หลอมศาสตราสะท้านยุทธจักร – ตอนที่ 44 ขั้นกลาง

อ่านนิยายจีนเรื่อง หลอมศาสตราสะท้านยุทธจักร ตอนที่ 44 ขั้นกลาง อ่านนิยายจีน.COM | อ่านนิยายจีนแปลไทย.

ขั้นกลาง

ผลัก!!

ซีเฉิงและคนของมันพาตัวหนิงหลงลงมายังชั้นใต้ดินของวังเหนือศาสตรา ก่อนจะโยนร่างของหนิงหลงกระแทกพื้นอย่างไม่ไยดี ท่ามกลางสายตาของเหล่าช่างตีเหล็กและคนของพรรคยอดศาสตรา ที่กําลังตกตะลึงกับภาพที่เกิดขึ้น

ไม่ใช่แค่เหล่าช่างตีเหล็กเท่านั้นที่ตกใจ แม้แต่คนของพรรคเองก็ตกใจเช่นกันเพราะซีเฉิงไม่ได้ลงมาที่ชั้นใต้ดินนักเพราะ

ช่างตีเหล็กที่ยังอยู่ในชั้นใต้ดินเป็นเพียงช่างตีเหล็กทั่วๆไปที่ยังไม่สามารถสร้างผลงานให้พรรคยอดศาสตราพึงพอใจได้ เพราะต่อให้คนที่สร้างอาวุธได้น่าพึงพอใจจะยินยอมหรือไม่

พวกมันก็จับช่างตีเหล็กพวกนั้นขึ้นไปอยู่บนชั้นสี่และห้าอยู่ดี เพราะแบบนั้นซีเฉิงที่เป็นประมุขของพรรคก็เลยไม่ได้ลงมาที่ชั้นใต้ดินนี้บ่อยนัก
เครั้ง!!

“กลับ” ซีเฉิงไม่ได้พูดอะไรมาก พอโยนค้อนของหนิงหลงคืนเจ้าตัวซีเฉิงก็พาลูกน้องกลับออกไปโดยทิ้งหนิงหลงเอาไว้ตามลําพัง แต่ถึงอย่างนั้นสายตาของเหล่าช่างตีเหล็กและเหล่าคนของพรรคยอดศาสตราก็มองมาทางหนิงหลงด้วยท่าทีสงสัย คนของพรรคยอดศาสตราที่เฝ้าอยู่ข้างในไม่ได้ทราบว่าหนิงหลงมีเรื่องอะไรกับซีเฉิง เห็นท่านประมุขลากคอหนิงหลงลงมายังห้องใต้ดินเองเช่นนี้ ก็ได้แต่เดาว่าหนิงหลงคงไปทําให้ท่านประมุขไม่พอใจเข้ากระมัง

เครั้ง!! เครั้ง!!!

หลังจากซีเฉิงและคนของพรรคกลับออกไป เหล่าช่างตีเหล็กก็ไม่กล้าเข้ามาใกล้หนิงหลงแม้แต่น้อยเพราะกลัวว่าถ้าเข้าไปยุ่งแล้วจะโดนหมายหัวไปด้วย พวกเขาเลยกลับไปทํางานของตัวเองปล่อยให้หนิงหลงนั่งอยู่ตรงนั้นคนเดียวต่อไป ส่วนฝ่ายหนิงหลงนั้นก็ไม่ได้สนใจท่าทีของคนอื่นแม้แต่น้อย ตอนนี้ในหัวของหนิงหลงกําลังครุ่นคิดเรื่องหนทางในอนาคตอย่างจริงจังแทน

การหนีออกไปจากนี้ที่เป็นเรื่องยาก แต่หนิงหลงกลับเริ่มไม่รู้สึกอยากจะหนีเสียเท่าไหร่ ค้อนสดับทศทิศของอาจารย์ยังอยู่ที่นี่ เจ้าคนที่ฆ่าอาจารย์ก็ยังอยู่ที่นี่ถ้าจะฆ่ามันละก็ที่นี่ก็เป็นสถานที่ที่สะดวกที่สุด

