ขมเป็นยาหวานเป็นคุณ – ตอนที่ 103

อ่านนิยายจีนเรื่อง ขมเป็นยาหวานเป็นคุณ ตอนที่ 103 อ่านนิยายจีน.COM | อ่านนิยายจีนแปลไทย.

ตัดสินใจ คำตอบของอวี๋กานกาน

การที่ทนายเฉินเรียกเธอไปตอนนี้ หรือว่าพินัยกรรมฉบับเสริมที่คุณปู่เขียนจะระบุไว้จริงๆ ว่าหลังจากที่เธอแต่งงานแล้วจะสูญเสียสิทธิ์ในการสืบทอดคลินิก?

 

 

เธอไม่เชื่อว่าคุณปู่ทำพินัยกรรมฉบับเสริมนี้ขึ้นเพียงเพราะในอนาคตเธอต้องแต่งงาน ต่อให้เป็นเช่นนั้นจริง อย่างไรก็ต้องมีเหตุผลแน่นอน เพราะในโลกใบนี้ เธอสามารถไม่ไว้ใจใครก็ได้ แต่ต้องไว้ใจคุณปู่ คนคนนี้เป็นผู้อบรมเลี้ยงดูเธอจนเติบใหญ่ เป็นคนที่รักและเอ็นดูเธอมากที่สุด

 

 

ส่วนเรื่องที่ทำไมลุงใหญ่ถึงพูดแบบนั้นออกมา คงต้องไปหาทนายเฉินแล้วถามถึงเนื้อหาในพินัยกรรมให้ชัดเจนเท่านั้น ถึงจะรู้ว่าความจริงเป็นอย่างไรกันแน่

 

 

อวี๋กานกานนั่งแท็กซี่ไปยังสำนักงานทนายความ

 

 

ณ ห้องรับแขก ลุงใหญ่และเหอหว่านซินนั่งรออยู่ด้านในได้พักหนึ่งแล้ว ยังมีน้องชายของเหอหว่านซินเหอจิงม่อนั่งอยู่ด้วย

 

 

เมื่อเหอจิงม่อเห็นอวี๋กานกานเดินเข้ามา เด็กหนุ่มอายุสิบห้าปีมีใบหน้ายิ้มแย้มแจ่มใสในทันตา “พี่กานกาน”

 

 

กลับกันกับเหอหว่านซินเมื่อเห็นอวี๋กานกานเดินเข้ามา พูดกับทนายเฉินอย่างรีบร้อนรำคาญใจ “ทนายเฉิน ทุกคนมากันครบแล้ว ตอนนี้เปิดพินัยกรรมฉบับเสริมได้แล้วหรือยังคะ”

 

 

ลุงใหญ่นั่งอยู่บนโซฟามาโดยตลอด สีหน้าเคร่งเครียดไม่พูดจาสักคำ

 

 

อวี๋กานกานยิ้มให้เหอจิงม่อ จากนั้นนั่งลงตรงอีกฝั่งหนึ่ง

 

 

แม้ว่าลุงใหญ่ ป้าสะใภ้และเหอหว่านซินจะค่อนข้างเชื่อถือไม่ได้ แต่ความสัมพันธ์ระหว่างเธอกับน้องชายอย่างเหอจิงม่อถือว่าอยู่ในเกณฑ์ที่ค่อนข้างดี

 

 

เหอจิงม่อเรียนอยู่ในโรงเรียนนานาชาติชั้นยอด ซึ่งใช้นโยบายแบบโรงเรียนประจำ หนึ่งเดือนได้รับสิทธิ์เพียงหนึ่งครั้งให้กลับมาพักผ่อนที่บ้านได้

 

 

ทนายเฉินลุกขึ้น มองพวกเขาแล้วส่ายศีรษะ “คุณหนูเหอ ไม่สามารถทำได้ครับ คุณปู่เหอเคยสั่งเสียไว้ว่า พินัยกรรมฉบับเสริมต้องเปิดในตอนที่คุณเหอสือกุย คุณหนูอวี๋กานกาน และคุณเหอจิงม่อสามคนอยู่พร้อมหน้ากันเท่านั้น”

 

 

เหอหว่านซินกล่าวอย่างไม่พอใจ “แต่คุณเหอสือกุย หรือก็คืออาเล็กของหนูเขาหายตัวไปค่ะ?”

