ท้าทายลิขิตสวรรค์ – ตอนที่ 62 หลบไป!

อ่านนิยายจีนเรื่อง ท้าทายลิขิตสวรรค์ ตอนที่ 62 หลบไป! อ่านนิยายจีน.COM | อ่านนิยายจีนแปลไทย.

นิยาย ท้าทายลิขิตสวรรค์ ตอนที่ 62 หลบไป! ก่อนที่จะได้พบกับคนเหล่านี้หยางซื่อ เหมยยังอารมณ์ดีอยู่เนื่องจากวันนี้เธอสามารถทําเงินได้ครึ่งล้าน แต่คาดไม่ ถึงว่า ความสุขสดชื่นเหล่านั้นจะจางหายไปทันทีเมื่อได้พบหน้าคนพวกนี้ ดังนั้นเด็กสาวจึงขมวดคิ้วขึ้นและดุว่า “หลบไป!” “โอ้โห!น้องสาวของพี่อารมณ์ไม่ค่อย ดี แต่แบบนี้พี่ชอบ” หวงหม่าหมิงหัวโจกของกลุ่มก้าวเดิ นมาข้างหน้า และยื่นมือออกมาเนื่องจากต้องการที่จะสัมผัสใบหน้าของหยางซื้อเหมยที่แสนจะขาวนวลและอ่อนโยนแต่เด็กสาวสามารถหันหน้าหลบได้ทัน วันนี้เธอใช้พลังวัตรไปกับการร่า ยมนตร์และทําพิธีแล้ว ดังนั้นวันนี้จึงไม่ต้องการใช้สูญเสียพลังของตัวเองไปกับเรื่องไร้สาระเช่นนี้ “อย่าบังคับให้ฉันทํา…!” “ฮ่า ๆ…” จากนั้นเสียงหัวเราะเยาะเย้ยก็ดังขึ้น เรื่อย ๆ ราวกับว่าคํากล่าวของเธอไม่ได้เข้าหูของพวกเขาเลยและยังคงก้าวเดิ นมาข้างหน้าเพื่อสร้างความสนุกสนานให้กับคนในกลุ่ม แม้ว่าท่าที่กวนประสาทของคนเหล่านี้ จะส่งผลต่อความรู้สึกของหยางซื่อเหมยแต่เธอก็ขี้เกียจที่จะเสียเวลากับพวก เขา และในเวลานี้เธออยู่บนถนนที่มีคนสัญจรไปมาซึ่งเห็นได้ชัดว่ามันมีพลัง หยางที่แข็งแกร่งและไม่มีวิญญาณชั่วร้ายอยู่รอบตัวที่สามารถดึงดูดมันมาใช้งานได้ ดังนั้น เธอจึงทําได้เพียงแค่ใช้กําลัง ภายในที่เธอมีเท่านั้น ซึ่งสิ่งนี้เกิดจากการฝึกฝนวิชาอย่างจริงจังกับท่านอา จารย์เป็นเวลาสิบปี แต่อันที่จริงแล้วเธอไม่ต้องการที่จะใช้มันทําร้ายคนอื่นเลย แต่ครั้งนี้ถือเป็นกรณียกเว้นก็แล้วกัน คิดเสียว่าเป็นเพียงแค่ฝึกฝีมือ! ในทันใดหยางซื่อเหมยก็กําหมัดแน่น ทั้งสองข้างและยกขึ้นในท่าเตรียมพร้อมแต่หวงหม่าหมิงยังไม่ทันตั้งตัวก็พบว่า นิ้วเล็กเรียวสีขาวกําลังจับที่ไหล่ของตนเองซึ่งมันมีความรู้สึกราวกับว่ามีมือยักษ์ มาจับไหล่ของเขา แต่ก่อนที่จะตอบสนอง ในชั่วพริบตา เขาก็ล้มลงกับพื้นเหมือนสําลีที่ถูกลมปากเป่าจากนั้นหยางซื่อเหมยก็โยนลู กน้องของเขาเหมือนโยนขยะลงพื้นที่ละคนและเมื่อมองเห็นคนเหล่านั้นที่กําลัง ร้องไห้อยู่บนพื้น หยางซื่อเหมยก็กล่าวอย่างเย็นชาว่า “ฉันบอกแล้วไงว่าอย่ามายุ่งกับฉัน และจําใส่สมองของพวกแกเอาไว้ด้วยว่าถ้าไม่อยากตายอย่าคิดที่จะแก้แค้นฉัน” จากนั้นเธอก็เดินลอยหน้าลอยตาท่า มกลางสายตาแห่งความประหลาดใจของผู้คนที่เดินผ่านไปมาและหลังจากที่เธอเดินจากไปแล้วผู้สังเกตการณ์ก็เริ่มกล้าที่จะเปิดการสนทนา “โอ้พระเจ้า! เธอเห็นหรือเปล่าว่าเด็ก หญิงตัวเล็ก ๆ คนเมื่อกี้เป็นเหมือนกับรมาจารย์ในนวนิยายศิลปะการต่อสู้มัน!มันวิเศษมากที่สามารถล้มผู้ชายตัวใหญ่เหล่านี้ลงได้” “ดูเหมือนว่าเธอจะอ่อนโยนและ บอบบาง แต่ความจริงแล้วเธอคงจะเป็นนักกีฬาเทควันโดสายดํา” “นี่สิคนจริง! ถ้ลูกสาวของฉันมีทักษะ ที่ดีเยี่ยมเช่นนี้ คงไม่มีใครกล้ารังแกเธออีกต่อไปแล้ว”
