ร้านขายอสูรดวงดาว Astral Pet Store – ตอนที่ 661-662

อ่านนิยายจีนเรื่อง Astral Pet Store ร้านขายอสูรดวงดาว ตอนที่ 661-662 อ่านนิยายจีน.COM | อ่านนิยายจีนแปลไทย.

ตอนที่ 661 เกม
  โฮกก!!
  มังกรระเบิดดวงดาวแยกเขี้ยวและพ่นน้ำลายสกปรกไปทั่วเต่าลุกโชน
  ถึงกระนั้นเต่าลุกโชนก็ยังไม่กล้าที่จะหลบ เต่าตัวสั่นราวกับถูกจับได้ว่าทำผิด มังกรกดเท้าลง!
  มันกำลังจะกระทืบเต่าลุกโชนจนตาย!
  เจ้าของเต่าลุกโชนเห็นเหตุการณ์นี้จากที่ใกล้ๆ เขาเริ่มกังวลเมื่อเห็นว่าอสูรของเขาถูกข่มขู่จนลืมวิธีใช้ทักษะป้องกัน เขากระตุ้นให้อสูรของเขาทำบางสิ่งผ่านสัญญา
  บูม!!
  เต่าลุกโชนพลันหดแขนขาทันทีที่มังกรระเบิดดาวกระทืบร่างของมัน มีสีเทาปกคลุมกระดองของมัน สลักด้วยเส้นแปลก ๆ
  อย่างไรก็ตาม สีเทานั้นถูกทำลายในทันที พื้นดินยุบตัวและมีลมแรงพัดเข้ามา มีหลุมลึกหลายสิบเมตรหลังจากลมกระโชก และฝุ่นก็ล่วงตกลงมา แขนขาทั้งสี่ของเต่าลุกโชนห้อยอยู่นอกกระดอง และมีรูที่ตรงอก ขอบของรูละลาย และเลือดไหลออกมา เต่าแทบหายใจไม่ออก
  นักรบอสูรในตำนานตกตะลึง
  เต่าลุกโชน นั้นมีการป้องกันแข็งแกร่งสุดในบรรดาอสูรของพวกเขา แต่มันไม่สามารถต้านทานการโจมตีจากมังกรระเบิดดาวได้!
  “เ**้ย!!” เจ้าของเต่าลุกโชนด่า ดวงตาของเขาแดงก่ำโดยรู้ว่าการโจมตีนั้นเป็นอันตรายถึงชีวิต อวัยวะภายในส่วนใหญ่ของเต่าลุกโชนหลอมละลาย และหัวใจทั้งสามของมันฉีกขาด เต่าลุกโชน จะตายเว้นแต่ผู้รักษาขั้นสูงจะมาปรากฏตัว และรักษาเต่าลุกโชน ในทันที!
  “นี่คือสิ่งที่มังกรสภาวะว่างเปล่าทำได้ ฉันไม่อยากจะเชื่อเลย!”
  “เราทำอะไรไม่ได้ บัดซบ!”
  นักรบอสูรในตำนานอีกสี่คนหน้าซีด อสูรของพวกเขาคงจะตายไปแล้วถ้าพวกมันอยู่ตรงที่เต่าอยู่
  มังกรระเบิดดาวเงยหน้าขึ้นมองด้วยสายตาเยือกเย็นและรุนแรง มองไปที่นักรบอสูรในตำนาน แต่แล้วก็มีบางอย่างเบี่ยงเบนความสนใจของมังกร
  ปัง!!
  มังกรเห็นหมัดสีทองพุ่งเข้าหามันในอากาศ
  มังกรระเบิดดาวหรี่ตาลง ส่งเสียงคำราม มันโบกอุ้งเท้าไปทางหมัดที่เข้ามา
  เกิดเสียงดังปัง เปลวเพลิงบนกรงเล็บของมังกรกระจายออก และอสูรร้ายก็ก้าวถอยหลัง ทำให้พื้นดินสั่นสะเทือน ภาพหมัดทองหายไป
  ชายคนหนึ่งโผล่ออกมาจากความว่างเปล่า ในช่วงเวลาแห่งความเงียบนั้น เขายืนอยู่ต่อหน้านักรบอสูรในตำนาน
  “เคลื่อนย้ายไกลขนาดนั้น?”
  นักรบอสูรในตำนานรู้สึกประหลาดใจกับการปรากฏตัวอย่างกะทันหันของนักรบหนุ่มสภาวะว่างเปล่า
  นักรบอสูรในตำนานสองคนที่คิดว่าชายคนนี้ดูคุ้นเคยเบิกตากว้างด้วยความประหลาดใจ
  นั่นคือเขา!
  สัตว์ประหลาดที่ฆ่านักรบอสูรในตำนานสภาวะว่างเปล่าด้วยหมัดเดียว!
