หัตถ์เทวะธิดาพญายม – ตอนที่ 167 สูญเสียหาง
ภายในดวงใจน้อย ๆ ของเซี่ยวหลีย่อมตระหนักดีว่าในหมู่มวลมนุษย์นั้นยังคงประกอบด้วยผู้ที่มีจิตใจงดงามหลงเหลือปะปน ทว่ามนุษย์โดยส่วนใหญ่ล้วนเลวร้าย ยิ่งโดยเฉพาะเมื่อพวกเขาได้ล่วงรู้ความลับในตัวนาง พวกเขาจะหมดความสามารถในการยับยั้งชั่งใจตนเอง ทว่าตั้งแต่นางได้ติดตามคุณหนู นางกลับรู้สึกชื่นชอบในตัวคุณหนูยิ่งนัก ชื่นชอบผู้คนในเรือนน้อยที่เสมือนดั่งครอบครัวนี้ยิ่งนัก เช่นนั้นเมื่อคืนนางจึงรวบรวมความกล้า สร้างม่านปราการสุญตาขึ้นปกป้องทุกคนในเรือนหลังน้อยโดยยอมสุ่มเสี่ยงต่อการถูกเปิดเผยความลับ
วิชาม่านปราการสุญตานับเป็นวิชาสำหรับผู้มีพลังปราณขั้นย้ายเคลื่อนจิตวิญญาณเท่านั้น เช่นนั้นพลังฝีมือของเซี่ยวหลีในยามนี้จึงสามารถรักษาม่านปราการไว้ได้แค่เพียงช่วงระยะเวลาสั้น ๆ เท่านั้น ครั้นเมื่อเกินเลยไปกว่าขอบขีดจำกัดแห่งพลังความสามารถ นางจำต้องยอมสละหางซึ่งตนสู้อุตส่าห์เฝ้าเพียรฝึกฝนเพื่อรวบรวมขึ้นด้วยความยากลำบากออกข้างหนึ่งเพื่อมุ่งหมายรักษาม่านปราการให้คงอยู่ ยามนี้เซี่ยวหลีจึงไม่อาจคงสภาพร่างของมนุษย์ได้อีกต่อไป สืบเนื่องมาจากเหตุนี้เองที่นางเอาแต่หมกตนอยู่แต่เพียงภายในห้องด้วยความหวาดกลัว กลัวว่าเมื่อใดที่คุณหนู และคนอื่น ๆ ล่วงรู้ฐานะที่แท้จริงของตัวนาง นางจะถูกลากตัวออกไปเร่ขายให้ผู้อื่น
ทว่าสิ่งที่ปรากฏขึ้นในความเป็นจริงนั้นคือ คุณหนู และกลุ่มมนุษย์ที่อยู่ร่วมกันในที่นี้ล้วนแตกต่างไปจากทุกผู้คน เซี่ยวหลีกับพี่ชายนับว่าไม่ได้มองคนผิดไปเลยอย่างแท้จริง
เกอซีชักเริ่มรู้สึกปวดหัวเมื่อเห็นแม่หนูตัวน้อยกระโจนเข้าหาอ้อมอกของนางพลางร่ำไห้สะอึกสะอื้นเสียใหญ่โตจนน้ำมูกน้ำตาไหลเปรอะเปื้อนเต็มเสื้อผ้านางไปหมด เห็นเช่นนั้นเกอซีก็แทบอยากจะกระโดดถีบอีกฝ่ายให้กระเด็นออกไปไกล
หนึ่งคนก็แล้ว สองคนก็แล้ว ไยคนรอบตัวชอบสร้างปัญหาให้นางอยู่ร่ำไป ?
ครั้นเมื่อได้เห็นดวงตาแดงช้ำที่บวมเป่งกับร่างอันอ่อนแอเปราะบางเช่นนี้จิตใจของเกอซีก็แทบจะละลาย
วิกฤตที่ผ่านพ้นมาเมื่อคืน หากไม่ได้เซี่ยวหลี เรือนหลังน้อยแห่งนี้คงถูกทำลายพังพินาศไปแล้ว และหากเป็นเช่นนั้นเกอซีคงจะชอกช้ำใจยิ่งนัก เซี่ยวหลีทุ่มเทแรงพลังทั้งหมดจนเกินขอบเขตจำกัดของพลังปราณเช่นนี้ย่อมได้รับบาดเจ็บอยู่ไม่น้อย
อา…. เมื่ออยู่ต่อหน้าแม่หนูน้อยที่ทั้งน่ารักน่าชังทั้งน่าเวทนาเช่นนี้ เกอซีจึงอดมิได้ที่จะช่วยปลอบประโลมจิตใจเช็ดคราบน้ำตา และปล่อยให้นางได้ปลดปล่อยน้ำตาออกมาให้เต็มที่
เพียงเมื่อได้เห็นเซี่ยวหลีเริ่มหยุดร่ำไห้บ้างแล้ว เกอซีจึงขยับร่างของนางออกมา “เป็นอย่างไร ร้องไห้พอแล้วหรือ ? ไหน ให้ข้าดูอาการของเจ้าสิ !”