“ฉันไม่รู้ว่าเธอเป็นลูกสาวของใคร แต่ เธอสวยมากราวกับว่าเธอหลุดออกมาจากภาพวาด” “นี่กําลังจะบอกว่าเธอเป็นนางฟ้า เหรอ?” “นางฟ้า?” เห็นได้ชัดว่าทุกคนชื่นชมเด็กสาวคนนี้ จากนั้นหนุ่มน้อยที่ถูกโยนลงไปที่พื้นก็ลุกขึ้นด้วยความเขินอาย “พี่! เราถูกผู้หญิงคนนั้นทําร้าย แล้ว เราจะทํายังไงต่อไปดี?” ลูกน้องเอ่ยถามหวงหม่าหมิง หวงหม่าหมิงถูกหยางซื่อเหมยโยนล งบนถนนแบบนั้น มันจึงทําให้เขารู้สึกเสียหน้าจนไม่รู้ว่าจะกล่าวอย่างไรดี และท่ามกลางความตื่นเต้นเมื่อครู่ รถสปอร์ตหรูสีดําจอดที่บริเวณข้างทางมีคนขับเป็นชายในชุดเสื้อเชิ้ตสีดําและ กางเกงขายาวสีดําซึ่งมีอายุประมาณสิบห้าปีเฝ้าดูอยู่นานแล้ว โดยเขามีรูปร่างสูงโปร่งกับผมแนว งดําขลับและคิ้วที่คมเหมือนดาบพร้อมกับดวงตาสีเข้มเรียวยาวเรียวพร้อมกับปากบางและมือยาวที่แข็งแรงกําลังจับพวงมาลัยสีดําอยู่
เมื่อครูดวงสีน้ําตาลเข้มของเขาเหมือน พายุเฮอริเคนในทะเลทรายที่สามารถดูดกลืนทุกอย่างเพียงแค่จ้องมองไปข้าง หน้าเพื่อมุ่งความสนใจไปยังหญิงสาวในชุดย้อนยุคที่ชาญฉลาดและสง่างาม ในตอนที่เธอทําให้ร่างที่สูงใหญ่กว่าเธอลัมลงไปนอนกองกับพื้นได้ และเดิน จากไปอย่างสงบโดยไม่มีความวุ่นวายใด ๆ
เหนือชั้นอย่างแท้จริง! นัยน์ตาของเขาหรี่ลงเล็กน้อยขณะที่ เขาต้องการขับรถตามไปให้ทันแต่ทันใดนั้นประตูที่นั่งผู้โดยสารด้านหน้าก็ถูก เปิดออกและจูกัดหลางในชุดเสื้อเชิ้ตสีขาวกับกางเกงขายาวก็นั่งลงพิงเก้าอี้ด้านข้างอย่างเกียจคร้าน “เหนื่อยแล้ว! ไปกันเถอะ!” และเมื่อสายตาของชายหนุ่มละจาก ร่างของจูกัดหลางแล้ว เขาก็มองย้อนกลับไปยังถนนที่สว่างไสวแต่กลับพบว่า ร่างที่สง่างามนั้นได้หายไป “แกกําลังมองหาอะไรอยู่?” จูกัดหลางรู้สึกสงสัยมากเมื่อเห็นว่า เพื่อนของเขากําลังจ้องมองไปข้างหน้าด้วอาการอยากรู้อยากเห็น และเมื่อเอ่ย ถามก็ทําให้ชายผู้นี้สูญเสียการแสดงออกซึ่งเขาไม่เคยเห็นมาก่อน แต่ชายผู้เงียบขรึมก็ไม่ได้ตอบ โดย ทําแค่เพียงสตาร์ทรถและเหยียบคันเร่งขณะที่ในมโนนึกของเขากําลังฉายภาพ เด็กผู้หญิงตัวร่างเล็ก ๆ วัยห้าขวบที่ชัดเจนซึ่งมันฝังแน่นอยู่ในหัวใจของเขาอยู่ ตลอดเวลา สิบปีผ่านไป…เธอจะกลายเป็นผู้หญิง แบบนี้หรือเปล่า? ฉันสงสัยจังว่าเมื่อโตขึ้นเธอจะเป็นผู้ หญิงแบบไหนกันนะ? จะเหมือนเด็กสาวคนเมื่อกี้นี้หรือเปล่า? จูกัดหลางรู้ว่าสหายของเขาเป็นคนพู ดน้อย ดังนั้นเขาจึงหยุดตั้งคําถามแต่หลับตาลงเพื่อพักผ่อน อย่างไรก็ตามนิสัยใจคอของจูกัดหลา งตรงกันข้ามกับเพื่อนคนนี้อย่างสิ้นเชิงโดยเขามีผิวสั้นสีน้ําตาลอ่อนและดวงตา สีน้ําตาลภายใต้คิ้วหนาอันคมเข้มและมีจมูกที่สูงกับริมฝีปากที่บางพอประมาณ แต่เมื่อรอยยิ้มที่อ่อนโยนนั้นมาผสม ผสานกับความชอบในการสวมเสื้อผ้าสีขาวมันจึงทําให้เขาช่างดูเหมือนเจ้า ชายจากเทพนิยายที่มีทั้งความหล่อเหลาอ่อนโยนสง่างามและเซ็กซี่ จากนั้นชายหนุ่มก็ขับรถหรูออกจาก เมืองอย่างใจเย็นและอยู่บนทางหลวงที่การจราจรค่อนข้างเบาบาง…