  มังกรระเบิดดาวจ้องซูผิงด้วยท่าทางโกรธจัดและสงสัย
  กรงเล็บของมังกรสั่น
  มันรู้ดีว่าหมัดนั้นน่ากลัวขนาดไหน “คุณอยู่คนเดียวที่นี่เหรอ?” ซูผิงกล่าว นักรบอสูรในตำนานตกใจเมื่อเห็นเขาทำตัวสงบแค่ไหนเมื่ออยู่ต่อหน้ามังกร จะเกิดอะไรขึ้นถ้ามังกรหันมาโจมตีอีกรอบ? เขาอาจได้รับบาดเจ็บ
  “คุณครับ มังกรค่อนข้างน่ากลัว เราสามารถร่วมมือกับคุณได้” หัวหน้าทีมกล่าว
  นักรบอสูรเหล่านั้นทั้งหมดอยู่ในสภาวะสมุทร แต่ผู้นำเหนือกว่าคนอื่น ๆ เพราะเขาอยู่ที่ขั้นสูงสุดของสภาวะสมุทร
  น่ากลัว?
  ซูผืงหันกลับไปมองมังกรระเบิดดาวที่จ้องมาที่เขา และหัวเราะ
  มังกรอยู่ในสถานะว่างเปล่าก็จริง แต่พลังต่อสู้ของมันถูกจำกัด มันไม่สามารถสู้กับคนที่มีระดับสูงกว่าได้ ศักยภาพของมังกรนั้นไม่ต้องพูดมาก
  “ถึงเวลาตายแล้ว” ซูผิงประกาศอย่างใจเย็น
  เขายกมือขึ้นและหุบนิ้วเข้าหากันเหมือนดาบ
  ความมืดมิดปรากฏขึ้นที่ปลายนิ้วของเขา จากนั้นเขาก็เคลื่อนไปข้างหน้า
  นั่นดูเหมือนจะเป็นท่าทางที่ค่อนข้างธรรมดา และไม่มีร่องรอยของพลังงานอยู่เบื้องหลัง แต่ถ้าใครดูดีๆ ปลายนิ้วของซูผิงได้ฉีกเปิดมิติออก
  มังกรระเบิดดาวกำลังจะโจมตีแต่ต้องหรี่ตาลงทันใด วินาทีถัดมา ก่อนที่จะได้ทำอะไร หัวของมังกรก็ขยับและตก
  รอยตัดที่คอเรียบเนียนมาก เลือดไหลออกมาจากบาดแผลขณะที่หัวหลุดไหล มีเลือดเพียงเล็กน้อยที่พุ่งออกมาในตอนแรก แต่หลังจากขจัดสิ่งกีดขวางออกไป เลือดก็เริ่มไหลออกมามากขึ้น
  ปัง!!
  ร่างของมังกรทรุดตัวลงกับพื้น ทำให้เกิดเมฆฝุ่น
  ความเงียบเข้าครอบงำ
  นักรบอสูรในตำนานเบิกตากว้างจนตาแทบจะถลนออกมา
  นั่นอยู่เหนือเหตุและผลใดๆ!
  มังกรสภาวะว่างเปล่าที่น่าสะพรึงกลัวนั้นตายแล้วหรอ?!
  มันตายไปเงียบๆ และไม่มีการต่อสู้ใดๆ พวกเขาไม่เห็นว่าซูผิงทำอะไรด้วยซ้ำ
  เกิดอะไรขึ้น?
  สองในห้านักรบอสูรในตำนานเคยเห็นซูผิงที่หอคอย และรู้ว่าเขาฆ่านักรบอสูรในตำนานที่มีระดับเดียวกัน แต่ถึงกระนั้น พวกเขาก็ยังพูดอะไรไม่ออกหลังจากได้เห็นเหตุการณ์ประหลาดและน่าสะพรึงกลัวตรงหน้า “มังกรตัวนี้น่าจะมีศักยภาพดีกว่านี้”
  ซูผิงส่ายหัวขณะก้มมองลงไปที่ศพของมังกร เขาพูดกับนักรบอสูรในตำนานที่ยืนอยู่ข้างหลังเขาโดยไม่หันกลับไปมอง “ไปช่วยที่อื่น ผมจะจัดการราชาอสูรร้ายที่นี่”
  ฮะ?
  นักรบอสูรในตำนานยังคงประมวลผลความหมายในคำพูดของซูผิง
  สิ่งต่อไปที่พวกเขาเห็นคือซูผิงเคลื่อนย้ายอีกครั้ง ปรากฏขึ้นตรงกลางกลุ่มของราชาอสูรร้าย
  เกร๊ง! เกร๊ง!
