The Man from Hell – TMFH ตอนที่ 119 : นายน้อย โปรดรอสักครู่!
‘ไอ้เวร!’
หลังจากดูโม่เต๋าประมูลราคาหญ้าหวายดำขึ้นเป็น 30 ล้านหยวน ใบหน้าของซู่เถิงก็เปลี่ยนเป็นสีแดงก่ำทันทีเนื่องจากความโมโห
เมื่อเห็นท่าทางยั่วโมโหของเขา ซู่เถิงกัดฟันแน่น ขณะที่เขาต้องการที่จะเอาชนะโม่เต๋าให้ได้
ทว่าในทางตรงกันข้ามกับซู่เถิง เย่เฟิงนั้นไม่ได้ดูโกรธเลยสักนิด แต่เขากลับยิ้มออกมาแทน!
ริมฝีปากของเขาขยับอย่างรวดเร็ว ราวกับว่าเขากำลังพูดอะไรบางอย่าง
น่าแปลกที่แม้ว่า ปากของเขาจะขยับ แต่เขานั้นกลับไม่ได้ส่งเสียงใด ๆ ออกมา
ในขณะเดียวกัน อาจารย์กู๋ที่ยืนอยู่บนเวทีก็ตกตะลึง จากนั้นเขาก็มองไปรอบ ๆ สถานที่ประมูล
เมื่อเขาเห็นเย่เฟิง อาจารย์กู๋ก็เผยรอยยิ้มจาง ๆ ขณะที่เขาสังเกตเห็นว่าเย่เฟิงพยักหน้า
ตอนนั้นเองเย่เฟิงก็ตะโกนออกมาว่า “40 ล้านหยวน!”
…
หลังจากที่ได้ยินการเพิ่มราคาของเย่เฟิง ทั้งสถานที่ประมูลก็ส่งเสียงคุยกันอื้ออึง
ใบหน้าของโม่เต๋ากลับเข้มขึ้นเรื่อย ๆ เขาไม่คิดเลยว่าเย่เฟิงจะจ่ายค่าสมุนไพรสูงมากขนาดนี้
เมื่อเขานึกถึงตอนที่เย่เฟิง เอาหม้อชาโกลาหลแห่งกลุ่มดาวทั้งสี่ ไปต่อหน้าต่อตาเขา โม่เต๋าก็กัดฟันแน่นขณะที่เขาตะโกนว่า “50 ล้านหยวน!”
…
เสียงของโม่เต๋านั้นทำให้ทุกคนในโรงประมูลตกใจยกเว้นเย่เฟิง
พวกเขาทั้งหมดรู้ว่าโม่เต๋าประมูลราคาขึ้นมาโดยมีจุดประสงค์บางอย่าง
“50 ล้านหยวนครั้งที่ 1!”
“50 ล้านหยวนครั้งที่ 2!”
“50 ล้านหยวนครั้งที่ 3!”
ก๊อก!
“ยินดีด้วย คุณโม่เต๋า คุณได้ซื้อหญ้าหวายดำในราคา 50 ล้านหยวน!”
เมื่อเขาเห็นอาจารย์กู๋ เคาะโต๊ะด้วยค้อนในที่สุด โม่เต๋าก็เผยรอยยิ้มกว้าง
‘ในที่สุดฉันก็ได้มันมาแล้ว!’
‘ในที่สุดฉันก็ได้ของที่คนงี่เง่าคนนั้นชอบแล้ว!’
จากนั้นโม่เต๋าก็มองไปที่เย่เฟิงด้วยท่าทางเยาะเย้ยและยั่วโมโห
แต่เย่เฟิงกลับยิ้มกว้าง ขณะที่เขากำลังตะโกนคำสองคำ
ด้วยรูปปากของเย่เฟิง โม่เต๋ารู้ได้ทันทีว่าเขาพูดคำว่า ‘ขอบคุณ’!
‘ขอบคุณ ?’
“ฮึ! ไอ้โง่!”
หลังจากตกตะลึงไปเล็กน้อย โม่เต๋าก็เผยท่าทางดูถูกเหยียดหยามอีกครั้ง
แม้จะมีราคาสูงไปสักหน่อย แต่โม่เต๋าก็ไม่สนใจ
โม่เต๋ามีเงินอยู่มากมาย เขาแค่ต้องการเอาของที่เย่เฟิงชอบไปเพื่อแก้แค้นเท่านั้น!
การประมูลเริ่มต้นอีกครั้ง!
ของเก่าและของหายากมากมายถูกประมูลขึ้นมาทีละชิ้น!
ของทั้งหมดนั้น ที่เย่เฟิงต้องการ คือของ 4 ชิ้น!
ดอกมันดาลา!
ดาบโบราณที่ขึ้นสนิมมีรอยแตก!
หินประหลาดที่ปกคลุมไปด้วยต้นไม้!
และหินหยกคริสตัล!