เซี่ยวหลียกมือขึ้นปาดคราบน้ำตาที่ไหลทิ้งเป็นทางยาวบนดวงหน้าที่แดงก่ำ ปลายหางสีขาวประกายเงินสะบัดไปมาอยู่ด้านหลังพร้อมน้ำเสียงอู้อี้งึมงำ “คุณหนูไม่ต้องห่วง ข้าไม่เป็นไร เพียงทว่า…..เพียงแค่เสียหางไปข้างหนึ่งเท่านั้น”
เพียงนี้แล้ว นางยังกล่าวว่าเสียหางไปข้างหนึ่งหาใช่เรื่องสำคัญไม่กระนั้นหรือ ? เป็นที่ทราบกันดีว่าปีศาจจิ้งจอกเก้าหางคือสัตว์เหนือธรรมชาติ ทั้งปีศาจจิ้งจอกที่มีพลังขั้นสูงยิ่งนับได้ว่าเป็นความท้าทายสวรรค์ การสูญเสียหางไปข้างหนึ่งย่อมหมายถึงการที่นางไม่อาจดำรงสภาพร่างแห่งการเป็นมนุษย์ได้อีกต่อไป สิ่งนี้ย่อมนับได้ว่าเป็นความสูญเสียอันใหญ่ยิ่งสำหรับเซี่ยวหลี
แววตาของเกอซีอ่อนโยนยิ่งนักยามเมื่อนางเหยียดยื่นอุ้งมือออกสัมผัสใบหน้าของเด็กน้อยพลางเอ่ยกล่าวด้วยน้ำเสียงที่นุ่มหู “จะอย่างไรก็ตามที ครานี้เจ้าช่วยพวกเราทุกคนในเรือนแห่งนี้ ข้าติดค้างเจ้ายิ่งนัก ขอบใจมากเซี่ยวหลี !”
ใบหน้าของเซี่ยวหลียิ่งแดงก่ำขณะในแววตานั้นสุกใสราวหมู่ดวงดารายามค่ำคืน นางกอดแขนเกอซีแย้มยิ้มอย่างเอียงอายพลางกล่าวคำ “คุณหนู ข้ามีความสุขยิ่งนักที่ได้พบเจอกับคุณหนู มีความสุขที่ได้อยู่ข้างกายคุณหนู ใต้หล้านี้ไม่มีปีศาจจิ้งจอกเก้าหางตนใดจะมีวาสนาเช่นข้าอีกแล้ว—–”
เส้นเลือดดำบนหน้าผากเกอซีปรากฏเด่นชัดเจน เด็กโง่ ! รู้จักไปจดจำคำหวานปานน้ำผึ้งพวกนี้มาตั้งแต่เมื่อไรกัน !
เกอซีเบ้ปากแอบซุกซ่อนแววตาที่ขบขันของตนไว้พลางเอื้อนเอ่ย “พลังที่สูญเสียไปของเจ้านั้นอย่าได้กังวล ข้าจะหาทางช่วยให้พลังทั้งหมดฟื้นคืนกลับมาเอง ต่อไปข้าจะหาทางช่วยให้พลังเวทของเจ้ารุดหน้ายิ่งขึ้นไปกว่านี้”
กล่าวจบ ผู้เป็นนายก็หยิบขวดทิพย์ธาราออกมาจากมิติเวทพร้อมกล่าวอย่างแผ่วเบา “ทิพย์ธารานี้ข้าปรุงขึ้นเอง มันจะช่วยหนุนเสริมพลังให้ตัวเจ้าได้ เพียงดื่มน้ำนี้แล้วเจ้าจะสามารถคืนสภาพร่างเป็นมนุษย์ได้อีกครา”
สิ่งซึ่งสามารถหนุนเสริมพลังปราณได้นั้นจะมีสิ่งใดยอดเยี่ยมยิ่งไปกว่าทิพย์ธาราในมิติเวทของนางอีกเล่า เสียดายยิ่งที่นางไม่อาจเผยให้ผู้ใดล่วงรู้ถึงมิติเวทที่มีในตน อีกทั้งขุมพลังที่แฝงอยู่ในทิพย์ธาราแห่งความสันโดษชั้นเก้านั้นเล่าก็ช่างรุนแรงเข้มชัดกระทั่งเป็นการยากยิ่งนักที่จะปกปิดไว้ได้
เช่นนั้นสิ่งที่หนานกงยวี่เอ่ยกล่าวย่อมเป็นเสมือนคำเตือนให้ต้องยิ่งระแวดระวังอย่างหนักหนา ในครานี้เกอซีจึงหยดโอสถเข้มข้นซึ่งอุดมไปด้วยกระแสพลังปราณลงในทิพย์ธารา และนั่นคือน้ำที่อยู่ในมือเซี่ยวหลีในยามนี้
*** จบตอน สูญเสียหาง***
คอมเม้นต์