The Man from Hell – TMFH ตอนที่ 56 : นี่มันสุดยอดมาก!

อ่านนิยายจีนเรื่อง The Man from Hell ตอนที่ 56 อ่านนิยายจีน.COM | อ่านนิยายจีนแปลไทย.

‘อะไรนะ!’

ลี่จือเชียงตัวแข็งกลายเป็นหิน คนอื่น ๆ ในร้านอาหารต่างก็ตกอยู่ในความโกลาหล

หัวหน้าตระกูลไป๋ ผู้มีอิทธิพลระดับสูงในเมืองเจียงซี ไป๋เจิงกัว กำลังโค้งคำนับต่อหน้าเย่เฟิงและขอให้เด็กหนุ่มรุ่นลูกช่วยพ่อของเขา ?

‘มันเกิดอะไรขึ้นกับเขากันแน่…’

แทบไม่มีใครเชื่อสายตาของพวกเขาเอง

ไป๋เจิงกัวไม่ยอมแม้แต่โค้งคำนับให้กับนายกเทศมนตรีของเมืองเจียงซี เขาปฏิบัติต่อนายกเทศมนตรีในฐานะเพื่อนของเขาเท่านั้น

แต่ในตอนนี้…

ลี่จือเชียงรู้สึกราวกับว่าเขาถูกสายฟ้าฟาดอย่างแรง

‘ไป๋เจิงกัว คนผู้ซึ่งฉันไม่ได้มีคุณสมบัติพอที่จะพูดด้วย กำลังโค้งคำนับให้กับไอ้ขี้แพ้ที่ฉันดูถูก นั่นมันแม่งโคตรจะไม่น่าเชื่อ!’

ลี่จือเชียงพูดไม่ออก ขณะที่เขารีบวิ่งไปหาไป๋เจิงกัวและค้านเต็มเสียงออกมา “คุณไป๋ คุณคงจำคนผิด! เขาเป็นแค่นักเรียนที่ยากจน เป็นไอ้ขี้แพ้ เขาจะช่วยพ่อของคุณได้อย่างไร ?”

ลี่จือเชียงเริ่มต้นอธิบายในทันที

อย่างไรก็ตามหลังจากได้ยินคำพูดของลี่จือเชียงแล้ว สีหน้าของไป๋เจิงกัวก็เปลี่ยนเป็นเคร่งขรึมทันที เขาหันกลับมาและจ้องมองไปที่ลี่จือเชียงแล้วเอ่ยถามว่า “นายคือ ลี่จือเชียงผู้จัดการทั่วไปของ บริษัท นำเข้า-ส่งออก หงไห่ ?”

หลังจากได้รับการตอบกลับจากไป๋เจิงกัว ลี่จือเชียงรีบพยักหน้าพลางตอบว่า “ใช่ครับ! คุณไป๋ บริษัทของผมร่วมมือกับตระกูลไป๋เสมอ ๆ ! เราเคยพบกันมาแล้วในงานครั้งล่าสุด!”

หลังจากพูดจบแล้ว ลี่จือเชียงก็จ้องมองเย่เฟิงด้วยท่าทางเหยียดหยามอย่างมาก “คุณไป๋ คุณคงจำคนผิดแน่! เขาเป็นแค่ ไอ้ขี้แพ้ที่ไม่รู้วิธีการกินสเต็ก เขาต้องไม่ใช่คุณเย่ คนที่พวกคุณต้องการพบอย่างแน่นอน!”

หลังจากได้ยินคำพูดทั้งหมดของลี่จือเชียง ใบหน้าของไป๋เจิงกัวเปลี่ยนเป็นเรียบตึง ขณะที่เขาตอบว่า “จริงเหรอ ? ฮ่า ฮ่า… ถ้าเป็นเช่นนั้นตระกูลไป๋ จะยุติการให้ความร่วมมือทั้งหมดกับ บริษัท นำเข้า-ส่งออก หงไห่ นับจากนี้เป็นต้นไป!”

‘อะไรนะ!’

คำพูดของไป๋เจิงกัว ทำให้ลี่จือเชียงตัวแข็งค้าง!

