หลอมศาสตราสะท้านยุทธจักร – ตอนที่ 48
ตอนที่ 48
ผู้คุม
“… ”ไม่ทราบเวลาผ่านไปอีกนานเท่าไหร่ หนิงหลงลืมตาตื่นขึ้นมาในห้องขนาดใหญ่พร้อมข้าวของเครื่องใช้พร้อมสรรพต่างกับห้องชั้นแรกราวฟ้ากับเหว บนชั้นนี้ไม่ใช่แค่มีห้องขนาดใหญ่เท่านั้นบรรยากาศเองก็ต่างออกไปด้วย อาจจะเพราะบนชั้นนี้มีหน้า ต่างในห้องพักปล่อยให้อากาศไหลผ่านเข้ามาได้กระมังยามนี้ขอเพียงหนึ่งหลงกระโดดออกนอกหน้าต่างใช้วิชาตัวเบาที่ลอกเลียนแบบมาจากคนในพรรคยอดศาสตราเท่านั้นก็สามารถเดินทางออกจากวังเหนือศาสตราได้อย่างง่ายดาย แต่มันคงไม่ง่ายแบบนั้น
“ตื่นแล้วงั้นเหรอ” เสียงของหญิงสาวคนหนึ่งดังขึ้นที่หน้าประตูห้องของหนิงหลงนางดูแปลกตามากสําหรับหนิงหลงในตอนนี้เพราะในพรรคยอดศาสตราแห่งนี้มีผู้หญิงอยู่น้อยมากแถมช่างตีเหล็กส่วนใหญ่ก็เป็นผู้ชายทําให้ช่วงหลายเดือนที่ผ่านมานี้หนิงหลงแทบไม่ได้เจอผู้หญิงเลย
“ข้าชื่อซิ่วอิง เป็นผู้คุมของเจ้า นับแต่นี้ไปข้าจะจับตาดูเจ้าไม่ว่าจะยามหลับหรือตื่น เพราะฉะนั้นเจ้าจะไม่มีวันหนีไปไหนได้ทั้งนั้น” หญิงสาวผู้มีนามว่าซิ่วอิงพูดด้วยใบหน้าจริงจังเป็นอย่างมากท่าทีของนางยามนี้หากเด็กมาเห็นคงต้องร้องไห้แน่ๆ
“ขอรับ” หนิงหลงมองไปทางผู้คุมด้วยท่าที่นิ่งเรียบไม่ได้สนใจอะไรตนโดนเล่นงานแล้วจับมาอยู่บนชั้นใหม่ เรื่องนี้เกิดขึ้นตั้งแต่ที่ชั้นใต้ดินและชั้น 4 ขึ้นมาชั้น 5 แล้ว จะมีอีกครั้งและขึ้นมาที่ชั้น6 ก็ไม่เห็นจะแปลกอะไร
“นั้นเจ้าจะไปไหน” ซิวอิงยืนเฝ้าอยู่หน้าประตูกอดอกแน่นพร้อมจ้องหนิงหลงที่กําลังเดินไปที่ประตูด้วยท่าทีขึงขังพอฟื้นขึ้นมาหนิงหลงก็จะเดินไปที่ประตูเลย ไม่ใช่ว่าคิดจะหนีตั้งแต่ตอนนี้เลยหรือไง
“ข้าจะไปห้องตําราขอรับ ที่ชั้นนี้ห้ามข้าไปที่ห้องตําราหรือขอรับ” หนิงหลงถามก่อนจะเปิดประตูออกด้วยท่าที่ไม่สนใจด้วยซ้ําว่าอีกฝ่ายจะทําอย่างไร
