หัตถ์เทวะธิดาพญายม – ตอนที่ 211 ของรับขวัญแรกพบเจอ
แม่หนูตัวน้อยนี่ท่าจะมีความลับซุกซ่อนอยู่ใต้ชายเสื้อมากมายอักโข !
ขอทานเฒ่ากรอกตาไปมาก่อน ธำมรงค์หยกในกระเป๋าจะถูกจกควักออกมาแกว่งล่อตาล่อใจต้านต้าน “ชอบไหมเล่า ?”
เจ้าตัวน้อยกระพริบตาปริบ ๆ พยักหน้าหงึกหงักจนชายชราหัวเราะร่วน “หากเจ้าชอบ ข้าให้นั้นย่อมได้ ! ที่เจ้าสมควรกระทำนั้นแค่เพียง คราหน้าหากมีของกินอีกก็อย่าลืมเก็บปันไว้ให้ข้าบ้างเท่านั้น”
เจ้าตัวกลมพุ่งพรวดเข้าไปรับธำมรงค์หยกมากอดซุกไว้กับอกอย่างเร็วรี่ทั้งไม่ลืมเหลือบมองผู้ชราคราหนึ่ง ก่อนจะรีบโผกลับไปหาเกอซีด้วยความตื่นเต้น
“ท่านแม่ ท่านแม่ พลังในแหวนนี้ล้นหลามมากมาย นี่มันของวิเศษชัด ๆ ! หากเรานำไปขายต้องได้ผลึกมากมายก่ายกองอย่างแน่นอน ต้านต้านยกแหวนวงนี้ให้ท่านแม่”
กระทั่งตอนนี้ต้านต้านก็ยังจดจำฝังใจว่าเกอซีบ่นเสมอว่าพฤติกรรมการเขมือบของเขาทำให้นางแทบหมดตัว
เช่นนั้นเมื่อยามนี้เขาได้สมบัติล้ำค่าย่อมต้องอยากนำมาให้นาง เผื่อนางจะนำออกขายเพื่อไปซื้อวัตถุดิบมาปรุงอาหารยอดโอชะได้อีก
หญิงสาวรับธำมรงค์นั้นไว้ เพียงฝ่ามือแตะต้องโดยไม่ต้องใช้จิตสัมผัสก็สามารถรับรู้ได้ว่านี่คือสมบัติอันล้ำค่า
หญิงสาวยื่นมือไปลูบหัวต้านต้านพลางเอ่ยยกยอ “ต้านต้านเป็นเด็กดีจริง ๆ”
มุมปากของขอทานเฒ่ากระตุกเมื่อได้เห็นภาพฉากเบื้องหน้า
ธำมรงค์มังกรผงาดที่ทุกผู้คนในทวีปหมีหลัวต่างพากันยื้อแย่งใคร่ครอบครอง……เจ้าสองชีวิตนี่กลับไม่รู้เรื่องเลยสักนิด ! หนำซ้ำยังมีใจคิดจะนำออกขาย ช่างเนรคุณโดยแท้ !
ขอทานเฒ่าบ่นพึมพำสองตาจ้องทั้งคู่เขม็ง ก่อนจะหันมาสำเร็จโทษน่องแกะย่างในมือต่ออย่างเมามันส์
ฮึ่ม หากมิใช่เพื่อเป็นเกียรติแก่…..ยอดอาหารอันโอชะแล้วล่ะก้อ เขา ! เซวียนฉิง ปรมาจารย์ผู้หยั่งรู้แห่งเต๋าผู้นี้ ! ย่อมไม่มีวันยอมลดตัวลงมาเกลือกกลั้วกับเจ้าคู่นายสัตว์เวทที่แสนสามัญนี้เป็นแน่
ตะกรุมตะกรามสวาปามน่องแกะไปจนเกลี้ยงแล้ว ชายชราจึงหันกลับมาจ้องเกอซีเขม็ง ครานี้สีหน้าของเขาแปรเปลี่ยนเป็นแข็งกร้าวไม่เป็นดังเช่นแต่เก่าก่อน ไม่เหลือสภาพของเจ้าเฒ่าวายร้ายขี้เมาจอมหาเรื่องแม้เพียงน้อย
“เจ้าตุ๊กตาน้อย เจ้าไม่คิดจะคาวะข้าเป็นอาจารย์จริงรึ ?”