“ข้าขอแร่พวกนี้หน่อยก็แล้วกัน” หนิงหลงหยิบค้อนของตัวเองขึ้นมาก่อนจะเดินไปยังกองแร่ที่เอาไว้ให้ช่างตีเหล็กเบิกไปสร้างชิ้นงาน ตอนนี้หนิงหลงยังโดนเจ้าซีเฉิงฆ่าไม่ได้ เช่นนั้นแล้วก่อนอื่นหนิงหลงก็ต้องสร้างอาวุธเพื่อไม่ให้มันตัดสินใจฆ่าหนิงหลงตอนนี้ไปก่อน ที่เหลือก็ต้องหาทางสังหารมันเสีย ขอเพียงมีโอกาสเท่านั้นเอง

“ไม่ได้ๆ แร่พวกนี้ให้ช่างตีเหล็กอาวุโสใช้ เจ้าเป็นเด็กใหม่จะมาใช้แร่มีค่าพวกนี้ได้ไง” คนของพรรคยอดศาสตราเห็นหนิงหลงจะใช้แร่ในกองที่เป็นแร่ชั้นดีก็เดินเข้ามาห้าม แถมยังเท้าเอวด้วยท่าทีไม่พอใจอีกต่างหาก ถึงจะบอกว่าสามารถเอาแร่ไปใช้ได้เลยก็ตาม แต่พรรคยอดศาสตราก็ไม่ต้องการเสียวัสดุไปฟรีๆกับช่างฝีมืออ่อนหัด เพราะงั้นที่ชั้นล่างเลยต้องแบ่งระดับฝีมือของคนที่จะเลือกแร่ไปใช้ด้วย

“แล้วข้าต้องทํายังไงถึงจะใช้แร่พวกนี้ได้” หนิงหลงถามพลางมองไปทางฝ่ายตรงข้ามด้วยท่าทีจริงจัง อาวุธที่หนิงหลงสร้างไม่ระคายเคืองผิวของซีเฉิงเลย เช่นนั้นแล้วเขาจะต้องสร้างอาวุธให้ดีกว่านี้เพื่อจะสังหารซีเฉิง เพื่อจะทําการแก้แค้นหนิงหลงต้องเตรียมอาวุธให้พร้อม

“ง่ายๆเจ้าใช้แร่ในกองด้านโน้นสร้างอาวุธระดับกลางขึ้นมาให้ได้ แค่นั้นข้าจะยอมให้เจ้าใช้แร่ในกองนี้”คนของพรรคยอดศาสตราตอบพลางชี้ไปที่กองแร่อีกกองที่วางทับกันราวกับกองหินสําหรับก่อสร้างแร่พวกนั้นเป็นแร่ ธรรมดาที่หาได้ทั่วไป การจะทําให้มันกลายเป็นอาวุธวิเศษระดับกลางนั้นเป็นเรื่องที่ยากมาก แค่การจะใช้แร่ระดับทั่วไปยังต้องทดสอบกันขนาดนี้เลยงั้นหรือ