“ก็ไม่ได้ห้ามเอาไว้ แต่เจ้าห้ามออกห่างข้าเด็ดขาดจําเอาไว้”ซิ่วอิงเดินนําหนิงหลงออกมาก่อนจะยืนรอหนิงหลงอยู่ที่หน้าประตูห้องเหมือนจะบอกว่าตนจะเดินตามไปด้วย แน่นอนว่าหนิงหลงคิดเอาไว้อยู่แล้วว่าผู้คุมพวกนี้ต้องตามไปทุกที่เขาก็เลยไม่ได้ใส่ใจ
อะไร
บนชั้น 6 ไม่ใช่แค่ภายในห้องเท่านั้น แม้แต่โซนที่พักก็ยังต่างออกไปจากชั้นอื่นๆอย่างสิ้นเชิง ที่นี่ไม่มีผู้คุมเฝ้าทุกจุดตรงกันข้ามเหล่าคนของพรรคยอดศาสตราต่างพักผ่อนกันตามจุดต่างๆแถมพูดคุยกันอย่างเป็นมิตรอีกต่างหากเล่นเอาหนิงหลงยังอดที่จะประหลาดใจไม่ได้
ไม่ใช่แค่คนของพรรคยอดศาสตราเท่านั้น บนชั้นนี้ช่างตีเหล็กเองก็ทําตัวตามสบายได้อย่างที่ต้องการ คนที่อยาก จะฝึกฝนก็ฝึกฝนไปคนที่อยากจะพักผ่อนก็นั่งเล่นอยู่ที่ห้องโถงพร้อมบ่าวรับใช้ที่เหมือนพรรคยอดศาสตราจะเตรียมเอาไว้ให้ด้วย คน เหล่านี้ต่างยอมรับเป็นช่างตีเหล็กของพรรคยอดศาสตราแล้วไม่ได้มีความคิดจะหนีแต่อย่างไรพวกเขาเลยอยู่ที่นี่กันแบบสบายใจเช่นนี้นี่เอง
“ทางนี้”ซิ่วอิงเดินนําหนิงหลงเข้าในห้องขนาดใหญ่ที่มีตําราหลากหลายเล่มวางเรียงเอาไว้ ห้องตําราของชั้น 6 ใหญ่กว่าชั้นอื่นๆมากที่นี่มีตําราทุกเนื้อหาเหมือนที่บ้านของอาจารย์ไม่ผิดเพี้ยนแถมยังมีผลการทดสอบหลายๆอย่างเพิ่มขึ้นมาด้วย เพียงแต่ครั้งแรกที่หนิงหลงเข้ามาในห้องตํารา สิ่งที่หนิงหลงสะดุดตาไม่ใช่ตําราทั้ง หลาย แต่เป็น…
“อาจารย์…” หนิงหลงสะดุดตาเข้ากับรูปปั้นทองสัมฤทธิ์ขนาดใหญ่ที่ตั้งอยู่กลางห้องตํารา รูปปั้นนั้นมีด้วยกัน 3 รูปโดยมีชายชราคนหนึ่งยืนนําอยู่ด้านหน้า แต่รูปปั้นที่หนิงหลงสะดุดตากลับเป็นรูปปั้นด้านขวาของรูปปั้นตัวหน้า เพราะมันเป็นรูปปั้นของอาวุโส หมิงซานไม่ผิดแน่
“นี่มัน…”หนิงหลงเดินเข้าไปยืนเบื้องหน้ารูปปั้นที่สูงกว่า 3 เมตรด้วยท่าทางไม่เข้าใจ หนิงหลงก็พอจะเดาได้ว่าอาจารย์ต้องเกี่ยวข้องกับสถานที่แห่งนี้แน่ๆ แต่ถึงกับมีรูปปั้นทองสัมฤทธิ์ในห้องทําราเลยงั้นหรือ