นิยาย ท้าทายลิขิตสวรรค์

ตอนที่ 62 หลบไป!

ก่อนที่จะได้พบกับคนเหล่านี้หยางซื่อ เหมยยังอารมณ์ดีอยู่เนื่องจากวันนี้เธอสามารถทําเงินได้ครึ่งล้าน แต่คาดไม่ ถึงว่า ความสุขสดชื่นเหล่านั้นจะจางหายไปทันทีเมื่อได้พบหน้าคนพวกนี้ ดังนั้นเด็กสาวจึงขมวดคิ้วขึ้นและดุว่า

“หลบไป!”

“โอ้โห!น้องสาวของพี่อารมณ์ไม่ค่อย ดี แต่แบบนี้พี่ชอบ”

หวงหม่าหมิงหัวโจกของกลุ่มก้าวเดิ นมาข้างหน้า และยื่นมือออกมาเนื่องจากต้องการที่จะสัมผัสใบหน้าของหยางซื้อเหมยที่แสนจะขาวนวลและอ่อนโยนแต่เด็กสาวสามารถหันหน้าหลบได้ทัน

วันนี้เธอใช้พลังวัตรไปกับการร่า ยมนตร์และทําพิธีแล้ว ดังนั้นวันนี้จึงไม่ต้องการใช้สูญเสียพลังของตัวเองไปกับเรื่องไร้สาระเช่นนี้

“อย่าบังคับให้ฉันทํา…!”

“ฮ่า ๆ…”

จากนั้นเสียงหัวเราะเยาะเย้ยก็ดังขึ้น เรื่อย ๆ ราวกับว่าคํากล่าวของเธอไม่ได้เข้าหูของพวกเขาเลยและยังคงก้าวเดิ นมาข้างหน้าเพื่อสร้างความสนุกสนานให้กับคนในกลุ่ม

แม้ว่าท่าที่กวนประสาทของคนเหล่านี้ จะส่งผลต่อความรู้สึกของหยางซื่อเหมยแต่เธอก็ขี้เกียจที่จะเสียเวลากับพวก เขา และในเวลานี้เธออยู่บนถนนที่มีคนสัญจรไปมาซึ่งเห็นได้ชัดว่ามันมีพลัง หยางที่แข็งแกร่งและไม่มีวิญญาณชั่วร้ายอยู่รอบตัวที่สามารถดึงดูดมันมาใช้งานได้

