หัตถ์เทวะธิดาพญายม – ตอนที่ 207 สู่เทือกเขาฉาง
จางซานยืนนิ่งอึ้งด้วยอาการงุนงงเมื่อได้ยินสิ่งที่รองผู้ดูแลโรงโอสถหลวงทาบทามมาด้วยอาการสุภาพ ชายฉกรรจ์รู้สึกวิงเวียนอยู่ในหัวปานประดุจกำลังแหวกว่ายอยู่ในอากาศ
ที่สุดแล้วคุณหนูคือผู้ครอบครองพรสวรรค์อันน่าตื่นตระหนกใดกัน ? !
หากโอสถชุดนี้ถูกจำหน่ายออกสู่ท้องตลาด ด้วยคุณสมบัติ ด้วยผลการประเมินคุณภาพเช่นนี้ หากเรื่องนี้แพร่งพรายออกไปย่อมสามารถพลิกผันบรรดาผู้ฝึกยุทธฝีมือต่ำทั้งหลายทั่วทั้งอาณาจักรจินหลิงได้ประดุจพลิกฝ่ามือมิใช่หรือ ?
ขณะที่จางซานกำลังเจรจาต่อรองทำสัญญาอยู่นั้น เกอซีก็กำลังยืนอยู่บนเนินเขาฝั่งตะวันออกของเทือกเขาฉาง นางสามารถแลเห็นม่านหมอกสีเทาครึ้มที่ปกคลุมยอดเขาฉางได้อย่างชัดเจน ขณะกำลังเพ่งมองดูอยู่นั้น ในหัวของหญิงสาวเริ่มประมวลเรื่องราวต่าง ๆ ขึ้นทีละน้อย
หากจะกล่าวถึงเทือกเขาฉางแห่งนี้ นางเคยลองค้นหาเรื่องราวเกี่ยวกับสถานที่แห่งนี้ในตำราโบราณของทวีปหมีหลัว
ตามตำนานกล่าวว่า เมื่อหลายพันปีก่อน เทือกเขาฉางแห่งนี้อุดมไปด้วยขุมพลังอันมหาศาล หากทว่าเพียงชั่วข้ามคืน สิ่งมีชีวิตทุกชนิดที่อยู่อาศัย ณ เทือกเขาฉางกลับตายเกลื่อนอย่างกระทันหัน
ภายหลังต่อมา แม้หากผู้ฝึกยุทธใดพยายามลุยลึกเข้าไปด้านในเทือกเขาฉางแห่งนี้ คนผู้นั้นล้วนไม่เคยปรากฏกายกลับคืนมาได้อีก กระทั่งเศษซากกระดูกก็ยังไม่เหลือให้ผู้ใดได้พบเห็น
วันคืนล่วงไป หมู่พรรณพฤกษาเวททั้งหลายที่เคยเจริญเติบโตอยู่ ณ บริเวณแถบเทือกเขาแห่งนี้เริ่มสูญสลายหายสิ้นไปพร้อมกันกับเหล่าสัตว์น้อยใหญ่ทั้งปวง เพียงสิ่งเดียวที่คงเหลือทิ้งค้างไว้นั้นคือ ขุมพลังอันมืดมนอนธการ ดินแดนอันเสียงร้องคำรามของหมู่สัตว์เวทด้านมืดมักส่งเสียงก้องกังวานขึ้นเป็นระยะ
บ้างกล่าวกันว่าเทือกเขาฉางแห่งนี้ต้องคำสาป แม้นหากผู้ใดหาญกล้าเหยียบย่างเข้าไปใกล้ล้วนต้องคำสาปสิ้นทั้งนั้น คนเหล่านั้นย่อมต้องเผชิญต่อความทุกข์ทรมานอย่างแสนสาหัส และสิ้นสุดลงที่การสิ้นใจในลักษณะที่ผิดปกติวิสัย
เกอซีย่อมไม่ใช่ผู้ที่เชื่อเรื่องคำสาปต่าง ๆ เหล่านั้นอย่างแน่แท้ หากทว่าเมื่อคลื่นพลังที่ปกคลุมอาณาบริเวณแห่งนี้เกิดภาวะผันผวนขึ้นเช่นนี้ย่อมทำให้นางรู้สึกผิดสังเกต
หากทว่าสิ่งที่แปลกอย่างที่สุดเหนืออื่นใดนั้นคือ หญิงสาวกลับรู้สึกคล้ายมีบางสิ่งในเทือกเขาฉางแห่งนี้กำลังร้องเรียกหานางอยู่ ยิ่งนานวัน ความรู้สึกนี้กลับยิ่งเด่นชัด
ยิ่งเมื่อนึกถึงเหตุการณ์เมื่อไม่นานมานี้ ที่จู่ ๆ ขุมพลังอันมหาศาลก็ระเบิดออกมาจากเทือกเขาฉางติดตามมาด้วยฝูงสัตว์เวทที่วิ่งแตกตื่นลงมาจากเทือกเขามุ่งหน้ามาหาเรือนของนาง ก็ยิ่งทำให้คิ้วทั้งสองของเกอซีขมวดเข้าหากันแน่น นับว่าโชคดีที่เซี่ยวหลีใช้พลังป้องกันช่วยเหลือไว้ได้ ทุกคนในเรือนจึงรอดพ้นหายนะในครานั้นมาได้ หากแต่ถ้าเหตุการณ์เกิดขึ้นซ้ำรอยเดิมอีก ทุกคนย่อมต้องตกอยู่ในอันตราย