‘ยุติการให้ความร่วมมือทั้งหมด’

‘เอ่อ…’

“คุณไป๋ ทำไมคุณถึงตัดสินใจอย่างนั้น แค่เพราะผู้ชายคนนี้คนเดียว เขาก็เป็นแค่ไอ้ขี้แพ้ เขาจะทำ…”

ลี่จือเชียงนั้นไม่เชื่อสายตาหรือหูของเขา

แต่คำพูดของเขานั้นกลับทำให้ไป๋เจิงกัวโกรธและโมโหอย่างมาก

“แม่งเอ้ย! ไม่สำนึกเลย! แกกล้าดูถูกคุณเย่ครั้งแล้วครั้งเล่าได้ยังไง”

จากนั้นไป๋เจิงกัวก็โบกมือไปที่ผู้คุ้มกันของเขาเล็กน้อยและตะโกนเสียงดังว่า “โยนมันออกไป!”

“ครับท่าน!”

ผู้คุ้มกันของเขาจับล็อคแขนของลี่จือเชียงในทันทีและโยนเขาออกไปจากร้านอาหาร

ลี่จือเชียงไม่ได้ตระหนักถึงความจริงที่ว่า ไป๋เจิงกัวไม่ได้จำคนผิดเลยสักนิด เพราะเขากำลังร้องขอความช่วยเหลือจากเย่เฟิงอย่างแน่นอน

‘นั่น…เป็นไปไม่ได้!’

แต่เมื่อเขารู้ตัวว่าเขาได้ทำตัวให้เย่เฟิง คนที่แม้แต่ ไป๋เจิงกัว ต้องก้มหัวขอความช่วยเหลือรู้สึกไม่พอใจนั้น ลี่จือเชียงก็เกือบจะปัสสาวะราดกางเกงของเขา และสิ่งที่เลวร้ายยิ่งกว่านั้นก็คือ ความจริงที่ว่าตระกูลไป๋จะยุติความร่วมมือทั้งหมดกับบริษัท นำเข้า-ส่งออก หงไห่

ลี่จือเชียงก็ทำได้แค่ร้องไห้ออกมา!

 

หลังจากลี่จือเชียง ออกไปจากร้านอาหาร ทั้งร้านก็ตกอยู่ในความเงียบ

“อาการของพ่อของคุณ แย่ลงเหรอ ?” เย่เฟิงถามไป๋เจิงกัวอย่างใจเย็น

หลังจากได้ยินคำพูดของเย่เฟิง ใบหน้าไป๋เจิงกัวเปลี่ยนเป็นเคร่งเครียดในขณะที่เขาตอบว่า “ใช่ครับ! หลังจากที่ลุงจงกลับมาจากบาร์กุหลาบราตรี พวกเราก็เตรียมของให้พ่อของผมอาบน้ำอย่างต่อเนื่องตามคำแนะนำของคุณ! ทุกอย่างเป็นไปด้วยดี แต่เมื่อหนึ่งชั่วโมงก่อนหน้านี้อยู่ ๆ อาการของพ่อผมก็ทรุดลงอย่างรวดเร็ว ผมกลัวว่าเขา… เอ่อ… อาจไม่รอดในคืนนี้!”

ไป๋เจิงกัว ดูเศร้าโศกมาก

พ่อของเขานั้นเป็นเสาหลักของตระกูลไป๋ หากเขาตายไป ตระกูลไป๋ต้องย่ำแย่ลงแน่ ๆ

ดังนั้นพวกเขาทุกคน ต่างก็ฝากความหวังไว้ที่เย่เฟิง

ไป๋เจิงกัวโค้งคำนับไปที่เย่เฟิงอีกครั้งโดยกล่าวว่า “คุณเย่ โปรดช่วยพ่อของผมด้วย!”

ทุกคนที่ติดตาม ไป๋เจิงกัวมาที่ร้านอาหารต่างก็ก้มโค้งคำนับจนหัวแทบจะถึงพื้นต่อเย่เฟิง ขณะที่พวกเขาแต่ละคนถาม เย่เฟิง อย่างพร้อมเพรียงกันว่า “โปรดช่วยคุณท่านด้วยเถอะครับ คุณเย่”

ทุกคนในร้านอาหารรู้สึกตกใจกับสิ่งที่พวกเขาได้ยินโดยเฉพาะฉินเสวีย

ฉินเสวีย รู้ว่าพ่อของเขานั้นเป็นมะเร็งระยะสุดท้าย แม้แต่ฮัวโต๋ (หมอในตำนานเรื่องสามก๊ก) ก็ยังไม่สามารถช่วยชีวิตของเขาได้

‘แต่ทำไมตระกูลไป๋ถึงเชื่อมั่นในตัวของเย่เฟิงมากขนาดนี้ ? ช่างน่าเหลือเชื่อ !’

