ร้านขายอสูรดวงดาว Astral Pet Store – ตอนที่ 667-668

อ่านนิยายจีนเรื่อง Astral Pet Store ร้านขายอสูรดวงดาว ตอนที่ 667-668 อ่านนิยายจีน.COM | อ่านนิยายจีนแปลไทย.

ตอนที่ 667 โควต้า
  วิกฤตการณ์ในเมืองฐานหลงจิงไม่ได้ถูกเก็บเป็นความลับภายในแนวป้องกันซิงจิง แนวป้องกันอื่น ๆ ก็ให้ความสนใจเช่นกัน
  ท้ายที่สุดเมืองฐานนั้นมีความสำคัญเชิงกลยุทธ์ หากเมืองฐานเสียท่าไป แนวป้องกันซิงจิงทั้งหมดก็จะพังทลายลง มันเป็นการต่อสู้ครั้งสำคัญที่มีชีวิตมากกว่าพันล้านชีวิตตกอยู่ในอันตราย ทุกฝ่ายต่างให้ความสนใจ
  เมื่อแนวป้องกันซิงจิงล่มสลาย แนวป้องกันอีกสองแนวของเขตอนุทวีปก็จะได้รับผลกระทบเช่นกัน มันจะมีอิทธิพลต่อทั้งโลก
  ศูนย์บัญชาการแนวป้องกันเซิงหลงของเขตอนุทวีป
  ที่นี่เองก็มีนักรบในตำนานสภาวะว่างเปล่า
  มีนักรบอสูรในตำนานกว่าสิบสองคนที่หอคอยส่งไป แนวป้องกันเชื่อมต่อเมืองฐานเก้าแห่ง ผู้คนจากเมืองฐานโดยรอบถูกระดมไปยังเมืองฐานทั้งเก้า แต่ละเมืองฐานมีประชากรกว่าหนึ่งพันล้านคน!
  ที่ศูนย์บัญชาการ ผู้คนต่างตกตะลึงเมื่อจ้องไปที่ข่าวล่าสุดที่ได้รับ
  วิดีโอกำลังฉายบนหน้าจอ LED ขนาดใหญ่
  นักรบอสูรในตำนานเสียชีวิต อสูรป่ากำลังบ้าคลั่ง ความกลัว ความพ่ายแพ้ และความวุ่นวาย!
  สถานการณ์เปลี่ยนไปทันทีที่ซูผิงเข้าไปในภาพ สิ่งที่เกิดขึ้นต่อไปทำให้ทุกคนประหลาดใจ “ผู้ชายคนนั้น…”
  “เด็กเหลือขอที่ฆ่าตำนานทะเลร่องลึกด้วยหมัดเดียว…”
  “เขาฆ่าราชาอสูรร้ายสภาวะชะตากรรม…”
  นักรบอสูรในตำนานกำลังคิด บางคนตกใจ ในขณะที่บางคนกำลังวางแผน
  ไม่ต้องสงสัยเลยว่าซูผิงมีพลังต่อสู้ของนักรบสภาวะชะตากรรม!
  ในหอคอยมีเพียงเจ้าแห่งคอยคนเดียวที่อยู่ในสภาวะชะตากรรม!
  เมื่อซูผิงไปก่อความวุ่นวายที่หอคอย นักรบอสูรในตำนานหลายคนในวันนั้นก็โกรธจัด พวกเขาหวังว่าพวกเขาจะต้องได้แก้แค้นได้อย่างแน่นอน อย่างไรก็ตามนักรบสภาวะว่างเปล่าทั้งสิบสองคนยังคงนิ่งเงียบอยู่ มีนักรบอสูรในตำนานสภาวะว่างเปล่าที่อ้างว่าพวกเขาต้องการไปลงโทษซูผิง… แต่ต่อมา มีบางอย่างเกิดขึ้น พวกเขาจึงตัดสินใจว่าจะไม่ยุ่งเกี่ยวกับเรื่องนี้
  หอคอยได้รับความอับอาย แต่ตัดสินใจที่จะไม่เอะอะกับมันมากนัก นักรบอสูรในตำนานฉลาดพอที่จะปล่อยเรื่องนี้ไป
  วันนี้ในที่สุดพวกเขาก็เข้าใจว่าทำไมคนๆ นั้นถึงออกจากหอคอยได้อย่างปลอดภัย
  มีเพียงเจ้าแห่งหอคอยเท่านั้นที่สามารถต่อสู้กับชายหนุ่มคนนั้นได้! ในขณะนี้ความขัดแย้งภายในจะไม่เป็นประโยชน์อะไรต่อมนุษยชาติ
  “ท่านเนี่ยสมควรตาย…”
  “ฉันได้ยินมาว่าชายหนุ่มมาจากเมืองฐานที่ชื่อว่าหลงเจียง และเขาเอาชนะราชาสวรรค์ต่างโลก อย่างไรก็ตามท่านเนี่ยแยกเมืองฐานของเขาออกจากแนวป้องกัน เขายังบอกเมืองฐานนั้นให้อพยพ…”
  “ในที่สุดท่านเนี่ยก็ได้รู้ว่าเขาเดินตามคนผิด ฉันไม่อยากจะเชื่อเลยว่าเขากำลังทำให้เรื่องนี้ยุ่งยาก!”
