หัตถ์เทวะธิดาพญายม – ตอนที่ 19 ละเว้นเจ้า? อาจพอเป็นไปได้……
ข้อมือที่จับกุมด้ามกริชของจางซานแหลกเหลวไม่เหลือชิ้นดี กระดูกข้อมือโผล่ยื่นออกมาจนแลดูน่าขนลุก
พวกที่เหลือต่างจ้องตาค้างตัวแข็งด้วยความหวาดผวา ใบหน้าของพวกมันแปรเปลี่ยนเป็นซีดเผือดไร้สี
เกอซีสะบัดปลายแส้ขึ้นอีกครา เสียงร้องโหยหวนดังลั่นก่อนที่ร่างของพวกมันจะร่วงหล่นลงกระแทกแผ่นพื้นธรณีอย่างรุนแรง
ยามเมื่อเกอซีก้มตาแลดูพวกมันนอนกลิ้งเกลือกไปกับฝุ่นพื้นด้วยความเจ็บปวดทรมาน มุมปากของนางยกยิ้มขึ้นด้วยความเหยียดหยัน
เจ้าพวกฝีมือระดับแมวพิการสามขาเยี่ยงพวกมันไม่อาจเทียบได้กับเหล่าอารักขาของจูจงป้า แท่งเข็มเงินไร้เงาไม่จำเป็นต้องถูกควักออกมาใช้เลยด้วยซ้ำ
“มิใช่พวกเจ้าหรือที่กล่าวว่าต้องการสั่งสอนข้าให้หลาบจำ ?” ด้ามแส้ถูกยกสูงขึ้นก่อนมันจะถูกสะบัดใส่พื้นก่อให้เกิดประกายระยับแปลบปลาบไปทั่ว “มิใช่พวกเจ้าหรือที่กล่าวว่าข้าเป็นคนพิการไร้สิ้นพลังปราณมิอาจฝึกฝนวรยุทธสมควรจบชีวิตลงได้แล้ว ? ดูสิว่าที่สุดแล้วผู้ใดสมควรถึงความสิ้นสูญแห่งชีวิตยิ่งไปกว่ากัน !”
ริ้วแส้ถูกกรีดสะบัดเข้าเชือดเฉือนร่างของจางซานกระทั่งมันต้องส่งเสียงร้องโหยหวนโอดครวญ “เจ้ากล้าเหิมเกริมต่อนายผู้ไร้ค่าของตนเช่นนั้นรึ ? ผู้ใดมอบความขวัญกล้าใจสุนัขให้แก่พวกเจ้ากัน ?”
ราวกับจับจ้องแลดูหมู่มดปลวกที่พากันสูญสิ้นชีวิต เกอซีเหลือบแลพวกมันด้วยอาการเหยียดหยัน ประกายตาสีม่วงทอแสงวูบวาบฉูดฉาดออกมาจากนัยน์ตาสีดำสนิทขับดวงตาคู่นั้นให้เจิดจ้ามีชีวิตชีวา
คนทั้งหกตัวสั่นงันงกอยู่กับพื้นด้วยความหวาดกลัว เส้นขุมขนทั่วร่างของพวกมันตั้งขึ้นชูชันอย่างที่พวกมันไม่กล้าแม้จะส่งเสียงร้องโอดครวญ
จางซานพอจะเคลื่อนไหวขยับกายได้ก่อนผู้ใด มันใช้ฝ่ามืออีกข้างที่ไม่ได้รับบาดเจ็บพยุงร่างคลานเข่าเข้ามาหาปลายเท้าของเกอซีด้วยสภาพน่าอนาถ “คุณหนู พวกเรารู้ผิดแล้วขอรับ ! คุณหนูโปรดเมตตาพวกเราด้วยเถิดขอรับ !”
“คุณหนู พวกเราทำร้ายคุณหนูก็เป็นเพราะคำสั่งของพ่อบ้านหลี่เท่านั้นจริง ๆ ขอรับ ! ทว่าเรื่องที่คุณหนูถูกขายออกไปนั้นพวกเราไม่รู้จริง ๆ เพียงเคยได้ยินพวกมันคุยกันเท่านั้น พวกเราไม่ได้ตั้งใจจริง ๆ ขอรับ ! คุณหนูเป็นผู้เปี่ยมล้นด้วยเมตตา โปรดละเว้นพวกเราด้วยเถิดขอรับ !”
“เป็นเรื่องจริงขอรับ ! เป็นเช่นนั้นจริง ๆ ! ทุกอย่างที่เกิดขึ้นเป็นฝีมือของพ่อบ้านหลี่กับหลี่ซีหลานของมันเท่านั้นจริง ๆ ขอรับ พวกเราเป็นผู้บริสุทธิ์นะขอรับ !”