ดังนั้น เธอจึงทําได้เพียงแค่ใช้กําลัง ภายในที่เธอมีเท่านั้น ซึ่งสิ่งนี้เกิดจากการฝึกฝนวิชาอย่างจริงจังกับท่านอา จารย์เป็นเวลาสิบปี แต่อันที่จริงแล้วเธอไม่ต้องการที่จะใช้มันทําร้ายคนอื่นเลย

แต่ครั้งนี้ถือเป็นกรณียกเว้นก็แล้วกัน คิดเสียว่าเป็นเพียงแค่ฝึกฝีมือ!

ในทันใดหยางซื่อเหมยก็กําหมัดแน่น ทั้งสองข้างและยกขึ้นในท่าเตรียมพร้อมแต่หวงหม่าหมิงยังไม่ทันตั้งตัวก็พบว่า นิ้วเล็กเรียวสีขาวกําลังจับที่ไหล่ของตนเองซึ่งมันมีความรู้สึกราวกับว่ามีมือยักษ์ มาจับไหล่ของเขา

แต่ก่อนที่จะตอบสนอง ในชั่วพริบตา เขาก็ล้มลงกับพื้นเหมือนสําลีที่ถูกลมปากเป่าจากนั้นหยางซื่อเหมยก็โยนลู กน้องของเขาเหมือนโยนขยะลงพื้นที่ละคนและเมื่อมองเห็นคนเหล่านั้นที่กําลัง ร้องไห้อยู่บนพื้น หยางซื่อเหมยก็กล่าวอย่างเย็นชาว่า

“ฉันบอกแล้วไงว่าอย่ามายุ่งกับฉัน และจําใส่สมองของพวกแกเอาไว้ด้วยว่าถ้าไม่อยากตายอย่าคิดที่จะแก้แค้นฉัน”

จากนั้นเธอก็เดินลอยหน้าลอยตาท่า มกลางสายตาแห่งความประหลาดใจของผู้คนที่เดินผ่านไปมาและหลังจากที่เธอเดินจากไปแล้วผู้สังเกตการณ์ก็เริ่มกล้าที่จะเปิดการสนทนา

“โอ้พระเจ้า! เธอเห็นหรือเปล่าว่าเด็ก หญิงตัวเล็ก ๆ คนเมื่อกี้เป็นเหมือนกับรมาจารย์ในนวนิยายศิลปะการต่อสู้มัน!มันวิเศษมากที่สามารถล้มผู้ชายตัวใหญ่เหล่านี้ลงได้”

“ดูเหมือนว่าเธอจะอ่อนโยนและ บอบบาง แต่ความจริงแล้วเธอคงจะเป็นนักกีฬาเทควันโดสายดํา”

“นี่สิคนจริง! ถ้ลูกสาวของฉันมีทักษะ ที่ดีเยี่ยมเช่นนี้ คงไม่มีใครกล้ารังแกเธออีกต่อไปแล้ว”
“ฉันไม่รู้ว่าเธอเป็นลูกสาวของใคร แต่ เธอสวยมากราวกับว่าเธอหลุดออกมาจากภาพวาด”

“นี่กําลังจะบอกว่าเธอเป็นนางฟ้า เหรอ?”

“นางฟ้า?”

เห็นได้ชัดว่าทุกคนชื่นชมเด็กสาวคนนี้ จากนั้นหนุ่มน้อยที่ถูกโยนลงไปที่พื้นก็ลุกขึ้นด้วยความเขินอาย

“พี่! เราถูกผู้หญิงคนนั้นทําร้าย แล้ว เราจะทํายังไงต่อไปดี?” ลูกน้องเอ่ยถามหวงหม่าหมิง

หวงหม่าหมิงถูกหยางซื่อเหมยโยนล งบนถนนแบบนั้น มันจึงทําให้เขารู้สึกเสียหน้าจนไม่รู้ว่าจะกล่าวอย่างไรดี

และท่ามกลางความตื่นเต้นเมื่อครู่ รถสปอร์ตหรูสีดําจอดที่บริเวณข้างทางมีคนขับเป็นชายในชุดเสื้อเชิ้ตสีดําและ กางเกงขายาวสีดําซึ่งมีอายุประมาณสิบห้าปีเฝ้าดูอยู่นานแล้ว

