หัตถ์เทวะธิดาพญายม – ตอนที่ 264 จงเชื่อมั่นในบุรุษของเจ้า

อ่านนิยายจีนเรื่อง หัตถ์เทวะธิดาพญายม ตอนที่ 264 อ่านนิยายจีน.COM | อ่านนิยายจีนแปลไทย.

 

ตอนที่ 264 จงเชื่อมั่นในบุรุษของเจ้า

 

หนานกงยวีรีบตรงเข้าร้อนร่างของเกอซีขึ้น เพื่อพานางหลบไปอยู่ด้านข้างอย่างอ่อนโยน ส่วนตนก็หันกลับไปเผชิญกับสิ่งที่กําลังรอท่าอยู่

 

แทบจะช่วงเดียวกันกับที่ร่างของหญิงสาวถูกช้อนอุ้มกระทั่งตัวลอยอยู่นั้น หญิงสาวหันกลับไปจึงเห็น นกยักษ์ปากเหล็กยืนจังก้าอยู่ด้านหลัง

 

ตลอดตัวของมันปกคลุมไปด้วยขนสีน้ําตาลอ่อน เมื่อปีกขนาดมหึมาทั้งสองกางออกล้วนสามารถครอบคลุมอาณาบริเวณในหุบเขาทั้งหมดได้ จะงอยปากที่แหลมคมสะท้อนวูบ วาบดั่งปลายกระบี่โค้งที่เมื่อขยับหันไปทางทิศใดก็สามารถข่มขวัญประหนึ่งมันพร้อมจะจ้วงแทงทลายทุกสิ่งที่ขวาง หน้า

 

การปรากฏร่างของนกยักษ์อย่างฉับพลันไร้สัญญาณเตือน เช่นนี้ประหนึ่งฉีกกฏแห่งสัญชาตญาณการรับรู้ใด ๆ กระทั่งจิตสัมผัสของเกอซียังมิอาจรับรู้การมีอยู่ของมัน เช่นนั้นหญิงสาวจึงไม่ทันเตรียมตัวป้องกัน

 

หากทว่า หนานกงยี่รับรู้ได้ก่อนหน้า ไม่เพียงแค่นั้น เขายังลงมือจัดการทุกสิ่งไว้เสร็จสรรพทั้งยังใช้ขุมพลังในกายตรงเข้าโอบล้อมป้องกันนางไว้

 

แย่ยิ่งนักที่จะงอยปากอันแหลมคมทรงพลังของเจ้านกยักษ์นั้นทิ่มแทงลงมายังไหล่ซ้ายของหนานกงยีช่วงที่เขาหันเข้าปกป้องนาง

 

หยาดโลหิตไหลทะลักกระจายไปทั่ว สายโลหิตอาบย้อมร่างของหนานกงยีกระทั่งกลายเป็นสีเลือด ยิงผนวกเข้ากับบาดแผลที่เกอซีจ้วงแทงไว้ก่อนหน้านี้ สถาพในยามนี้ของ เขาจึงน่าตระหนกยิ่งนัก

 

“หนานกงยี !”

 

เกอซีแผดเสียงลั่นด้วยความตื่นกลัว นางรีบวิ่งเข้าไปหาเขา

 

หากกลับพบว่าตนมิอาจเคลื่อนไหวใด ด้วยยามนี้ร่างของนางถูกโอบล้อมด้วยม่านพลังอันโปร่งใส

นางถูกกักกันอยู่ในม่านพลังอันว่างเปล่า

 

ขณะที่หนานกงยวขยับร่างของนางให้หลีกหลบนั้น เขาใช้พลังในกายตนสร้างม่านปราการที่มองไม่เห็นและม่านพลัง นั้นทั้งพิทักษ์รักษาทั้งกักกั้นนางไว้

 

เจ้าบ้านี้คิดทําเช่นไร ?

 

ครั้นเมื่อเกอซีเห็นชายหนุ่มถลาถอยไปหลายก้าว เพ ราะแรงดีหากทว่าบนมุมปากยังขยักยกรอยยิ้มอย่างเย้ยหยัน

 

ฝามือของเขาตรงเข้าจับจะงอยปากนกยักษ์ที่แข็งแกร่งประดุจแท่งเหล็ก เขารวมรวมแรงพลังทั้งหมดยกจะงอยปากส่งร่างของมันลอยขึ้นก่อนจะทุ่มอัดกระแทกใส่พื้นพสุธา

 

กลิ่นโลหิตเข้มข้นลอยฟังผ่านจมูกเกอซี เมื่อเพ่งดูหัวไหล่ซ้ายที่โชกเลือดกับทั้งรอยแผลบนเนินอกซ้ายที่ยังหลั่งโลหิตไม่หยุดหย่อนเช่นนั้น เกอซีเร่งร้องตะโกนอย่างไม่อาจฝืนทน “หนานกงยว คนบ้า ! รีบปล่อยข้าเดี๋ยวนี้ !”

