ท้าทายลิขิตสวรรค์ – ตอนที่ 75 ลูกน้องคนสนิท
นิยาย ท้าทายลิขิตสวรรค์ ตอนที่ 75 ลูกน้องคนสนิท
ตอนที่ 75 ลูกน้องคนสนิท
ณ หอคอยหมิงจื่อหรือมีอีกชื่อหนึ่งว่าหอคอยไข่มุก บริเวณชั้นบนสุดมีผู้ชายในชุดสูทสีน้ําเงินกรม ท่าทีมีใบหน้าสง่างามและมีแว่นตาขอบแพลตตินั่มสวมทับดวงตาเรียวที่ดูเหมือนรอยยิ้ม แต่เปล่งประกายแห่งความเฉียบขาดและอํามหิตนั่งบนเก้าอี้หนังสีดำโดยถือรีโมทคอนโทรลและกําลังดูกล้องวงจรปิดที่แสดงบนหน้าจอขนาดใหญ่อย่างตั้งอกตั้งใจ
ขณะที่ภาพจากกล้องวงจรปิดเป็นเด็กสาวในชุดขาวที่ดูนุ่มนวลและบอบบางกําลัง โยนร่างของผู้ชายที่มีความสูงและรูปร่างใหญ่กว่าเธอสองเท่า ทําให้ดวงตาสีเข้มคู่นั้น สลดลงและแอบพิมพ์ว่า: ลูกศิษย์ของอาจารย์ซ่งซ่วน!
จากนั้นก็เห็นว่า หลินตงหนานใช้มือแตะปืนพกของเขาและทันใดนั้นก็ล้มลงโดย ไม่คาดคิด ราวกับถูกยับยั้งโดยบางสิ่งบางอย่าง
ทําให้เขาถึงกับหยุดภาพเพื่อย้อนกลับไปดูการเคลื่อนไหวอย่างช้า ๆ เพื่อตรวจดูอย่างละเอียดและพบว่าหลินตงหนานไม่ได้ถูกโจมตีจากสิ่งแปลกปลอมใด ๆ
จากนั้นเขาจึงวิเคราะห์ดูการเคลื่อนไหวของหญิงสาวอีกครั้งอย่างถี่ถ้วนและเห็นว่า ไม่มีวัตถุใด ๆ บนมือของเธอ แต่นิ้วของเธอกลับทําท่าทางแปลก ๆ ราวกับว่ากําลังดีดบางอย่างออกมา
เธอกําาลังทําอะไร เธอมีคาถาสาหรับป้องกันตัวเหรอ?
ทันใดนั้นหัวใจของเขาก็มีอาการกระตุก คงไม่มีใครในโลกนี้ที่รู้จักคาถาโบราณ และลึกลับนี้หรอก?
เป็นไปไม่ได้?
เมื่อมองดูเธออีกครั้งก็พบว่า ผู้หญิงคนนี้อยู่ในช่วงวัยรุ่นเท่านั้น แม้ว่าเธอจะได้รับการฝึกสอนจริง เธอก็ไม่ควรประสบความสําเร็จมากขนาดนี้
แต่ถ้าไม่…แล้วทําไมหลินตงหนานถึงเป็นอัมพาตอย่างกะทันหัน?
