The Man from Hell – TMFH ตอนที่ 110 : เจ้านายใหญ่

อ่านนิยายจีนเรื่อง The Man from Hell ตอนที่ 110 อ่านนิยายจีน.COM | อ่านนิยายจีนแปลไทย.

‘กายาเหมันต์อัศจรรย์!’

‘1 ใน 10 อันดับร่างกายที่ไม่มีใครเทียบได้ในจักรวาล!’

ดวงตาของเย่เฟิงเต็มไปด้วยความตกตะลึง!

‘เหลือเชื่อ!’

‘ร่างกายของฝางยิ่งนั้นคือ กายาวิญญาณแต่กำเนิดซึ่งสามารถรักษาชีวิตของผู้คนไว้ได้!’

‘ร่างกายของซวินเอ๋อนั้นก็คือ กายาพิษระดับสูงสุดซึ่งเป็น ร่างกายที่มีพิษร้ายแรงที่สุดในจักรวาล!

‘และร่างกายของอันซีนั้นก็ยังเป็น กายาเหมันต์อัศจรรย์ ซึ่งสามารถแช่แข็งคนทั้งโลกไว้ได้!’

‘ร่างกายที่ไม่ธรรมดาทั้ง 3 นั้นหายากมาก และก็ไม่มีใครเทียบได้ในจักรวาล!’

‘แทบจะไม่มีโอกาสจะพบเจอเลยด้วยซ้ำ แม้ว่าจะต้องสำรวจไปตามกาแลคซีอื่น ๆ อีกมากมายก็ตาม!’

‘ทว่าแต่ละกายาที่ไร้เทียมทานทั้งสามนั้น กลับมาปรากฏขึ้นบนโลกในเวลาเดียวกัน!’

‘นั่นมัน…เหลือเชื่อมาก ๆ !’

ในขณะนั้นเย่เฟิงตกตะลึงอย่างมาก!

ทันใดนั้นเขาก็ตระหนักถึงปัญหาที่ร้ายแรงมาก – โลกนี้ไม่ได้ง่ายอย่างที่เขาคาดคิดไว้!

‘ไม่อย่างนั้น ทำไมฉันถึงได้กลับมาเกิดใหม่บนโลก แทนที่จะเป็นกาแล็กซีอื่น ๆ อีกมากมาย ?’

‘นอกจากนี้ฉันยังค้นพบกายาที่ไร้เทียมทานทั้ง 3 ร่างในช่วงเวลาสั้น ๆ เท่านั้น!’

‘เป็นไปได้ไหมว่า…โลกนี้จะเป็นดาวแห่งตำนาน…’

เมื่อเย่เฟิงนึกถึงความเป็นไปได้ เขาก็ขนลุกไปทั้งตัว

ถ้ามันเป็นอย่างที่เย่เฟิงจินตนาการไว้จริง ๆ โลกจะกลายเป็นดาวเคราะห์ที่ไม่มีใครเทียบได้ในจักรวาลนี้!

แต่เย่เฟิงไม่มีเวลาคิดนานนัก เขาส่ายศีรษะเล็กน้อย!

แคร๊ก!

เพล้ง!

เศษน้ำแข็งเริ่มหลุดร่วงจากร่างกายของเขา

จากนั้นเย่เฟิงก็จี้จุดไปที่ร่างของอันซีตรงจุดถานจง จุดป่ายฮุ่ย และจุดยิ่นถางอย่างแรง! (อยู่บริเวณกลางอก กลางศีรษะ และ กลางหน้าผาก)

จากนั้นก็ปล่อยพลังฉีเย็น เข้าไปตรงกลางหัวใจของอันซี ในพริบตาเดียวความรู้สึกหนาวเย็นรอบตัวของเขาก็หายไปอย่างไร้ร่องรอยราวกับว่าไม่เคยมีอะไรเกิดขึ้นมาก่อน

อันซียังคงนอนอยู่เงียบ ๆ ด้วยลมหายใจที่อ่อนแรงและดวงตาปิดสนิท!

“แก…แกเป็นใคร! ทำไมแกถึงบุกเข้ามาในคฤหาสน์ตระกูลซื่อ!”