จากนั้นฉินเสวียก็มองดูที่แก้วน้ำที่เย่เฟิงจุ่มนิ้วของเขาลงไป ขณะที่เธอพึมพำว่า “หรือน้ำแก้วนี้จะสามารถแก้พิษของยุงปีศาจได้จริง ๆ ?”

ฉินเสวียยอมล้มทฤษฎีเกี่ยวกับวิทยาศาสตร์การแพทย์สมัยใหม่ในความคิดของเธอเป็นครั้งแรก

“ไปกันเถอะ!”

เย่เฟิงไม่สนใจสายตาของคนอื่น ๆ ในร้านอาหารที่มองอยู่ เขากล่าวพลางพยักหน้าเล็กน้อย จากนั้นเขาค่อย ๆ เดินออกจากร้านอาหารไปพร้อมกับไป๋เจิงกัวและกลุ่มผู้ติดตามของเขา

จนกระทั่งรถโรลส์-รอยซ์ ลีมูซีนทั้งสามคันขับออกไป ฉินเสวียก็รู้สึกสั่นสะท้านด้วยความกลัวขณะที่เธอบอก ฝางยิ่งอย่างร้อนรนว่า “ฝางยิ่งฉันต้องไปแล้ว!”

หลังจากคำพูดไม่กี่คำ ฉินเสวียก็หยิบแก้วน้ำตรงหน้านั่น แล้วรีบจากไปอย่างรวดเร็ว

 

ครึ่งชั่วโมงต่อมา ณ ห้องปฏิบัติการของโรงพยาบาลเฟิร์สพีเพิลของเมืองเจียงซี มีเสียงดังตะโกนออกมา

“เราสร้างมันขึ้นมาแล้ว โอ้พระเจ้า! มันสามารถแก้พิษของยุงปีศาจได้จริง ๆ ! นี่มันโคตร…ไม่น่าเชื่อ!”

ฉินเสวียส่งเสียงร้องตกใจอย่างมาก

ผู้เชี่ยวชาญทางการแพทย์คนอื่น ๆ ที่อยู่รอบตัวเธอก็พลางร้องอุทานออกมาด้วยเช่นกัน

“เยี่ยมมาก! ในที่สุดพวกเราก็สามารถแก้พิษของยุงปีศาจได้!”

ผู้เชี่ยวชาญทางการแพทย์ที่มีประสบการณ์ทั้งหมดต่างมีความสุข ขณะที่พวกเขาถามฉินเสวีย “ผู้อำนวยการฉิน คุณได้รับแก้วน้ำนี้มาจากไหน ? นี่มันน่าทึ่งมาก! ที่มันสามารถแก้พิษของยุงปีศาจได้ น่าเหลือเชื่อ!”

“ใช่แล้ว ด้วยความสามารถของน้ำแก้วนี้ เราสามารถพัฒนายาจำเพาะกับพิษของยุงปีศาจ! นั่นจะทำให้วงการแพทย์ทั่วโลกต้องตกใจ!”

“ฮ่า ฮ่า… ประเทศจีนจะได้รับเกียรติจากนานาชาติ! แม้แต่นักวิทยาศาสตร์จากต่างประเทศในประเทศที่พัฒนาแล้วก็ไม่สามารถแก้ปัญหานี้ได้ แต่โรงพยาบาลของเรากลับทำมันได้สำเร็จ นี่มันสุดยอดมาก!

“…”

ผู้เชี่ยวชาญทางการแพทย์ที่มีประสบการณ์ทุกคนต่างตกตะลึงและตื่นเต้น

อย่างไรก็ตามเมื่อดูการแสดงออกของพวกเขาฉินเสวียก็เริ่มรู้สึกงงงันและสับสน

เพราะมีเพียงเธอเท่านั้นที่รู้ว่า เย่เฟิงเพียงแค่จุ่มนิ้วมือของเขาลงไปในแก้วน้ำนั้น!

‘ชายคนนี้…’

หัวใจของฉินเสวียเต้นแรง เพราะเธอไม่อยากจะเชื่อเลยว่าน้ำที่เย่เฟิงแค่ใช้นิ้วของเขาจุ่มลงไปเท่านั้นจะสามารถแก้ปัญหาทางการแพทย์ที่ทั่วโลกต่างแก้ไม่ได้สำเร็จ

‘มันโคตรไม่น่าเชื่อเลย!’

