หัตถ์เทวะธิดาพญายม – ตอนที่ 222 ผู้สืบทอดหม่าฮ่า
สุ้มเสียงของเจ้ามังกรน้อยสูญสิ้นความหยิ่งผยอง ไม่เหลือความน่ารักน่าหยิกเมื่อเขาหันมากล่าวอย่างจริงจังด้วยน้ำเสียงที่หนักแน่นข้างหูเกอซี “ยามนี้จิตวิญญาณของท่านนายถูกผนึกประทับร่วมไว้ในห้วงความตระหนักหยั่งรู้แห่งเจ้าวังเดิมแล้ว บานประตูสู่การทดสอบกำลังเผยเปิดขึ้นอย่างสมบูรณ์แบบ ท่านนายต้องตั้งใจอย่างเต็มกำลังความสามารถจดจ่อมีสมาธิอย่าได้ไขว้เขว ทั้งไม่อาจหยุดชะงักในท่ามกลาง หากการทดสอบถูกขัดจังหวะ พลังฝีมือของท่านนายจะสูญสลาย ทั้งอาจต้องสูญสิ้นแม้จิตวิญญาณแห่งชีวิต ท่านนายเข้าใจแล้วใช่ไหม ?”
เกอซีผงกศีรษะเล็กน้อยก่อนจะสบัดไล่ความฟุ้งซ่านออกไปจากหัวพร้อมพริ้มตาลงเข้าสู่ท่าขัดสมาธิดำเนินเข้าสู่การฝึกตน
ครั้นเมื่อกลุ่มควันสีเทาเจือจางที่ม้วนตัวโอบล้อมรอบกายหญิงสาวค่อย ๆ ไหลเข้ามารวมตัวกลุ่มควันตลอดทั้งสายพลันถูกดูดกลืนหายเข้าไปในร่างของนางประหนึ่งมันได้หลอมรวมร่างเป็นหนึ่งกับนางอย่างสมบูรณ์
ช่วงขณะนั้นเกอซีสามารถรับสัมผัสถึงขุมพลังอันหนักแน่นที่ลึกลับบางอย่าง มันทะลุทะลวงไหลผ่านตรงเข้าร่างของนางเพียงเสี้ยววินาที ประหนึ่งมันถูกสูบไหลรวมลงสู่ความว่างเปล่าที่ยิ่งยวดในภายใน
ขุมพลังในกายเริ่มเคลื่อนโคจรอย่างไร้ทิศทางไร้การควบคุม ความว่างเปล่าที่จุดตันเถียน ณ ที่ขุมพลังทั้งหลายเคยถูกสั่งสมไว้พลันค่อย ๆ ขยายขึ้นอย่างต่อเนื่อง ระดับพลังปราณที่เข้าสู่ขอบเขตขั้นปฐมภูมิโลกันตร์เริ่มทะยานสูงขึ้น
หญิงสาวยินดียิ่งนัก ไม่คาดคิดเลยว่าการเป็นผู้สืบทอดวังจื่อจินจะสามารถส่งเสริมพลังฝีมือให้ยิ่งขึ้นไปได้อย่างเหนือความคาดหมายเช่นนี้ หรือการเป็นผู้สืบทอดนี้จะไม่เกี่ยวข้องกับการปรุงกลั่นโอสถ ? ทว่าก็มิน่าจะใช่สิ่งที่ง่ายดายถึงเพียงนี้
เพียงครู่ สีหน้าของหญิงสาวกลับแปรเปลี่ยน
ความเจ็บปวดอย่างรุนแรงอัดแน่นขึ้นในทรวงอก ชั่วครู่มันกลับยิ่งเจ็บร้าวประหนึ่งถูกกระบี่เสียบแทงตัดเส้นชีพจร บั่นแขนขา เฉือนเลือดเนื้อตลอดทั่วทั้งเรือนกาย ประหนึ่งฝูงมดนับจำนวนไม่ถ้วนไต่คลานยั้วเยี้ยกัดแทะไล่ไปตามแผงไขกระดูกทั่วทั้งร่าง เจ็บปวดทรมานเหนือกว่ามนุษย์ธรรมดาสามัญโดยทั่วไปจะสามารถทานทนแบกรับไว้ได้
“อื่อ….” เสียงคำรามรอดไรฟันจากปากของเกอซี นางอยากจะออกจากการกำหนดจิตเพื่อมาสำรวจดูให้ประจักษ์แจ้งว่าเกิดสิ่งใดขึ้นกับร่างสังขารของตนกันแน่
ทว่า ทันทีนั้นเอง น้ำเสียงอันล้ำลึกทรงพลังอย่างดึงดูดพลันดังก้องอย่างเฉื่อยเนือยที่ข้างหู “หากเจ้าปรารถนาจะเป็นผู้สืบทอดหม่าฮ่าของข้าแล้ว พลังปราณ ความมุ่งมั่น พรสวรรค์ คือสิ่งที่คนผู้นั้นไม่อาจบกพร่องได้เลย สาวน้อย พรสวรรค์ของเจ้านับได้ว่าไม่เลว ทว่ายังอาจนับได้ว่าห่างจากที่พึงเป็นอยู่มากพอควร หากเจ้าต้องการรับช่วงสืบต่อหม่าฮ่าของข้า ปราการด่านแรกที่เจ้าจำต้องข้ามฝ่าให้ได้นั้นคือ ผลาญจิตกัดกร่อนกระดูก กระบวนการแห่งการหลอมร่างกลั่นจิตวิญญาณให้บริสุทธิ์สะอาด สิ่งที่กล่าวไปแล้วนั้น ล้วนเป็นเพียงคุณสมบัติเบื้องต้นของผู้ที่มีคุณสมบัติในการรับช่วงสืบทอดหม่าฮ่า”