“ถ้าทําได้ข้าก็จะให้เจ้าใช้แร่กองนี้ แต่ถ้าไม่ก็ก้มหน้าก้มตาศึกษาไปซะ” คนของพรรคยอดศาสตราว่าพลางเดินกลับไปนั่งที่ประจําของตนต่อ เพียงแต่สิ่งที่เขาบอกหนิงหลงไปนั้นมีความเข้าใจผิดกันนิดหน่อย อาวุธที่เข้าให้หนิงหลงสร้างนั้นไม่ใช่อาวุธวิเศษ แต่เป็นอาวุธทั่วไประดับกลางจาก 3 ระดับ ต่ำ กลาง และสูง เพราะหนิงหลงเรียนกับอาวุโสหมิงซานก็ข้ามจากอาวุธธรรมดามาเป็นอาวุธวิเศษเลย หนิงหลงก็เลยไม่ได้มีความคิดว่าระดับกลางที่อีกฝ่ายพูดเป็นเพียงระดับกลางของอาวุธธรรมดาเลยแม้แต่น้อย และช่างตีเหล็กในชั้นนี้ต่างก็เป็นช่างตีเหล็กที่สร้างอาวุธวิเศษยังไม่ได้ด้วยซ้ํา จะมีเพียงบางคนที่สร้างอาวุธวิเศษระดับต่ําขั้นที่ 1 – 3 ได้ แต่แค่นั้นก็ยังไม่มากพอจะได้รับการยอมรับจากพรรคยอดศาสตราเท่านั้นเอง

หนิงหลงมองแร่ในกองอย่างจริงจังก่อนจะเลือกหยิบก้อนแร่มาเจ็ดแปดชนิดออกมาจากภายในกอง เพราะเข้าใจผิดว่าต้องสร้างอาวุธวิเศษระดับกลางจากแร่ที่เกือบจะเป็นแร่ธรรมดาอยู่แล้วทําให้หนิงหลงต้องใช้ทักษะของช่างตีเหล็กไม่น้อย ก่อนอื่นเลยเขาไม่สามารถใช้แร่เหล่านี้เพียงชนิดเดียวหรือสองชนิดเพื่อสร้างอาวุธวิเศษได้ พลังของพวกมันต่ําเกินกว่าจะกลายเป็นอาวุธวิเศษระดับกลาง เช่นนั้นแล้วหนิงหลงก็เลยต้องผสมแร่เหล่านี้ให้กลายเป็นโลหะผสมเพื่อให้คุณสมบัติของแร่ช่วยส่งเสริมกันจนมีความสามารถพอเพียงกับการกลายเป็นอาวุธวิเศษระดับกลาง

หนิงหลงเดินมาที่ทั่งตีเหล็กอันหนึ่งที่ว่างอยู่ก่อน จะกําค้อนในมือเอาไว้แน่น แม้เรื่องราวต่างๆจะทําให้ใจของหนิงหลงไม่ค่อยสงบนัก แต่เมื่อถือค้อนยืนอยู่ต่อหน้าทั่งแล้วหนิงหลงก็คือช่างตีเหล็กคนหนึ่ง เขากําจัดเรื่องในหัวทิ้งไป ก่อนจะตั้งสมาธิกับแร่เหล่านี้อย่างจริงจัง

พรึบ!!!

หนิงหลงสร้างเปลวเพลิงออกมาในฝ่ามือก่อนจะนําแร่ เข้าไปหลอมภายในเปลวเพลิงของตนเอง เปลวเพลิงของหนิงหลงยามนี้ไม่ใช่สีแดงเพลิงตามปกติ แต่เป็นสีแดงเข้มราวกับสีของวิชาอาภรณ์ดอกเหมยไม่มีผิด ที่เป็นเช่นนี้ก็เพราะหนิงหลงหลอมรวมกับพลังธาตุของอสูรระดับ 4 จนไฟเปลี่ยนเป็นไปอสูรแล้วนั่นเอง

.. ” ทันทีที่หนิงหลงเริ่มทํางาน สายตาภายในห้องใต้ดินก็มองมาทางหนิงหลงเป็นตาเดียวอีกครั้ง การใช้พลังวิญญาณสร้างเปลวเพลิงขึ้นมานั้นก็เป็นเรื่องที่ทุกคนในห้องนี้สามารถทําได้ แต่พวกเขาส่วนใหญ่ก็เพียงพลังวิญญาณควบคุมไฟในเตาหลอมเท่านั้น คนที่บรรลุระดับไม่จําเป็นต้องใช้เตาหลอมได้ ในห้องนี้ไม่มีอยู่เลย