 

แม้เป็นเพียงชั่วระยะเวลาอันสั้น ทว่านางรับรู้ได้ว่าพลังของหนานกงยวี่ยามนี้อ่อนแรงยิ่งนัก

 

เมื่อหวนนึกถึงขุมพลังงานอันอบอุ่นที่ตรงเข้าโอบล้อมพิทักษ์นางยามเมื่ออาณาจักรกําบังฉีกขาดจนเกิดคลื่นพลังวนที่เปี่ยมแรงดึงดูด กับใบหน้าที่ซีดเผือดของหนานกงย อื่นั่นแล้ว

 

นางย่อมตระหนักได้ดีว่าเขาสูญเสียพลังไปมากเพื่อสร้างขุมพลังปกป้องนางครั้งที่เกิดรอยปริแตกทั้งยังได้รับบาดเจ็ บอย่างสาหัสเช่นนี้ พลังความแข็งแกร่งในยามนี้ของเขาอาจสูญไปถึงสามในสิบส่วนจากภาวะปกติ

 

ทว่าเจ้านกยักษ์ตัวนั้นคือสัตว์เวทที่ดุร้าย ทั้งยังมีพลังมหาศาลน่าสะพรึงเจ้าสัตว์เวทตนนี้มีพลังเวทเหนือกว่างูหลามทองคําด้วยซ้ํา ด้วยพลังที่เหลืออยู่ของหนานกงยวในยามนี้จะรับมือ หรือเลี่ยงหลบโดยไม่ได้รับบาดเจ็บใดได้อย่างไร ?

 

เมื่ออัดกระแทกร่างเจ้านกยักษ์กับผืนดิน ร่างของหนานกงยวีซวนเซเล็กน้อย ใบหน้ายามนี้ยิ่งซีดเซียว

 

หากแต่เมื่อได้ยินเสียงของเกอซี เขากลับเปล่งเสียงหัวเราะอย่างภาคภูมิ “ซีเอ๋อ เจ้าต้องเชื่อมั่นในบุรุษของเจ้า”

 

เพียงสิ้นสุดคํากล่าว ฝ่ามือขวาของเขาก็กางออกกระบี่ด้ามเรียวยาวที่เปล่งฉายความมืดมัวพลันปรากฏขึ้นในมือ

 

อายกระแสความมืดมัวแผ่คลุ้งกระจายขึ้นจากเรือนกระบี่ท้องนภาในอาณาจักรกําบังซึ่งเคยมีสีฟ้ากระจ่างใสยามนึก ลับแปรเปลี่ยนเป็นมืดมิดติดตามด้วยขุมพลัง อันดําทะมึนที่ก่อตัวขึ้นตลอดด้ามกระบี่

 

ตามมาด้วยเสียงฟ้าแลบฟ้าร้อง สายฟ้าฟาดกระ หลมกรรโชกแรง มันคือขุมพลังที่ค่อย ๆ ก่อตัวขึ้นใน อาณาบริเวณโดยรอบหุบเขาแห่งนี้ ขุมพลังอันมหาศาลที่สามารถฉีกทลายผืนฟ้าและปฐพี

 

ยามนี้ เจ้านกยักษ์ที่ถูกอัดลงผืนดินกลับลุกขึ้นยืนอีกคราทว่าเพราะถูกอัดกระแทกขนที่ปกคลุมทั่วรางกายของมันยามนี้จึงฟูพองกระเซอะกระเซิงจะงอยปากสีน้ําตาลเข้ม ปรากฏร่องรอยโลหิต นัยน์ตาที่เกรี้ยวกราดทั้งคู่แดงกําดั่งโลหิต น่าสะพรึงกลัวยิ่งนัก

 

เจ้านกยักษ์ยกปีกกางกระพืออย่างแรงก่อกําเนิดคลื่นพายุใหญ่ที่โหมเอาฝุ่นทรายตลอดถึงอิฐหินทั้งหลายกระหน่ําเข้า หาหนานกงยวี

 

ภายในใจของเกอซียิ่งบีบรัดแน่น หากทว่าเพียงเอ่ยกล่าว กลับมิรู้สุ่มเสียงหลบหายไปเช่นไร ในลําคอมีเพียงเสียงแหบพร่ามันเครือ “หนานกงยวีปล่อยข้าเดียวนี้ ได้ยินไหม !”

 

ภายใต้ลมพายุ เส้นผมของชายหนุ่มปลิวกระจัดกระจาย อาภรณ์ตลอดทั่วร่างอาบย้อมไปด้วยสีแดงแห่งหยาดโลหิตโบกสะบัดไร้ทิศทางกระนั้นเขายังคงให้ความรู้สึกที่เหี้ยมหาญเปี่ยมเสน่ห์อย่างเหลือร้าย

 

***จบตอนจงเชื่อมั่นในบุรุษของเจ้า***

 

คอมเม้นต์

การแสดงความเห็นถูกปิด