  ไม่ใช่ราชาอสูรร้ายทุกตัวที่อ่อนแอ พวกมันปลดปล่อยทักษะมากมายหลังจากตรวจพบวิธีต่อสู้ของซูผิง
  แม้แต่ราชาอสูรร้ายก็ยังถูกถลกหนังทั้งเป็นด้วยพลัง และการโจมตีมากมาย
  อย่างไรก็ตามซูผิงสามารถเคลื่อนย้ายได้ เช่นเดียวกับผีที่สามารถปรากฏตัวและหายตัวไปอย่างลึกลับ ซูผิงกระโดดไปรอบ ๆ สนามรบเพื่อจัดการกับราชาอสูร เขาจะต่อยราชาอสูรตัวหนึ่งให้ตายและกระทืบอีกตัวหนึ่ง
  ซูผิงเป็นเหมือนหมาป่าท่ามกลางฝูงแกะ เขาจัดการราชาอสูรในพริบตา!
  นี่ไม่ใช่การต่อสู้สำหรับเขา มันเป็นเกม!
  นักรบอสูรในตำนานต่างตะลึงงัน
  นี่คือนักรบอสูรในตำนานสภาวะว่างเปล่าหรอ?
  ไม่สิ เขาควรจะอยู่ในสภาวะชะตากรรม!
  อย่างไรก็ตาม คนที่อยู่ในหอคอยที่อยู่ในสภาวะว่างเปล่ามักจะอยู่ในระดับผู้บริหาร ว่ากันว่า… มีเพียงเจ้าแห่งหอคอยและชายชราผู้ลึกลับที่เก็บตัวในหอคอยเท่านั้นที่อยู่ในสภาวะชะตากรรม
  ซูผิงคือคนที่เก็บตัวอยู่งั้นเหรอ?
  นักรบในตำนานสองคนที่เคยเห็นซูผิงที่หอคอยรู้ว่าซูผิงไม่ได้อยู่ในสภาวะชะตากรรม แต่หลังจากเห็นว่าซูผิงฆ่าราชาอสูรร้ายยังไง ทั้งสองก็เข้าใจว่าทำไมหอคอยไม่ทำอะไรซูผิง แม้แต่เจ้าแห่งหอคอยก็ไม่ได้เข้ามาแทรกแซง เขาได้เรียนรู้จากหลายแหล่งว่าชายหนุ่มคนนี้ไม่ธรรมดา และตัดสินใจที่จะไม่ยั่วยุคนหัวรุนแรงเช่นนี้
  การสังหารหมู่ราชาอสูรร้ายดึงดูดความสนใจของผู้คนในพื้นที่อื่นๆ
  นักข่าวสงครามบางคนเปลี่ยนความสนใจจากราชาอสูรร้าย ทุกคนต่างตกตะลึงเมื่อเห็นว่าราชาอสูรร้ายกำลังตายด้วยอัตราที่น่าตกใจ ก่อนหน้านี้ฝ่ายมนุษย์เสียเปรียบ แต่แล้วเกมก็ถูกพลิกกลับ!
  ใครคือนักรบอสูรในตำนานที่ฆ่าราชาอสูรร้ายแบบไม่หยุด?
  นักข่าวสงครามบางคนซูมด้วยกล้องของพวกเขา ในขณะที่พยายามจับภาพใบหน้าของนักรบอสูรในตำนานคนนั้น แต่การเคลื่อนไหวของซูผิงเร็วมากจนทำไม่ได้
  ถึงกระนั้นก็มีบางครั้งที่ชายคนนั้นจะหยุดเป็นครั้งคราว ผู้สื่อข่าวสงครามบางคนจึงสามารถถ่ายภาพได้
  มันเป็นชายหนุ่มที่อยู่ห่างไกล ผมสีดำ และดวงตาสีดำ
  ภาพระยะใกล้นั้นจะถูกเก็บไว้ตลอดไป หากมนุษย์สามารถรักษาอนาคตเอาไว้ได้ ภาพนี้ก็จะถูกรวมไว้ในตำราเรียนอย่างแน่นอน
  ท้ายที่สุด หายนะขนาดนี้จะเป็นประวัติศาสตร์อย่างแน่นอน
  “ราชาอสูรกำลังพุ่งมา!!”
  “โอ้ พระเจ้า ฉันเห็นแปด ไม่สิ เก้าตัว!!” “ดูเขาสิ! เขาบ้าไปแล้ว!”
  “นักรบอสูรในตำนานคนนั้นคือใคร? เขากำลังฆ่าราชาอสูรร้ายเหล่านั้นราวกับตัดหญ้า นี่คือสิ่งที่นักรบอสูรในตำนานควรจะเป็น!”