ทันทีที่เปลวเพลิงของหนิงหลงมอดดับไป สิ่งที่เหลืออยู่กลางอากาศก็มีเพียงก้อนโลหะที่โดนหลอมและผสมเป็นเนื้อเดียวกันลอยเคว้งอยู่กลางอากาศเท่านั้น แต่สิ่งหนึ่งที่น่าประหลาดใจคือขนาดของก้อนโลหะที่ลอยอยู่เบื้องหน้าหนิงหลง มันใหญ่เกินกว่าจะนํามาสร้างอาวุธอย่างกระบี่หรือดาบเสียอีก

ตุบ…

หนิงหลงใช้มือรับก้อนโลหะที่กําลังหลอมละลายด้วยความร้อนสูงเอาไว้ก่อนจะวางมันลงบนทั่งตีเหล็กอย่างแผ่วเบา ส่วนมืออีกข้างก็เตรียมค้อนเอาไว้อยู่แล้วเพื่อจะติในจังหวะที่พอดี

เปรี้ยง!

การทุบค้อนของหนิงหลงเพียงที่เดียวถึงกับสร้างแรงสั่นสะเทือนไปรอบๆ หากไม่ใช่เพราะห้องฝึกของหยางเยียนเหว่ยเก็บเสียง เสียงค้อนของหนิงหลงคงทําคนในสํานักตกใจกันหมดแน่ๆ ด้วยความแรงและกําลังที่ฝึกฝนมาอย่างหนัก หนิงหลงเปลี่ยนรูปร่างของโลหะทรงกลมให้กลายเป็นแผ่นได้ในพริบตา

เพราะโลหะที่ใช้เป็นโลหะคุณภาพต่ํา หนิงหลงเลยต้องผสมแร่หลายๆอย่างเข้าด้วยกันและใช้ปริมาณค่อนข้างมาก เพื่อให้มันทนรับพลังได้ถึงระดับกลาง หนิงหลงต้องสร้างให้มันมีขนาดใหญ่ก็เลยมีข้อจํากัดประเภทของอาวุธ แต่ชายที่เฝ้าวัตถุดิบเอาไว้ไม่ได้บอกว่าต้องสร้างอาวุธชนิดใด หนิงหลงจึงใช้ค้อนตีโลหะเบื้องหน้าจนกลายเป็นรูปขวานสองคมขนาดใหญ่ที่ไม่มีด้ามออกมา มันเป็นตัวขวานสงครามที่ทั้งใหญ่และหนัก หากใช้ด้วยผู้ฝึกฝนวิชาสายโจมตีละก็ต้องสร้างความเสียหายได้อย่างน่าตกใจเป็นแน่

แกร๊ก…..

หลังจากสร้างและลับคมขวานเสร็จ หนิงหลงก็เดินกลับไปที่กองวัตถุดิบก่อนจะเลือกไม้ชิ้นหนึ่งออกมาจากกอง ไม่ใช่แค่แร่เท่านั้น ไม่ว่าจะเป็นไม้ผ้า หรือแผ่นหนัง พรรคยอดศาสตราก็เตรียมเอาไว้ให้อย่างพอเพียง หนิงหลงใช้มีดที่มีให้เหลาไม้เพียงอึดใจเดียวก็สร้างด้ามขวานได้สําเร็จ หลังจากตอกลิ่มเข้ากับตัวขวานและพันหนังที่ส่วนด้ามจับขวานสงครามระดับกลางขั้นที่ 3 ก็เสร็จเรียบร้อย

“นี่มัน” คนของพรรคยอดศาสตราที่เป็นคนสั่งให้หนิงหลงไปสร้างอาวุธระดับกลางมาหมาดๆยังไม่อาจเก็บซ่อนความตกใจได้ วัตถุดิบพวกนั้นต่อให้เป็นช่างตีเหล็กที่อยู่ชั้นบนก็อาจจะยังไม่สามารถสร้างขึ้นมาเป็นอาวุธวิเศษได้ด้วยซ้ํา เจ้าหนูนี่เป็นใครกันแน่ถึงสามารถสร้างอาวุธวิเศษออกมาได้อย่างง่ายดายด้วยวัตถุดิบพวกนี้

