หัตถ์เทวะธิดาพญายม – ตอนที่ 164 ณ ตีนเขาฉาง
เทือกเขาฉาง ? สมบัติที่ถูกเก็บซ่อน ? เรือนน้อยของข้าอยู่ที่ตีนเขาฉางมิใช่หรือ ? หากยอดฝีมือทั้งหลายล้วนพากันมุ่งหน้าสู่เทือกเขาฉาง เช่นนั้น ความปลอดภัยของแม่นมเฉิน และทุกคน……. สีหน้าของเกอซีแปรเปลี่ยนเล็กน้อย นางไม่อยู่ในอารมณ์ที่จะแอบฟังบทสนทนานี้อีกต่อไป ฝีเท้าที่ก้าวลงขั้นบันไดถูกเร่งให้กระชั้นถี่ยิ่งขึ้น หญิงสาวรีบรุดตรงกลับไปยังเรือนน้อยด้วยความรวดเร็วปานสายฟ้า
เพียงพริบตา เกอซีก็มาถึงเทือกเขาฉาง ทั้งยังพบว่าสิ่งที่ตนคาดคำนวณไว้ล้วนไม่ผิดพลาดแม้เพียงน้อย เหล่าบรรดายอดฝีมือทั้งหลายล้วนมารวมตัวกันรอบอาณาบริเวณกลายเป็นกลุ่มฝูงชนขนาดใหญ่
นับว่ายังโชคดียิ่งที่ยอดฝีมือโดยส่วนมากยังคงมีความตระหนกหวาดหวั่นในเขตแดนกำบังซึ่งเป็นที่เก็บซ่อนสมบัติอันล้ำค่า เช่นนั้นยามนี้พวกเขาล้วนกำลังสาละวนอยู่กับการตระเตรียมกำลังความพร้อม
ทว่าสิ่งที่ทำให้หญิงสาวยิ่งต้องตื่นตระหนกยิ่งไปกว่านั้นคือนางไม่อาจพบเห็นแม้เพียงร่องรอยของเรือนหลังน้อยได้เลย
ไร้สิ้นสภาพแห่งการรื้อถอนหรือพังทลายให้ทุกคนได้ยลเห็น ยามนี้บริเวณซึ่งเคยเป็นที่ตั้งของเรือนหลังน้อยกลับกลายเป็นลานทุ่งหญ้ากว้างเฉกเช่นทุ่งหญ้าทั่วไป ย่อมเป็นไปไม่ได้ที่จะกล่าวว่าก่อนหน้านี้ ณ บริเวณแถบนี้เคยปรากฏเรือนปลูกสร้างไว้
ขณะที่ความหวั่นกังวลวิตกสับสนเริ่มท่วมท้นขึ้นภายในใจของเกอซี สุ้มเสียงแห่งความตื่นเต้นยินดีอย่างเหลือแสนของซีเจี่ยพลันดังก้องขึ้นข้างใบหู “คุณหนู ที่สุดคุณหนูก็กลับมาแล้ว !”
ครั้นเมื่อหันกลับมาจึงพบเห็นซีเจี่ยผู้มีหยาดเหงื่อขึ้นปกคลุมตลอดทั่วใบหน้าที่แสดงออกถึงความโปร่งใจ บุรุษผู้เคยทรงความภาคภูมิในยามนี้ตกอยู่ในสภาพที่น่าเวทนา เนื้อตัวของเขาสกปรกเปรอะเปื้อนปกคลุมไปด้วยฝุ่นดิน หยาดเหงื่อไหลโทรมทั่วหน้าผาก นัยน์ตาแดงระเรื่อคล้ายเพียงได้เห็นการปรากฏกายของนาง หยาดน้ำตาแห่งความปิติยินดีก็แทบจะหลั่งออกมาเป็นสาย
เกอซีรีบรุดเข้าไต่ถาม “เกิดอะไรขึ้น ? เกิดอะไรกับเรือนหลังน้อยของเรา ? แม่นมเฉิน และคนอื่น ๆ เล่ายังปลอดภัยอยู่ไหม ?”
ซีเจี่ยพยักหน้าซ้ำแล้วซ้ำเล่าพลางชี้มือตรงไปยังสถานที่ตั้งของเรือนน้อยซึ่งเคยมีมาแต่เดิมพร้อมกล่าวตอบคำ “คุณหนูไม่ต้องห่วงขอรับ เรือนของเรายังคงอยู่ที่เดิมนั้นเอง เซี่ยวหลีใช้วิชาม่านหมอกอำพรางเรือนของเราไว้ มีแค่เพียงยอดฝีมือขั้นสูงกว่าปฐมภูมิโลกันตร์ผู้รวบรวมกระแสพลังไว้ที่ดวงตาเพื่อค้นหาเท่านั้นจึงสามารถมองเห็นได้ ยอดฝีมือพวกนี้พากันมารวมตัวอยู่ ณ ที่นี้อย่างฉับพลัน พวกเราหวาดกลัวยิ่งนัก ทว่าเมื่อพวกเรากำลังจะถูกพบเจอ คุณหนูก็กลับมาพอดีขอรับ !”
