเท่านั้น

 

“ไอ้หนู ตอบข้ามาว่าแกเป็นศิษย์ของหมิงซานจริงหรือไม่” ชายร่างใหญ่ถามโดยไม่สนใจฝ่ามือของหนิงหลงที่ประทับอยู่บนร่างเลย พลังคุ้มกายของชายคนนี้แข็งแกร่งมาก ต่อให้มีเกราะอ่อนระดับราชันแต่โดนแรงกระแทกขนาดนี้ก็ยังไม่ไหวติง มันยังเป็นมนุษย์อยู่หรือเปล่า…

 

“ตายซะ…” หนิงหลงนํากระบี่เล่มหนึ่งออกมาจากกําไลมิติ ก่อนจะเปลี่ยนกระบวนท่าไปใช้วิชาของหลินฟานแทน พริบตานั้นตัวกระบี่ปรากฎกระแสน้ำไหลออกมากระทบเข้ากับความร้อนของวิชาอาภรณ์ดอกเหมยจนเกิดไอน้ำฟุ้งกระจายท่ามกลางเปลวเพลิงร้อนจัด พริบตานั้นไอน้ำที่ระเหยอย่างรุนแรงก็ฟุ้งกระจายปกปิดสายตาของชายร่างใหญ่พอดีเปิดโอกาสให้หนิงหลงลงมือโจมตีใส่จุดที่ต้องการ

 

เปรี้ยง!!

 

กระบี่ตัดสายฝน หนึ่งในวิชาที่หลินฟานสอนให้หนิงหลงพุ่งวาบเข้าใส่คอของชายตรงหน้าผ่านไอน้ำที่ฟุ้งกระจายโดยรอบวิชานี้เน้นความแม่นยําราวกับกระบี่ที่สามารถเล็งตัดเม็ดฝนได้อยู่แล้ว แถมอีกฝ่ายยังไม่หลบไปไหนอีกต่างหากทําให้หนิงหลงสามารถเล็งโจมตีใส่จุดที่ไม่มีเกราะอ่อนคอยป้องกันได้อย่างงดงาม แต่ทว่า….

 

”เปล่าประโยชน์ แม้จะเป็นร่างกายส่วนที่ไม่ได้รับการป้องกันจากเกราะอ่อน แต่ผิวกายของชายคนนี้กลับแข็งแกร่งมากจนกระบี่ระดับชั้นเลิศของหนิงหลงไม่ระคายผิวเลยแม้แต่น้อย ชายคนนั้นนี้เป็นคนระดับชนชั้นใดกันแน่… 

 

“กระบีนี้เจ้าเป็นคนสร้างเหมือนกันสินะ” ชายตรงหน้ามองกระบี่ของหนิงหลงนั่งก่อนจะมองไปที่มีดและค้อนที่ตนยึดเอาไว้ ค้อนนี้เป็นของที่สร้างขึ้นมานานแล้ว แต่กระบี่และมีดสั้นกลับเพิ่งสร้างได้ไม่นาน ดูจากลักษณะแล้วผู้สร้างต้องเป็นคนเดียวกันอย่างแน่นอน และบางทีนี่อาจจะเป็นของที่เจ้าเด็กนี่สร้างขึ้นมาก็เป็นได้

 

“ไม่สิ…ต้องเป็นเจ้าที่สร้างเองอยู่แล้ว” ชายร่างใหญ่พูดพลางยิ้มบางๆออกมาด้วยท่าที่พึงพอใจ ที่แท้หมิงซานมันก็ทิ้งไข่มุกเอาไว้ก่อนตายด้วยนี่เอง

 

“เจ้า ไปกับข้า…” ชายร่างใหญ่จับไปที่คอของหนิงหลงอีกครั้งด้วยความเร็วที่หนิงหลงไม่สามารถหลบได้ทัน ต่อให้ถอยตัวออกไปแล้วแต่หนิงหลงก็ยังไม่สามารถหลุดพ้นเงื้อมมือของชายตรงหน้าได้เลย

 

“ปล่อย…” หนิงหลงนําดาบเล่มหนึ่งออกมาจากกําไลมิติก่อนจะโจมตีเข้าใส่แขนของชายตรงหน้า แต่ไม่ว่าจะโจมตีด้วยวิชาอะไรหรืออาวุธชนิดไหนก็ไม่สามารถทําร้ายชายตรงหน้าได้เลย

 

ผลัก!!

