หัตถ์เทวะธิดาพญายม – ตอนที่ 12 บุญคุณต้องทดแทน ความแค้นต้องชำระ
เพียงได้ยินคำกล่าวของเกอซี เหล่าอารักขาทั้งสี่ค่อยคลายใจ สายตาที่พวกมันจับจ้องไปยังหญิงสาวเต็มไปด้วยอาการแห่งความเหยียดหยัน
“ฮึ่ม ! รู้จักประมาณตนก็ดีแล้ว เจ้าควรรู้ว่าคนเช่นเจ้าหาใช่ผู้ที่จะต่อกรกับตระกูลจูไม่ รีบปล่อยพวกเราไปเร็วเข้า หาไม่แล้วนายท่านและคนสกุลจูจะไม่ปล่อยเจ้าไว้แน่ !”
เกอซีหาได้ใส่ใจวาจาสามหาวพวกนั้นไม่ นางยังคงเอื้อนเอ่ยวาจาต่อไปเรื่อย ๆ “ฆ่าพวกเจ้าทิ้งมันง่ายเกินไป ในเมื่อพวกเจ้าชอบดูแคลนคนธรรมดาสามัญผู้ไร้วรยุทธแล้ว เช่นนั้นพวกเจ้าก็ลองลิ้มรสชาติแห่งการเป็นผู้สิ้นไร้พลังฝีมือดูบ้างเป็นไร !”
ฉับพลันที่คำกล่าวสิ้นสุดลง แท่งเข็มเงินไร้เงาในมือถูกซัดออกไปทันที
ครานี้แท่งเข็มเงินไร้เงามิได้ถูกซัดเข้าสะกดจุดตันเถียนเหมือนดั่งเคย หากแต่พวกมันถูกซัดทะลวงเข้าไปยังจุดรวมกระแสพลังปราณในกายซึ่งอยู่ ณ จุดใจกลางจุดตันเถียน
เสียง ‘ชี่’ สะท้อนก้องอยู่เบา ๆ ในสองหูของพวกมันก่อนที่กระแสพลังปราณที่มีกำลังเข้มข้นจะแพร่กระจายลอยฟุ้งออกไปในอากาศ
“อ๊าก อ๊าก อ๊าก—– ! ! ! !” เสียงร้องระเบิดก้องประดุจดั่งเสียงโหยหวนของเหล่าภูตผีประสานเข้ากับเสียงเห่าหอนคร่ำครวญของเหล่าสัตว์ป่าดังกังวานระงมไปทั่ว
อารักขาทั้งสี่รับรู้ได้ถึงเส้นชีพจรลมปราณในกายที่แตกขาดสะบั้น พวกมันไม่เหลือกระแสพลังปราณใด ๆ ทุกอณูในเส้นชีพจรลมปราณมิอาจกักเก็บพลังแห่งกระแสจิตวิญญาณใด ๆ ได้อีก
เพียงชั่วพริบตา พวกมันไม่อาจรับรู้ถึงแรงกระตุกเต้นจากชีพจรลมปราณในจุดตันเถียน อีกทั้งไม่อาจสัมผัสได้ถึงกระแสพลังแห่งจิตวิญญาณใด ๆ ในกายตน
เช่นนั้นแล้วเพียงสองช่วงลมหายใจเข้าออกเท่านั้น ใบหน้าของพวกมันพลันแปรเปลี่ยนสภาพไปอย่างที่สามารถสังเกตเห็นได้ด้วยตาเปล่า สภาพของบุรุษฉกรรจ์วัยสามสิบกลับแปรผันเป็นชายชราในช่วงวัยหกสิบปีทันที
เมื่อจุดตันเถียนถูกทำลาย กระแสพลังวัตรทั้งหลายที่ถูกกักเก็บรักษาไว้ภายในย่อมกระจายระเหยพวยพุ่งออกไปจากทั่วทุกอณูกาย พลังยุทธที่ได้ร่ำเรียนฝึกฝนมานานพลันสูญสลายไปเพียงชั่ววูบเดียว
จุดตันเถียนเป็นจุดที่ถูกซ่อนไว้ในเรือนกายของมนุษย์ทุกคน มันเป็นเสมือนจุดซุกซ่อนเก็บขุมพลังงานแห่งกระแสจิตวิญญาณที่ควบรวมในกาย ซึ่งแทบจะไม่มีทางเป็นไปได้เลยที่จะมีผู้ใดสามารถเข้าไปทำลายแหล่งขุมพลังในจุดตันเถียนนี้ได้
ทว่าด้วยแท่งเข็มเงินไร้เงาผนวกกับความเข้าใจในโครงสร้างสรีระกายของมนุษย์ เกอซีย่อมสามารถลงมือได้อย่างง่ายดาย
นับแต่นี้ไป อารักขาทั้งสี่จะเป็นผู้ไร้สิ้นพลังยุทธโดยถาวร พวกมันไม่อาจฝึกฝนกำลังปราณหรือเดินกระแสพลังใด ๆ ได้อีก พวกมันกลายเป็นชายชราผู้ธรรมดาสามัญไร้สิ้นพลังวัตรอย่างที่พวกมันทุกคนเหยียดหยามเป็นที่ยิ่ง
เหล่าอารักขาผู้อยู่ในระดับขอบเขตกำลังปราณขั้นเมล็ดพันธุ์เพาะบ่มที่กำลังเฝ้าดูความเป็นไปอยู่ด้านข้างต่างพากันสั่นผวาด้วยความหวาดกลัว พวกมันล้วนเงียบกริบไร้สุ้มเสียงใดประดุจดั่งหมู่จั๊กจั่นที่จำศีลในช่วงฤดูเหมันต์
