หัตถ์เทวะธิดาพญายม – ตอนที่ 209 เจ้าหัวขโมย
ต้านต้านนึกถึงโครงกระดูกที่เห็นมาเกลื่อนทาง เจ้าตัวน้อยรีบกระโจนเข้าหาอ้อมแขนเกอซีละล่ำละลักออกมาว่า “ท่านแม่ ที่นี่มีผี ! ผีแหง ๆ ! ต้านต้านกลัว…..”
ก่อนที่ต้านต้านจะเข้ามาอยู่ในมิติเวท และได้ออกมาผจญโลกกว้างกับเจ้าของมิติเวทนั้น ต้านต้านก็พอจะมีความรู้เกี่ยวกับโลกมนุษย์มาบ้างแล้ว และเรื่องราวเกี่ยวกับภูตผีย่อมเป็นหนึ่งในนั้น เช่นนั้น แม้ว่าต้านต้านผู้ขลาดกลัวจะทรงพลังอำนาจอย่างเหลือล้นสักเพียงไร กระนั้นต้านต้านก็ยัง…….กลัวผี……
แม้เกอซีจะไม่ได้หวาดกลัวในเรื่องนั้น ทว่าสิ่งที่ปรากฏตรงหน้านับว่าแปลกประหลาดจริง สีหน้าของนางเคร่งขรึม ภายในใจคอยเฝ้าระวังไม่ประมาท
นางไม่เคยเชื่อเรื่องเหนือธรรมชาติอย่างที่ต้านต้านกำลังหวั่นกลัวอยู่นี้ ยิ่งโดยเฉพาะโลกแห่งวรยุทธซึ่งมีการฝึกฝนกำลังภายในมีอยู่จริงเช่นนี้ เจ้าสิ่งที่เรียกกันว่าเรื่องเหนือธรรมชาติทั้งหลายนั้นล้วนไม่มีอะไรมากไปกว่าวิญญาณของบรรดาผู้ฝึกยุทธทั้งหลาย ก็แค่นั้น แต่กระนั้นสิ่งที่ปรากฏเบื้องหน้าสายตานี้ย่อมสามารถทำให้นางอึ้งงุนงงได้เช่นกัน สิ่งมีชีวิตประเภทใดกันที่สามารถทำเรื่องแปลกประหลาดเช่นนี้ต่อหน้านางได้โดยไม่เหลือร่องรอยทิ้งไว้ให้สัมผัสแม้เพียงน้อย !
หญิงสาวลุกขึ้นหันสำรวจไปโดยรอบ หากทว่ากลับยังคงไม่พบสิ่งผิดปกติแต่ประการใด เมื่อหันกลับมาตรวจดูสำรับอาหารบนโต๊ะ สำรับอาหารกลับยังคงร่อยหรอหายไปเรื่อย ๆ !
เกอซีพ่นลมออกจมูกโบกมือเก็บสำรับที่เหลืออยู่กลับคืนเข้าสู่มิติเวท
หากทว่าชั่วขณะนั้นเอง น้ำเสียงที่คุ้นหูกลับดังขึ้น “เฮ้ ๆ ! มันหายไปไหนหมด ? ข้ายังกินไม่อิ่มเลย เอากลับมาก่อนสิ เร็วเข้า เอามาเร็ว ๆ ! ไอ้ปีกเป็ดนั่นอร่อยชะมัด ! ยายหนูเจ้าทำได้อย่างไรนี่ ? เอามาให้อาวุโสผู้นี้อีกสัก 20 ปีกเร็ว !”
มุมปากเกอซีกระตุก และแค่เพียงไม่ช้านาน ร่างของท่านผู้เฒ่าที่คลุ้งตลบไปด้วยกลิ่นสุราก็โผล่มาให้เห็นเป็นที่ประจักษ์
น่าแปลกจริงที่เฒ่าผู้นั้นคือขอทานชราที่ตามเกาะติดนางแจเมื่อวานนี้
เกอซีขมวดคิ้วมุ่นเอ่ยกล่าววาจา “เจ้าเฒ่าเต่าเหม็น ไม่เคยมีผู้ใดอบรมเจ้าหรือว่าพฤติกรรมเยี่ยงโจรนั้นเป็นเช่นไร ? เจ้ายังจะกล้าป่าวประกาศว่าตนคือท่านอาจารย์ผู้สูงส่งทั้งที่การกระทำ และศีลธรรมจรรยาของเจ้าเป็นเช่นนี้ล่ะหรือ ?”