อย่างไรก็ตามพวกมันทั้งหมดถูกประมูลไปโดยโม่เต๋าในราคา 30 ล้านหยวน 150 ล้านหยวน 40 ล้านหยวน และ 60 ล้านหยวนตามลำดับ
ผลก็คือเย่เฟิงไม่ได้รับของอะไรที่ต้องการเลย!
ใบหน้าของซู่เถิง เปลี่ยนเป็นสีดำด้วยความเกลียดชังขณะที่เขาถามว่า “อาจารย์ทวดครับ ทำไมเราไม่ประมูลแข่งเพื่อชิงสิ่งของเหล่านั้นกับโม่เต๋าด้วย ? ถึงโม่เต๋าจะรวย แต่เราก็รวยเหมือนกันนะครับ!”
ซู่เถิงอยากจะยอมรับกับผลลัพธ์ที่เกิดขึ้น ในสายตาของเขาอาจารย์ทวดของเขามีการตัดสินใจที่ผิดปกติไปจากเดิม
สิ่งของที่เขาตองการ นั้นต้องเป็นสมบัติล้ำค่าอย่างแน่นอน
หลังจากได้ยินคำพูดของเขา เย่เฟิงก็แสยะยิ้มเล็กน้อยด้วยท่าทางเจ้าเล่ห์ ขณะที่เขาตอบว่า “ทำไมเราต้องแย่งของกับเขาด้วย ? จะดีกว่าไหมถ้ามีคนซื้อมันให้กับเราแทน”
‘อะไรนะ!’
‘ซื้อมันให้กับเรา’
ซู่เถิงเริ่มตะลึง
เขามองดูเย่เฟิงด้วยความแปลกใจ ขณะนั้นเขามีความคิดเล็ก ๆ ที่ทำให้เขาเชื่อว่าอาจารย์ทวดของเขานั้นบ้าไปแล้วแน่ ๆ
ในเวลาเดียวกันหลังจากโอนเงินให้กับสถานที่ประมูลแล้ว โม่เต๋าก็ยกหีบสมบัติขึ้นมา ขณะที่ปากของเขาเต็มไปด้วยเสียงหัวเราะ
‘ฮ่า ฮ่า…สะใจ! สะใจมาก!’
โม่เต๋าหยอกเย้ากับเพื่อน ๆ ของเขา “ไอ้โง่นั่นเอาหม้อชาโกลาหลแห่งกลุ่มดาวทั้งสี่ไปต่อหน้าฉัน! ในที่สุดฉันก็ได้แก้แค้นมันแล้ว!”
หลังจากได้ยินคำพูดของโม่เต๋า เพื่อน ๆ ของเขาก็ตอบกลับด้วยเสียงเยาะเย้ย “เออ! เราเอาของที่มันต้องการไปทั้งหมดเลย! ฉันพนันได้เลยว่ามันต้องกำลังกระอักเลือดออกมาด้วยความโกรธแน่นอน!”
“ฮ่า ฮ่า…ฉันอยากเห็นสีหน้าที่หดหู่ของมันจริง ๆ ! นอกจากนี้ฉันพนันได้เลยว่าซู่เถิงคงรู้สึกเสียศักดิ์ศรีและเสียหน้าด้วยแน่ ๆ!”
ทั้งสามคนต่างก็ยิ้มกว้าง!
ในตอนนั้นรอยยิ้มของโม่เต๋ากลายเป็นแข็งขึ้นที่ละน้อย
“เอ๊ะ ? เกิดอะไรขึ้น ? ข้อมือขวาของฉันรู้สึกชานิดหน่อย!”
‘หืมม ?’
การตอบสนองที่ผิดปกติของโม่เต๋า ทำให้เพื่อนทั้งสองของเขาหันหน้ามามองอย่างรวดเร็ว
“นายน้อยโม่ เป็นเพราะพวกเรานั่งกันนานเกินไปหรือเปล่า”
หลังจากได้ยินคำพูดของเขา โม่เต๋าก็พยักหน้า แม้จะรู้สึกสับสนนิดหน่อย
ทว่าจากนั้นใบหน้าของเขาก็ซีดลงอย่างน่ากลัว!
“ไม่! แม้แต่ต้นขาขวาของฉันก็เริ่มชาแล้ว!”
นอกจากหน้าซีดแล้ว โม่เต๋ายังดูลุกลี้ลุกลนอีกด้วย
“ขาซ้ายของฉันก็เริ่มชาแล้ว! อะไรกัน…เกิดอะไรขึ้นกันแน่!”
ด้วยเสียงอู้อี้ โม่เต๋าล้มลงกับพื้นขณะที่ร่างกายของเขาค่อย ๆ รู้สึกชาจากฝ่าเท้าถึงหัวเข่า ต้นขาและเอวของเขา!
ในพริบตาร่างกายส่วนล่างของเขาสูญเสียการควบคุมไปอย่างสิ้นเชิง
โม่เต๋ากลัวจนเกือบวิญญาณออกจากร่าง!