ซื่อเสี่ยวเทียนคำรามลั่นขณะจ้องมองมาที่เย่เฟิง

ในฐานะผู้นำของตระกูลซื่อ เขาไม่เคยนึกเลยว่าจะมีใครกล้าหาญขนาดนี้ – นอกจากการบุกเข้ามาในคฤหาสน์ตระกูลซื่อแล้ว พวกเขายังกำจัดกลุ่มทหารรับจ้างโลหิตทั้งหมดอีกด้วย

ซื่อเสี่ยวเทียนได้จ่ายเงินเป็นจำนวนมากเพื่อจ้างกองกำลังทหารรับจ้างนี้เพื่อคุ้มกันตระกูลเขา

และเขายังคาดหวังว่าจะไปเป็นผู้นำตระกูลของตระกูลหลักดั้งเดิมของเขาในตอนเหนือของจีน ด้วยการช่วยเหลือของกลุ่มทหารรับจ้างโลหิตนี้

แต่ขุมกำลังที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของเขา ถูกทำลายโดยเย่เฟิง ดังนั้นซื่อเสี่ยวเทียนจึงโมโหจนแทบจะคลั่ง

หลังจากได้ยินคำพูดของเขา เย่เฟิงก็ค่อย ๆ ลุกขึ้นยืนขณะที่เขาจ้องมองไปที่ ซื่อเสี่ยวเทียน นายน้อยซื่อและจงเฉียง

“พวกแกทุกคนมันสมควรตาย!”

คำพูดของเขาฟังดูเยือกเย็นและน่ากลัวราวกับว่าเสี่ยงนั่นมาจากขุมนรกโดยตรง ซื่อเสี่ยวเทียน นายน้อยซื่อและจงเฉียง ต่างตัวแข็งทื่อไปในทันที!

ขณะนั้นนายน้อยซื่อ ก็ลุกขึ้นยืนแล้วมองตรงเข้าไปในดวงตาของเย่เฟิง และพูดออกมาว่า “เย่เฟิง ฉันเคยได้ยินเรื่องของแกแล้ว!”

เซียนหนุ่มเผยรอยยิ้มที่น่ากลัวขณะที่เขาพูดต่อ “ดูเหมือนว่าแกจะมีพลังมากกว่าที่ฉันจินตนาการไว้! แล้วไงล่ะ! แกรู้ภูมิหลังของตระกูลซื่อหรือเปล่า ? แกรู้จักตระกูลหลักของเราหรือไม่ ?”

นายน้อยซื่อยิ้มกว้างขึ้น “ถ้าหากแกนั้นฉลาดสักนิด ก็จงพาคนของแกออกไปจากที่นี่! ถ้าไม่อย่างนั้น เมื่อเหล่าผู้มีพลังอำนาจของตระกูลหลักของเรามาถึง แกจะกลับออกไปไม่ได้ เพราะพวกแกทุกคนจะต้องตายแน่นอน!”

“จริงเหรอ ?” เย่เฟิงถามด้วยเสียงเยาะเย้ยที่น่าขนลุกเล็กน้อย

“นอกจากพวกแกสามคนแล้วตระกูลซื่อยังมีผู้หญิงอีก 6 คน เด็กอีก 3 คน คนรับใช้ 7 คนและผู้คุ้มกัน 13 คน!”

หลังจากพูดอย่างใจเย็น เย่เฟิงก็มองตรงเข้าไปในดวงตาของจงเฉียงพร้อมกับพูดต่อว่า

“นอกจากแกแล้วกระกูลจงมีอีก 72 คน ผู้ชาย 45 คน ผู้หญิง 21 คนและเด็กอีก 6 คน!”

หลังจากได้ยินคำพูดของเขา ซื่อเสี่ยวเทียนและจงเฉียงต่างก็ตกตะลึง

“แกหมายถึงอะไร” ซื่อเสี่ยวเทียนขมวดคิ้วขณะที่เขาถามออกไปด้วยน้ำเสียงหวาดหวั่น

“ไม่มีอะไรหรอก!” รอยยิ้มของเย่เฟิงดูน่ากลัวขึ้น

“ฉันแค่อยากจะบอกให้แกรู้ว่า สมาชิกทั้งหมดของตระกูลซื่อจะต้องตายเพราะแก! และสมาชิกทั้งหมดของ ตระกูลจงจะต้องตายเพราะจงเฉียง!”