  นักรบอสูรจ้องมองไปยังพื้นที่ที่ราชาอสูรร้ายรวมตัวกัน ในที่สุดความสิ้นหวังก็หายไปจากหัวใจของพวกเขา แรงกระตุ้นมาจากสิ่งที่เห็น นักรบอสูรกำหมัดด้วยความตื่นเต้น
ตอนที่ 652 แค่คนเดียว
  หวืด! หวืด!
  ซูผิงวิ่งไปรอบๆ ท่ามกลางฝูงราชาอสูรร้าย ขณะที่ถูกปกคลุมไปด้วยกระดูกสีขาว
  การสังหารราชาอสูรร้ายสภาวะสมุทรนั้นเป็นเรื่องง่ายๆ
  เขาสามารถต่อสู้กับราชาสวรรค์ต่างโลกซึ่งอยู่ในสภาวะชะตากรรมได้ตอนที่เขาอยู่ในระดับเจ็ดและรวมเข้ากับโครงกระดูกน้อย ในเวลานั้นราชาสวรรค์อาจไม่ได้ใช้ความแข็งแกร่งทั้งหมด แต่ในเวลานั้นซูผิงมีกำลังมากที่จะต่อยผู้ที่อยู่ในสภาวะว่างเปล่าจนตาย
  เขาเพิ่งทะลวงไปถึงระดับเก้าขั้นสูงสุด และบรรลุของกายแสงอาทิตย์ขั้นสอง ความเข้าใจในทักษะทั้งหมดของเขาลึกซึ้งหลังจากประสบการณ์บนดาวสวรรค์
  จัดการกับศัตรูที่ทรงพลังด้วยความพยายามเพียงเล็กน้อย!
  มนุษย์ฆ่าราชาอสูรอสูร!
  การจัดการกับมังกรระเบิดดาวเป็นเรื่องง่ายสำหรับเขา
  เมื่อก่อนเขาจะต้องใช้ความพยายามอย่างมากในการฆ่านักรบอสูรสภาวะว่างเปล่า นับประสาอะไรกับมังกรที่มีระดับใกล้เคียงกัน
  “แกกล้าดียังไงถึงออกมาจากถ้ำ? ไปเน่าในนรกซะ!”
  ซูผิงจ้องราชาอสูรร้าย
  วันหนึ่ง เขาจะทำให้อสูรร้ายรู้ว่าโลกของมนุษย์ไม่มีขอบเขตสำหรับพวกมัน!
  เมื่อซูผิงฆ่าราชาอสูรมากขึ้นเรื่อย ๆ พวกที่เขายังไม่ได้โจมตีก็เริ่มกลัว เมื่อเขาฆ่ามังกรระเบิดดาวแล้ว ราชาอสูรร้ายที่เหลือก็เริ่มคิดที่จะวิ่งหนีเอาชีวิตรอด
  ซูผิงลงมือต่อไปจนกระทั่งราชาอสูรร้ายหันหลังกลับ และวิ่งหนีไปทันที
  มนุษย์ต่างโห่ร้องเมื่อเห็นสิ่งที่เกิดขึ้น
  เมื่อครู่อสูรร้ายยังเหนือกว่าอยู่พวกเขา
  มนุษย์พ่ายแพ้อย่างต่อเนื่อง แทบจะทนไม่ไหว อสูรป่ามองมนุษย์เหมือนแมวมองหนู
  แต่แล้ว ทุกคนก็สัมผัสได้ว่าแม้แต่ราชาอสูรที่หยิ่งผยองก็ยังสั่นสะท้านด้วยความกลัว และจบลงด้วยการวิ่งหนีเอาชีวิตรอด!
  “ฉันรู้อยู่แล้ว ฉันรู้อยู่แล้ว…”
  ไกลออกไป ปรมาจารย์ดาบกำลังช่วยนักรบอสูรคนอื่นในการจัดการกับอสูรร้ายระดับเก้า เขารู้สึกเลือดเดือดพล่านด้วยความตื่นเต้นเมื่อเห็นการกระทำอันกล้าหาญของซูผิง
  เขารู้เสมอว่าซูผิงอยู่เกินความคาดหมายของเขา!
  แม้แต่นักรบสภาวะว่างเปล่าก็ไม่สามารถแสดงความกล้าหาญอย่างซูผิงได้!
  เขายังจำได้ว่าเขาเคยไปที่ร้านของซูผิงพร้อมกับหยวนเทียนเฉินและปรากฎว่าหยวนเทียนเฉินเกือบจะถูกสาวผมทองคนนั้นในร้านของซูผิงฆ่า!
  หยวนเทียนเฉินรอดมาได้เพียงเพราะเขาสามารถเคลื่อนย้ายไปได้!