หญิงสาวสวนกลับด้วยสีหน้าเฉยชา “ข้าไม่สนใจเจ้าพวกไม่มีหัวนอนปลายเท้า จุดประสงค์ไม่ชัดเจนเด่นชัด ผู้ใดจะรู้ว่าเจ้าจะมีความมุ่งร้ายใดต่อข้าหรือไม่เล่า ? ยังอีกทั้ง หากข้ายอมก้มคารวะเจ้าเป็นอาจารย์ นอกจากข้าจะต้องคอยปรุงอาหารให้เจ้าทุกวันแล้ว ข้าจะได้รับประโยชน์ใดเล่า ? ขาดทุนป่นปี้ถึงเพียงนี้ ข้าไม่เอาด้วย !”
ได้ยินนางกล่าวเช่นนั้น นัยน์ตาผู้ชราเปล่งประกายวาบพร้อมเสียงหัวเราะอย่างคาดไม่ถึง ถ้อยวาจาที่ฟังดูลึกลับคลุมเคลือดังขึ้น “น่าขันสิ้นดี ! หากเจ้าคารวะข้า เซวียนฉิงปรมาจารย์ผู้หยั่งรู้แห่งเต๋าคนนี้แล้วจะไม่ได้รับประโยชน์ใดได้อย่างไรกัน ?”
“หากไม่เชื่อ ข้าก็จะขอมอบของรับขวัญแรกพบเจอให้เจ้า !”
กล่าวจบเขาก็ยกมือซ้ายขึ้นโบกโบย แรงลมกรรโชกสายหนึ่งพลันพวยพุ่งออกมาจากเขตป่าทึบ ทั่วทั้งชั้นบรรยากาศปรากฏแรงกดอัดมหาศาลระเบิดทะลักท่วมท้น
*****
เกอซีไม่อาจคาดคำนวณได้เลยว่าเจ้าเฒ่าสติเฟื่องผู้นี้กำลังจะทำสิ่งใด ฉพับพลันในหัวกลับอื้ออึง ทั่วร่างประดุจถูกฉีกขาดออกเป็นเสี่ยง ๆ
ครั้นเมื่อรู้สึกตัวอีกครา กลับได้พบว่าตนโผล่ในสถานที่แปลกตา
เบื้องหน้าสายตาคือประตูศิลาที่ตั้งสูงตระหง่าน สูงกระทั่งหญิงสาวต้องแหงนคอมอง ทว่ากลับยังแทบไม่อาจเห็นปลายสุดของบานประตู
เหนือแผ่นประตูศิลาคืออักษรสลักสีโลหิตเพียงสามคำ “อาณาจักร ผนึก มังกร”
หญิงสาวได้เพียงยืนอึ้งตะลึงค้าง ทว่าเมื่อพยายามกวาดตามองสำรวจดูว่าสถานที่นี้คือที่ใด กลับได้พบเพียงเส้นทางเดินที่ดำมืดไร้ปลายสุดทางซึ่งอยู่ด้านหลัง
เพียงมองจากตำแหน่งนี้ ช่างดูคล้ายดั่งมันคือปลายทางสู่หุบเหวมฤตยู
และทันทีที่ต้านต้านลูกหมูน้อยตาขาวได้เห็นเข้า ร่างกลม ๆ ที่สั่นสะท้านก็กระโจนเข้าหาอ้อมแขนของเกอซีในทันที “ท่านแม่ นี่มันประตูสู่ขุมนรกใช่ไหม ? ต้าต้านกลัว—-”
ไอคิวของเจ้าตัวน้อยหาได้สูงส่งเท่าไรนัก หากทว่าการจินตนาการนั้นนับได้ว่ายอดเยี่ยมอย่างล้ำเลิศ เพราะเขาเคยได้ยินเรื่องราวของพวกผีสาง ทั้งยังสามารถจดจำเรื่องราวเกี่ยวกับ เมืองผี*, นรกโลกันตร์ , ประตูสู่ขุมนรก รวมถึงเรื่องของน้ำแกงยายเมิ่ง* ได้เป็นอย่างดี ….. น่าเสียดายที่สำหรับเรื่องความกล้าหาญชาญชัยแล้ว ด้านต้านดูจะมีแค่เพียงเล็กน้อยกระจิริด
เกอซีดูจะเคร่งเครียดยิ่งนัก ทุกสิ่งเกินเลยไปกว่าความคาดหมายทั้งยังนอกเหนือความสามารถในการควบคุม เจ้าเฒ่าเต่าเหม็นนั้นทำอันใดกัน ?