 

สีหน้าของซื่อเสี่ยวเทียน ลูกชายของเขาและจงเฉียงเปลี่ยนไปอย่างมาก!

‘เขาต้องการทำลายล้างตระกูลของเรา!’

‘ผู้ชายคนนี้ต้องการกำจัดตระกูลซื่อแลตระกูลจงทั้งหมด!’

 

ใบหน้าของจงเฉียงเปลี่ยนเป็นกราดเกรี้ยวในทันที เขาคำรามใส่เย่เฟิง “เย่เฟิง แกจะบ้าหรือเปล่า ? แกรู้ไหมว่าพ่อบุญธรรมของฉัน จะได้กลายเป็นผู้นำตระกูลคนใหม่ของตระกูลระดับสูงในตอนเหนือของจีน! หากแกกล้าที่จะลองดี เมื่อเหล่าผู้แข็งแกร่งของตระกูลระดับสูงมาถึงเมืองเจียงซีเมื่อไหร่ แกได้ตายอย่างแน่นอน! นอกจากนี้ทุกคนที่เกี่ยวข้องกับแกก็จะต้องตายเหมือนกัน!”

คำพูดของจงเฉียงนั้นฟังดูโหดร้าย

อย่างไรก็ตามหลังจากได้ยินคำพูดของเขา ดวงตาของเย่เฟิงกลับดุร้ายมากขึ้นกว่าเดิม

“ฉันจะรอพวกเขาอยู่ตรงนี้! ถ้าคนใดคนหนึ่งมา ฉันก็จะฆ่าทิ้ง ถ้ามา 10 คน ฉันก็จะฆ่า 10 คน ถ้าสมาชิกทั้งหมดของตระกูลพวกแกมาถึงเมื่อไหร่ ฉันจะฆ่าพวกเขาทั้งหมด!”

 

หลังจากได้ยินคำพูดของเขา ซื่อเสี่ยวเทียน ลูกชายของเขาและจงเฉียงก็หวาดกลัวอย่างมาก!

‘บ้าน่า!’

ในสายตาของพวกเขาเย่เฟิงเป็นคนบ้า ‘เขากล้าสู้กับตระกูลระดับสูงของภาคเหนือของจีนได้อย่างไร ? เขาคงอยากจะตายมากสินะ!’

“รอก่อน!”

จากนั้นพวกเขาก็ได้ยินเสียงตำหนิดัง ๆ มาจากข้างนอก

ทันใดนั้นก็มีคนอีกกลุ่มหนึ่งเข้ามา

เมื่อเห็นหน้าของเขา ซื่อเสี่ยวเทียนก็รู้สึกดีใจมาก!

“ลุงกู๋ เร็วเข้า! รีบจัดการ! ฆ่าผู้ชายคนนี้เดี๋ยวนี้! เขาจะกำจัดตระกูลซื่อ!”

ซื่อเสี่ยวเทียน มองผู้อาวุโสที่เข้ามาใหม่ราวกับว่าเขามองเห็นผู้ช่วยชีวิตของเขา!

แม้แต่นายน้อยซื่อและจงเฉียงที่ยืนอยู่ข้าง ๆ เขา ก็ยังอดประหลาดใจไม่ได้

พวกเขารู้ว่าชายชราคนนี้เป็นผู้มีอำนาจในตระกูลดั้งเดิมของพวกเขา จากทางตอนเหนือของจีน ด้วยความช่วยเหลือของเขา เย่เฟิงและคนของเขาจะต้องตายอย่างแน่นอน!

ดังนั้นทั้งสองคนจึงตื่นเต้นราวกับว่าพวกเขาได้เห็นผลลัพธ์ที่น่าสมเพชของเย่เฟิงแล้ว!

แต่ว่า!

เพียะ!

หลังจากคำพูดของซื่อเสี่ยวเทียน ในทันใดนั้นชายชราก็ตบหน้าเขาอย่างแรง!