แม้แต่เพื่อนทั้งสองของเขาก็ยังรู้สึกหวาดผวา หนึ่งในนั้นมองไปที่สร้อยข้อมือของโม่เต๋า ขณะที่เขาพูดตะกุกตะกัก ด้วยสายตาที่ไม่น่าเชื่อ “นาย…นายน้อยโม่! ที่สร้อยข้อมือ…”
‘อะไรนะ!’
หลังจากได้ยินคำเตือนของเขา โม่เต๋าก็รีบเหลือบมองที่ข้อมือของตัวเอง
จากนั้นเขาก็สะดุ้งตัวโยนในทันที
สร้อยข้อมือจากเดิมที่เป็นสีเขียวได้เปลี่ยนไปเป็นสีดำสนิทแล้ว
เขามองดูสร้อยข้อมือด้วยความกลัว โม่เต๋ากลัวจนหัวใจเกือบหยุดเต้น เขารีบยกกางเกงขึ้นและพบว่าผิวหนังของเขาเริ่มกลายเป็นสีเขียว
จากนั้นเขาก็คิดได้ว่าความรู้สึกเหน็บชาที่ตัวเขานั้นมาจากสีเขียวในสร้อยข้อมือของเขา!
‘มัน…มันคือยาพิษ!”
“นายน้อยโม่ จำ…จำได้ไหมที่ไอ้ผู้ชายคนนั้นบอกนายไว้ว่าจะเป็นอัมพาตใน 2 ชั่วโมง เข้าสู่ภาวะโคม่าใน 3 ชั่วโมงและสุดท้ายจะเลือดจะไหลออกมาท่วมตัวภายใน 5 ชั่วโมง…”
…
คำพูดของเพื่อนเขา ทำให้โม่เต๋าจำคำพูดของเย่เฟิงได้ ทันใดนั้นใบหน้าของเขาก็ซีดลงอย่างมาก
เขาจำได้ว่าผู้ชายคนนั้นบอกว่า เขากำลังหาเรื่องจะตายโดยการสวมสร้อยข้อมือนี่
ในตอนนั้นโม่เต๋าคิดว่าผู้ชายคนนั้นแค่ต้องการให้เขามอบสร้อยข้อมือเส้นนี้ให้
แต่ในตอนนี้…
ใบหน้าของโม่เต๋าเปลี่ยนไปทันที ขณะที่เขารีบพูดว่า “เร็วเข้า! รีบพาฉันไปพบเขา! เร็วเข้า!”
โม่เต๋ามองเพื่อน ๆ อย่างหงุดหงิด
เขากลัวว่าในไม่ช้าเขาจะมีเลือดออกท่วมร่างเหมือนกับสิ่งที่ชายคนนั้นเตือนเขาไว้!
เพื่อนคนหนึ่งของเขารีบคว้าตัวเขาและวิ่งออกไปข้างนอกด้วยความตกใจและกลัวอย่างมาก
…
เย่เฟิงและซู่เถิงยืนอยู่นอกประตูสถานที่ประมูลเงียบ ๆ
“อาจารย์ทวดครับ นี่พวกเรายืนอยู่ที่นี่เพื่ออะไรกัน ?”
ซู่เถิงถามด้วยความสับสน พวกเขาไม่ได้ซื้อของอะไรเลย ทว่าเย่เฟิงยังไม่ยอมไปจากที่นี่ ดังนั้นซู่เถิงจึงค่อนข้างจะสับสน
หลังจากได้ยินคำถามของซู่เถิง เย่เฟิงก็ตอบด้วยรอยยิ้มลึกลับ “แน่นอนเรากำลังรอที่จะเอาสินค้าของเราคืน! ตอนนี้มีคนซื้อของมาให้เราแล้ว ถ้าเราไม่รับของขวัญจากเขา ฉันคงจะรู้สึกแย่มาก!”
‘อะไรนะ!’
ซู่เถิงเริ่มตกตะลึงอย่างมาก
จนกระทั่งตอนนั้น เขาก็ได้รู้ว่าเย่เฟิงกำลังรอให้โม่เต๋ามอบของให้เขา!
‘นั่น…มันเป็นไปไม่ได้!’
ในขณะนั้นซู่เถิงคิดว่าอาจารย์ทวดของเขาเป็นบ้าไปแล้วแน่นอน
‘โม่เต๋าเป็นที่รู้กันว่า เป็นพวกเจ้าคิดเจ้าแค้นแม้ในเรื่องเล็กน้อย เมื่อเขาซื้อของหายากได้ในราคาที่สูงขนาดนั้น แล้วทำไมเขาถึงจะมอบของขวัญให้กับเราล่ะ ?’
ซู่เถิงต้องการโน้มน้าวเย่เฟิง!
ทันใดนั้น ปากของเขาก็ต้องอ้าค้างเอาไว้
“นายน้อย โปรดรอสักครู่!”
เด็กหนุ่มคนหนึ่งกำลังวิ่งมาหาพวกเขา ในสภาพหอบหนักโดยมีโม่เต๋าอยู่ด้านหลัง
คอมเม้นต์