  “แนวป้องกันซิงจิงปลอดภัย ฉันสงสัยว่าเราจะทนต่อการโจมตีแบบเดียวกันนั้นได้หรือไม่…”
  นักรบอสูรในตำนานต่างกังวล แนวป้องกันซิงจิงโชคดีพอที่มีคนที่มีพลังต่อสู้ของสภาวะชะตากรรมไปปกป้องมัน แนวป้องกันซิงจิงป้องกันได้ดีเว้นแต่จะมีราชาอสูรร้ายสภาวะชะตากรรมหลายตัวออกมาจากถ้ำลึกมาพร้อมกันและโจมตีพวกเขา
  แต่นั่นไม่น่าเป็นไปได้
  คนในแนวป้องกันเซิงหลงควรที่จะกังวลเพราะพวกเขามีแค่สภาวะว่างเปล่า และพวกเขามีผู้สังหารสวรรค์เพียงแค่คนเดียว ซึ่งซ่อนตัวอยู่ที่ไหนสักแห่ง พวกเขาจะต้องเผชิญกับความยากลำบากมากมายหากพวกเขาต้องเผชิญหน้ากับราชาอสูรสภาวะชะตากรรม
  นักรบอสูรในตำนานรู้สึกว่าจิตใจของพวกเขาเต็มไปด้วยความมืดมน
  แม้แต่พวกเขาก็ยังต้องกังวล
  ท้ายที่สุดนักรบอสูรในตำนานห้าคนเสียชีวิตในเมืองฐานหลงจิงภายในเวลาไม่กี่ชั่วโมง!
  ผู้คนที่พวกเขาเคยดื่มด้วยขณะอยู่ที่หอคอยกลายเป็นศพ
  แม้แต่ท่านเนี่ยก็ตายไปแล้ว มีใครอีกบ้างที่จะมีความมั่นใจพอที่จะบอกว่าพวกเขาสามารถอยู่รอดได้?
  ในแนวป้องกันที่สามของเขตอนุทวีป
  เช่นเดียวกับคนอื่น ๆ มีนักรบในตำนานสภาวะว่างเปล่าเพียงคนเดียว
  “คนคนนั้น… น่ากลัวขึ้นเรื่อยๆ”
  พวกเขาดูวิดีโอจากเมืองฐานหลงจิงเช่นกัน
  พวกเขาเฝ้าดูอย่างตั้งใจ
  ชายชราสวมชุดคลุมสีฟ้าหน้านิ่งตึง
  หญิงสาวที่มีดวงตาใสเหมือนน้ำและผิวขาวราวกับหิมะนั่งอยู่ถัดจากเขา เธอถือดาบและนั่งอยู่เงียบ ๆ แต่มีบางอย่างเกี่ยวกับเธอที่โดดเด่น
  หญิงสาวคนนี้ยังไม่ถึงระดับตำนาน แต่นักรบอสูรในตำนานมองหญิงสาวด้วยความชื่นชมและเคารพ
  ปู่ของหญิงสาวมีอิทธิพล และเธอเกิดมาพร้อมกับพรสวรรค์ที่โดดเด่น ซึ่งสามารถรับประกันอนาคตที่สดใสของเธอได้
  เมื่อฉันไปที่ร้านของเขาครั้งแรก… เขาเป็นเด็กเหลือขออ่อนแอมากจนฉันหยิกเขาให้ตายได้ด้วยสองนิ้ว เขาไม่ได้อยู่ในระดับเจ็ดด้วยซ้ำ… เขาคงจะตายถ้าไม่ใช่เพราะสาวผมทองในร้านของเขา!
  เขาขโมยสมบัติของเราไป ความจริงที่ว่าเขาสามารถไปถึงระดับนี้ได้จะต้องเป็นเพราะสมบัตินั้น!
  ดวงตาของชายชราเปล่งประกายด้วยความเกลียดชัง เขากำหมัดแน่น
  เขาคือหยวนเทียนเฉิน เขาเคยเข้าร่วมหอคอยเมื่อหลายปีก่อน แต่เขาทำงานไปทั่วเขตอนุทวีปในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา กองกำลังและเมืองฐานมากมายรู้จักเขา
  เขาได้สร้างองค์กรการเงิน และองค์กรที่แข็งแกร่งโดยใช้ประโยชน์จากระดับตำนานของเขา พวกเขาช่วยเขาด้วยการรวบรวมข้อมูลและสมบัติ
  หยวนเทียนเฉินรู้สึกเคืองตั้งแต่ที่เขาเกือบจะถูกฆ่าตายตอนเขาเข้าไปในร้านของซูผิง เขารู้สึกเสียใจที่เขาไม่สามารถเอาเงินคืนมาได้
  ภายหลังเขาพบว่าซูผิงฆ่านักรบอสูรในตำนานระหว่างลีกสูงสุด จากนั้นไปที่หอคอยและต่อยนักรบในตำนานสภาวะว่างเปล่าจนตาย หยวนเทียนเฉินเริ่มโมโหมากขึ้นเรื่อยๆ แต่เขาไม่กล้าพอที่จะแก้แค้น
  เขาไม่อยากเชื่อเลยว่าซูผิงในปัจจุบันสามารถฆ่าราชาอสูรสภาวะชะตากรรมได้!
  ซูผิงเกือบจะเก่งพอๆกับเจ้าแห่งหอคอย! ถ้าหยวนเทียนเฉินพบกับซูผิงอีกครั้ง เขามั่นใจว่าเขาจะไม่รอดจากหมัดของซูผิง!