ผลาญจิตกัดกร่อนกระดูก ? หลอมร่างกลั่นจิตวิญญาณให้บริสุทธิ์ ? เกอซีกัดฟันฝืนกล้ำกลืนอดทนต่อความทรมานด้วยความยากเย็นยิ่ง นางค่อย ๆ ปรือตาขึ้น และต้องพบกับความงุนงงเมื่อได้เห็นบุรุษรูปร่างสมส่วนอยู่เบื้องหน้า แม้ลักษณะของคนผู้นี้จะไม่อาจมองออกได้อย่างทะลุปรุโปร่ง ทว่าตลอดทั่วทั้งสรรพางค์กายของเขาแผ่อายรัศมีประดุจดั่งเทพเซียนที่ทำให้ทุกผู้คนยอมสิโรราบก้มหัวให้ด้วยความนับถืออย่างลืมตัว
เกอซีฝืนบังคับตนเองให้ยังคงสติไว้อย่างแน่นเหนียว ขณะสายตายังคงจับจ้องบุรุษผู้นั้นเมื่อมุมปากขยับยกขึ้นเอ่ยไถ่ถาม “ท่านคือประมุขแห่งอาณาจักรกำบังนี้หรือ ?”
บุรุษผู้นั้นเผยยิ้มอ่อนบางส่ายหน้าพลางตอบคำ “ข้าเป็นเพียงญาณแห่งการหยั่งรู้ ภาพประทับที่คงเหลืออยู่แห่งจิตวิญญาณของจื่อจินเท่านั้น เช่นนั้นย่อมมิอาจกล่าวได้อย่างเต็มปากว่าข้าคือประมุขแห่งอาณาจักรนี้ สาวน้อย ความเจ็บปวดทรมานที่เจ้าได้รับจาก การผลาญจิตกัดกร่อนกระดูก และการหลอมร่างกลั่นจิตวิญญาณเมื่อครู่นี้เป็นแต่เพียงบทเริ่มต้นเท่านั้น ล้วนสามารถกล่าวได้ว่าทั้งหมดทั้งมวลที่เกิดขึ้นเป็นเพียงตัวอย่างเล็กน้อย หากเจ้าหมายจะกลับไป ข้าจะทำลายตราประทับการเป็นผู้สืบทอดให้แก่เจ้า เจ้าจะไม่ได้รับอันตรายใดอีกต่อไป”
คิ้วทั้งสองของเกอซีจิกเข้าหากัน เสียงเอ่ยตอบของนางไม่ปรากฏ
ชายผู้นั้นทอดถอนใจพลางกล่าว “คนธรรมดาสามัญย่อมไม่สามารถทนต่อความเจ็บปวดของการผลาญจิตหลอมร่างได้ แม่สาวน้อย พลังฝีมือของเจ้าอยู่เพียงขั้นที่ 2 ขอบเขตพลังปราณขั้นปฐมภูมิโลกันตร์เท่านั้น ย่อมเป็นไปไม่ได้อย่างแน่แท้ที่เจ้าจะสามารถผ่านบททดสอบทั้งสิ้นได้ เหตุผลนั้นย่อมมีอยู่ด้วยข้าวางรูปแบบการทดสอบไว้เพื่อผู้ที่มีพลังฝีมือสูงกว่าขั้นที่ 4 ปฐพีสะท้านสะเทือน เท่านั้นจึงสามารถฝ่าปรากการเข้ามาถึงใจกลางอาณาจักรกำบังแห่งนี้ได้ หากแม้นเจ้าเลือกที่จะล้มเลิกทุกสิ่งในยามนี้ เจ้าจะไม่สูญเสียสิ่งใด ทว่าเมื่อการทดสอบเริ่มดำเนินไป หากเจ้าล้มเหลว เจ้าจะต้องเผชิญกับความตายอย่างไม่ต้องสงสัย”
คนธรรมดาทั่วไปล้วนไม่อาจฝืนทนได้กระนั้นหรือ ? คนเยี่ยงนาง ! เกอซี ! กลายเป็นคนธรรมดาสามัญไปตั้งแต่เมื่อไร ?
ครั้นเมื่อนึกย้อนกลับไป ช่วงเวลานี้ย่อมเสมือนครั้งที่นางถูกจับเข้าฝึกในองค์กร ครานั้น นางถูกปิดตาจับยัดใส่กรงอดข้าวอดน้ำตลอด 3 วัน 3 คืน ต้องต่อสู้ฟาดฟันกับพรรคพวกเพื่อนฝูงตลอดถึงสัตว์ร้ายอย่างไม่หยุดหย่อน ครั้นเมื่อสามารถกลับออกมาได้ เลือดเนื้อตลอดทั่วทั้งกายนางนั้นไม่มีส่วนใดเลยที่คงสภาพเดิม
***จบตอน ผู้สืบทอดหม่าฮ่า***
คอมเม้นต์