หัตถ์เทวะธิดาพญายม – ตอนที่ 150 พฤกษาเวทแห้งเหี่ยว
ชิงหลงมีท่าทีลังเล คิ้วคมเข้มจิกเข้าหากันเมื่อเขากล่าวตอบ “พระชายา ผู้น้อยหลงลืมแจ้งแก่ท่านไปว่า การตระเตรียมสมุนไพรตามรายการที่ท่านได้มอบให้แก่ผู้น้อยนั้นอาจมีความขัดข้องอยู่บ้าง”
“เอ๋ ?”เกอซีเลิกคิ้วด้วยความประหลาดใจ ส่วนประกอบโอสถพวกนี้ล้วนเป็นเพียงพฤกษาเวทธรรมดาสามัญที่พบเห็นได้โดยทั่วไป ยกไว้แต่เพียงต้นหญ้าหยินยะเยือกเท่านั้นที่ย่อมนับได้ว่าเป็นพืชสมุนไพรขั้นสี่ ทว่าแม้กระนั้น ด้วยอิทธิพล และความมั่งคั่งแห่งตำหนักราชันมัจจุราช มีหรือที่พวกเขาจะไม่สามารถจัดหาสิ่งเหล่านั้นได้ ?
แววตาชิงหลงที่ถ่ายทอดกลับมาหาอีกฝ่ายเผยให้เห็นความรู้สึกที่ซับซ้อน “เมื่อวาน กับทั้งเมื่อคืนก่อน พฤกษาเวททั้งหมดตลอดทั่วทั้งเมืองล้วนถูกบางสิ่งดูดกลืนพลังกระทั่งมันเหี่ยวแห้งเฉาตาย ไม่เว้นกระทั่งพฤกษาเวทที่เก็บรักษาไว้ในหีบหยกก็ยังไม่อาจพ้นวิกฤตครานี้ได้ ยิ่งโดยเฉพาะต้นหญ้าหยินยะเยือกทั้งหมดล้วนไม่เหลือสภาพ แม้ต้นหญ้าหยินยะเยือกจะเป็นเพียงพฤกษาเวทขั้นสี่ ทว่าพวกเราไร้สิ้นหนทางจะแสวงหามันได้”
ได้ยินเช่นนั้นหญิงสาวยิ่งประหลาดใจ ฉับพลันจึงรำลึกขึ้นได้ว่าตลอดทางที่นางเดินผ่านมาถึงในห้องนี้ ต้นไม้ใบหญ้าทั้งหลายล้วนแปรเปลี่ยนไร้สีเขียวขจี แน่นอนว่า…..พฤกษาเวททั้งหลายล้วนตายสิ้นโดยไม่มีส่วนใดเหลือ
เห็นเกอซีมีใบหน้ายุ่งย่นเช่นนั้น จูเฉวี่ยระเบิดเสียงหัวเราะขึ้นมาอีกครา “เชนนี้เอง เจ้าย่อมรู้ดีว่าพฤกษาเวททั้งหมดในเมืองล้วนเหี่ยวเฉาจนสิ้น เจ้าจึงกล้าท้าเดิมพันกับข้า เจ้ารู้แก่ใจว่ากระบวนการรักษาที่เจ้าตระเตรียมไว้ล้วนไม่อาจสัมฤทธิ์ผลด้วยเหตุนั้น เจ้าจึงแสร้งทำท่าทางจริงจังแข็งขันราวกับไม่รู้เรื่องราวอันใด หญิงสารเลว เหตุใดเจ้าจึงไร้ยางอายเช่นนี้ ? อย่าได้หมายว่าเมื่อพฤกษาเวททั้งหมดล้วนแห้งเหี่ยวจนเป็นเหตุให้เจ้าไม่อาจบรรลุเดิมพันแล้วจะทำให้ข้าไม่สามารถทำลายโฉมหน้าเจ้าตามที่เดิมพันกันไว้ได้ !”
ได้ยินเช่นนั้นกลุ่มของพวกชิงหลงล้วนต้องย่นคิ้ว เหตุใดจูเฉวี่ยจึงไร้สติเช่นนี้ เพียงเพราะความริษยาในตัวเกอซี นางถึงกับไม่คำนึงถึงความปลอดภัยของนายท่าน
ไป๋หู่โพล่งขึ้นมา “จูเฉวี่ย อาจารย์ของเจ้ามีสวนสมุนไพรเคลื่อนที่มิใช่หรือ ? สวนสมุนไพรซึ่งรวบรวมปลูกพรรณพฤกษาล้ำค่าจากใต้หล้าถึงแดนสรวงเช่นนั้นย่อมต้องยังทรงสภาพไม่ถูกดูดซับพลังไปอย่างแน่นอน เจ้าเร่งไปร้องขอสมุนไพรจากนางมาเถิด หาไม่แล้วอาจช้าจนเกินการ !”
“เพื่ออะไร ? !” จูเฉวี่ยแผดเสียงตีโพยตีพาย “เหตุใดขัาต้องช่วยนางสารเลวนี่ ? หากเรามุ่งหมายจะช่วยนายท่านก็เพียงไปเชื้อเชิญท่านอาจารย์มาที่นี่เท่านั้น ! แม้ต้องตายข้าก็จะไม่ให้ความช่วยเหลือนางแพศยานี่ !”