  ถ้าไม่ใช่เพราะความจริงที่ว่าอสูรป่าโจมตีโลก และพวกเขาต้องพยายามไปในเป้าหมายเดียวกัน เขาคิดว่าซูผิงน่าจะเดินทางหาตัวเขาและฆ่าเขา
  “ไอ้เด็กนั่น…”
  หยวนเทียนเฉินกัดฟัน เขาไม่มีพลังพอที่จะฆ่าซูผิง เขาทำได้เพียงเฝ้ามองเขาเติบโตและพัฒนาอย่างสิ้นหวัง!
  เขารู้สึกไร้พลัง แต่ก็ทำอะไรไม่ได้
  สิ่งเดียวที่ทำให้เขารู้สึกดีขึ้นก็คือหลานสาวของเขาที่ไม่ทำให้เขาผิดหวัง
  ซูผิงแย่งสมบัติไปส่วนหนึ่ง แต่หลานสาวของเขาก็ได้อีกส่วนเช่นกัน!
  หลานสาวของเขายังได้มีโอกาสเรียนที่สถาบันชั้นนำในสหพันธ์ดวงดาวอีกด้วย! ในไม่ช้าเธอก็จะไปได้ไกล!
  ไม่ยากสำหรับเธอที่จะไปถึงระดับตำนานในขณะที่เรียนอยู่ที่นั่น ในอนาคตเธออาจจะก้าวไปไกลกว่าระดับตำนานด้วยซ้ำ! แม้ว่าเธอจะยังไม่โชคดีพอที่จะก้าวข้ามระดับตำนาน แต่การเข้าร่วมสถาบันก็หมายความว่าเธอจะมีโอกาสได้รู้จักเพื่อนที่มีอิทธิพลมากมาย ที่จะกลายเป็นทรัพย์สินที่มองไม่เห็นด้วยตาเปล่า!
  ความโกรธและอิจฉาของหยวนเทียนเฉินหายไปเมื่อคิดถึงเรื่องนี้ เขาหันกลับมามองหลานสาว
  หญิงสาวนั่งอยู่เงียบ ๆ ราวกับว่าเธอไม่ได้เป็นส่วนหนึ่งของโลกนี้ แต่ความจริงก็คือเธอไม่สงบอย่างที่เธอเห็น
  นิ้วของเธอจับดาบไว้แน่น และฝ่ามือก็เปลี่ยนเป็นสีขาว
  เธอจ้องไปที่คนในวิดีโอ ราวกับว่าเธอต้องการแทงผู้ชายคนนั้นด้วยการมองของเธอ เธอรู้สึกถึงอารมณ์ต่างๆและความเจ็บปวดในใจ
  เธอรู้สึกเจ็บปวดเพราะความสิ้นหวัง!
  หยวนหลิงรู่ไม่สามารถยินดีกับความจริงที่ว่าซูผิงมีพลังมากขึ้นหลังจากครั้งสุดท้ายที่เธอได้เจอเขาที่ภูเขาหลงไท!
  เธออยู่ในดับเก้า และเธอยังสามารถต่อสู้กับนักรบอสูรในตำนานได้อีกด้วย!
  เธออายุเพียง 19 ปี!
  เป็นเรื่องน่าตกใจที่คนๆ หนึ่งจะไปถึงระดับกิตติมศักดิ์ตอนอายุ 19 เธอเป็นอัจฉริยะที่หาได้ยากจริงๆ!
  แต่… เธอยังคงแพ้ไอรีนโนเวล
  ซูผิงเหนือกว่าเธอ
  ซูผิงฆ่านักรบอสูรในตำนานราวง่ายๆ และเขาเพิ่งฆ่าราชาอสูรร้ายสภาวะชะตากรรม การฆ่าเธอคงเป็นเรื่องง่ายๆสำหรับเขา
  ย้อนกลับไปในตอนนั้น เธอมีสมบัติพอๆกับเขา แต่ในตอนนี้เธอเทียบอะไรกับเขาไม่ได้เลย
  ทำไมฉันยังคงล้าหลังทั้งที่พยายามอย่างหนัก?
  พรสวรรค์?
  เป็นครั้งแรกที่หยวนหลิงรู่เริ่มสงสัย
  ตั้งแต่เธอยังเป็นเด็ก ปู่ของเธอบอกเธอว่าเธอมีความสามารถ
  เธอทำได้ดีกว่าเพื่อนรุ่นเดียวกันจากตระกูลใหญ่ๆ เสมอ เธอยังคงนำหน้า
  เธอได้ไปที่สถาบันผู้กล้า ข้ามชั้นเรียนและจบก่อนกำหนดด้วยคะแนนสูงสุด
  แต่เธอก็ยังแพ้อยู่ดี!
  ทันใดนั้นเธอก็ได้ยินเสียงที่อ่อนโยน “รู่รู่”
  หญิงสาวมองใบหน้าที่ใจดีของคุณปู่ของเธอ สิ่งนี้ทำให้ก้อนสะอื้นมาจุกอยู่ที่คอของเธอ
  “อย่าคิดมาก หลานน่าทึ่งมากแล้ว” หยวนเทียนเฉินปลอบหลานสาวของเขา “ถ้าทุกอย่างเรียบร้อย คนพวกนั้นน่าจะมาหาหลานในไม่ช้า อนาคตของหนูยังอีกยาวไกล อย่าเปรียบเทียบตัวเองกับเด็กเหลือขอแบบนั้น”
  หยวนหลิงรู่เม้มปาก
  ฉันทำอย่างนั้นได้หรอ
  ไม่ต้องเปรียบเทียบตัวเองกับเขา เพราะฉันชนะไม่ได้?