“พวกท่านเป็นผู้ก่อตั้งแห่งพรรคยอดศาสตรา คนทางซ้ายเจ้าน่าจะรู้จักแล้วท่านเป็นประมุขคนปัจจุบันของพรรคตอนนี้”ซิ่วอิงเห็นหนิงหลงเดินเข้าไปที่รูปปั้นก็ถือวิสาสะบอกที่มาของรู ปปั้นให้หนิงหลงได้ทราบแต่พอมองมาที่รูปปั้นของอาวุโสหมิงซาน ใบหน้าของซิ่วอิงก็เปลี่ยนไปเป็นสายตาที่รังเกียจราวกับจะฆ่าให้ตายไม่มีผิด
“ผู้ก่อตั้ง…” หนิงหลงเบิกตากว้างพลางมองไปรอบๆอาจารย์เกี่ยวข้องกับที่นี่จริงๆด้วย แถมไม่ใช่แค่เกี่ยวข้องธรรมดาดูเหมือนอาจารย์จะร่วมมือกับชายชราที่อยู่แถวหน้าสุดกับ.ซีเฉิงที่อยู่ทางซ้ายของรูปปั้นเพื่อก่อตั้งพรรคยอดศาสตราขึ้นมา ที่แท้พวกเขาก็มี ความเกี่ยวข้องกันเช่นนี้นี่เอง
“แล้ว….คนทางนี้ล่ะขอรับ” หนิงหลงถามพลางมองไปทางรูปปั้นของอาจารย์หากเรื่องนี้เป็นความจริงก็เท่ากับว่าซีเฉิงน่าจะเป็นสหายเก่าของอาจารย์แล้วเหตุผลใดซีเฉิงถึงต้องสังหารอาจารย์ด้วย
“เจ้านั่นไม่ ข้าไม่รู้หรอก” แต่เมื่อถามถึงรูปปั้นของอาวุโสหมิงซานอยู่ๆซิ่วอิงก็มีท่าทีไม่พอใจแถมยังปล่อยจิตสังหารออกมาอีกต่างหากแต่นางก็แสดงท่าที่โมโหอยู่ครู่เดียวก่อนจะระงับสติอารมณ์เอาไว้ไม่ยอมแสดงออกมา
“แล้ว คนตรงกลางล่ะขอรับ” หนิงหลงเห็นซิ่วอิงไม่ยอมตอบก็ไม่คิดจะเซ้าซี้อีกซีเฉิงบุกไปฆ่าอาจารย์ของตนถึงที่บ้านแสดงว่าต้องเกิดเรื่องอะไรบางอย่างแน่ๆแต่เรื่องนี้กลัวว่าจะเป็นความลับคนของพรรคไม่น่าจะบอกคนนอกได้ และบางทีซิ่วอิงก็คงจะไม่ทราบว่าหนิงหลงเป็นศิษย์ของอาวุโสหมิงซาน เช่นนั้นแล้วหนิงหลงก็ เลยเปลี่ยนเรื่องแล้วถามไปทางคนตรงกลางแทน
“ท่านคือประมุขรุ่นแรกของพรรคยอดศาสตราท่านเป็นช่างตีเหล็กในตํานานผู้ได้ชื่อว่าสามารถได้ยินเสียงของโลหะแต่ละชนิดและสามารถสร้างอาวุธออกมาได้อย่างยอดเยี่ยม ท่านเป็นผู้สร้างอาวุธระดับราชันขั้นที่สิบได้มากที่สุดเท่าที่เคยมีมา”ซิ่วอิงตอบพ ลางเงยหน้ามองรูปปั้นตรงกลางด้วยท่าที่ต่างจากก่อนหน้านี้อย่า งสิ้นเชิง ราวกับว่านางมีความรู้สึกผูกพันกับคนในรูปปั้นนั้นเลย