เห็นจูเฉวี่ยเอะอะโวยวายไร้เหตุผลเช่นนั้น ทั้งชิงหลง หวูซิน และพวกที่เหลือล้วนจ้องนางเขม็งด้วยความโกรธเกรี้ยว
แค่คิดถึงการเดิมพันที่เกิดขึ้นระหว่างนางกับน่าหลานเกอซี ย่อมเพียงพอจะบอกได้ว่าจูเฉวี่ยผู้นี้ย่อมมิอาจอยู่ในตำหนักราชันมัจจุราชได้อีกต่อไปอย่างแน่นอน เมื่อใดที่นายท่านฟื้นอาการ พวกเขาคงได้รู้ว่านายท่านจะลงทัณฑ์นางเช่นไร
ทว่าเกอซียังคงความสุขุมอย่างไม่เปลี่ยนแปลง นางกล่าวต่ออย่างไม่นำพา “นำทางข้าไปยังสวนสมุนไพรในพระตำหนัก”
ชิงหลงนิ่งค้างด้วยใบหน้าระคนความประหลาดใจ “พระชายา พรรณพฤกษาทั้งหมดในสวนสมุนไพรล้วนเหี่ยวแห้งตายไม่เหลือแม้เพียงต้น”
เกอซีหัวเราะออกมาเบา ๆ น้ำเสียงของนางราบเรียบเนิบนาบ “สิ่งที่ข้าต้องการชมคือพฤกษาเวทที่เหี่ยวแห้งพวกนั้น”
ในโลกแห่งนี้ พฤกษาเวทที่ตายแล้วย่อมถือได้ว่าเป็นแค่เพียงสิ่งไร้ค่า เช่นนั้นทุกคนจำต้องอาศัยหีบหยกในการเก็บรักษาพฤกษาเวทเพื่อคงสภาพคุณสมบัติ เนื่องเพราะเมื่อใดที่พฤกษาเวทเหี่ยวแห้ง พลังชีวิตที่แฝงภายในย่อมต้องสลายสิ้น และหากนำมันมากลั่นปรุงโอสถ พฤกษาเวทเช่นนั้นย่อมไร้คุณสมบัติที่จะหลอมรวมตัวร่วมกับส่วนประกอบโอสถอื่น ทั้งยังไม่อาจเพียงพอที่จะต้านทานต่อความร้อนแผดเผาเพื่อหลอมรวมกลั่นเม็ดโอสถ เช่นนั้นแล้ว พฤกษาเวทที่แห้งเหี่ยวย่อมนับได้ว่าเป็นสิ่งไร้ประสิทธิภาพอย่างสิ้นเชิง
ทว่าเกอซีนั้นมีความคิดแปลกแยกออกไป นางต้องการนำพฤกษาเวทเหล่านั้นมาใช้ในการรักษาด้วยวิถีทางการแพทย์แบบพื้นบ้านของชาวจีนยุคโบราณ
การรักษาพื้นบ้านแบบโบราณนั้นย่อมต้องอาศัยสมุนไพรที่ได้จากการสงวนรักษาคุณสมบัติของตัวยาไว้ให้ได้ยาวนานที่สุด อีกทั้งกระบวนการยืดอายุรักษาพืชสมุนไพรให้ได้ยาวนานที่สุดนั้นคือการตากแห้ง เช่นนั้นแล้ว แม้หากพืชสมุนไพรพวกนี้จะแห้งเหี่ยว ย่อมไม่ส่งผลกระทบต่อขั้นตอนการรักษาตามแบบแผนยุคโบราณแต่อย่างใด
จูเฉวี่ยกระเหี้ยนกระหือรือที่จะได้เห็นความอับอายของเกอซียามเมื่อเกอซีต้องกล้ำกลืนต่อความพ่ายแพ้ หึหึ ผลเป็นเช่นไรนาง จูเฉวี่ย ย่อมรู้แน่ชัดแก่ใจ !
*****
สวนสมุนไพรในตำหนักราชันมัจจุราชมีขนาดใหญ่โตกว้างขวางยิ่งนัก ทั้งยังมีการออกแบบสิ่งปลูกสร้างทั้งหลายให้เสริมพลังชีวิตหนุนส่งกำลังปราณตลอดทั่วทั้งอาณาบริเวณ เช่นนั้น สถานที่แห่งนี้จึงอัดล้นไปด้วยคลื่นพลังหนาแน่นอย่างมหาศาล
ทว่ายามนี้ ตลอดทั่วทั้งสวนสมุนไพรกลับมีเพียงความแห้งเหี่ยว พรรณพฤกษาเวททั้งหมดห่อตัวเหี่ยวจนมีสีเทาราวเถ้าถ่าน ไม่เว้นกระทั่งหินผลึกที่ถูกออกแบบวางไว้ตามจุดต่าง ๆ ที่สามารถหนุนส่งพลังได้อย่างยอดเยี่ยมยังสูญเสียพลังชีวิตแปรสภาพกลายเป็นเพียงเศษฝุ่น
เกอซีทำได้เพียงทอดถอนใจ “เป็นเช่นนี้ได้อย่างไร ?”
ครั้นเมื่อหันไปประสานเข้ากับสายตาอันแสดงให้เห็นถึงความขัดแย้งภายในใจของชิงหลง นางจึงได้ยินสุ้มเสียงจากเขา “พระชายา ท่านจดจำสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อคืนไม่ได้กระนั้นหรือ ?”
***จบตอน พฤกษาเวทแห้งเหี่ยว***
คอมเม้นต์