  เธอรู้สึกว่าความมั่นใจของเธอถูกบดขยี้
  ใช่ เธอไม่สามารถเปรียบเทียบกับซูผิงได้
  เธอสามารถไปที่สถาบันนั้นและก้าวไปไกลกว่าระดับตำนาน อย่างไรก็ตามซูผิงอาจมีโอกาสที่ดีกว่า
  หญิงสาวก้มหัวลงและกระซิบ “หนูเข้าใจ คุณปู่…”
  หยวนเทียนเฉินรู้สึกปวดใจ ความเกลียดชังของเขาต่อซูผิงเพิ่มขึ้น
  ถ้าไม่ใช่เพราะชายหนุ่มคนนั้น หลานสาวของเขาก็จะเดินหน้าต่อไปอย่างมั่นใจและแข็งแกร่ง
  แต่ซูผิงทำเรื่องยุ่งไปหมด
  ฉันหวังว่าจะมีบางอย่างผิดพลาดในการโจมตีครั้งนี้…หยวนเทียนเฉินคิด
  เขาไม่สนใจใครบนดาวเคราะห์สีน้ำเงินนอกจากหลานสาวของเขา ถ้าหลานสาวของเขาไปสถาบันนั้นพร้อมกับความแข็งแกร่งและความลับที่เขาสร้างไว้ – เขาเชื่อว่าเขาสามารถมีชีวิตอยู่ต่อไปได้ แม้ว่ามนุษย์จะพ่ายแพ้ก็ตาม
  หอคอย
  ทิวเขาถูกปกคลุมไปด้วยหิมะ
  การต่อสู้ได้ขัดขวางพลังงานซึ่งทำให้สภาพอากาศเปลี่ยนแปลงอย่างรุนแรง นี่คือเดือนกรกฎาคม แต่หิมะเริ่มตกในบางพื้นที่ ในขณะที่ผู้คนในที่อื่นกำลังเผชิญกับอุณหภูมิที่สูงมาก
  เนินเขาเล็ก ๆ หลายแห่งลอยอยู่ในอากาศของอาณาจักรลับ
  นักรบอสูรในตำนานแต่ละคนได้อ้างสิทธิ์ว่าเนินเขาเป็นของตัวเอง และมีนักรบอสูรกิตติมศักดิ์ต่อสู้บนเนินเขาเหล่านั้น นักรบอสูรในตำนานจำนวนมากจากออกไปเมื่อเกิดสงคราม ทิ้งอีกหลายคนไว้เพื่อปกป้องหอคอย
  มีกระท่อมหลังเล็กอยู่บนภูเขาด้านหลัง
  ด้านหน้ากระท่อมมีแผ่นจารึก ดาบ และกระดานหมากรุก
  แผ่นจารึกถูกปกคลุมด้วยตะไคร่น้ำ
  ดาบถูกกระแทกลงกับพื้นและหัก
  กระดานหมากรุกถูกปกคลุมไปด้วยใบไม้ และหญ้าที่เหี่ยวแห้ง
  มีต้นไม้สองต้นข้างกระท่อมและมีชิงช้าแขวนอยู่ เด็กนั่งอยู่บนชิงช้าและหัวเราะ ชายหนุ่มผิวขาวสวมชุดคลุมสีขาวยืนอยู่ข้างชิงช้า
  ชายหนุ่มยิ้มขณะมองดูเด็ก
  ทันใดนั้นก็มีเสียงแก่ๆดังออกมาจากกระท่อม “พวกเจ้าทั้งสองมานี่”
  ชายชราผมหงอกสวมเสื้อผ้าเรียบง่ายเดินออกมา เขาใช้ไม้เท้าช่วยพยุงตัวใน
  “คุณปู่”
  ชายหนุ่มหยุดไกวชิงช้า
  เด็กน้อยเกลือกกลิ้งเพื่อลงจากชิงช้า และหัวเราะคิกคัก “คุณปู่ วันนี้เป็นวันที่เราจะไปที่นั่นใช่ไหม?”
  ชายชรายิ้ม “ใช. วันนี้พวกเขาน่าจะมารับหลาน ถ้าทุกอย่างเป็นไปตามแผน”
  “เยี่ยม!”
  เด็กน้อยปรบมือ ชายหนุ่มเพียงแค่ยิ้ม แต่เขาก็ตั้งตารอที่จะไปเยือนที่นั่นเช่นกัน
  “จื่อฮวนฟังนะ” ชายชราพูดกับชายหนุ่ม “ดูแลน้องชายของเจ้าเมื่อไปถึงที่นั่น หลานจะได้เจอผู้คนมากมายที่เหมือนกับพวกหลาน อย่าทำตัวหยิ่งยโส”
  “ผมรู้ครับคุณปู่”
  ชายหนุ่มพยักหน้า “คุณปู่ โลกกำลังถูกโจมตีและค่ายกลก็แตกแล้ว ผมเชื่อว่าอสูรร้ายจำนวนมากไปถึงสภาวะชะตากรรมแล้ว เราจะจัดการมันได้ไหมครับ เราควรขอความช่วยเหลือจากคนเหล่านั้นไหม?”