มองดูพวกซีเจี่ยที่กำลังอยู่ในระหว่างการฝึกฝนในหุบเขา หันกลับมาหากลุ่มควันที่ม้วนตัวขึ้นจากปล่องไฟในเรือนหลังน้อย แล้วน้ำเสียงเบา ๆ ของนางก็เปล่งออกมาในทันที “ต้านต้าน เราจะไปสำรวจเทือกเขาฉางกัน”
เพียงได้ยิน นัยน์ตาของต้านต้านที่ยืนอยู่ด้านข้างก็ลุกวาวด้วยความยินดี น้ำเสียงเริงร่าตอบกลับอย่างชื่นบาน “ได้เลย ! ต้านต้านอยากออกผจญภัยกับท่านแม่ที่สุด—”
เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในแถบเทือกเขาฉางเมื่อไม่กี่วันมานี้ทำให้หญิงสาวอดนึกห่วงทุกคนขึ้นมาไม่ได้
บรรยากาศรอบเนินเขาผันแปรไม่คงที่จนไม่อาจรู้สึกได้ว่าจะมีที่ใดสงบเงียบ และปลอดภัย หากทว่ากลับกันเมื่อดูคล้ายผู้ทรงอิทธิพลในอาณาจักรจินหลิงต่างพากันพร้อมต่อสู้ยื้อแย่งอาณาจักรกำบัง ที่สุดแล้วสถานที่แห่งนี้ย่อมต้องกลายเป็นลานฆ่าสัตว์
แม้นางจะชอบใจเรือนน้อยหลังนี้ หากแต่ที่สุด สิ่งสำคัญเหนืออื่นใดย่อมต้องเป็นทุกคนในเรือน และเพื่อพวกเขาเหล่านั้น นางจำต้องมุ่งหน้าออกสำรวจบริเวณฝั่งตะวันออกของเทือกเขาฉางให้ถ้วนถี่ เพราะหากสถานที่แห่งนี้ไม่เหมาะควรในการอยู่อาศัยอีกต่อไป นางจำต้องเร่งย้ายทุกคนออกไปให้เร็วที่สุด
เกอซีไม่ยอมบอกกล่าวแม่นมเฉิน และคนอื่น ๆ นางนำต้านต้านไปด้วยแค่เพียงตัวเดียว หากแต่หญิงสาวยังเลือกที่จะไว้ใจฝากคำไว้กับเซี่ยวหลีก่อนจะเข้าสู่ป่าลึกแห่งเทือกเขาฉาง
เกอซีหมายใจจะออกสำรวจฝั่งตะวันออกของเทือกเขาฉางอย่างเร่งด่วนโดยใช้เวลาเพียงไม่เกินช่วง 3 วันเท่านั้น
เมื่อหญิงสาวจับจ้องกลุ่มควันที่มืดหม่นซึ่งแผ่กระจายตัวปกคลุมอยู่รอบเทือกเขาฉางแห่งนี้มานานพอควรแล้ว นางย่อมพอคาดคำนวณได้ว่า บริเวณแถบใกล้ตีนเขานั้นจะถูกปกคลุมไปด้วยหมอกที่หนาทึบ และอายพลังอันน่าสะพรึงสักเพียงไร
หากทว่าเมื่อย่างกรายเข้าใกล้ยิ่งขึ้นไปเรื่อย ๆ เกอซีกลับได้พบพรรณพืชเขียวขจีที่อุดมสมบูรณ์มากมาย ยังอีกทั้งทั่วบริเวณกลับไม่พบเจอพฤกษาเวทใด ไม่ปรากฏขุมพลังใด ภายในชั้นบรรยากาศกลับสดชื่นสะอาดบริสุทธิ์
ซ้ำยังมีดอกไม้ป่าแปลกตาที่เบ่งบานอวดโฉมโปรยกลิ่นหอมฟุ้งที่สามารถฉุดอารมณ์ให้เคลื่อนคล้อยไหลตามอยู่ตลอดตามรายทาง
ต้านต้านผู้ถูกกักกั้นไว้แต่เพียงในมิติเวทของหญิงสาว ก่อนจะถูกเก็บตัวอยู่แต่ในเรือนเสียนานวัน ยามนี้กลับวิ่งกระโดดโลดเต้นสำรวจดินแดนกว้างใหญ่แปลกประหลาดในเทือกเขาฉางไปทั่วราวกับอาชาป่าที่ได้รับอิสระ
แน่นอนว่าเกอซีย่อมไม่ต้องห่วงคำนึงถึงความปลอดภัยของต้านต้าน เพราะทั้งคู่สามารถติดต่อสื่อการกันได้ทางกระแสจิต หากต้านต้านเผชิญภัยอันตรายใดนางย่อมสามารถตรงเข้าช่วยเหลือได้ในทันที
ทว่าเหยียบย่างเข้าสู่รัศมีเขาฉางเพียงไม่นาน ต้านต้านผู้วิ่งร่าอย่างแสนสุขใจกลับวิ่งหน้าตาตื่นกลับมาหานาง สี่ขาสั้น ๆ ตัน ๆ พวกนั้นสั่นระริก
***จบบท สู่เทือกเขาฉาง***
คอมเม้นต์