“อุ้ เจ้าตุ๊กตาน้อยจะขี้เหนียวไปถึงไหน !” ชายชรายกมือขึ้นลูบเคราที่ยุ่งเหยิงส่งเสียงหัวเราะร่วน “อาหารยอดโอชะในโลกหล้านั้นย่อมมีไว้เพื่อแบ่งปันกันและกันมิใช่ล่ะหรือ ? พวกเราต่างก็เป็นคนรู้จักกัน เหตุใดเจ้าจึงทำกับข้าเป็นคนแปลกหน้าเช่นนั้นเล่า ?”
“รีบ ๆ เอาของกินพวกนั้นออกมาเร็ว ข้ายังไม่อิ่มเลย ! อูยยยย ทั้งไอ้ปีกเป็ดจานนั้น ไหนยังจะเนื้อเป็ดย่างนั้นอีก อร่อยชะมัด อยู่มาก็หลายปีแล้วข้า ยังไม่เคยได้กินของอร่อยเช่นนี้มาก่อนเลย !”
หญิงสาวเลิกคิ้วสูง แม้ขอทานเฒ่าผู้นี้จะมีพฤติกรรมแปลกประหลาดคล้ายพวกเสียสติไปเสียหน่อย ทว่าพลังฝีมือของคนผู้นี้อยู่ในระดับยอดฝีมืออย่างแน่นอน
ขากระต่ายย่างถูกควักออกจากมิติมาแกว่งไกวล่อตาล่อใจขอทานเฒ่าตรงหน้าพอดี เสียงกลืนน้ำลายเอื๊อกสายตาของผู้เฒ่าย้ายมาจ้องเขม็งอยู่กับขากระต่ายในทันใด
เกอซีเอ่ยถามเสียงเนือย “อยากกินหรือ ?”
ขอทานเฒ่าพยักหน้าถี่ยิบ ยามนี้ไยต้องเก็บอาการสงวนมารยาทอันดีงาม
หญิงสาวเอ่ยกล่าวเสียงเหี้ยม “เช่นนั้นก็บอกมาว่า เกิดอะไรขึ้นที่เทือกเขาฉางแห่งนี้ เหตุใดจึงมีซากโครงกระดูกมากมายเช่นนี้ ? แล้วชาวยุทธพวกนั้นต้องการยื้อแย่งสิ่งใดกัน ?”
ใบหน้าของชายชราแข็งค้างไปครู่ ก่อนเสียงหัวเราะลั่นจะกึกก้องขึ้น “โฮ่ เจ้าตุ๊กตาทารกน้อย เจ้าไม่ใช่หรือที่เพิ่งกล่าวว่าไม่สนใจอาณาจักรกำบังที่อยู่ในเทือกเขาฉางแห่งนี้ ? แล้วเหตุใดจู่ ๆ จึงมานึกอยากรู้ขึ้นมาเล่า ?”
หญิงสาวเพียงกล่าวอย่างเย้ยหยัน “ข้าก็ไม่ได้สนใจเรื่องอาณาจักรกำบังอะไรนั่น เพียงทว่าบริเวณที่ข้าพำนักอาศัยนั้นคือตีนเขาแห่งนี้ เทือกเขาฉางแห่งนี้เป็นเสมือนหนึ่งเพื่อนบ้านที่ข้าจำต้องรับรู้เรื่องราวว่าต่อไปภายภาคหน้ามันจะนำภัยคุกคามใดมาสู่ข้าหรือไม่”
สีหน้าของขอทานเฒ่าแปรเปลี่ยนไปมาด้วยความรู้สึกที่ซับซ้อน กระทั่งที่สุดเขาจึงเอ่ยปาก “เอ้อ ข้าก็แค่มาเดินเล่นเท่านั้น จะความลับในเทือกเขาฉางหรืออะไร ๆ นั้น ผู้เฒ่าเช่นข้าจะไปรู้ได้อย่างไร ?”
“อ้อ เมื่อเป็นเช่นนี้ ต้านต้าน อะ เอาไปกินเสีย”
ต้านต้านรีบรับขากระต่ายย่างจากเกอซีในทันที ครั้นเมื่อจัดการขากระต่ายจนสะอาดเกลี้ยงเกลาเป็นที่เรียบร้อย อุ้งตีนน้อย ๆ ก็ยกขึ้นกุมท้องส่งเสียงหัวเราะร่า “ท่านแม่อร่อยจังเลย ต้านต้านอยากกินอีก !”
***จบบท เจ้าหัวขโมย***
คอมเม้นต์