หัตถ์เทวะธิดาพญายม – ตอนที่ 14 นายผู้ล่วงลับกับบ่าวรับใช้สุดโฉด
เขตแดนทางตอนใต้บริเวณเทือกเขาฉางซึ่งเป็นถิ่นทุรกันดารนอกขอบเขตตัวเมืองเหยียนจิงมีเรือนหลังน้อยที่อยู่ในสภาพเก่าแก่คร่ำคร่าตั้งอยู่
สถานที่นี้คือที่ซุกหัวนอนของบุตรีคนที่สามซึ่งถือกำเนิดมาจากอนุของน่าหลานเจิ้งเจ๋อ ท่านหมอผู้มีชื่อเสียงเลื่องลือระบือไปทั่วทั้งแคว้นเหยียนจิง แทบจะไม่มีผู้ใดล่วงรู้เลยด้วยซ้ำว่า น่าหลานเกอซีพำนักอาศัยอยู่ในสถานที่เช่นนี้
เทือกเขาฉางตั้งอยู่ในดินแดนที่รกร้างห่างไกลแยกขาดออกจากผู้คนทั้งหลาย ณ สถานที่แห่งนี้ นับเป็นอาณาบริเวณที่กระแสพลังแห่งจิตวิญญาณอ่อนบางอย่างเห็นได้ชัด กระทั่งหมู่วิหคนกกาหรือเหล่าสิงสาราสัตว์ทั้งหลายยังไม่กร้ำกรายเข้ามาในแถบอาณาบริเวณนี้ อีกทั้งมวลพฤกษาเวทรวมไปถึงสมุนไพรเวทต่างไม่อาจเติบโตขึ้นได้ด้วยสภาวะธรรมชาติของดินแดนแถบนี้ ไม่ต้องกล่าวถึงเพียงนั้นเพราะแม้แต่พรรณพืชและผลไม้นานาชนิดต่างล้วนไม่อาจเติบโตได้ในขอบเขตบริเวณนี้เช่นกัน
ยามนี้ราตรีได้ล่วงเลยเข้ามาสู่ยามเหม่าแล้ว* สายลมแทรกผ่านแนวเขาพัดโชยผ่านมาเป็นระลอก เมื่อยามใดที่มันพาดผ่านไป มันได้นำพาเอาคลื่นแห่งความเหน็บหนาวและหดหู่จิตใจมาให้อย่างไม่ขาดสาย
*ยามเหม่า = 5.00-7.00 น. ตอนเช้าตรู่
หากแต่แม่นมเฉินยังคงเดินกลับไปกลับมาอย่างร้อนรนอยู่ในลานหน้าเรือน สายตาของนางเฝ้าคอยชำเลืองมองไปที่ประตูทางเข้าเรือนซึ่งมีสภาพซอมซ่ออย่างไม่วางตา
คุณหนูหายไปกว่าวันหนึ่งแล้ว เหตุใด นางจึงยังไม่กลับมา ?
แม่นมเฉินเบี่ยงสายตาไปยังห้องกลางซึ่งมีสำแสงสว่างไสวจากเปลวเทียนก่อนจะตัดสินใจสาวเท้าก้าวตรงเข้าไปอย่างมิอาจยับยั้งจิตใจ
เสียงแง้มบานประดูดังขึ้น กลิ่นระเหยของสุราฟุ้งกระจายตลบอบอวลปะปนไปกับเสียงตะโกนโหวกเหวกคละเคล้าเสียงหัวเราะดังลั่นไปทั่ว
วันเวลาล่วงเลยผ่านค่ำคืนมืดมิดเข้าสู่รุ่งอรุณแห่งแสงใหม่แล้ว แต่ทว่าเหล่าบ่าวไพร่พวกนั้นยังสรวลเสเฮฮา แทงพนันกินดื่มกันอย่างสำราญใจไม่เลิกรา
แม่นมเฉินค่อย ๆ เหยียดฝ่าเท้าก้าวเข้าไปด้านในด้วยใบหน้าที่มีแต่คำว่าขวัญหาย ขีดเขียนอยู่เต็มไปหมด
“พ่อบ้านหลี่ คุณหนูหายไปวันหนึ่งเต็ม ๆ กับอีกราตรีหนึ่งแล้ว ข้ากลัวเหลือเกินว่าจะเกิดเรื่องไม่ดีกับคุณหนู รบกวนท่านช่วยส่งคนไปตามหาคุณหนูหน่อยได้ไหม ?”
ภายในห้องที่กำลังส่งเสียงเอะอะอึกทึกนั้นเงียบกริบลงฉับพลัน
“ข้าว่าแล้ว เหตุใดวันนี้ข้าจึงอับโชคนัก เป็นเพราะนางตัวซวยมาเยือนถึงที่นี่นี่เอง”
พ่อบ้านหลี่ซึ่งกำลังนั่งอยู่หน้าโต๊ะเสี่ยงโชคออกแรงเตะเก้าอี้เตี้ยที่อยู่ข้างกายกระเด็นออกไป ประกายแห่งลางร้ายฉายวาบผ่านบนใบหน้านั้น “คุณหนูของเจ้าไม่กลับมาแล้วเกี่ยวอะไรกับพวกเรา นางคงจะหนีตามบุรุษไปเสียกระมัง ?”