 

ซื่อเสี่ยวเทียนตัวแข็งทื่อเป็นหิน!

นายน้อยซื่อและจงเฉียงต่างก็ตกตะลึง

“ลุง…ลุงกู๋! อะไรกัน… ลุงทำอะไรเนี่ย!”

ซื่อเสี่ยวเทียนมองดูชายชราคนนั้น ด้วยท่าทางไม่เชื่อสายตา เขาเป็นทายาทที่จะสืบทอดตระกูลหลัก แต่ลุงกู๋ของเขานั้นกลับไม่ช่วยเขาในช่วงเวลาวิกฤตแบบนี้ แถมยังตบหน้าเขาอย่างแรงแทน!

นี่มัน… อะไรกันเนี่ย!

ทว่าชายชราไม่ได้มองกลับไปที่ซื่อเสี่ยวเทียนด้วยซ้ำ

เขาคุกเข่าลงไปต่อหน้าเย่เฟิงทันที ตามด้วยคนของเขา

“ผมขอแสดงความเคารพ เจ้านายใหญ่ ผมกู๋ยู่!”

คนของเขาทุกคนต่างก็ทำความเคารพอย่างพร้อมเพรียงกัน “ผมขอแสดงความเคารพ เจ้านายใหญ่!”

‘อะไรนะ!’

ซื่อเสี่ยวเทียน ลูกชายของเขาและจงเฉียงตกตะลึง

‘เจ้านายใหญ่ ?’

‘เย่เฟิง จะมาเป็นเจ้านายของตระกูลหลักของเขาได้อย่างไร!’

ทุกคนในห้อง ต่างตกตะลึงกันถ้วนหน้า

เย่เฟิงเองก็แปลกใจ เขาเหลือบสายตาที่เย็นชาของเขา มองไปที่ชายชราตรงหน้า

เขาก็คือเป็นชายชรากู๋ ผู้อาวุโสที่เหลือรอดเพียงคนเดียวของตระกูลซือกง!

“พวกมันอยู่ในตระกูลซือกงเหรอ ?”

เสียงของเย่เฟิงนั้นเย็นยะเยือกเสียดแทงเข้าไปในกระดูก

ชายชรากู๋และคนของเขาตัวสั่นสะท้าน

“ได้โปรดใจเย็น ๆ ก่อนครับ เจ้านายใหญ่! ตระกูลซื่อเป็นตระกูลสาขาของตระกุลซือกง! หลังจากที่ท่านสังหารซือกงทัวและเหล่าผู้อาวุโสทั้งห้าของตระกูลซือกงแล้ว เราก็เตรียมที่จะให้ซื่อเสี่ยวเทียนเข้ามาเพื่อดูแลตระกูลซื่อกงต่อ แต่ไม่คิดว่าเขานั้น จะทำให้คุณต้องไม่พอใจเช่นนี้!”

หลังจากพูดจบ ชายชรากู๋และคนของเขาก็นั่งคุกเข่าพลางก้มหน้า พวกเขาทั้งหมดตัวสั่นอย่างหนัก

“เราเพิ่งได้รับข้อความ เรามาที่นี่เพื่อชดใช้ความผิดของเรา!”

 

หลังจากได้ยินคำพูดของเขา ซื่อเสี่ยวเทียน นายน้อยซื่อและจงเฉียงต่างก็สับสนและตื่นตระหนก!

ข้อมูลที่บอกว่าซือกงทัวและผู้อาวุโสทั้ง 5 ของตระกูลซือกงต่างถูกฆ่าโดยเย่เฟิงนั้นทำให้พวกเขากลัวมากจนแทบทรุดลงไปกับพื้น

ในที่สุดพวกเขาก็เข้าใจว่าเหตุใด ชายชรากู๋จึงจะให้ซื่อเสี่ยวเทียนดูแลตระกูลซือกง

ซื่อเสี่ยวเทียน ลูกชายของเขาและจงเฉียงหวาดกลัวมากจนเกือบจะร้องไห้ออกมา

คอมเม้นต์

การแสดงความเห็นถูกปิด