  ชายชราตอบว่า “หลานมีจิตใจเมตตา แต่นั่นไม่ใช่สิ่งที่หลานควรจะกังวล ปู่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นในถ้ำลึก อสูรป่าพยายามที่จะกวาดล้างมนุษยชาติเพื่อยึดครองดาวเคราะห์สีน้ำเงิน แต่พวกเขาจะไม่มีวันหนีเรื่องนี้ได้ และเป็นความจริงที่คนเหล่านั้นกำลังมา มันจะเป็นจุดจบของอสูรป่าทั้งหมดหากพวกเขายื่นมือช่วยเรา”
  ชายหนุ่มพยักหน้า “ถ้าหนึ่งในนั้นอยู่ในระดับดวงดาว เขาเพียงคนเดียวก็มากเกินพอที่จะแก้ปัญหาในถ้ำลึกได้ พวกเขาอาจช่วยแก้ไขอันตรายที่ซ่อนเร้นซึ่งสร้างปัญหาให้กับเรามานานหลายปี!”
  ชายชราตอบด้วยความเงียบ
  เด็กน้อยกับเรื่องที่คุยกัน “คุณปู่ บอกได้ไหมว่าพวกเขาจะมาไหม?”
  “อย่ากังวล พวกเขาจะมา” ชายชราลูกหัวหลาน แต่ดวงตาที่หรี่ลงบ่งบอกว่าเขาเองก็สงสัยเช่นกัน
  บูม_!
  ยานอวกาศงดงามพุ่งเข้าไปในก้อนเมฆ “จำนวนอสูรป่าบนโลกใบนี้เท่าๆกับบนดาวเคราะห์ร้าง” “ที่เดียวกันหรอคุณฟาง?” “ใช่ ไปเยี่ยมผู้นำของดาวเคราะห์สีน้ำเงินกันเถอะ”
  ยานอวกาศกลับลำและบินข้ามมหาสมุทรไปยังพื้นที่ที่มีหิมะปกคลุม
ตอนที่ 668 กายพิเศษ
  “เยี่ยม!”
  “หิมะกับไวน์เข้ากันได้อย่างลงตัว!’
  มีลูกบาศก์ขนาดเล็กหลอมด้วยทักษะเชิงมิติในพื้นที่หิมะ ด้านในลูกบาศก์คือเบาะรองนั่ง ชายชรากำลังนั่งขณะเพลิดเพลินกับตัวเอง
  เขาคือตำนานขี้เมา ผู้พิทักษ์หอคอย ถึงแม้จะเป็นคนเฝ้าประตู นักรบในตำนานหลายคนก็เคารพเขา
  เขาไม่ได้อยู่ในสภาวะว่างเปล่า แต่เขามีความสามารถต่อสู้แข็งแกร่ง
  “หือ?”
  ขณะจ้องหิมะ ตำนานขี้เมาก็จามด้วยจมูกแดงๆ จากนั้นก็พลันหรี่ตา จุดดำเข้าใกล้จากระยะไกล จุดดำยิ่งใกล้ขึ้นจนกระทั่งเผยรูปร่าง
  มันคือยานอวกาศ!
  ยานที่สร้างบนดาวเคราะห์สีน้ำเงินทำได้แค่วิ่งบนมหาสมุทร แต่มนุษย์ไม่ค่อยอยากใช้เพราะมหาสมุทรเต็มไปด้วยอสูร มนุษย์ยังแม้กระทั่งหยุดสร้างเครื่องบิน
  แต่ตอนนี้ ยานอวกาศกำลังมาถึง!นั่นเป็นสิ่งีท่ไม่สามารถทำได้ด้วยเทคโนโลยีของดาวเคราะห์สีน้ำเงิน”มันเป็นพวกเขา…”
  ดวงตาของตำนานขี้เมาเป็นประกายและความง่วงก็หายไปจากหน้า สีแดงบนหน้าเขาลดลง
  เขาเดินไปข้างหน้า ตำนานข้เมาพร้อมต้อนรับแขก หวือ หวือ!
  เสียงดังจากยานอวกาศน่าหนวกหู ยานอวกาศหยุดเหนือหอคอย ประตูเปิดและคนสองคนก็เดินออกมา ทั้งคู่คือตำนาน
  ตำนานขี้เมาหรี่ตา ทั้งสองอยู่ที่สภาวะชะตากรรม!
  เขารู้สึกราวกับเขาเห็นเจ้าแห่งหอคอย พลังดวงดาวรอบตัวบีบอัด แรงกดดันที่แผ่เหมือนตอนนักรบยืนต่อหน้าขุนพล ทั้งสองสามารถฆ่าเขาได้ง่ายๆ!
  ‘เห้ย จมูกแดง ยังเป็นคนเฝ้าประตูอีกงั้นเหรอ”
  ชายวัยกลางคนยิ้มให้ตำนานขี้เมา
  ตำนานขี้เมาตอบด้วยความเคารพ”คุณโจว คุณแซวผมอีกแล้ว ผมไม่มีทักษะอื่นนอกจากเฝ้าประตู..คุณมาที่นี่เพื่อรับคนที่ถูกเลือกงั้นเหรอครับ?”