  ซูผิงคือปริศนาที่ไม่อาจเข้าใจได้สำหรับปรมาจารย์ดาบ
  เมืองฐานหลงเจียงน่าจะเป็นสถานที่ที่ปลอดภัยที่สุดในโลก ท่านเนี่ยตาไม่ถึงพอ… ปรมาจารย์ดาบคิด
  ถ้าท่านเนี่ยไม่เข้ามายุ่งนี้ หลงเจียงคงเป็นส่วนหนึ่งของแนวป้องกันซิงจิง ขณะที่หลงจิงถูกโจมตี เมืองฐานหลงเจียงจะส่งกำลังเสริมมา
  แค่สาวสวยผมสีทองในร้านของซูผิงก็เพียงพอที่จะจัดการกับอสูรป่าได้ทั้งหมด!
  พวกเขาจะเดือดร้อนน้อยลงและหลายคนคงไม่ต้องตาย! ปรมาจารย์ดาบรู้สึกเจ็บปวดใจขณะมองดูอาคารที่พังทลายและซากศพที่อสูรป่าเหยียบย่ำ!
  เขาตัดสินใจรายงานเรื่องทั้งหมดต่อเจ้าแห่งหอคอยเมื่อทุกอย่างจบลง เขาไม่สนใจอีกต่อไปว่านักรบสภาวะว่างเปล่า จะมีความแค้นในภายหลังหรือเปล่า!
  บูม! บูม!
  เสียงระเบิดดังสนั่น และพื้นดินก็สั่นสะเทือน
  ไม่มีราชาอสูรร้ายตัวไหนได้มีโอกาส ซูผิงคร่าชีวิตพวกมันไปทีละตัว!
  ทักษะป้องกัน ต่อสู้ระยะใกล้ ทักษะทางสายเลือด!
  ไม่มีทักษะใดที่จะต้านทานหมัดของซูผิงได้
  ราชาอสูรร้ายบางตัวพยายามต่อสู้กับเขา แต่ซูผิงสามารถเจาะรูในร่างกายของพวกมันได้ ความรุนแรงนั้นน่าตกใจ
  ราชาอสูรร้ายตายในเวลาไม่ถึงสามนาที!
  ใช่ พื้นที่ที่มีราชาอสูรเป็นพื้นที่ที่จัดการยากที่สุดนับตั้งแต่การโจมตีเริ่มขึ้น ในเวลาไม่กี่นาทีมันถูกปกคลุมไปด้วยซากของอสูรร้าย ราชาอสูรร้ายบางตัวมีขนาดใหญ่พอๆ กับอาคาร แต่พวกมันก็นอนอยู่บนพื้นเหมือนภูเขาเนื้อ
  ฉันคิดว่านั่นเป็นทางเดินใต้ดินไปสู่ถ้ำลึก…
  ซูผิงหยุดกลางอากาศ ศพจำนวนมากวางอย่างเป็นระเบียบรอบๆ โครงสร้างเหล็กและคอนกรีตหัก
  ศพของราชาอสูรขนาดใหญ่เป็นเครื่องยืนยันถึงความได้เปรียบของซูผิง เนื่องจากเป็นมนุษย์ที่ทรงพลังแม้มีขนาดตัวเล็กกว่า
  ราชาอสูรร้ายถูกจัดการ ซูผิงสังเกตเห็นพื้นที่อื่นที่อยู่ห่างไกลจากตรงที่ราชาอสูรมารวมตัวกัน แต่เขาไม่พบว่ามีนักรบอสูรในตำนานอยู่ตรงนั้น
  ราชาอสูรร้ายเหล่านั้นกำลังมุ่งหน้ามาทางเขา
  เขาหลับตาและระบุตำแหน่งของราชาอสูรร้ายโดยใช้การรับรู้ของเขา วังวนสองอันปรากฏขึ้นข้างๆเขา เขาเรียกอสรพิษม่วงและเผ่าแมลง ซูผิงยังได้ฝึกอสรพิษม่วงในระหว่างที่เขาอยู่บนดาวสวรรค์ อสรพิษม่วงค่อนข้างต้านทานไฟได้ดี โดยพื้นฐานแล้วมันสามารถต้านทานไฟได้หากได้ไปเยี่ยมชมดาวสวรรค์อีกครั้ง
  อสรพิษม่วงจะสามารถทนต่อทักษะใด ๆ ก็ตามที่เกี่ยวข้องกับไฟที่อยู่ต่ำกว่าสภาวะชะตากรรม
  แน่นอนราชาอสูรแทบไม่ใช้ทักษะใด ๆ เลย พวกมันมักจะผสมทักษะสายฟ้าหรือทักษะมิติเพื่อเพิ่มพลังการทำลายล้างและอัตราการโจมตี
  แต่โดยทั่วไปแล้ว อสรพิษม่วงนั้นทรงพลังพอที่จะจัดการกับราชาอสูรสภาวะสมุทร
