หัตถ์เทวะธิดาพญายม – ตอนที่ 231 กลดักห้วงความทรงจำ

อ่านนิยายจีนเรื่อง หัตถ์เทวะธิดาพญายม ตอนที่ 231 อ่านนิยายจีน.COM | อ่านนิยายจีนแปลไทย.

 

เพียงไม่ช้านาน น้องชายของนางกลับถูกกลุ่มคนลึกลับลอบนำลงไปในห้องแลปชั้นใต้ดินอย่างลับ ๆ

 

เพียงได้เห็นฉากนี้ ทั่วทั้งร่างของเกอซีกลับสั่นสะท้านขึ้นอย่างรุนแรง ทั้งความเจ็บปวดทั้งความเคียดแค้นระเบิดระอุอันแน่นอยู่ในอก

 

ขณะลอยตัวอยู่ท่ามกลางห้วงอากาศด้วยสายตาที่เลื่อนลอย นางยังคงจับจ้องน้องชายที่ถูกโยนเข้าห้องแลปชำแหละร่างออกเป็นส่วน ๆ ท่อนแขนท่อนขาถูกบดฉีกขาด ศีรษะถูกถลกออกกระทั่งเห็นหัวกระโหลกสีขาวโพลน ก่อนจะถูกโยนใส่ขยะทิ้งไว้กับกองซากเศษเดน

 

ยิ่งได้เห็นภาพเหตุการณ์ย้อนเรื่องราวที่เกิดขึ้น เกอซีก็ยิ่งโกรธเกรี้ยวกระทั่งแทบจะทลายฟ้ากระทืบผืนพสุธาได้แล้ว ความรู้สึกอันท่วมท้นภายในใจแทบทำให้นางลุกขึ้นมาไล่ล่าสังหารทุกคนในใต้หล้าที่ได้พบเจอ

 

นางส่งเสียงร้องคำรามประดุจลูกสัตว์ป่าตัวน้อยที่ได้รับบาดเจ็บ ร่างของนางพุ่งตรงเข้าใส่ฆาตกรที่ลงมือสังหารน้องชายของตนที่ด้านล่าง

 

เพียงทว่าภาพเหตุการณ์กลับแปรเปลี่ยนในบัดดล สิ่งที่ปรากฏเบื้องหน้าค่อย ๆหล่อหลอมรวมขึ้นเป็นภาพคุกกลางผืนทะเลทราย

 

เพื่อช่วยเหลิ่งเหย่ คู่หูของนาง เกอซีต้องบุกตะลุยฝ่าคุกคุมขังเข้าไปเพียงลำพัง หากทว่าสิ่งที่ได้รับตอบแทนความทุ่มเทครานั้นคือ มีดสั้นที่เหลิ่งเหย่จ้วงแทงใส่กลางอกของนาง

 

เขาต้องการครอบครองตัวนาง ทว่าเพียงเมื่อตระหนักแล้วว่านั่นล้วนเป็นสิ่งไม่อาจเป็นไปได้ เขาจึงตัดสินใจว่า หากตนไม่อาจครอบครองนางได้แล้ว ย่อมต้องไม่อาจมีผู้ใดสามารถครอบครองนางได้อีก หนทางที่ดีที่สุดนั้นคือการลงมือสังหารนางเสีย

 

องค์กรซึ่งเคยใช้ประโยชน์จากตัวนางกลับเสมือนถูกนางขู่เข็ญคุกคาม พวกมันจึงตัดสินใจกำจัดนางเสีย

 

อดีตภพที่ผ่านมา นางเป็นเสมือนหมากเดินตัวหนึ่งที่ถูกชี้นำโดยโชคชะตา และผู้คน ไร้อิสระภาพ ไร้หนทางปกป้องคนที่ตนรัก

 

จะให้นางยอมรับชะตากรรม ยอมทนมีชีวิตอยู่ในฐานะหมากกระดานตัวหนึ่งเท่านั้นหรือ ? ย่อมไม่มีทาง ! จะไม่มีวันเป็นเช่นนั้นไปได้ !

 

ในช่วงชีวิตนี้นางต้องการสร้างตนเองให้แข็งแกร่ง แข็งแกร่งยิ่งกว่าผู้ใด จะไม่มีผู้ใดทำร้ายนางได้ ทั้งจะไม่มีผู้ใดกำหนดชีวิตของนางได้ !

 

เปลือกตาทั้งคู่ของหญิงสาวเปิดขึ้นในทันที เบื้องหน้าสายตาคือห้องที่คุ้นตา และรอยยิ้มอันอ่อนโยนงามสง่าของท่านเจ้าวังจื่อจิน

 

เกอซียกมือขึ้นปาดหยาดเหงื่อบนหน้าผากด้วยฝ่ามือที่ทั้งชุ่มชื้น และเย็นเยียบ

 

ฉับพลัน น้ำเสียงเสียดสีเยาะหยันของเฟิ่งเหลียนอิ่งกลับดังขึ้นให้ได้ยิน “เพียงมนต์จิตง่าย ๆ สามัญเท่านั้นเจ้าก็ยังไม่อาจผ่านไปได้ ยังหมายคิดช่วงชิงตำแหน่งผู้สืบทอดวังจื่อจินกับข้าอีก !”