“งั้นหรือขอรับ” หนิงหลงอยู่ในวังเหนือศาสตรามาหลายเดือนแล้วแม้ความแค้นจะยังไม่หายไปแต่ก็สงบใจขึ้นมามาก ยามนี้หนิงหลงใส่ใจกับการฝึกฝนเพื่อจะตอบโต้ซีเฉิงมากกว่า เพราะความจริงที่หนิงหลงเห็นกับตาก็คือซีเฉิงคือผู้สังหารอาจารย์ของตน เรื่องราวก่อนหน้านั้นหนิงหลงไม่อาจรู้ได้จริงๆ
เมื่อได้เข้าใจเรื่องราวของรูปปั้นแล้ว หนิงหลงก็เดินไปสํารวจห้องตําราบนชั้น 6 อย่างละเอียดเหมือนกับที่ทําในชั้นอื่นๆก่อนหน้านี้เพราะหนิงหลงมีความทรงจําที่ยอดเยี่ยมทําให้หนิงหลงเลือกที่จะจดจําเนื้อหาตําราของพรรคยอดศาสตราเอาไว้เสียก่อน
การทดลองต่างๆเพื่อให้ได้สูตรสําเร็จของวิชาตีเหล็กเหล่านี้ไม่ทราบเลยว่าต้องใช้คนกี่คนและเวลากี่ปีถึงสามารถรวบรวมมาได้ความร้อนที่เหมาะสมของโลหะแต่ละชนิด วิธีการใช้งานแร่หายากชนิดต่างๆรวมถึงการคาดเดาเกี่ยวกับการใช้งานชิ้นส่วนของอสูรบางตนที่ยังไม่สามารถสังหารมันได้อีกด้วย ความรู้เหล่านี้บางที่อา จจะมีแค่ที่พรรคยอดศาสตราแห่งนี้ก็เป็นได้เช่นนั้นแล้วหนิงหลงจะเก็บมันเอาไว้และเมื่อทําตามเป้าหมายสําเร็จก็จะใช้วิชาเหล่านี้ในการทําตามความฝันให้เป็นจริง
“… ”ซิ่วอิงที่ถูกส่งมาเป็นผู้คุมอย่างงงๆมองหนิงหลงที่นั่งอ่านตํารามาทั้งวันด้วยท่าที่ประหลาดใจ ได้ยินว่าเด็กคนนี้พยายาม จะหนีอยู่ตลอดเวลานางก็เลยเตรียมรับมือเอาไว้อย่างดี แต่ถึงตอนนี้หนิงหลงก็ยังไม่มีท่าที่จะหนีเลยหรือว่าไม่มีอาวุธไว้ต่อสู้ก็เลยยังไม่หนีกันนะ?
จากรายงานที่ส่งขึ้นมา หนิงหลงจะสร้างอาวุธหนึ่งชิ้นแล้วก็ใช้มันโจมตีผู้คุมเพื่อจะหนี เรื่องนั้นพอจะเข้าใจได้เพราะหากมีอาวุธวิเศษติดตัวโอกาสหนีก็มากกว่าหนีมือเปล่าแน่ๆแต่ทําไมถึงทําอย่างโจ่งแจ้งนัก? คนที่เคยพยายามหนีก่อนหน้านี้เก็บซ่อนโลหะ บางส่วนเอาไว้กับตัวหลังจากสร้างอาวุธในแต่ละวันเสร็จพวกเขานําแร่พวกนั้นไปแอบสร้างอาวุธซ่อนเอาไว้แล้วเมื่อถึงเวลาก็ใช้มันเพื่อหนี
2600
ตั้งแต่นั้นมาก็มีการตรวจสอบแร่เหล็กที่ตัวช่างตีเหล็กเสมอแต่จากรายงานก็ไม่พบว่าหนิงหลงจะเก็บซ่อนแร่เหล็กติดตัวตอนกลับห้องแต่อย่างไรแถมยังทําอย่างกับจงใจหาเรื่องผู้คุมอีกต่างหาก
เครั้ง!! เครั้ง!!