  นอกจากนี้ของอสรพิษม่วงเปลี่ยนไป แม้ความแข็งแกร่งของมันจะยังคงอยู่ที่ระดับหกขั้นสูงสุด แต่พลังต่อสู้นั้นใกล้เคียงกับสภาวะสมุทร! “ไปข้างหน้าและทำทุกอย่างที่อยากทำ” ซูผิงพูดกับอสูรทั้งสอง
  ในทางเทคนิคแล้ว อสรพิษม่วงจะไม่เป็นไรตราบใดที่ราชาอสูรไม่ล้อมรอบมัน สำหรับเผ่าแมลง มันเป็นเผ่าต่างดาวที่สร้างปัญหาให้กับเหล่าเทพในหลุมศพกึ่งเทพ เผ่าแมลงมีลักษณะพิเศษที่ทำให้กินเทพที่ตายแล้ว มันจะขับผลึกเทพออกมา ร่างกายของมันสามารถกลั่นพลังงานได้
  ซูผิงได้ทำการทดลอง เผ่าแมลงจะอึสิ่งแปลก ๆ เมื่อมันกินอสูรบางชนิด
  แน่นอนว่าแมลงก็จะปล่อยอึปกติเช่นกัน
  กรีนนี่เป็นชื่อที่ซูผิงตั้งให้กับเผ่าแมลง มันเก่งในการปลอมตัวและสามารถป้องกันตัวเองได้เป็นอย่างดี ดังนั้นซูผิงจึงไม่กังวลกับทั้งสอง
  กรีนนี่ และอสรพิษม่วงพุ่งเข้าหาอสูรป่า
  ในระหว่างนี้ซูผิงก็วิ่งไปหาราชาอสูรร้ายที่กำลังไล่ตามเขา
  สี่หมื่นเมตร สามหมื่นเมตร หนึ่งหมื่นห้าพันเมตร!
  ในไม่ช้าซูผิงก็ได้รับการโจมตีระยะไกลหลายครั้ง ราชาอสูรร้ายรู้สึกถึงการปรากฏตัวของซูผิงซึ่งทำให้พวกมันโกรธมากกว่าเดิม
  ผู้ชมเริ่มรู้สึกประหม่าหลังจากเห็นการโจมตีรุนแรง
  ทักษะเหล่านั้นเพียงพอที่จะทำลายเมืองฐานหลงจิงครึ่งหนึ่ง!
  ทักษะเหล่านี้เพียงพอที่จะทำให้เมืองฐานระดับ C แบนราบได้ในทันที ชาวบ้านไม่มีเวลาพอที่จะตอบโต้ พวกเขาจะเห็นว่าท้องฟ้าสว่างขึ้นเช่นไรก่อนที่โลกจะถึงจุดสิ้นสุด
  บูม_!!
  ซูผิงทำการโจมตีหลายสิบครั้ง
  พลังงานที่กระจัดกระจายถูกปล่อยทิ้งไว้ในอากาศ โหมกระหน่ำไปทั่วท้องฟ้า ความว่างเปล่าพังทลายลง พบรอยแตกร้าวในอากาศ
  แม้แต่นักรบสภาวะสมุทรก็ยังถูกบดขยี้ด้วยมิติปั่นป่วนภายในรอยแตกแห่งความว่างเปล่าเหล่านั้น!
  มีคลื่นลมพัดเข้ามา
  ราชาอสูรร้ายเหล่านั้นรู้ว่าซูผิงสามารถเคลื่อนย้ายได้ ดังนั้นพวกมันจึงล็อคมิติโดยรอบ ทำให้นักรบอสูรในตำนานสภาวะว่างเปล่าไม่สามารถเคลื่อนย้ายได้ เมื่อซูผิงพยายามเคลื่อนย้าย เขาอาจถูกดูดเข้าไปในมิติปั่นป่วนในระดับที่ลึกกว่า
  “บัดซบ!”
  “เขาจะโอเคไหม”
  “ราชาอสูรร้ายพวกนั้นกำลังวางแผน พวกมันร่วมมือกัน!” “ฉันรู้ว่าราชาอสูรร้ายมีแผน พวกมันวางแผนมาแล้ว!”
  “เมื่อพวกมันเข้ายึดหลงจิงแล้ว พวกมันจะเข้ายึดเมืองฐานอื่น ๆ ทีละเมือง และเปลี่ยนไปแนวป้องกันอื่น ๆ พวกเราจะต้องเจอปัญหามากมาย!”
  หลายคนวิตกกังวล
  บรรดานักรบอสูรกิตติมศักดิ์เป็นกังวล สถานที่อื่น ๆ จะได้รับผลกระทบอย่างแน่นอนเมื่อเมืองฐานของพวกเขาเพลี่ยงพล้ำ แนวป้องกันอีกสองแนวป้องกันในเขตอนุทวีปก็จะถูกทำลายเช่นกัน
  เมื่อถึงตอนนั้น เขตอนุทวีปทั้งหมดจะล่มสลาย
  ปิ้ว!