ยามนี้นางได้ยินเสียงโวยวายเคล้าเสียงหัวเราะอย่างสุขสันต์ของขอทานเฒ่าดังก้องอยู่ในหัว “เจ้าตุ๊กตาน้อย เจ้าบอกว่าจะไม่ยอมคารวะข้าเป็นอาจารย์หากไม่ได้รับประโยชน์ใดมิใช่หรือ ? เอ้า ! เข้าไปรับของดีได้แล้ว !”
*ตามความเชื่อของชาวจีนโบราณ ชีวิตหลังความตายจะเดินทางไปสู่ปรโลกที่เรียกว่าเมืองผี หรือสายน้ำเหลือง ซึ่งอาจหมายถึงตำแหน่งใดตำแหน่งหนึ่งในแม่น้ำเหลือง หากแต่เมืองผีนั้นไม่ใช่ ขุมนรกซึ่งเต็มไปด้วยวิญญาณที่ทรมานและเจ็บปวดแต่อย่างใด หากแต่เมืองผีนั้นหมายถึงดินแดนที่ทุกจิตวิญญาณที่ออกจากร่างจะต้องเดินทางไปเพื่อรับการตัดสินตามกรรมที่ตนกระทำไว้
*คุณยายเมิ่ง คือยายแก่ซึ่งทำให้ดวงวิญญาณหลงลืมเรื่องราวทั้งหลายตามตำนานของชาวจีน ซึ่งทำหน้าที่ดูแลวิญญาณในดินแดนหลังความตาย หน้าที่ของยายเมิ่งคือต้องทำให้วิญญาณทุกดวงที่กำลังจะไปเกิดหลงลืมเรื่องราวในชาติก่อนรวมถึงเรื่องราวที่ได้รับในขุมนรก โดยนางจะรวบรวมสมุนไพรจากบ่อน้ำ และลำธารมาต้มเป็นน้ำแกงเบญจรสแห่งความลืมเลือนซึ่งดวงวิญาณทุกดวงจะต้องดื่มกินก่อนจะจากปรโลกไป เมื่อได้ดื่มน้ำแกงนี้แล้ว ความทรงจำทั้งหลายของดวงวิญาณนั้นจะเลือนหายในทันที น้ำแกงเบญจรสสามารถขจัดเรื่องราวความทรงจำในความรู้ กรรมเก่าทั้งหมดทั้งสิ้น ก่อนที่ดวงวิญญาณจะถูกส่งไปเกิดอีกครั้งในโลกหน้า และเข้าสู่วัฏฏะการเวียนว่ายตายเกิดอีกครา และอาจมีบางคราที่จะปรากฏวิญญาณบางดวงไม่ได้ดื่มน้ำแกงเบญจรสนี้จึงทำให้ดวงวิญญาณนั้น ๆ ยังคงมีความทรงจำเดิมติดตามไปสู่โลกหน้า
***จบบท ของรับขวัญแรกพบเจอ***
คอมเม้นต์