หัตถ์เทวะธิดาพญายม – ตอนที่ 129 โลหิตหยินเยือกแข็ง

อ่านนิยายจีนเรื่อง หัตถ์เทวะธิดาพญายม ตอนที่ 129 อ่านนิยายจีน.COM | อ่านนิยายจีนแปลไทย.

จูเฉวี่ยจับจ้องภาพเบื้องหน้าด้วยความรู้สึกเสียดแทงใจ สุ้มเสียงของนางบาดทะลวงเข้าไปในรูหูของทุกคน “ชิงหลง เจ้าคิดจะทำสิ่งใด ? เจ้าจะปล่อยให้หญิงโสโครกผู้นั้นทำให้นายท่านต้องถึงแก่ความตายกระนั้นหรือ ? หลีกไปเสีย ข้าจะเข้าไปช่วยนายท่าน !”

 

สีหน้าอีกฝ่ายกลับยังคงความนิ่งสงบไร้อารมณ์ความรู้สึก เขาเพียงเอ่ยขึ้นเสียงเบา “เมื่อเป็นคำสั่งของนายท่านไม่ว่าสิ่งนั้นจะถูกหรือผิดก็ตาม ข้าจะไม่มีวันฝ่าฝืน”

 

แม้ว่าจูเฉวี่ยจะทั้งแดกดัน แผดเสียงร้อง หรือเอะอะโวยวายสักเพียงไร ชิงหลงกลับยังคงนิ่งเฉยอยู่ดังเดิมไม่แปรเปลี่ยน พลังฝีมือของคนผู้นี้สูงส่งล้ำเลิศที่สุดในบรรดากลุ่มราชองครักษ์คนสนิททั้งสี่ เช่นนั้นแม้พวกเขาจะเป็นผู้มีพลังฝีมือระดับปฐพีสะท้านสะเทือน หรือแม้จะให้จูเฉวี่ยและไป่หูร่วมมือกันก็ยังไม่อาจมองเห็นชัยชนะ เมื่อเป็นเช่นนี้ กลุ่มผู้ที่รั้งรออยู่ด้านหน้าล้วนอับจนสิ้นหนทาง

 

****

 

ภายในห้องนอน หนานกงยวี่ค่อย ๆ ประคองร่างของเกอซีลงนอนเหยียดยาวบนเตียง

 

เขาคือผู้รักความสะอาดเหนืออื่นใด นอกไปเสียจากหนุ่มรับใช้ผู้ได้รับอนุญาตให้เข้ามาเก็บกวาดทำความสะอาดแล้วกลับไม่มีผู้ใดได้รับอนุญาตให้เข้ามาในสถานที่นี้อีกเลย สำหรับเขาแล้ว เตียงนอนของเขา ย่อมเป็นของใช้ส่วนตัวของเขาแต่เพียงผู้เดียวเท่านั้น และไม่อาจมีผู้ใดได้รับอนุญาตให้แตะต้องมันโดยเด็ดขาด

 

หากทว่ายามนี้ ยามที่เขากำลังจับจ้องมองร่างชุ่มโชกโลหิตของเกอซีที่หลั่งรินลงย้อมผืนผ้าบนเตียงของตนจนแดงฉาน ความรู้สึกรังเกียจกลับไม่ปรากฏขึ้นแม้เพียงเล็กน้อย ความรู้สึกทั้งหมดยามนี้ คงหลงเหลือแต่เพียงความหวาดวิตก หวั่นกลัว กับความรู้สึกที่แสนเจ็บปวดทรมานจิตใจ

 

ซีเอ๋อของเขาสมควรจะดื้อด้าน เย่อหยิ่ง เย็นชา นางไม่สมควรเป็นดังเช่นสภาพที่เขากำลังแลเห็นอยู่ในยามนี้ สภาพอันอ่อนระทวยเฉียดใกล้ต่อความตาย ประหนึ่งดั่งว่านางพร้อมจะเลือนสลายหายไปจากสายตาได้ทุกเมื่อ

 

หนานกงยวี่ค่อย ๆ ปลดอาภรณ์ตัวนอกของเกอซีออกด้วยความทะนุถนอมอย่างเบามือ ก่อนจะเหยียดมือหยิบโอสถที่ชิงหลงเตรียมไว้ให้เมื่อครู่ก่อนโปรยลงอย่างพิถีพิถันตามริ้วรอยบาดแผลที่ทิ้งไว้อย่างน่ากลัว

 

โอสถที่ถูกเก็บรักษาไว้ภายในตำหนักราชันมัจจุราชทุกชนิดล้วนเป็นโอสถซึ่งมีคุณสมบัติชั้นยอด เช่นนั้นแล้ว ทันทีที่โอสถแตะต้องสัมผัสเข้ากับผิวเนื้อ ไม่ว่าริ้วรอยอาการบาดเจ็บนั้นจะได้รับมาจากคมกระบี่ หรือแม้กระทั่งถูกกระหน่ำด้วยสายฟ้า โอสถชนิดนี้ย่อมสามารถส่งผลในการเยียวยารักษาได้อย่างรวดเร็วกระทั่งสามารถมองเห็นความเปลี่ยนแปลงได้อย่างชัดเจนด้วยตาเปล่า

 

หากเพียงทว่า แม้เมื่ออาการบาดเจ็บทั้งปวงจะได้รับการเยียวยาเรียบร้อยแล้ว ลมหายใจของเกอซีกลับยังคงอ่อนระทวยบนสีหน้าที่ซีดเผือดไร้ปฏิกิริยาตอบสนองต่อสิ่งใด………

 

หนานกงยวี่ยกเรือนร่างอันเย็นยะเยียบราวน้ำเข็งขึ้นโอบตระกองกอดด้วยความรู้สึกหวาดหวั่นที่อึดอัดคับแน่นอยู่ในอก