  “ใช่”เด็กสาวที่ยืนข้างชายวัยกลางคนตอบอย่างเย็นชา
  เธอมองรอบๆอย่างครุ่นคิด โดยเฉพาะตอนเห็นความหนาแน่นต่ำของพลังดวงดาวที่ลอยรอบๆ
  นักรบอสูรในตำนานสกุลโจวพูด”เจ้าแห่งหอคอยอยู่นี่ไหม?คุณฟาง อาจารย์เรามาที่นี่เพื่อดูตัวคน บอกเจ้าแห่งหอคอยให้ออกมา”
  ตำนานขี้เมาหรี่ตา คุณฟาง?
  อาจารย์..ของสถาบันนั่น?
  หัวใจของเขาเต้นกระหน่ำ เขาได้ยินเรื่องราวเกี่ยวกับสถาบันนั่น ว่ากันว่าคนที่สามารถเป็นอาจารย์ที่นั่นได้…ต้องเป็นระดับดวงดาว!
  ด้วยเหตุผลนั้นเอง สถาบันจึงสร้างชื่อได้แม้แต่ในขอบเขตสหพันธ์!
  “ผม ผมจะบอกเขาเดี๋ยวนี้”ตำนานขี้เมาประหม่า เขาหยิบโทรศัพท์และโทรออก
  “ได้ เราจะไปเจอเขา”เสียงไม่แยแสดังจากยานอวกาศ
  พอพูดแบบนั้น ทางเข้าก็เปิด
  ยานอวกาศค่อยๆ เข้าสู่อาณาจักรลับ
  ชายวัยกลางคนกับเด็กสาวแสนเย็นชามองตำนานขี้เมาเป็นครั้งสุดท้ายแต่ไม่พูดอีก พวกเขาบินกลับยาน
  ในที่สุดตำนานขี้เมาก็ได้สติตอนยานหายไป เขาไม่เปิดทางเข้าแต่ยานอวกาศก็ยังเข้าไปข้างใน มันต้องมีใครที่เหนือกว่าระดับตำนานบนยานนั่น!
  เขาโทรหาเจ้าหอคอยและบอกเขา อีกฝ่ายเองก็ต้องการเวลาเพื่อเตรียมต้อนรับแขก
  ภายในอาณาจักรลับของหอคอย
  การมาถึงของยานได้แจ้งเตือนนักรบอสูรในตำนานมากมาย อาณาจักรลับของหอคอยมีขนาดปานกลาง นักรบอสูรในตำนานสามารถสัมผัสได้ถึงสถานการณ์ของอาณาจักรลับ ยานอวกาศได้แจ้งเตือนคนที่ยังไม่เข้าสนามรบ
  ไม่นาน พวกระดับตำนานก็ออกมาจ้องยาน
  พวกเขาเห็นสัญลักษณ์บนยาน นั่นคือภาษาทางการของสหพันธ์ พวกเขาเคยเห็นมันมาก่อนแต่อ่านไม่ออก
  หวือ!
  ทันใดนั้นก็เกิดระลอกคลื่นในอากาศ ชายชราผมหงอกปรากฏตัวต่อหน้ายาน มันเป็นชายชราจากกระท่อมหลังนั้น
  เขามองยาน ปรารถนาจะได้ลิ้มรสพลังดังกล่าว แต่ก็เก็บความคิดฟุ้งซ่านไปและลดหัว”ผม กู่ซือปิง เป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้พบคุณ”
  คนสี่คนที่สภาวะชะตากรรมเดินออกจากยาน
  ชายชราหรี่ตา
  จากนั้นชายวัยกลางคนก็ก้าวออกจากยาน เขามีคิ้วโฉบเฉี่ยว ดวงตาล้ำลึก บางสิ่งที่น่ากลัวแผ่ออกจากเขา ชายวัยกลางคนเดินบนอากาศทีละก้าว
  เขาพยักหน้าให้กู่ซือผิง”งั้น นายก็คือเจ้าของที่นี่?”
  “ไม่เชิงครับ ผมแค่ได้รับเกียรติได้รับเลือกให้เป็นผู้นำของพวกเขา”กู่ซือผิงพยายามที่จะอ่อมน้อม
  ชายวัยกลางคนยิ้มด้วยความดูถูกเล็กน้อย”ฉันมาที่นี่ในนามสถาบันมีอา เพื่อรับสมัครนักเรียนใหม่บางคน ฉันเห็น้ขอมูลของผู้สมัครแล้วและพวกเขาก็ตรงกับมาตรฐานเรา แต่ฉันสงสัยว่า..ข้อมูลพวกเขาเป็นจริงหรือไม่”
  กู่ซือผิงพูดทันที’ท่าน โปรดไว้วางใจผม ผมได้อ่านข้อมูลผู้สมัครเหล่านั้นเองและทุกอย่างก็เป็นจริง แต่ผมไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับพวกเขาในช่วงเวลานี้บ้าง ผู้สมัครสองคนเป็นหลานผมเองและมีคุณสมบัติตรงตามกำหนด”
  “งั้นเหรอ?”