 

ชายร่างใหญ่ต่อยเข้าที่ท้องของหนิงหลงด้วยกําลังมหาศาลที่หนิงหลงไม่เคยสัมผัสมาก่อน หมัดของมันหนักและรุนแรงแรงมาก แคโดนเข้าไปครั้งเดียวก็ราวกับสติจะเลือนหายไปเลย

 

“บอกให้ปล่อย…”หนิงหลงมองไปที่ร่างของอาจารย์ครู่หนึ่งก่อนจะเรียกดาบอีกเล่มออกมาหมายจะโจมตีใส่ชายตรงหน้า แต่ยังไม่ทันได้โจมตีหมัดของมันก็พุ่งเข้ามาอัดร่างของหนิงหลงอีกรอบเสียก่อน กําลังที่เหนือกว่าจนทาบไม่ติดเช่นนี้สร้างความเจ็บปวดไปทั่วทั้งตัว แม้ร่างกายของหนิงหลงจะแข็งแกร่งกว่าคนปกติก็ยังรับแทบไม่ไหว

 

“ดื้อด้านจริงๆ” ชายร่างใหญ่เห็นหนิงหลงยังไม่ยอมหมดสติก็นยาเม็ดหนึ่งออกมาก่อนจะบังคับให้หนิงหลงกินยาเม็ดนั้นเข้าไปทันที แม้ร่างกายจะแข็งแกร่งหรือจิตใจจะมุ่งมั่นแค่ไหน แต่หนิงหลงไม่มีภูมิต้านทานเกี่ยวกับยาเลยแม้แต่น้อย ทันทีที่กลืนเข้าไปหนิงหลงก็ฝืนยืนอยู่ได้ไม่นานร่างของหนิงหลงก็โงนเงนจนทรงตัวไม่อยู่ล้มลงนอนกับพื้นอย่างง่ายดาย

 

หมับ…

 

ชายร่างใหญ่เห็นหนิงหลงล้มลงไปนอนก็นิ่วร่างของหนิงหลงขึ้นมาก่อนจะแบกร่างของหนิงหลงเดินออกไปจากตัวบ้านเพราะวิชาเพลิงของหนิงหลงเมื่อครู่ไฟก็เลยยิ่งรุนแรงกว่าเดิม อีกไม่นานบ้านหลังนี้ก็คงโดนเผาจนวอดพร้อมร่างของหมิงซานแน่ๆ แต่เรื่องนั้นชายร่างใหญ่ไม่ได้สนใจอีกแล้ว

 

“หัวหน้า เกิดอะไรขึ้นหรือขอรับ” ทันทีที่ชายคนนั้นเดินออกจากบ้านของหนิงหลงไป ชายคนหนึ่งก็กระโดดเข้ามาหาจากในเงามืดพร้อมถามชายร่างใหญ่ด้วยท่าทีสงสัย เพราะตัวชายร่างใหญ่หายไปในบ้านพักหนึ่งเลยทีเดียว

 

“เจอของดีเข้านะสิ เอาเจ้าเด็กนี่กลับไปด้วย” ชายร่างใหญ่ว่าพลางโยนร่างของหนิงหลงไปให้ชายอีกคนรับเอาไว้ แต่ทันทีที่ชายคนนั้นเดินออกมาพ้นระยะของบ้าน เหล่าชายหญิงในชุดดําเหมือนกับชุดของชายก่อนหน้านี้ก็ออกมายืนเรียงต้อนรับชายร่างใหญ่ด้วยท่าทีนอบน้อมทันที

 

“หัวหน้า ให้พวกเราจัดการคนในหมู่บ้านด้วยหรือเปล่าขอรับ” ชายคนหนึ่งในกลุ่มนั้นถามพลางมองไปทางชาวบ้านที่เริ่มสงสัยเกี่ยวกับควันไฟแล้ว

 

“ไม่ต้อง” ชายร่างใหญ่ตอบก่อนจะเดินออกไปทางลงเขาด้วยท่าที่นิ่งเฉยไม่ต่างจากเดิมนัก ถึงตอนนี้ใบหน้าของเขาเปลี่ยนแปลงอารมณ์เพียงแค่ตอนถามหนิงหลงว่าเป็นศิษย์ของอาวุโสหมิงซานเพียงครั้งเดียวเท่านั้นเองกระมัง

 

“หัวหน้าที่คอของท่าน” ระหว่างกําลังจะพากันแยกย้ายจากหมู่บ้านนี้ไป อยู่ๆลูกน้องคนหนึ่งของชายร่างใหญ่ก็ชี้มองไปที่คอของเขาเสียก่อน ยามนี้ที่คอของชายร่างใหญ่ปรากฏเลือดไหลออกมาบางๆจนเลือดเป็นเพียงสีแดงอ่อนๆ เท่านั้นไม่ได้มากพอจะเป็นสีดําเสียด้วยซ้ำ แต่ถึงอย่านั้นร่องรอยบาดเจ็บเช่นนี้ก็ยังเป็นเรื่องน่าแปลกใจอยู่ดีสําหรับหัวหน้าของพวกตน

 

“ก็แค่รอยข่วน พวกเจ้าตกใจอะไรกัน” ชายร่างใหญ่ไม่มีท่าทีเปลี่ยนไปแม้แต่น้อย แต่ถึงจะบอกอย่างนั้นเหล่าลูกน้องก็ยังตกใจอยู่ดี

คอมเม้นต์

การแสดงความเห็นถูกปิด