 

 

ทนายเฉินหันมามองอวี๋กานกาน เธอพยักหน้าเล็กน้อย เธอเข้าใจแล้วว่าทำไมลุงใหญ่ถึงได้รอหลายวันกว่าจะติดต่อทนายเฉิน ทั้งยังพาน้องชายมาด้วย ที่แท้พินัยกรรมฉบับเสริมมีเงื่อนไขว่าตอนเปิดพินัยกรรมต้องให้เหอจิงม่ออยู่ด้วยนี่เอง

 

 

ทนายเฉินหัวคิ้วมุ่นเข้าหากันเล็กน้อย กล่าว “หากคุณเหอสือกุยหายสาบสูญ พินัยกรรมฉบับเสริมนี้ขอเพียงแค่คุณเหอจิงม่อและคุณหนูอวี๋กานกานทั้งสองคนยินยอมก็จักสามารถเปิดผนึกได้”

 

 

ลุงใหญ่พูดด้วยสีหน้าเคร่งเครียด “ไม่ใช่ว่าตรงกับเงื่อนไขที่พินัยกรรมระบุไว้ก็สามารถเปิดอ่านได้เลยเหรอ” ที่เขารู้คือ แค่อวี๋กานกานจดทะเบียนสมรสก็จะสามารถเปิดพินัยกรรมฉบับเสริมได้ ซึ่งตอนนี้อวี๋กานกานก็จดเบียนสมรสแล้ว

 

 

ทนายเฉินส่ายหน้า “ไม่ใช่ครับ หากคุณเหอสือกุยหายสาบสูญไปสองปีโดยที่ไม่มีข่าวคราวใดๆ หรือถูกตัดสินว่าเสียชีวิตแล้ว เช่นนั้นก็จะสามารถเปิดพินัยกรรมได้ทันที”

 

 

สองปี? สองปีหลังจากนี้ใครจะรู้ว่าจะมีอะไรเปลี่ยนแปลงไปบ้าง พวกเขาไม่มีใครยอมทนรอถึงสองปีแน่ เหอหว่านซินหันขวับไปมองอวี๋กานกาน ออกคำสั่ง “แกรีบๆ ยินยอมให้ทนายเฉินเปิดพินัยกรรมฉบับเสริมซะ”

 

 

อวี๋กานกานยิ้มแล้วกล่าว “ในใจของฉันคลินิกเป็นของอาจารย์มาโดยตลอด หากอาจารย์กลับมาแล้ว ฉันยอมให้เปิดพินัยกรรมฉบับเสริมนี้แน่ ถึงตอนนั้นในพินัยกรรมคุณปู่ระบุว่าอย่างไรฉันก็จะปฏิบัติตาม แต่ตอนนี้ฉันจะไม่ยอมให้เปิดพินัยกรรมฉบับนี้เด็ดขาด”

 

 

เหอหว่านซินด่าประณาม “แกก็แค่อยากจะยึดคลินิกตระกูลเหอของพวกเรา มือถือสากปากถือศีล”

 

 

เหอจิงม่อขมวดคิ้ว มองเหอหว่านซินกล่าว “พี่ครับ ทำไมพูดแบบนี้ล่ะ”

 

 

เหอหว่านซินยกมือปรามเหอจิงม่ออย่างขัดใจ “เด็กอย่างแกจะไปเข้าใจอะไร อย่าโดนมันหลอก”

 

 

อวี๋กานกานมองพวกเขาแล้วกล่าว “ก็แล้วแต่พวกคุณจะคิด จะพูดอะไรก็เชิญตามสบาย หากจะเปิดพินัยกรรมฉบับเสริม ทางเดียวคืออาจารย์ฉันต้องอยู่ที่นี่ด้วยเท่านั้น”

 

 

 

 

คอมเม้นต์

การแสดงความเห็นถูกปิด