  ชายวัยกลางคนกวาดมองและพูดพร้อมขมวดคิ้ว”มานี่สิ’
  อากาศสั่น ทันใดนั้น คนสองคนก็โผล่ออกมาข้างกู่ซือผิง มันคือเด็กกับชายหนุ่มในกระท่อม
  ทั้งคู่มีสีหน้างุนงง จากนั้นก็สงบพอเห็นปู่ตัวเอง
  “ไม่เลว อายุกระดูกคือเก้าและระดับคือเจ็ด มีอสูรร้ายในตัว ฉันคิดว่าเขาเกิดมาพร้อมกายอสูร แม้จะบอกไม่ได้ว่าเขามีสายเลือดอสูรระดับใดกันแน่”
  ชายวัยกลางคนดูเหมือนจะมีความสุข
  เด็กนี่มีคุณสมบัติเข้าร่วมในสถาบันพวกเขา เด็กสามารถไปถึงสภาวะชะตากรรมได้ง่ายๆถ้าฝึกให้ดี สำหรับว่าเด็กจะสามารถไปไกลได้เดินนั้นไหม มันขึ้นอยู่กับโชค
  กู่ซือผิงดีใจที่ได้ยินแบบนั้น”หลานผมยังเด็กครับ ผมขอฝากเขาด้วย”
  ชายวัยกลางคนเงียบ เขากำลังสังเกตชายหนุ่ม
  “อายุกระดูก 16 และการบ่มเพาะคือระดับเก้าขั้นสูงสุด มีน้ำแข็งในตัว เขาเกิดมาพร้อมกายน้ำแข็ง ฉันบอกไม่ได้ว่าเป็นกายน้ำแข็งประเภทใด ไม่เลว”
  ชายวัยกลางคนพยักหน้า ชายหนุ่มเองก็ตรงตามมาตรฐาน
  ถ้าการยืนยันทีหลังพบว่ากายน้ำแข็งของชายหนุ่มคือประเภทที่ดี มันก็จะดีต่อสถาบันเช่นกัน
  ชายหนุ่มโล่งใจ เขามองยานอวกาศขนาดใหญ่และรู้ว่าคนเหล่านี้มาจากสหพันธ์ดวงดาว
  เขากับน้องชายเขาจะไปกับคนเหล่านี้ ไปยังสถานที่ในตำนานเพื่อศึกษา
  ว่ากันว่าคนที่ทรงพลังสุดในสถานที่นั้นได้กลายเป็นเทพไปแล้ว พวกเขาสามารถทำลายทั้งดาวได้ด้วยการยกมือข้างหนึ่ง
  “พวกเขาเป็นหลานของนาย?”
  เขามีใบหน้าใจดีตอนหันไปคุยกับกู่ซือผิงอีกครั้ง เหนือสิ่งอื่นใด การสามารถมีหลานสองคนเช่นนี้ได้บนดาวไร้ทรัพยากรถือว่าหายาก
  ปู่ของพวกเขาเองก็จะได้รับเกียรติถ้าเด็กสองคนสามารถทำผลงานได้ดีในสถาบัน
  กู่ซือผิงยิ้ม”ครับท่าน ขอบคุณท่านมากครับ”
  “ไม่ต้องพูดถึงมัน”ชายวัยกลางคนพูด”แล้วผู้สมัครคนอื่นละ?”
  กู่ซือผิงตอบ”พวกเขาอยู่ที่อื่นครับ ทำไมท่านไม่อยู่ที่นี่สักพักละครับ ผมจะได้เรียกพวกเขามา”
  จากนั้นกู่ซือผิงก็ขอโทษ”ผมขอโทษแต่มีการโจมตีของอสูรทั่วทั้งดาวเรา ผู้สมัครคนอื่นไปกับครอบครัวเพื่อสู้กับอสูรป่า มันจะต้องใช้เวลาสักพักให้พวกเขามาที่นี่ โปรดให้อภัยผมด้วย”
  ชายวัยกลางคนเข้าใจ
  เขากำลังขอโทษราวกับรู้สึกเสียใจ
  แต่จริงๆคือเขาอยากให้พวกเขาช่วย
  แต่ทว่า ชายวัยกลางคนไม่พูดออกมาเสียงดัง หเนือสิ่งอื่นใด ชีวิตบนดาวดึกดำบรรพ์ไม่ง่าย เขาเองก็รู้ว่าผู้คนกำลังทนทุกข์
  “พวกเขามีหมายเลขโทรศัพท์ไหม?ฉันจะโทรหาพวกเขาและส่งคนไปรับตัว”ชายวัยกลางคนพูด
  กู่ซือผิงรู้สึกอับอายเล็กน้อย”ผมมีเบอร์แต่บางสถานที่สัญญาณไม่แรง ถ้าเราโทรหาพวกเขาทีละคน”
  “ไม่ต้องห่วง ส่งเบอร์พวกเขามาให้หมดแล้วฉันจะจัดการที่เหลือเอง”ชายวัยกลางคนตอบ
  กู่ซือผิงสับสนแต่ไม่กล้าขัด เขาป้อนเบอร์ของผู้ทักษ์ของผู้สมัครในโทรศัพท์
  “ท่านครับ นี่ครับ”
  “อืม”
  ชายวัยกลางคนคว้าโทรศัพท์และใส่พลังดวงดาวเข้าอุปกรณ์
  โทรศัพท์สั่นและภาพฉายสี่ภาพก็ผุดจากโทรศัพท์
  “ท่านเจ้า?”
  “ท่านเจ้า?”
