หัตถ์เทวะธิดาพญายม – ตอนที่ 144 ชีวิตบนเส้นด้าย

อ่านนิยายจีนเรื่อง หัตถ์เทวะธิดาพญายม ตอนที่ 144 อ่านนิยายจีน.COM | อ่านนิยายจีนแปลไทย.

ยามนี้ สีหน้าท่าทางที่ไป๋หู่มีปฏิสัมพันธ์ต่อจูเฉวี่ยนั้นเต็มไปด้วยความรำคาญ ประกายตาอันเยียบเย็นราวน้ำแข็งฉายวาบขึ้น “จูเฉวี่ย เจ้าล้ำเส้นมากไปแล้ว ข้าจะรายงานความประพฤติของเจ้าให้แก่นายท่าน รอให้นายท่านรู้สึกตัวเท่านั้น เจ้าจงเตรียมคำแก้ตัวไว้ให้ดี”

 

 

สิ้นสุดคำกล่าว ความสนใจทั้งหมดของเขาก็ถอนกลับมา ก่อนจะเบนสายตาไปหาเกอซี “พระชายา ชิงหลงต้องการให้ข้านำตัวท่านไปพบนายท่านทันทีที่ท่านรู้สึกตัวตื่น โปรดติดตามข้ามาทางนี้”

 

เกอซีขมวดคิ้ว ความห่วงกังวลต่อสภาพร่างกายของหนานกงยวี่คือสิ่งสำคัญอันยิ่งยวดสำหรับนางในยามนี้ “ตอนนี้หนานกงยวี่เป็นอย่างไร ?”

 

“กลางดึกคืนวานนายท่านล้มป่วยอาการทรุดหนัก กระทั่งยามนี้ยังไม่มีทีท่าจะรู้สึกตัว หมอทุกท่านในพระตำหนักรวมถึงจูเฉวี่ยล้วนเข้ามาตรวจดูอาการ ทว่ากลับยังมิอาจให้การเยียวยารักษาได้ พวกเราอับจนสิ้นหนทางอย่างแท้จริง”

 

เกอซีรีบสวนขึ้นทันควัน “รีบพาข้าไปเดี๋ยวนี้” หากจะเทียบกับความปลอดภัยของหนานกงยวี่ หนี้บัญชีกับจูเฉวี่ยรวมถึงกระทั่งการถูกเอ่ยขานให้เป็นพระชายาล้วนไม่อาจนับเป็นอย่างไรได้ !

 

ยังมี เมื่อคิดถึงการปลิดชีวิตจูเฉวี่ยด้วยผงเงินหลอมกระดูกนั้นยังนับว่าด้อยค่าจนเกินไปสำหรับจุดจบของหญิงผู้นี้ เพราะหากจูเฉวี่ยยังคอยหาเรื่องระรานนางอีก หึหึ นางยังมีเรื่องสนุกน่าตื่นเต้นเตรียมพร้อมรอต้อนรับ และพร้อมจะล้างมือรอเล่นสนุกกับหญิงผู้นี้ไปกระทั่งวาระสุดท้ายของนางเลยทีเดียว

 

ไป๋หู่เร่งฝีเท้าก้าวนำทาง ครั้นเมื่อเฉียดผ่านจูเฉวี่ย สายตาอันเย็นชาของเขาชำเลืองผ่านไปเห็นใบหน้าที่ยังคงความขุ่นเคืองของอีกฝ่าย เขาถึงกับต้องส่ายหน้าด้วยจนปัญญา

 

ผู้ดูแลรับใช้ของหนานกงยวี่ทุกคนล้วนล่วงรู้ถึงความรู้สึกที่จูเฉวี่ยมีต่อนายท่าน พวกเขาต่างพยายามเอ่ยกล่าวแนะนำตักเตือนนางทั้งไม่ว่าจะด้วยทางตรงและทางอ้อม ทว่า เพียงเพราะความเห็นแก่ตัว นางถึงกับเพิกเฉยต่อคำสั่งของนายท่าน จูเฉวี่ยผู้นี้……เห็นทีว่านางคงไม่อาจดำรงสถานะอยู่ในตำหนักราชันมัจจุราชนี้ได้นานเป็นแน่

 

สถานที่ฝึกพลังฝีมือของหนานกงยวี่อยู่ค่อนข้างไกลห่างออกไป แม้กระนั้น เกอซีผู้กำลังพยายามครุ่นคิดหวนรำลึกถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้นเมื่อคืนก่อนตลอดเส้นทางกลับก็ไม่อาจรำลึกถึงเรื่องราวฝังใจที่เกิดขึ้นได้เลยแม้เพียงน้อยไม่ว่านางจะเพียรพยายามทบทวนมากเพียงไรก็ตาม

 