  ทันใดนั้นกรวยแหลมก็ปรากฏขึ้นจากควัน ควันลอยขึ้นและแยกออกจากกัน ร่างที่ปกคลุมไปด้วยแสงสีทองพุ่งออกมาจากควัน!
  คนที่มีแสงสีทองปกคลุมนั้น เขาไม่เป็นอันตรายอย่างสมบูรณ์!
  นักรบอสูรคนอื่น ๆ ในระยะไกลเบิกตากว้างด้วยสายตาไม่เชื่อ และตื่นเต้น!
  เขาทำได้!
  ซูผิงทำได้!
  เขารอดชีวิตจากการโจมตีนั่น แม้แต่นักรบอสูรระดับเจ็ดและแปดก็สามารถบอกได้ว่าซูผิงเก่งกว่าราชาอสูรร้ายมาก!
  ความหวัง!
  มีความหวังสำหรับพวกเขาอีกครั้ง!
  พวกเขามองซูผิงด้วยความประหม่า และคาดหวัง
  โฮก!!
  ราชาอสูรร้ายคำรามอย่างโกรธจัด
  ราชาอสูรร้ายบางตัวตกตะลึงกับการปรากฏตัวขึ้นมาของเขา มนุษย์คนนี้คือสัตว์ประหลาดตัวจริง!
  ราชาอสูรร้ายหลายตัวกำลังคิดที่จะถอนตัว อย่างไรก็ตามลูกศรต้องบินออกไปเมื่อมันถูกง้างแล้ว ราชาอสูรร้ายยังคงพุ่งเข้าหาซูผิง โจมตีอีกรอบ
  รอบแรกล้มเหลว บางทีรอบสองอาจจะสำเร็จ!
  เห็นได้ชัดว่าซูผิงไม่ได้คิดที่จะยืนนิ่งๆเพื่อรับการโจมตีเหล่านั้น เขาก้าวไปข้างหน้าและเคลื่อนย้ายเป็นระยะทางหลายหมื่นเมตร
  เขามองเห็นราชาอสูรร้ายได้อย่างชัดเจนหลังจากการเคลื่อนย้ายหลายครั้ง
  ซูผิงถูกโจมตีอีกครั้ง เขายกมือขึ้นและหมัดทองคำก็ตอบโต้กลับการโจมตีเหล่านั้น อากาศกระเพื่อม ทิ้งรอยร้าวมากมายไว้เบื้องหลัง
  ซูผิงก้าวออกจากความยุ่งเหยิงของพลังงานปั่นป่วนนั้น และกระทืบเท้าบนราชาอสูรที่อยู่ตรงหน้า
  ราชาอสูรร้ายกำลังวิ่งเข้ามา มันสร้างแรงกระแทกที่แรงพอจะทำลายภูเขาได้ อย่างไรก็ตามซูผิงได้กระทืบหัวมันกระจุย!
  เลือดพุ่งออกมา ปราศจากการควบคุมของสมอง ความเฉื่อยจึงพาราชาอสูรร้ายไปข้างหน้าจนล้มลงกับพื้น ศพผลักหินจำนวนมากไปข้างหน้า กวาดล้างพื้นที่ทั้งหมด
  ซูผิงหายตัวไปจากจุดนั้น และปรากฏตัวอีกครั้งตรงหน้าราชาอสูรร้ายอีกตัวหนึ่ง เขาหยิบดาบออกมาและผ่าชั้นป้องกันหลายชั้นที่ปกป้องราชาอสูรร้ายนั้นอยู่
  เมื่อเปรียบเทียบกับราชาอสูรแล้ว ร่างของซูผิงแทบจะมองไม่เห็น แต่เขาสร้างหายนะทุกที่ที่เขาไป
  ราชาอสูรร้ายระส่ำระสาย บางตัวไม่เก่งในการต่อสู้ระยะประชิด การกระทำที่รวดเร็วและเข้าใจยากของซูผิงทำให้พวกมันไม่สามารถโต้กลับได้ทันเวลา ส่งผลให้หลายตัวจบลงด้วยการถูกขย้ำ หรือถูกฆ่าอย่างเลวร้าย
  โฮก!!
  อสูรยักษ์ที่ดูเหมือนต้นไม้กำลังคำราม มงกุฎต้นไม้ทำจากเนื้อและเลือด และด้านล่างมีรากนับไม่ถ้วน มีกับดักที่มองไม่เห็นอยู่มากมายรอบๆ ราชาอสูรร้าย ซูผิงจะจุดชนวนกับดักถ้าเขาเคลื่อนย้ายไปยังที่ที่ราชาอสูรร้ายอยู่ ซึ่งอาจส่งเขาไปยังมิติวุ่นวาย
  ซูผิงสามารถบอกได้ว่านั่นเป็นหัวหน้าของพวกมัน เขาเตรียมดาบอย่างใจเย็น และฟันต้นไม้ที่อยู่ไกลออกไป ดาปแห่งบาป!