เวลาผ่านไปหลายวัน หนิงหลงศึกษาตําราจนหมดก่อนจะขอเบิกแร่เหล็กจากคลังของพรรคแร่เหล็กที่เบิกได้จากชั้น 6 นั้นไม่ต่างจากชั้น 4 และ 5 ล้วนแล้วแต่เป็นแร่เหล็กหายากที่เหมาซื้อมาจากในตลาดทั้งนั้นการมีแร่เหล็กชั้นดีป้อนเข้ามาให้ใช้งานได้เสมอแบบนี้ช่างเป็นสวรรค์ของช่างตีเหล็กที่กําลังพัฒนาฝีมือจริงๆ
“… ยิ่งเฝ้ามองหนิงหลง ซิ่วอิงก็ยิ่งสงสัย หนิงหลงนิ่งกว่าที่คิดเอาไว้มากนึกว่าจะเป็นหมาบ้าที่พยายามจะหนีตลอดเวลาเสียอีกแต่จนถึงตอนนี้หนิงหลงก็เพียงอ่านตําราและเริ่มสร้างอาวุธเท่านั้นหรือว่าเขาไม่คิดที่จะหนีอีกแล้ว?
“นี่มัน…” แม้จะได้ยินผู้คุมที่ชั้นล่างบอกมาแล้ว แต่ซิ่วอิงเมื่อได้เห็นกับตาว่าหนิงหลงสามารถสร้างอาวุธวิเศษระดับชั้นเลิศขั้นที่10ได้ก็รู้สึกประหลาดใจเป็นอย่างมาก แถมจากปากคําที่ได้ยินมา หนิงหลงยังเคยสร้างอาวุธระดับตํานานขั้นที่ 1 มาแล้วด้วย ซึ่งถ้าเรื่องนี้เป็นความจริงนั่นเท่ากับว่าหนิงหลงกลายเป็นหนึ่งในช่างตีเหล็กที่เก่งที่สุดในพรรคยอดศาสตราไปแล้วเพราะนอกจากหนิงหลงแล้วพรรคยอดศาสตรายังมีอาวุโสอยู่อีก 3 คนที่สามารถสร้างอาวุธระดับตํานานได้ 2 คนแรกเคยสร้างอาวุธระดับตํานานขั้นที่ 4 และ 5 ได้ถือเป็นช่างตีเหล็กที่พรรคยอดศาสตราให้การยอมรับและให้เกียรติและท่านอาวุโสคนสุดท้ายถึงขั้นสร้างอาวุธระดับ ราชันขั้นที่ 1 ได้หนึ่งชิ้นนั่นถือเป็นระดับของช่างตีเหล็กที่หาตัวจับยากแล้วเป็นไปได้งั้นหรือที่เด็กอายุยังไม่ถึง 20 ปีอย่างหนึ่งหลง จะมีความสามารถเทียบเคียงเหล่าอาวุโสที่อายุเกือบจะร้อยปีเหล่านั้นแล้ว
“เฮ้อ…”หนิงหลงถอนหายใจออกมาก่อนจะมองกระบี่ในมือด้วยท่าที่ผิดหวัง ครั้งก่อนหนิงหลงเหมือนจับทางอะไรบางอย่างได้ก็เลยสร้างอาวุธระดับตํานานได้เล่มหนึ่ง แต่ไม่ว่าจะพยายามอีกกี่รอบก็ยังสร้างอาวุธระดับตํานานไม่ได้อีก เรื่องนี้ช่างเป็นเรื่องน่า ผิดหวังสําหรับหนิงหลงจริงๆ แต่
ฟบ!!
หนิงหลงกําด้ามกระบี่ก่อนจะเหวี่ยงเข้าใส่ซิ่วอิงอย่างไม่เกรงอกเกรงใจตอนแรกนึกว่าจะเจอพวกผู้คุมนิสัยเสียพวกนั้นเสียอีกเทียบกับคนพวกนั้นแล้วซิวอิงไม่ค่อยเข้ามายุ่งกับหนิงหลงเท่าไหร่นับว่าเป็นคนที่ไว้หน้าหนิงหลงไม่น้อย แต่นางก็เป็นผู้ฝึกฝนพลัง วิญญาณระดับสูงของพรรคยอดศาสตราหากไม่เอาวิชาของนางมาหนิงหลงก็คงเสียประโยชน์แล้ว
คอมเม้นต์