แม้เมื่อแอบลอบชำเลืองแลดูไป๋หู่จากด้านข้าง นางยังรับรู้ได้ว่าใบหน้าของเขาตึงเกร็งขึ้งเคียดด้วยความไม่พอใจ ท่าทางเย็นชาเช่นนี้ไม่เหลือร่องรอยแห่งนักซุบซิบจอมนินทาปากมากที่นางเคยพบเจอที่เรือนหลังน้อยเอาเสียเลย

 

เกอซีย่อมรับรู้ได้ถึงความขุ่นเคืองขัดข้องที่อีกฝ่ายมีต่อนางอย่างชัดเจน เนื่องเพราะ………เพราะนางคือต้นเหตุให้หนานกงยวี่ต้องอยู่ในสภาพไร้สิ้นสติเช่นนี้

 

“เป็นหนานกงยวี่ที่ช่วยชีวิตข้าไว้เมื่อวานนี้หรือ ?”

 

ฝีเท้าของอีกฝ่ายชะงักเล็กน้อย มุมปากขยักโค้งขึ้นอย่างอ่อนบาง “ถูกแล้ว พระชายา”

 

เมื่อวานพวกเขาทุกคนล้วนได้เห็นสภาพกึ่งซากศพของเกอซีด้วยตาตนเอง หากมิใช่ด้วยเพราะนายท่านทุ่มเทกระทำทุกหนทางเพื่อยื้อชีวิตนางไว้ อาจบางทีเกอซีผู้นี้ย่อมไม่เหลือลมหายใจอยู่รอด จะต้องกล่าวไปไยถึงพลังฝีมือที่พัฒนาขึ้นอย่างก้าวกระโดด

 

ทว่า เพราะนาง …. นายท่านจึงตกอยู่ในสภาพสาหัสถึงขั้นกึ่งเป็นกึ่งตายเช่นนี้  ผลพวงเยี่ยงนี้ย่อมทำให้ไป๋หู่มิอาจรู้สึกเช่นไรได้นอกไปเสียจากไม่พอใจในตัวเกอซี หากมิใช่เพราะการปรากฏกายของนาง นายท่านย่อมสามารถต้านทานโรคร้ายภายในได้เฉกเช่นที่เคย ทั้งไม่ต้องทำให้ตนเองตกอยู่ในสภาพที่สุ่มเสี่ยงต่อชีวิตดังเช่นครานี้

 

พระชายาอีกแล้ว ? ปลายคิ้วของเกอซีขมวดมุ่น “ข้าไม่ใช่พระชายาของพวกเจ้า”

 

ไป๋หู่ส่งเสียงขึ้นจมูกด้วยน้ำเสียงห่างเหินเป็นการเป็นงาน “โปรดอภัย นี่คือบัญชาของนายท่าน แม้หากพวกเราไม่เต็มใจ พวกเรายังจำต้องปฏิบัติตามเท่านั้น หากนายท่านกล่าวว่าท่านคือพระชายา เช่นนั้น ท่านก็คือพระชายา”

 

นรกชัด ๆ ! หนานกงยวี่บอกว่าข้าคือพระชายา ข้าก็ต้องเป็นพระชายากระนั้นหรือ ?

 

นี่จะไม่มีผู้ใดไถ่ถามความคิดเห็นของนางเลยกระนั้นหรือ ?

 

มันเรื่องอะไรกันที่หนานกงยวี่จะมาสั่งการให้ผู้ใต้บัญชาของตนเที่ยวเรียกขานนางว่าพระชายา ? สมองเขายังปกติดีอยู่หรือ ?

 

 

****

 

ครั้นเมื่อเกอซีกำลังจะขยับปากโต้กลับ ทั้งคู่ก็มาถึงห้องพักฟื้นของหนานกงยวี่แล้ว ยามนี้สิ่งสำคัญเหนืออื่นใดคือภาระหน้าที่ในมือของตน

 

กลุ่มคนจำนวนหนึ่งยืนรักษาการอยู่หน้าห้องพักฟื้น พวกเขาคือมังกรฟ้าชิงหลง และบุรุษผู้มีลักษณะโดดเด่นสะดุดตาอีกสามนาย

 

ผู้ที่ยืนอยู่ด้านข้างของชิงหลงคือบุรุษรูปร่างสูงโปร่งในชุดสีดำ ประกายตาของเขาแจ่มกระจ่างเฉียบคม คนผู้นี้ให้ความรู้สึกคล้ายคลึงกับชิงหลง เกอซีเคยเห็นอารักขาส่วนตัวของหนานกงยวี่ทั้งสามมาแล้ว ทั้งยังรู้ว่าฉายาของพวกเขานั้นมาจากชื่อของสัตว์เทพอสูรทั้งสี่ นั่นคือ มังกรฟ้าชิงหลง พยัคฆ์ขาวไป๋หู่ หงส์เพลิงจูเฉวี่ย เช่นนั้น คนผู้นี้อาจเป็นเต่าดำซวนหวู่

 

 

***จบตอน ชีวิตบนเส้นด้าย***

คอมเม้นต์

การแสดงความเห็นถูกปิด