เกอซีชำเลืองสายตาไปทางเหล่าบุรุษพวกนั้น “บุญคุณต้องทดแทน ความแค้นต้องชำระ เมื่อพวกมันรังควานข้าไม่เลิกรา จุดจบย่อมลงเอยเช่นนี้ ในเมื่อระหว่างเราไม่มีความหมางใจหรือขัดเคืองต่อกัน ข้าย่อมไม่ลงมือกับพวกเจ้า”
เหล่าองครักษ์ที่เหลือได้ยินนางเอ่ยขึ้นเช่นนั้น พวกมันพากันถอนหายใจยาวด้วยความโล่งใจก่อนที่จะรีบปิดเปลือกตาลงแสร้งทำทีเป็นหลับใหลไม่ได้สติต่อไป
แม้ว่าเกอซีจะเริ่มลงมือลากถูร่างของจูจงป้าและเหล่าอารักขาทั้งสี่ออกมารวมกัน พวกมันทั้งหมดก็ยังคงแสร้งทำไม่รู้ไม่เห็นสิ่งใดต่อไป
ถึงแม้ว่ามันจะแลดูน่าตลกขบขันไปเสียหน่อย หากนายใหญ่แห่งสกุลจูจะลงทัณฑ์พวกมันทั้งหมดก็ยังนับว่าเป็นเพียงเรื่องเล็กน้อย แต่หากพวกมันเกิดไปกระตุกต่อมเจ้าป้านางนี้เข้าให้ คงได้กลายเป็นผู้พิการ เส้นชีพจรลมปราณขาดสะบั้นไม่อาจฝึกฝนพลังฝีมือได้อีก และหากเป็นเช่นนั้น ตลอดชีวิตนี้ของพวกมันย่อมมีอันสิ้นสุด !
เมื่อเป็นเยี่ยงนี้ คุณชายจูเห็นทีว่าครานี้ ท่านคงต้องสวดอ้อนวอนภาวนาขอความเมตตาจากสวรรค์แล้ว !
ยามนี้ทุกคนทำได้เพียงปลงสลดสังเวชต่อชะตากรรมของนายน้อยจูผู้ดูราวกับสุกรอ้วนอืดตายซากที่กำลังถูกลากขึ้นเขียงเชือด ณ กลางลาน
ในขณะที่เกอซีกำลังจับจูจงป้ามัดไว้กับเสา ศีรษะบวม ๆ ของมันขยับส่ายกระเพื่อมไปมา บุรุษเจ้าเนื้อเริ่มรู้สึกตัวแล้ว
“เจ้า…..เจ้าจะทำอะไรข้า ?”
จูจงป้าเบิ่งตาโพลง ทั่วทั้งกายเจ็บปวดรวดร้าวราวกับถูกฉีกเนื้อเถือกระดูก
หากแต่มันมิอาจหาญกล้าเหิมเกริมใด เมื่อเห็นการแย้มสรวลที่ประดุจดั่งนางมารปีศาจของเกอซีอีกครา กลเกมส์ทางจิตวิทยาเช่นนี้กระแทกกระทั้นให้จิตใจของจูจงป้ากระเจิดกระเจิงไม่เป็นชิ้นดี
ไม่รอให้จูจงป้าได้เอ่ยคำ เกอซีคว้าแท่งเข็มเงินไร้เงาขึ้นมาสามแท่ง หญิงสาวสะบัดมือเพียงคราวเดียวแท่งเข็มเงินทั้งหมดถูกซัดเข้าใส่ร่างของจูจงป้าทันที
จูจงป้ารับรู้ได้ว่าเส้นชีพจรลมปราณในกายเต้นช้าลงไปเรื่อย ๆ จุดตันเถียนถูกสะกัด มิอาจโคจรกระแสพลังวัตรได้อีก
แน่นอนว่านี่คือทักษะการสกัดเส้นชีพจรลมปราณและสะกดจุดตันเถียนทำให้ไม่สามารถโคจรพลังปราณได้เพียงชั่วคราว ซึ่งย่อมมีความแตกต่างจากการตัดกระแสเส้นชีพจรลมปราณให้พิการลงไปอย่างถาวร
ครานี้ เกอซีใช้แท่งเข็มเงินไร้เงาแค่เพียงสามเล่มเพื่อสกัดให้จูจงป้าผู้มีพลังฝีมือระดับขั้นเมล็ดพันธุ์เพาะบ่มไม่อาจโคจรกระแสพลังได้ในช่วงระยะเวลาหนึ่ง
จากนั้นหญิงสาวจึงหยิบเอาแท่งเข็มเงินไร้เงาที่ปลายเข็มติดอาคมประทับทัณฑ์ทาสผนึกวิญญาณออกมาอีกชุดก่อนจะซัดมันตรงเข้าหาส่วนสมองในศีรษะของจูจงป้า
แท่งเข็มเงินไร้เงาแทรกผ่านเข้าไปในศีรษะขนาดมโหฬารนั้นทันที เกอซีจรดปลายนิ้วลงตรวจจับเส้นชีพจรบนข้อมือของจูจงป้าเพื่อจะให้แน่ใจว่าแท่งเข็มเงินไร้เงาตลอดจนกระทั่งถึงอาคมประทับทัณฑ์ทาสผนึกวิญญาณได้ถูกผนึกไว้ในหัวของจูจงป้าอย่างสนิทแนบแน่น เพื่อความสมบูรณ์แห่งอาคมสะกดวิญญาณคุมจิต
เมื่อทุกอย่างไร้ที่ติแล้ว หญิงสาวจึงคลายมือของตนออก
***จบตอน บุญคุณต้องทดแทน ความแค้นต้องชำระ***
คอมเม้นต์