 

เกอซีชำเลืองมองไปทางเฟิ่งเหลียนอิ่งจึงเห็นท่าทีที่ผ่อนคลายของอีกฝ่าย และล่วงรู้ได้ว่านางไม่ติดอยู่ในกลดักห้วงความทรงจำ

 

เกอซีอดมิได้ที่จะเอ่ยเย้ยเหยียดกลับไป “ผ่านบททดสอบได้ด้วยอาศัยของวิเศษนั่นเรียกว่าโกงอย่างเห็นได้ชัด คนเยี่ยงเจ้ามีคุณสมบัติใดมาเยาะหยันข้า !”

 

“เจ้า !” เฟิ่งเหลียนอิ่งโกรธเกรี้ยวจนหน้าแดงก่ำ  หากทว่าครั้นเมื่อหันมาเห็นรอยยิ้มอย่างครุ่นคิดบนใบหน้าของท่านเจ้าวังจื่อจิน นางต้องรีบข่มห้ามความโกรธโกรธาทั้งหลายลงไปเสีย ด้วยไม่กล้ากระทำการบุ่มบ่ามแต่ประการใด

 

นางอาศัยของวิเศษที่ท่านอาจารย์มอบให้อย่างแท้จริง และด้วยเหตุนั้นเอง นางจึงสามารถผ่านมนต์ทดสอบความแข็งแกร่งทางจิตมาได้ ทว่าเจ้าหนุ่มหน้าเหม็นผู้นี้รู้เรื่องนี้ได้เยี่ยงไร ?

 

ท่านเจ้าวังจื่อจินหัวเราะออกมาเบา ๆ ก่อนจะเอ่ยปาก “ไม่ว่าพวกเจ้าทั้งสองจะใช้วิธีการใด …….. ก็ยินดีกับพวกเจ้าด้วย ที่พวกเจ้าทั้งคู่สามารถผ่านการทดสอบในคราแรกนี้ไปได้ ผลการทดสอบในครานี้นับได้ว่าเสมอกัน การทดสอบที่สองกำลังจะเริ่มต้นขึ้น”

 

เฟิ่งเหลียนอิ่งไม่ใคร่พอใจเท่าใดนัก เมื่อเห็นได้อย่างชัดเจนว่านางคือผู้ที่สามารถออกมาจากวังวนแห่งห้วงความทรงจำเป็นคนแรก จะเรียกว่าเสมอได้อย่างไร ? ! อ่านนิยาย

 

หากทว่ายังไม่ทันมีโอกาสได้เอ่ยปาก ท่านเจ้าวังจื่อจินก็สบัดชายแขนเสื้อ ขวดกระเบื้องเคลือบกว่าโหลพลันปรากฏขึ้นตรงหน้าสตรีทั้งสอง

 

นอกไปเสียจากกระเบื้องเคลือบขวดแรกซึ่งมีสีแดงแล้ว ขวดกระเบื้องเคลือบที่เหลือทั้งหมดล้วนไร้ความแตกต่าง พวกมันทั้งหมดต่างถูกแต่งแต้มด้วยสีน้ำเงินคาดลายทางสีขาว

 

ท่านเจ้าวังจื่อจินหัวเราะเพียงบางเบา “เมื่อสมบัติล้ำค่าที่พวกเจ้าหมายจะได้รับจากข้านั้นคือ ความเป็นผู้รับช่วงสืบทอดหม่าฮ่า  เช่นนั้น สิ่งที่ข้าภูมิใจอย่างยิ่งที่สุดในช่วงชีวิตนี้ก็คือวิชาการกลั่นโอสถ ขั้นตอนการเยียวยารักษาซึ่งเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตน ซึ่งล้วนเป็นส่วนหนึ่งของการรับช่วงสืบทอด เช่นนั้น การทดสอบครั้งที่สองนั้นคือ บททดสอบความรู้เชิงโอสถของพวกเจ้า”

 

“ตรงหน้าพวกเจ้าทั้งสองคือขวดกระเบื้องเคลือบสีแดง ซึ่งบรรจุยาพิษร้ายแรงอันมีนามว่ากล้วยไม้งูพิษทะลวง ซึ่งเป็นพิษที่ข้าปรุงกลั่นขึ้นด้วยตนเองเมื่อสมัยยังหนุ่มแน่น หากผู้ใดต้องพิษนี้เข้า แม้คนผู้นั้นจะมีพลังฝีมือถึงระดับขั้นห้า ย้ายเคลื่อนจิตวิญญาณก็ตามที มันผู้นั้นย่อมรับพิษซึมซาบลงในกายด้วยเพียงชั่วเวลา ค่อนชั่วยามเท่านั้น*

*ค่อนชั่วยามคือ 15 นาที

 

ผู้ที่ต้องพิษเนื้อตัวจะขึ้นเกล็ดคล้ายเกล็ดงู ทั้งจะค่อย ๆ ลุกลามกินกลืนไปทั่วร่างอย่างเห็นได้ชัด จากนั้นมันจะค่อยกัดกร่อนหัวใจ ลามเลยลงสู่จุดตันเถียน หากมิได้รับยาถอนพิษภายในช่วงระยะเวลาหนึ่งก้านธูป ถึงตอนนั้น กระทั่งเทพเซียนบนสวรรค์ก็มิอาจช่วยเหลือเจ้าได้”

 

***จบตอน กลดักห้วงความทรงจำ***

คอมเม้นต์

การแสดงความเห็นถูกปิด