โดยเขามีรูปร่างสูงโปร่งกับผมแนว งดําขลับและคิ้วที่คมเหมือนดาบพร้อมกับดวงตาสีเข้มเรียวยาวเรียวพร้อมกับปากบางและมือยาวที่แข็งแรงกําลังจับพวงมาลัยสีดําอยู่
เมื่อครูดวงสีน้ําตาลเข้มของเขาเหมือน พายุเฮอริเคนในทะเลทรายที่สามารถดูดกลืนทุกอย่างเพียงแค่จ้องมองไปข้าง หน้าเพื่อมุ่งความสนใจไปยังหญิงสาวในชุดย้อนยุคที่ชาญฉลาดและสง่างาม ในตอนที่เธอทําให้ร่างที่สูงใหญ่กว่าเธอลัมลงไปนอนกองกับพื้นได้ และเดิน จากไปอย่างสงบโดยไม่มีความวุ่นวายใด ๆ
เหนือชั้นอย่างแท้จริง!

นัยน์ตาของเขาหรี่ลงเล็กน้อยขณะที่ เขาต้องการขับรถตามไปให้ทันแต่ทันใดนั้นประตูที่นั่งผู้โดยสารด้านหน้าก็ถูก เปิดออกและจูกัดหลางในชุดเสื้อเชิ้ตสีขาวกับกางเกงขายาวก็นั่งลงพิงเก้าอี้ด้านข้างอย่างเกียจคร้าน

“เหนื่อยแล้ว! ไปกันเถอะ!”

และเมื่อสายตาของชายหนุ่มละจาก ร่างของจูกัดหลางแล้ว เขาก็มองย้อนกลับไปยังถนนที่สว่างไสวแต่กลับพบว่า ร่างที่สง่างามนั้นได้หายไป

“แกกําลังมองหาอะไรอยู่?”

จูกัดหลางรู้สึกสงสัยมากเมื่อเห็นว่า เพื่อนของเขากําลังจ้องมองไปข้างหน้าด้วอาการอยากรู้อยากเห็น และเมื่อเอ่ย ถามก็ทําให้ชายผู้นี้สูญเสียการแสดงออกซึ่งเขาไม่เคยเห็นมาก่อน

แต่ชายผู้เงียบขรึมก็ไม่ได้ตอบ โดย ทําแค่เพียงสตาร์ทรถและเหยียบคันเร่งขณะที่ในมโนนึกของเขากําลังฉายภาพ เด็กผู้หญิงตัวร่างเล็ก ๆ วัยห้าขวบที่ชัดเจนซึ่งมันฝังแน่นอยู่ในหัวใจของเขาอยู่ ตลอดเวลา

สิบปีผ่านไป…เธอจะกลายเป็นผู้หญิง แบบนี้หรือเปล่า?

ฉันสงสัยจังว่าเมื่อโตขึ้นเธอจะเป็นผู้ หญิงแบบไหนกันนะ?

จะเหมือนเด็กสาวคนเมื่อกี้นี้หรือเปล่า?

จูกัดหลางรู้ว่าสหายของเขาเป็นคนพู ดน้อย ดังนั้นเขาจึงหยุดตั้งคําถามแต่หลับตาลงเพื่อพักผ่อน

อย่างไรก็ตามนิสัยใจคอของจูกัดหลา งตรงกันข้ามกับเพื่อนคนนี้อย่างสิ้นเชิงโดยเขามีผิวสั้นสีน้ําตาลอ่อนและดวงตา สีน้ําตาลภายใต้คิ้วหนาอันคมเข้มและมีจมูกที่สูงกับริมฝีปากที่บางพอประมาณ

แต่เมื่อรอยยิ้มที่อ่อนโยนนั้นมาผสม ผสานกับความชอบในการสวมเสื้อผ้าสีขาวมันจึงทําให้เขาช่างดูเหมือนเจ้า ชายจากเทพนิยายที่มีทั้งความหล่อเหลาอ่อนโยนสง่างามและเซ็กซี่

จากนั้นชายหนุ่มก็ขับรถหรูออกจาก เมืองอย่างใจเย็นและอยู่บนทางหลวงที่การจราจรค่อนข้างเบาบาง…

คอมเม้นต์

การแสดงความเห็นถูกปิด