  ผู้คนที่เผยตัวแปลกใจ
  พวกเขารู้สึกราวกับพวกเขาตัดข้ามมิติและเข้าอาณาจักรลับของหอคอยมาก
  ไม่เพียงจะเห็นกู่ซือผิง แต่ยังเป็นชายวัยกลางคนกับยานอวกาศลำใหญ่
  ไม่ช้า ทั้งสี่ก็ได้สติ พวกเขาเบิกตากว้างด้วยความตื่นเต้น
  พวกเขามาจากสถานที่นั่น!หยวนเทียนเฉินสั่นสะท้าน พวกเขามาถึงแล้ว หลานสาวของเขาจะได้ไปที่นั่น!
  “ฉันเป็นอาจารย์จากสถาบันมีอาที่รับหน้าที่มารับตัวนักเรียน’ชายวัยกลางคนพูดสรุป”บอกฉันว่าพวกนายอยู่ไหนแล้ว ฉันจะส่งคนไปรับ”
  พวกเขาจำเขาได้ก่อนแนะนำตัว ทั้งสี่คนรีบให้ตำแหน่ง
  ชายวัยกลางคนวางสายและโยนโทรศัพท์กลับให้กู่ซือผิง
  กู่ซือผิงยืนตาลาย
  ตั้งแต่เมื่อไรที่โทรศัพท์เขาทำแบบนี้ได้?
  ชายวัยกลางคนพูด”ฉันแค่ใส่กฏบางอย่างเข้าไป ไม่มีอะไรน่าแปลก”
  ชายวัยกลางคนพูดกับคนอื่น’ไปหาพวกเขา แล้วพาตัวมาที่นี่”
  “รับทราบ”
  ทั้งสี่พยักหน้า พวกเขาเข้ายานและไม่ช้าก็ออกมาหลังเตรียมการ พวกเขากล่าวอำลาชายวัยกลางคนและมุ่งหน้าออกไป
  แนวป้องกันเซิงหลง
  หยวนเทียนเฉิงระเบิดความตื่นเต้นหลังวางสาย เขาเมินแววตาแปลกใจจากคนรอบตัวและพูดกับเด็กสาว”ได้ยินไหม?พวกเขามาแล้ว!พวกเขากำลังรอที่หอคอย!”
  “หนูได้ยินแล้ว”
  หยวนหลิงรู่พยักหน้า
  เธอไม่เห็นแต่ได้ยิน
  สถาบันชื่อดังนั่นจากสหพันธ์ดวงดาวมาเพื่อรับตัวเธอ
  ในที่สุดเธอก็จะได้สำแดงศักยภาพเต็มที่ เมื่อเธอไปถึงสภาวะชะตากรรมหรือเหนือกว่านั้น
  วิกฤตบนดาวเคราะห์นี้จะไร้ความหมายสำหรับเธอ!
  “คุณปู่ หนูจะไปและฝึกให้หนัก ปู่ต้องดูแลตัวเองนะ!”เด็กสาวพูดกับหยวนเทียนเฉินด้วยความมุ่งมั่น”ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น จงอยู่ต่อไป นอกจากนี้ อย่าไปยั่วยุคนคนนั้น”
  หยวนเทียนเฉินรู้ว่าเธอหมายถึงใคร ความสุขดูเหมือนจะโดนตัดด้วยความเกลียด เขาพยักหน้า”ปู่รู้ ปู่ไม่โง่ ปู่จะรอจนกว่ามันจะทำให้ตัวเองพินาศ!”
  หยวนหลิงรู่เงียบ
  ทำให้ตัวเองพินาศ!
  เธอไม่คิดงั้น
  ตรงกันข้าม เธออยากให้คนคนนั้นมีชีวิตอยู่จนถึงวันที่เธอกลับมา!
  นักรบอสูรในตำนานถาม”ท่านหยวน นั่นคือใคร?”
  หยวนเทียนเฉินได้สติ เขามองรอบๆและไม่สามารถกลั้นรอยยิ้มได้”เขามาจากสหพันธ์ดวงดาว สถาบันกำลังรับสมัครและหลานสาวฉันก็ผ่านมาตรฐานพวกเขา พวกเขามาที่นี่และดันเป็นตอนเราเจอวิกฤต ฉันจะบอกหลานสาวฉันให้บอกพวกเขาและดูว่าพวกเขาจะช่วยเรากำจัดอสูรบ้าเหล่านั่นได้ไหม”
  นักรบอสูรในตำนานมองหน้ากัน
  เขากำลังพูดถึงสถาบันในที่แห่งนั้น?
  นักรบอสูรในตำนานอ้าปากค้าง มองเด็กสาวอย่างอิจฉา
  พวกเขารู้ว่าเด็กสาวโดนสถาบันรับสมัคร แต่มันก็สามารถโดนยกเลิกได้ตลอดเวลาเช่นกัน
  แต่อาจารย์ของสถาบันได้เดินทางมาจริง!
  ตอนเด็กสาวกลับมา เธอจะกลายเป็นคนที่พวกเขาต้องแหงนมอง
  พวกเขามาถึงในเวลาที่เหมาะเจาะมาก มันจะดีถ้าพวกเขาสามารถช่วยจัดการกับอสูรป่าได้
  ทุกคนเต็มไปด้วยความรู้สึกต่างๆนาๆ
  ภัยคุกคามของอสูรป่าลดลง แต่ความขมขื่นจากความอิจฉากลับมาแทน
  “อืม…”
  หยวนเทียนเฉินปกปิดความสุขไว้ได้ไม่มิด

คอมเม้นต์

การแสดงความเห็นถูกปิด