เกอซีมองดูการแสดงตบตาของพวกมันด้วยความขบขัน นางปล่อยให้พวกมันคุกเข่าอยู่เช่นนั้นพักใหญ่กว่าจะค่อย ๆ ปล่อยน้ำเสียงออกมาอย่างเฉื่อยเนือย
“ให้ข้าละเว้นพวกเจ้านั้นอาจเป็นได้ ทว่าข้าจะรู้ได้อย่างไรว่าพวกเจ้าจะไม่สุมหัวกันทำร้ายข้าอีกในวันหน้า ? พวกเจ้าอาจหาทางนำข้าออกขายสู่ตลาดอีกครา ! !”
จางซานนิ่งอึ้งตาค้างด้วยความโง่งมก่อนที่มันจะรู้สึกตัวและรีบฉวยเอามือข้างที่ได้รับบาดเจ็บยกขึ้นชี้ตรงไปบนท้องฟ้าเพื่อเอ่ยถ้อยสัจจะวาจาออกมา “ข้า ! จางซาน ! ขอสาบานว่าจากนี้และตลอดไปข้าจะคอยติดตามรับใช้คุณหนูอย่างเต็มกำลังความสามารถ หากข้าผิดสัตย์ปฏิญาณขอให้สายฟ้าสวรรค์ผ่าลงทัณฑ์ตัวข้า !”
พวกที่เหลืออีกห้าคนรีบกระทำตามอย่างจางซานท่านผู้นำทันที พวกมันฝืนทนต่อความเจ็บปวดรีบกุลีกุจอแทรกกายคลานเข่าเข้าไปหาเกอซีให้ได้เป็นคนแรกด้วยเกรงจะต้องกลายเป็นผู้เอ่ยกล่าวสัจจะวาจาเป็นคนสุดท้าย
แม่นมเฉินยืนตะลึงนิ่งค้างไปกับภาพเหตุการณ์ที่ปรากฏอยู่เบื้องหน้าสายตา นางแทบไม่เชื่อสายตาเลยว่าคุณหนูจะเปลี่ยนเป็นสตรีผู้เหี้ยมหาญได้ถึงเพียงนี้ ทั้งหมดนี้เกิดขึ้นในช่วงเวลาแค่เพียงหนึ่งวันหลังการหายตัวไปเท่านั้น
ภายในอุ้งมือของเกอซี คือเหล่าผู้มีพลังฝีมือระดับปราณขั้นเมล็ดพันธุ์เพาะบ่มถึงหกนาย หากแต่พวกมันกลับไร้สามารถที่จะหาทางต่อกรกับนาง
เเม้จะได้ยินสัจจะวาจาเอ่ยกล่าวสาบานที่พากันพรั่งพรูออกมาจากปากของเหล่าบริวารทั้งหก แม่นมเฉินกลับยังไม่อาจรู้สึกคลายใจลงได้ จะมีผู้ใดรู้จักความชั่วช้าของเจ้าคนพวกนี้มากเท่านางอีก มีหรือที่พวกมันจะจริงจังต่อคำสาบาน มีหรือที่พวกมันจะมอบความจงรักภักดี ยอมอุทิศกายใจให้แก่คุณหนู นิสัยของคุณหนูนั้นเป็นผู้มีจิตใจดีเปี่ยมไปด้วยเมตตา เพียงทว่าสำหรับนางแล้ว นางจะไม่มีวันเชื่อใจคนพวกนั้นเด็ดขาด !
แม่นมเฉินรู้สึกกระวนกระวายใจนัก นางใคร่ปรารถนาจะเตือนคุณหนู ทว่าน้ำเสียงที่เหยียดหยันของเกอซีกลับถูกเปล่งออกมาอย่างไม่รีบร้อน “ดีแล้ว เมื่อพวกเจ้าจริงใจ ข้าก็จะมอบโอกาสให้พวกเจ้าได้พลิกไม้ใบใหม่”
เมื่อคนทั้งหกได้ยินเช่นนั้นต่างพากันปลาบปลื้มดีใจ ทว่ายามที่พวกมันหลุบใบหน้าลง ประกายตาแห่งความโหดเหี้ยมกลับฉายพาดผ่านเข้ามา
ฮึ่ม ! หญิงน่ารังเกียจผู้นี้ถึงกับขวัญกล้า กล้าลงทัณฑ์พวกมัน ! รอให้พวกมันกลับไปขอความช่วยเหลือที่เรือนใหญ่น่าหลานก่อนเถิด ดูสิว่านางจะยังลำพองอยู่ได้อีกหรือไม่ เมื่อถึงตอนนั้นหญิงน่ารังเกียจผู้นี้จะต้องได้รับบทเรียนที่สาสม กระดูกทั่วทุกอณูในร่างของนางจะต้องแหลกเหลว แขนขาพิการไม่อาจขยับเคลื่อน นางต้องได้ลิ้มรสการมีชีวิตอยู่ที่ต้องร่ำร้องเรียกหาความตาย !
“คุณหนูท่านอย่าไปเชื่อพวกมันนะเจ้าคะ— !” แม่นมเฉินโอดครวญ
***จบตอน ละเว้นเจ้า ? อาจพอเป็นไปได้…***
คอมเม้นต์