 

ในขณะเดียวกันใน ณ คฤหาสน์ตระกูลไป๋ ไป๋เจิงกัว ไป๋ยี่ ลุงจงและสมาชิกคนอื่น ๆ ของตระกูลไป๋ต่างยืนอยู่ข้างเตียงพร้อมกับใบหน้าที่เศร้าอย่างมาก

ข้างหน้าพวกเขาชายชรานอนหลับตาอยู่บนเตียงด้วยอาการป่วยอย่างหนัก

ลมหายใจของเขาอ่อนแรงมาก ด้วยใบหน้าที่ซีดเซียวของเขา เขานั้นดูราวกับว่าเกือบจะตายแล้ว

เด็กหนุ่มคนหนึ่งที่อยู่ด้านข้างเตียงตะโกนไปทางเย่เฟิงด้วยสีหน้าโกรธจัด “ไอ้เวร ปู่ของฉันรักษาตามคำแนะนำของแก! ถ้าเขาตาย แกก็ต้องจ่ายด้วยชีวิตของแก!”

เด็กชายคนนี้ชื่อว่าไป๋กัง เป็นน้องชายของไป๋ยี่และเป็นลูกชายของไป๋เจิงกัว

เห็นได้ชัดว่าเขาโกรธเย่เฟิงมาก

นอกจากนี้หมอสูงวัยในชุดขาวคนหนึ่งถามเย่เฟิงด้วยสีหน้ามืดมนว่า “หนุ่มน้อย คุณรู้ไหมว่าการเล่นพิเรนของคุณมันสร้างความเสียหาย ? ชายชราได้รับบาดเจ็บจากอาการป่วยมานานแล้วและไม่สามารถระบายเลือดที่มากเกินปกติของเขาออกไปได้ หลังจากอาบน้ำด้วยสิ่งสกปรกเช่นเลือดของสุนัขเป็นเวลา 3 วัน พลังฉีของเขาได้แทรกซึมลึกเข้าไปในกระดูกของเขาแล้ว เขาต้องตายแน่นอน! “

ในขณะที่เขาพูด หนวดของหมอผู้โด่งดังคนนั้นก็กระตุกด้วยความโกรธ “คุณมันเป็นฆาตกร!”

หลังจากได้ยินการกล่าวโทษของเขา เย่เฟิงยังคงสงบนิ่งในขณะที่เขาตอบว่า “คุณพูดถูก!”

‘อะไรนะ!’

‘เย่เฟิงเห็นด้วยกับความเห็นของหมอสูงวัยคนนี้เหรอ ?’ สมาชิกทุกคนในตระกูลไป๋ตกตะลึงมาก

“ชายชราได้รับบาดเจ็บจากอาการป่วยมาเป็นเวลานานและเขาไม่สามารถระบายเลือดที่คั่งอยู่ออกไปได้หลังจากอาบน้ำด้วยเลือดของสุนัข อาการของเขาก็จะแย่ลงไปอีก!”

‘…’

ใบหน้าของสมาชิกทุกคนในตระกูลไป๋ซีดลงอย่างน่ากลัวเมื่อพวกเขาฟังคำพูดของเย่เฟิง

พวกเขาไม่คิดว่าเย่เฟิงจะรู้ผลลัพธ์อยู่แล้ว

สีหน้าของไป๋ยี่และลุงจงเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง

ท้ายที่สุดถ้าชายชราไม่ยืนกรานที่จะเชื่อในคำพูดของเย่เฟิง โรคของชายชราก็จะไม่กำเริบหนักเร็วแบบนี้

“พลังฉีของเขาได้ฝังลึกเข้าไปในกระดูกของเขาแล้ว อวัยวะของเขากำลังเสื่อมสภาพและเขากำลังจะตายในไม่ช้า!” เย่เฟิงเผยรอยยิ้มจาง ๆ หลังจากมองไปที่ใบหน้าของชายชรา “ไม่เลว! ไม่เลว!”

‘ว่าไงนะ!’

หลังจากได้ยินคำพูดของเย่เฟิง สมาชิกของตระกูลไป๋ก็เริ่มโกรธมากขึ้น

‘ชายชรากำลังจะตาย แต่ผู้ชายคนนี้กลับพูดว่าไม่เลว ?

 

สมาชิกแต่ละคนของตระกูลไป๋ดูโกรธจัดเมื่อพวกเขารู้ว่าพวกเขาตัดสินใจผิด ที่ขอความช่วยเหลือจากเย่เฟิง

แถมการกระทำหลังจากนี้ของเย่เฟิง ก็เกือบทำให้สมาชิกทั้งหมดของตระกูลไป๋แทบคลั่ง!

เพียะ!

เย่เฟิงตบหน้าชายชราอย่างรุนแรง!

คอมเม้นต์

การแสดงความเห็นถูกปิด