 

ตั้งแต่ลืมตาขึ้นดูโลก นี่คือครั้งแรกที่เขาได้เรียนรู้ถึงความรู้สึกที่เรียกว่า หวาดกลัว ตื่นผวา……หวาดกลัวอย่างเหลือแสนว่าสตรีในอ้อมกอดจะจากเขาไป หวาดกลัวว่านับแต่นี้ไป เขาจะไม่มีโอกาสได้เห็น ได้แตะต้องสัมผัสนางอีกแล้ว……

 

ชายหนุ่มใคร่ครวญอยู่ครู่หนึ่ง ที่สุดแล้วเขาจึงตัดสินใจอย่างเด็ดขาดแน่วแน่ กล่องหยกชิ้นเรียบถูกดึงขึ้นมาจากธำมรงค์มิติที่สวมใส่อยู่บนปลายนิ้ว

 

ทันทีที่กล่องหยกถูกเปิดออกพลังเพลิงผลาญที่แผดเผาพุ่งกระจายถาโถมออกมาอย่างเข้มข้น มันคือผลหยวนหยางที่เกอซีมอบให้หนานกงยวี่เมื่อคราวก่อน

 

หากเมื่อนำผลหยวนหยางในยามนี้ไปเปรียบเทียบกับผลหยวนหยางเมื่อเดือนก่อนที่หนานกงยวี่รับมา ผลหยวนหยางในครานี้ยังคงความร้อนระอุดังเดิม ทว่าแรงเพลิงผลาญของมันกลับอ่อนพลังลงไป ทั้งยังแฝงอายแห่งพลังงานอันพิสุทธิ์ ไม่เพียงแค่นั้น พลังเจือปนแฝงอันสามารถเป็นอันตรายต่อร่างกายของมนุษย์ถูกขับสลายหายไปสิ้น

 

ทั้งหมดนั้นย่อมเป็นผลจากกระบวนการที่หนานกงยวี่ใช้พลังอายเย็นในกายของตนเองย่อยสลายพลังความร้อนทั้งมวลมาตลอดขวบเดือน กว่าจะสามารถทำให้ผลหยวนหยางเย็นลงได้ถึงระดับนี้

 

เพียงทว่าช่างโชคร้ายยิ่งนัก ที่แม้ผลหยวนหยางจะได้รับการขับอายร้อน และปรับคุณสมบัติได้อย่างยอดเยี่ยมถึงเพียงนี้แล้ว มันกลับยังคงมีคุณสมบัติไม่เพียงพอแก่ระดับที่จะใช้ในการเยียวยารักษาครานี้ สืบเนื่องด้วยร่างกายของของเกอซียังคงอยู่ในสภาพที่อ่อนแอยิ่งนัก ทั้งนางยังเป็นเพียงคนธรรมดาสามัญที่ไร้สิ้นกระแสพลังปราณ เช่นนั้นแล้ว ทันทีที่นางกินผลหยวนหยางเข้าไป อายพลังความร้อนที่คงเหลือจะแผดเผาทำลายร่างของนางจนสิ้นสูญ เช่นนั้น จำต้องอาศัยสิ่งอันอุดมไปด้วยพลังหยินเป็นสื่อนำทาง ผ่องถ่ายอายความร้อนบางส่วนออกไปอีก จึงสามารถให้เกอซีกินผลหยวนหยางติดตามลงไปได้

 

หนานกงยวี่ควบกลั่นพลังปราณโอบหุ้มล้อมผลหยวนหยางไว้ ก่อนจะเผยอเรียวคางของอีกฝ่าย ค่อย ๆนำผลหยวนหยางส่งเข้าปากไป

 

ทันทีที่ผลหยวนหยางถูกส่งผ่านลงไปในร่าง เสียงครางของเกอซีก็ดังขึ้น ดวงหน้าที่ซีดเผือดพลันแปรเปลี่ยนเป็นแดงก่ำดั่งเพลิงเผา

 

เปลวความร้อนระอุลุกโพลงโหมกระพือขึ้นมาจากจุดตันเถียน แรงเพลิงเผาพวยพุ่งทะลุทะลวงเส้นชีพจรลมปราณทุกจุดเนื้อผิวหนังทุกส่วน มันแผดเผาร้อนทำลายประดุจดั่งทั่วทั้งร่างจะมอดไหม้คงเหลือไว้แค่เพียงเศษถ่านเถ้า เสี้ยวนาทีนั้นเองหนานกงยวี่ก้มศีรษะลงประทับรอยจุมพิตอย่างล้ำลึกลงบนเรียวปากแดงระเรื่อ

 

ริมฝีปากตลอดไปถึงไรฟันสอดประสานรับรวมร่วมไปกับของเหลวที่ประสมประสานร่วมเข้าในกาย โลหิตหยินอายเย็นยะเยียบค่อย ๆ ไหลหลั่งถ่ายเทลงไปตลอดทั่วถึงชั้นกระดูกที่แทบจะโปร่งใสภายในกายของเกอซีทีละน้อยอย่างละเมียดละไมผ่านการสัมผัสจากริมฝีปากของพวกเขาทั้งคู่

 

*****

 

ภายใต้สติสัมปชัญญะอันเลือนลาง หญิงสาวสามารถรับรู้ได้แค่เพียงความร้อนระอุที่แผดเผาไปตลอดทั่วทั้งเรือนกาย

 

เส้นโลหิตในกายทุกส่วน ชีพจรเดินลมปราณทุกเส้นปานประหนึ่งถูกราดรดไปด้วยน้ำมันเดือดอันร้อนระอุ

 

 

***จบตอน โลหิตหยินเยือกแข็ง***

คอมเม้นต์

การแสดงความเห็นถูกปิด