คราแรกพวกซีเจี่ยคิดว่าเกอซีคือบุรุษเพศเช่นกัน สืบเนื่องมาจากสตรีเพศที่ฝึกฝนพลังฝีมือนั้นแทบไม่อาจพบเจอในแถบทวีปหมีหลัวด้วยส่วนใหญ่ล้วนออกเรือนกันไปหมด เช่นนั้นในคราแรกพวกเขาจึงหาได้มีความเคลือบแคลงสงสัยต่อเพศลักษณ์ของเกอซีไม่ ทว่าเมื่อได้ใช้วันเวลาอยู่ร่วมกันในเรือนหลังน้อยอยู่นานพอควร ได้เห็นทักษะ เห็นลักษณะกิริยาของเกอซีพวกเขาจึงล่วงรู้ได้ว่านายท่านของพวกเขานั้นแท้จริงแล้วคือนายหญิง ทว่าสำหรับพวกเขาแล้วไม่ว่าเกอซีจะเป็นบุรุษหรือสตรีล้วนหาใช่สิ่งอันเป็นสาระสำคัญไม่
เพียงได้ติดตามผู้เป็นนายที่ยอดเยี่ยมเช่นนี้ล้วนนับว่าเป็นบุญวาสนาอันสูงส่งยิ่งในช่วงชีวิตของพวกเขาแล้ว เช่นนั้นไม่ว่านายท่านของเขาจะเป็นนายท่านหรือนายหญิงก็ตามทีล้วนไม่นับเป็นอย่างไรได้ ทุกคนต่างมั่นใจว่าเบื้องหน้าต่อไปนายท่านของพวกเขาจะสามารถฉายบารมีอย่างเจิดจรัสอยู่เบื้องหน้าเหล่ายอดฝีมือทั้งหลายแห่งทวีปหมีหลัวได้อย่างแน่นอน
ครั้นฟังคำบอกเล่าของซีเจี่ยแล้วเกอซีรวมกระแสจิตไว้ที่ดวงตาเพ่งพินิจแลดู และแน่นอนว่านางได้พบเรือนหลังน้อยตั้งอยู่เบื้องหน้าในสภาพที่สมบูรณ์ดังเดิม ต่อเมื่อได้เห็นเช่นนี้เกอซีจึงสามารถถ่ายถอนลมหายใจออกมาได้อย่างโล่งใจ
สิ่งนี้ล้วนเกินความคาดหมายของนางยิ่งนัก เซี่ยวหลีมีความสามารถเช่นนี้ด้วยล่ะหรือ ? นางมีวิชาม่านหมอกอำพรางซึ่งสามารถลวงตาผู้ฝึกยุทธซึ่งมีพลังต่ำเตี้ยกว่าขั้นปฐมภูมิโลกันตร์ด้วยล่ะหรือ ?
เกอซีเร่งรุดกลับเข้าเรือนซึ่งแม่นมเฉิน และคนอื่น ๆล้วนกำลังตั้งตารอฟังข่าวคราวของนางด้วยความกระวนกระวายใจ
ทันทีที่แม่นมเฉินเห็นหน้าเกอซีหยาดน้ำตาก็หลั่งออกท่วมท้น หญิงชรารีบเข้ามาสำรวจตรวจดูเกอซีตั้งแต่ศีรษะกระทั่งปลายเท้าก่อนจะปาดหยาดน้ำตาที่หลั่งริน “คุณหนู คุณหนูทำเช่นนี้ได้อย่างไรเจ้าคะ คุณหนูยอมเสี่ยงชีวิตอันมีค่าของตนเพื่อ…….หากคุณหนูเป็นอะไรไป เมื่อข้าไปสู่ปรโลกจะหาคำอธิบายกับฮูหยินได้อย่างไรเจ้าคะ ? !”
“เอาเถิด ๆ แม่นม อย่าร่ำไห้ไปเลย ต่อไปข้ารับปากจะไม่ทำเช่นนี้อีกแล้ว” เกอซีได้เพียงกล่าวเช่นนี้ซ้ำไปซ้ำมาเพื่อปลอบประโลมจิตใจแม่นมเฉิน ทว่าภายในใจของนาง ความรู้สึกอันอบอุ่นกลับเอิบอาบไปทั่วทั้งดวงใจ ความอบอุ่นที่นางไม่ได้สัมผัสมาเนิ่นนาน
ในเรือนหลังน้อยแสนโกโรโกโสแห่งนี้มากมายไปด้วยผู้คนที่เฝ้าคอยห่วงใยนาง ห่วงกังวลถึงนาง เชื่อมั่นในตัวนาง ตั้งใจดูแลปรนนิบัตินางอย่างแท้จริง ความรู้สึกแห่งการได้รับความเชื่อมั่นไว้วางใจเช่นนี้นับเป็นความรู้สึกที่เกอซีไม่เคยได้สัมผัสมาก่อน
แม้จะเห็นได้ชัดว่าภายใต้ร่มเงาของนางมีผู้คนจำนวนมากถึงเพียงนี้ตกกลายมาเป็นภาระ ทว่าความรู้สึกเหน็ดเหนื่อยอ่อนล้ามิได้ปรากฏ กลับกัน มันกลายเป็นพลังผลักดันให้เกอซีรู้สึกได้ว่าช่วงชีวิตนี้เปี่ยมไปด้วยความหวังอันเรืองรอง
***จบตอน ณ ตีนเขาฉาง***
คอมเม้นต์