หัตถ์เทวะธิดาพญายม – ตอนที่ 240 วาระสุดท้ายแห่งความตาย
“มีหรือที่ข้าจะหวาดกลัว !” เพียงได้ยินประโยคสุดท้ายเจ้ามังกรก็เต้นผาง “ผู้ใดจะหนีเอาตัวรอดกัน ! ข้า…..ข้าเพียงคิดจะหาทางหลอกล่อหญิงไร้ยางอายผู้นั้นเพียงเท่านั้น….ก็แค่เพียงฝีมือขั้นปฐพีสะท้านทะเทือนเท่านั้น มีหรือที่ข้าจะหวั่นเกรง !”
พร้อมน้ำเสียงเอ่ยกล่าว เจ้ามังกรทองตัวจิ๋วก็กระโดดเข้าขวางหน้าต้านต้านส่งเสียงก่นด่าใส่หน้าเฟิ่งเหลียนอิ่ง “เจ้ามันสตรีใจหยาบช้า ! ข้าไม่นึกฉงนเลยว่าเหตุใดท่านเจ้าวังจึงไม่เลือกเจ้าเป็นผู้สืบทอด ดูอย่างท่านนายของข้าเถิด แม้หากจะเทียบกันเรื่องรูปร่างหน้าตาแล้ว ท่านนายของข้ายังจะหมดจดงดงามยิ่งกว่าเจ้า ทั้งความสามารถนั้นเล่าก็สูงส่งเลิศเลอกว่าตัวเจ้า จะมีไอ้งั่งที่ไหนเลือกหญิงอัปลักษณ์เช่นเจ้าเล่า ?”
ต้านต้านผู้อยู่ด้านหลังเจ้ามังกรน้อยก็รีบสำทับเสริมขึ้นมาทันที “ถูกแล้ว ๆ เจ้ามันหญิงอัปลักษณ์ ! คนเยี่ยงเจ้านั้นไม่อาจเทียบได้แม้เพียงปลายก้อยของท่านแม่ ตาก็เข จมูกก็งุ้ม หน้าก็เป็นตุ่มเป็นต่ำ ใบหน้าที่ว่าอัปลักษณ์ยิ่งแล้ว จิตใจยังชั่วช้าเลวทรามยิ่งกว่า ! ระวังให้ดีไว้เถิด เบื้องหน้าต่อไปเมื่อเจ้าให้กำเนิดบุตรชายประเดี๋ยวจะไม่มีรูทวาร เจ้าตายตกลงไปเมื่อไรนรกโลกันตร์ขุมที่ 18 คงรีบตามมาสูบตัวเจ้า !”
ต้านต้านนั้นอยู่แต่เพียงในไข่ใบยักษ์มาโดยตลอดนับแต่เริ่มแรก เช่นนั้นความรู้รอบตัวย่อมกล่าวได้ว่ายังไม่สมบูรณ์นัก ผู้ครอบครองต้านต้านแต่ละคนล้วนมีบุคลลิกลักษณะนิสัยที่แตกต่างกันออกไป เช่นนั้นข้อมูลต่าง ๆ ที่ต้านต้านได้มาล้วนสะเปะสะปะแปลกประหลาด ยิ่งยามนี้ต้านต้านกำลังโกรธเกรี้ยวกังวลจนหูดับสมองอื้อ ทั้งคำสบถทั้งคำสัปดนที่เคยได้ยินได้ฟังมาล้วนถูกพ่นพรวดออกมาอย่างถึงที่สุด
หากเกอซีรู้สึกตัวตื่นขึ้นมาได้ยินเจ้าสัตว์เวทจอมเซ่อซ่าแสนน่ารักของตนกำลังสบถด่าผู้อื่นสาดเสียเทเสียราวกับพวกแม่ค้าปากตลาด คงได้ยืนอ้าปากขากรรไกรค้างลากพื้นด้วยความตื่นตะลึง
หากแต่กลับกันเมื่อเจ้ามังกรทองตัวจิ๋วได้ยินเสียงสาปแช่งด่าได้อย่างสาแก่ใจเช่นนั้นเขาก็เร่งส่งเสียงเชียร์ให้แรงใจอย่างเต็มที่ ปานประหนึ่งตนเป็นผู้ถ่ายทอดอบรมไว้ให้อย่างน่าภาคภูมิ หนำซ้ำยังมิวายช่วยเสริมสำทับให้ได้รสชาติยิ่งขึ้นไปอีก “เจ้าหมูน้อย ไอ้ที่เจ้ากล่าวมายังออกจะผิด ๆ เพี้ยน ๆ ไปเสียบ้าง นางน่าเกลียดน่ากลัวยิ่ง หากแม้นผู้ใดตบแต่งนางไปย่อมจะประสบแต่ความอับโชควาสนา เช่นนี้แล้วจะยังมีผู้ใดหมายจะสมรสด้วยนางกันเล่า ? ทั้งเมื่อไม่อาจออกเรือนเป็นฝั่งเป็นฝาได้ นางจะให้กำเนิดบุตรชายไร้รูทวารได้อย่างไรเล่า ?”