  เขาใส่พลังดวงดาวลงในดาบ และกระแสน้ำวนในเซลล์ของเขาหมุนอย่างบ้าคลั่ง
  ราชาอสูรร้ายบางตัวพยายามที่จะทำลายคลื่นดาบก่อนที่มันจะไปถึงต้นไม้ แต่การโจมตีนั้นรุนแรงพอที่จะกวาดพวกมันออกไป
  กับดักมิติรอบ ๆ ต้นไม้ถูกทำลาย คลื่นดาบหายไปในอากาศ
  ปัง! บาดแผลลึกปรากฏขึ้นบนลำต้นของต้นไม้ ขอบของบาดแผลถูกประดับด้วยเปลวไฟสีดำ
  รากของราชาอสูรต้นไม้นั้นลึกลงไปใต้ดิน และพวกมันกำลังดูดอะไรบางอย่าง บาดแผลได้รับการรักษาให้หาย อย่างไรก็ตามเปลวไฟแห่งความมืดจะเผาไหม้เนื้อที่งอกใหม่และบาดแผลก็ขยายใหญ่ขึ้นและใหญ่ขึ้น เลือดกับหนองไหลออกมา
  ซูผิงวิ่งเข้าไปในกลุ่มราชาอสูรอย่างไม่ลังเล
  พัฟ! พัฟ! พัฟ!
  เขาฆ่าหรือไม่ก็ทำร้ายราชาอสูรร้ายในการโจมตีแต่ละครั้ง ราชาอสูรร้ายผิดปกติเนื่องจากช็อก ไม่นานหลังจากนั้น ราชาอสูรร้ายเจ็ดหรือแปดตัวก็หยุดหายใจ
  นอกจากซูผิงแล้ว ไม่มีใครส่งเสียงใดๆอีก
  นี่มันจะเกินไปแล้ว!
  คนเดียวต่อสู้กับราชาอสูรร้ายเหล่านั้น และเขาก็เป็นฝ่ายชนะ!
  สิ่งสำคัญที่สุดคือซูผิงไม่ได้พึ่งพาอสูรใดๆ เขารวมเข้ากับอสูรตัวหนึ่ง แต่ไม่มีอสูรตัวอื่นมาช่วยเขา
  นักรบอสูรในตำนานคนนี้คือใคร? นักรบอสูรบางคนที่ไม่เข้าใจระดับในตำนานรู้สึกงุนงง การต่อสู้ในวันนี้ทำให้พวกเขาเข้าใจว่านักรบอสูรในตำนานอาจแตกต่างกันอย่างมาก!
  ไม่ต้องสงสัยเลยว่าซูผิงเป็นหนึ่งในนักรบอสูรในตำนานที่ดีที่สุด!
  อย่างน้อยที่สุดเขาก็เป็นคนที่ทรงพลังที่สุดเท่าที่พวกเขาเคยเห็นมา!
  ไม่มีใครรู้ว่าซูผิงอยู่ในระดับไหน แม้แต่ปรมาจารย์ดาบก็ยังเชื่อว่าซูผิงอยู่ในระดับตำนานแล้ว แต่ความจริงคือเขาสัมผัสได้ว่าซูผิงอยู่ระดับกิตติมศักดิ์… เขายังคงเชื่อว่าซูผิงปกปิดมันอยู่
  พลังต่อสู้เป็นสัญญาณที่ตรงที่สุด!
  ราชาอสูรร้ายที่รอดออกมาจากถ้ำลึกตายหรือไม่ก็บาดเจ็บ!
  ซูผิงไม่ได้ไล่ตามพวกมัน เขาฆ่าราชาอสูรร้ายต้นไม้ที่สภาวะว่างเปล่า ซูผิงจัดการต้นไม้นั้นด้วยการฟันสองครั้ง
  ทรงพลัง! ซูผิงมีพลังมากกว่าราชาอสูรร้ายเหล่านั้นมาก
  นั่นคือความจริง ซูผิงไม่รู้ด้วยซ้ำว่าพลังต่อสู้ของเขาแข็งแกร่งเพียงใด เขาแค่มีความรู้สึกว่าเขาอาจจะสามารถยืนหยัดต่อสู้กับระดับดวงดาวได้
  ท้ายที่สุดเขาได้รวมการฟันกับพลังของกฎ นั่นเป็นสิ่งที่เฉพาะผู้ที่อยู่ในระดับดวงดาวเท่านั้นถึงสามารถทำได้!

คอมเม้นต์

การแสดงความเห็นถูกปิด