เหล่าบรรดาผู้ที่อยู่ในห้องพากันหัวเราะระงมจนเสียงแหบแห้ง ยังอีกเสียงที่กล่าวสมทบขึ้น “ข้าได้ยินมาว่ามารดาของนางก็ยั่วยวนท่านหมอน่าหลานจนได้มาเป็นอนุของท่านอีกคนก็ด้วยหนังหน้าที่หนาของนาง ไม่คิดเลยว่าทั้งแม่ทั้งลูกมิได้แตกต่างกันเลย มารดาของนางกระทำตนเยี่ยงหญิงนางโลม บุตรสาวของนางก็ย่อมดำเนินรอยตามมิใช่หรือ ?”
“เจ้า ! อย่ามาพูดจาไร้สาระเช่นนี้ !” แม่นมเฉินโกรธเกรี้ยวจนใบหน้าแดงก่ำ ดวงตาทั้งสองขุ่นหมองลงด้วยความเดือดดาล
“ข้าไม่อนุญาตให้พวกเจ้ากล่าววาจาให้ร้ายฮูหยินและคุณหนู……”
“ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า นางมันก็แค่เศษสวะต่ำต้อยไร้ค่าที่ไร้พรสวรรค์ในการฝึกฝนพลังฝีมือ นางยังจะกล้าเรียกตนเองว่า คุณหนูอยู่อีกหรือ จงอย่ากระทำตนให้น่าขายหน้ายิ่งไปกว่านี้อีกเลย !”
“เจ้ากล่าวได้ถูกต้อง หากมิใช่ด้วยท่านหมอน่าหลานเป็นผู้มีจิตใจกุศลเปี่ยมล้นไปด้วยเมตตาแล้วล่ะก็ ท่านคงไม่ให้นางลอยหน้ามีชีวิตมาได้นานถึงเพียงนี้ ไม่เท่านั้นท่านยังจัดแจงบ่าวไพร่มาดูแลนางอีก บรื้อ ! ไม่รู้ว่านางเด็กเหลือขอนั่นผุดโผล่มาจากหลุมโสโครกใด เพื่อปกปิดความอัปยศของตระกูลน่าหลานหนทางของนางจึงเหลือแค่เพียงทางเดียวเท่านั้นคือความตาย”
เมื่อใดที่น่าหลานเกอซีจบชีวิตลง พวกมันจึงจะสามารถกลับคืนสู่เรือนสกุลน่าหลันได้อีกครา พวกมันไม่ต้องการรั้งรออยู่ในสถานที่ซึ่งแม้แต่ขี้นกยังไม่ตกต้องเช่นนี้ แถบแดนไร้ประโยชน์ที่ไม่มีแม้กระทั่งกระแสพลังใดย่อมมิอาจส่งเสริมพลังฝีมือของพวกมันให้ก้าวหน้าขึ้นไปได้
“หุบปาก !” นัยน์ตาของแม่นมเฉินแดงก่ำ นางกระโจนเข้าหาคนกลุ่มนั้น “เจ้า ! ไอ้พวกบ่าวชั่วช้า นายท่านให้พวกเจ้ามาดูแลคุณหนูแต่พวกเจ้ากลับเอาตนเข้ามาอาศัยอยู่ในเรือนใหญ่ปล่อยให้คุณหนูกับข้าต้องไปซุกหัวอยู่ในโรงฟืนราวกับพวกเราเป็นสุนัขก็ไม่ปาน !”
ยามนี้อารมณ์แม่นมเฉินกระเจิดกระเจิงราวกับผู้ขาดสติ เพียงครู่ที่พ่อบ้านหลี่เผลอไผลกระจุกเส้นผมบนหนังศีรษะของมันก็ถูกนางกระชาก ลำคอถูกฉวยกำแน่นไว้ในมือ พ่อบ้านหลี่สะดุ้งตกใจส่งเสียงร้องโหยหวนด้วยความเจ็บปวด
แม่นมเฉินสู้ยิบตาไม่ยอมปล่อย นางพร้อมกอดคอตายร่วมกับพวกมัน หญิงชราฉวยกระชากเส้นผมทึ้งรั้งฉวยเอาทุกสิ่งที่พอจะไขว่คว้าติดมือมาได้พลางร้องตะโกนอย่างบ้าคลั่ง “หากคุณหนูต้องตายไป ข้าก็จะยอมตายไปพร้อมกับพวกเจ้าทุกคน !”
“แม้หากข้าสามารถกระเสือกกระสนกลับเรือนน่าหลานได้ ข้าจะรายงานความชั่วช้าของพวกเจ้าทุกคนต่อนายท่าน ข้าไม่เชื่อว่านายท่านน่าหลานจะไม่ใส่ใจความเป็นความตายของคุณหนู แม้หากว่าคุณหนูต้องตายไปจริง ๆ บ่าวชั่วช้าผู้ทรยศนายเยี่ยงพวกเจ้าจะต้องไม่ได้ตายดีแน่ !”
***จบตอน นายผู้ล่วงลับกับบ่าวรับใช้สุดโฉด***
คอมเม้นต์