เฟิ่งเหลียนอิ่งผู้ถือกำเนิดมาในตระกูลอันสูงศักดิ์ แวดล้อมไปด้วยหมู่ผู้บำรุงบำเรอพะเน้าพะนอเอาอกเอาใจ นับแต่เยาว์วัยจวบกระทั่งปัจจุบันมีหรือจะเคยถูกปรามาสหมิ่นหยามเกียรติเช่นนี้
ยามนี้นางเกรี้ยวกราดกระทั่งเลือดในกายแทบจะเดือดปุด ๆ ใบหน้าแสดงความมุ่งหมายกระหายเลือดอย่างเห็นได้ชัด “เจ้าสัตว์ชั้นต่ำถึงกับกล้าเอ่ยวาจาเช่นนี้กับข้าเชียวรึ……ดี ! เช่นนั้นวันนี้ ข้าจะถลกหนัง ดึงเส้นเอ็นของพวกเจ้าออกมาทีละเส้น ๆ แร่เนื้อพวกเจ้าออกทีละชิ้น ๆ กระทั่งขาดใจตาย พวกเจ้าทั้งหมดจะได้ติดตามนายของเจ้าไปยังปรโลกด้วยอย่างไรเล่า !”
ทันทีที่ถ้อยวาจาหลุดพ้นปาก พลังเปลวเพลิงที่ถูกควบกลั่นอยู่ภายในอุ้งมือก็พุ่งตรงเข้าหาสัตว์เวททั้งสองอย่างน่าหวาดหวั่น
เพียงพริบตา พลังเพลิงที่พุ่งเข้าใส่กลับแปรเปลี่ยนสภาพเป็นลูกศรอันแหลมคมจำนวนมากพุ่งตรงมุ่งเข้าหาเกอซี ต้านต้าน และมังกรทองตัวจิ๋ว
“จะให้นางทำอันตรายท่านแม่ไม่ได้เด็ดขาด !” ต้านต้านร้องเสียงหลงพร้อมรีบพองตัวตรงเข้าปกป้องเกอซี
มังกรทองหน้าถอดสี ด้วยเขาย่อมมีความรู้ดีกว่าต้านต้านจึงตระหนักดีถึงแรงพลังที่น่าสะพรึงกลัวของยอดฝีมือระดับปฐพีสะท้านสะเทือน
หากทว่าเมื่อหันมาเห็นเจ้าหมูน้อยหน้าโง่ที่ยืนอยู่ด้านหลังไม่ใส่ใจกระทั่งชีวิตของตน เจ้ามังกรทองตัวจิ๋วกัดฟันเปล่งพลังแสงสีทองเรืองรองพุ่งล้นกระจายทั่วกาย
‘ตูม—–’ เสียงพสุธาสั่นสะเทือนเลื่อนลั่นกระทั่งทั่วทั้งวังจื่อจินยังสั่นโยกคลอนปานประหนึ่งหายนะครั้งใหญ่ตรงเข้าพุ่งชนพวกเขาทั้งหมดในที่นั้น
ครั้นเมื่อเสียงระเบิดเงียบสนิทลง เจ้ามังกรทองตัวจิ๋วก็ร่วงหล่นลงพื้นกระอักโลหิตท่วมก่อนสติสัมปชัญญะของเขาจะค่อย ๆ เลือนลางลง
ยามนี้ เกล็ดมังกรส่วนใหญ่บนเนื้อกายอยู่ในสภาพที่ไหม้เกรี้ยม เขาบนหัวแตกหัก ตลอดทั่วทั้งร่างฉาบทาไปด้วยสายโลหิต และรอยแผลฉกรรจ์ที่น่ากลัว ขุมพลังกระจ้อยร้อยที่เขาสู้เพียรรวบรวมสะสมมาด้วยความวิริยะอุตสาหะอย่างยากลำบากเมื่อได้รับการปลดปล่อยออกจากผนึก ยามนี้กลับถูกนำออกใช้ไปสิ้นไม่หลงเหลือ
ต้านต้านส่งเสียงร่ำร้องโอดครวญเมื่อต้องเผชิญกับภาพเหตุการณ์สุดแสนรันทดจิตเบื้องหน้า ร่างที่ถูกเบ่งให้บวมเป่งเมื่อครู่ถูกหดกลับคืนสู่สภาพปกติอย่างเร็วรี่ยามเมื่อเขารีบวิ่งเข้ามาหามังกรทองตัวน้อย “หลงหลง*เจ้าเป็นอย่างไรบ้าง…..ฮือ ฮือ ฮือ….เจ้าจะตายไม่ได้นะ !”
*หลง ในภาษาจีน แปลว่า มังกร
“เจ้าหมูน้อยจอมเขลา !” มังกรทองตัวจิ๋วกระอักโลหิตพร้อมฟองฟอดกัดฟันข่มเสียงเข้ม “เจ้าไม่รู้หรือว่าข้าคือผู้ใด ? ข้าจะ….จะตาย….ง่าย ๆ ได้อย่าง….”
ยังไม่ทันที่วาจาจะสิ้นสุดมังกรทองตัวจ้อยก็คอพับหมดสติ พลังแสงเรืองรองรอบกายเลือนลางหายสิ้นไม่เหลือแม้ร่องรอย
***จบตอน วาระสุดท้ายแห่งความตาย***
คอมเม้นต์