“เท่านี้ข้าก็สามารถใช้วัตถุดิบพวกนี้ได้แล้วสินะขอรับ” หนิงหลงถามพลางวางขวานสงครามเอาไว้บนโต๊ะสําหรับวางผลงาน แม้หนิงหลงจะไม่ค่อยพอใจนักเพราะระดับของขวานออกมาไม่ได้สูงอย่างที่คิด แถมเพราะเกิดจากการผสมแร่ ทําให้ขวานเล่มนี้มีความทนทานต่ํากว่าอาวุธระดับกลางทั่วไป แต่ถึงอย่างนั้นมันก็ทําให้คนดูแลวัตถุดิบอึ้งกินแล้วยอมให้หนิงหลงเข้ามาใช้งานแร่คุณภาพดีได้

เครั้ง!!! เครั้ง!!!

หลังจากได้วัตถุดิบที่ต้องการ หนิงหลงก็กลับไปสร้างกระบี่เล่มหนึ่งขึ้นมาอีกครั้ง ด้วยวัตถุดิบที่ดีขึ้น ทําให้หนิงหลงสามารถสร้างกระบี่ระดับกลางขั้นที่ 10 ออกมาได้อย่างสมบูรณ์แบบ ด้วยวัตถุดิบเหล่านี้ระดับกลางถือเป็นขีดจํากัดของมันแล้ว

“เจ้าหนู เอากระบี่มาให้ข้าดูหน่อย”ตั้งแต่หนิงหลงเริ่มทํากระบี่เล่มนี้ คนเฝ้าวัตถุดิบก็ไปเรียกคนของพรรคยอดศาสตราคนอื่นมาดูหนิงหลงแล้ว ชายคนนั้นเป็นผู้ประเมินว่าช่างตีเหล็กคนไหนจะมีความสามารถพอจะขึ้นไปบนชั้น 4 และ 5 ของวังเหนือศาสตรา แต่ไม่ต้องให้เข้ามาก็สามารถตัดสินได้แล้วหนิงหลงมีความสามารถเหลือเฟือที่จะอยู่บนชั้นบนแล้วอย่างไม่ต้องสงสัยเลย

“นี่ขอรับ…” หนิงหลงยื่นกระบี่ออกไปเบื้องหน้าคนของพรรคยอดศาสตรา ก่อนที่จะ

ฟุบ!!

หนิงหลงเหวี่ยงกระบี่เข้าใส่คนทดสอบอย่างกะทันหัน แต่คนทดสอบกลับรวดเร็วพอที่จะหลบการโจมตีของหนิงหลงได้ แม้จะมีตําแหน่งไม่สูงแต่พรรคยอดศาสตราก็รวบรวมคนมีฝีมือไว้มากมาย แม้แต่คนตรวจสอบผลงานก็ยังมีระดับพลังวิญญาณสูงมาก แม้หนิงหลงจะลอบโจมตีก็ไม่ทําให้เขาพลาดพลั้งแต่อย่างไร

“ไอ้เด็กนี่” คนตรวจสอบโดนหนิงหลงลอบทําร้ายก็แสดงท่าทีโมโหก่อนจะชักกระบี่ที่ตนพกมาเข้าหาหนิงหลงอย่างรวดเร็ว ได้ยินพวกหัวหน้าบอกว่าเล่นงานเจ้าหนูนี้ได้เต็มที่แค่ไม่ให้ตายก็พอ ในเมื่อโจมตีใส่แบบนี้ผู้ตรวจสอบก็ไม่คิดจะยั้งมือเช่นกัน

คอมเม้นต์

การแสดงความเห็นถูกปิด