เขามีความรู้สึกสับสนและยังคงชะลอกล้องเพียงเพื่อต้องการตรวจดู ทําให้เห็นว่า ทันใดนั้นดวงตาสีดําของหญิงสาวก็เปลี่ยนเป็นโกรธแค้นปะปนกับความเศร้าโศกที่ไม่รู้จบแฝงด้วยความเย็นยะเยือกตอนที่มองไปยังดวงตาของหลินตงหนานราวกับว่ากำลังจ้องมองศัตรู
ในฉับพลันมันก็ทําให้เขานึกถึงดวงตาของนกแร้งที่ได้รับบาดเจ็บที่เขาเคยเห็นในทิเบตเมื่อเขาได้เห็นดวงตาคู่นี้
จากนั้นก็เห็นว่าเธอกระโจนไปข้างหน้าเพื่อพุ่งตัวเข้าหาหลินตงหนานพร้อมกับสับฝ่ามือของเธอลงบนไหล่ของหลินตงหนานด้วยความเร็วที่น่าอัศจรรย์ และใช้เท้าของเธอเตะไปที่เข่าของผู้ชายคนนี้
เห็นได้ชัดว่าความเฉียบคมและความดุดันของการเคลื่อนไหวนี้ทําให้บริเวณหลังของเขาเกิดอาการหนาวสั่นขึ้นมาจับใจ
จากนั้นเขาได้หยุดภาพชั่วคราว และหยิบซิการ์ออกมาจากกล่องและสูบมันอย่างกระหายแต่สายตาของเขายังคงจ้องมองจอภาพตรงหน้า
แต่ในเวลานี้มีเสียงเคาะประตูดังขึ้น ต่อมาผู้ชายคนหนึ่งที่มีรูปร่างใกล้เคียงกับหลินตงหนานและมีผมสั้นกับใบหน้าแบนในชุดสูทสีดเดินเข้ามาโค้งคํานับด้วยความ
เคารพ
“คุณมู่หรง ผมไปเยี่ยมหลินตงหนานมาแล้วครับ”
“อาการของหลินตงหนานเป็นอย่างไรบ้าง?”
มู่หรงหยุนชิงเขียขี้เถ้าลงบนที่เขี่ยบุหรี่และเอ่ยถาม
“ไหล่ขวาและขาซ้ายหักทั้งหมด และไม่สามารถกลับมาใช้งานตามปกติได้”
“ระหว่างเขากับผู้หญิงคนนั้นมีความแค้นต่อกันอย่างนั้นเหรอ?”
“เขาบอกว่าเขาไม่เคยรู้จักกับผู้หญิงคนนี้มาก่อน แต่ลูกน้องคนหนึ่งของเขาเคยถูก คนทําร้ายจึงต้องการให้เขาแก้แค้นให้โดยเป้าหมายของการแก้แค้นคือผู้หญิงคนนี้ แต่สิ่งนี้ยังไม่ได้เริ่มด้วยซ้ํา เพราะพวกเขาเพียงแค่พูดคุยกัน”
ดวงตาของเหลียงเซินยังสบกับดวงตาสีดําเย็นชาของเด็กสาวบนหน้าจอ และเมื่อมองไปยังเด็กสาวคนนี้แล้วดูเหมือนว่ามีความเกลียดชังอยู่ลึก ๆ กับหลินตงหนาน
“แต่หลังจากการตรวจสอบกลับพบเพียงแค่ว่า เด็กสาวคนนี้เป็นบุตรของคนธรรม ดาและได้ย้ายจากชนบทเข้ามาในเมืองเมื่อเดือนที่แล้ว โดยพ่อของเธอเป็นอาจารย์ประจําส่วนแม่เป็นแม่บ้านธรรมดา และถ้าจะมีอะไรพิเศษก็คงจะเป็นเรื่องที่เธออยู่หมู่บ้านเดียวกับหยางต้าเจี่ยเลขาธิการคณะกรรมการเทศบาล”
“ผู้ชายคนที่ถูกร่างของหลินตงหนานทับในตอนหลังเป็นลูกคนเดียวของหยาง ต้าเจี้ยใช่หรือเปล่า?” มู่หรงหยุนซึ่งเอ่ยถาม
“ครับ กระดูกของหยางเจี้ยนหมิงเปราะบางมาก ทําให้กระดูกสันหลังหักทั้งหมด เพราะถูกร่างของหลินตงหนานทับ ดังนั้นหยางต้าเจี้ยจึงโกรธแค้นมากและและบอกว่าเขาจะจัดการกับครอบครัวของหลินตงหนาน!”
“โอ้…”
มู่หรงหยุนชิงหัวเราะเบา ๆ ก่อนที่จะกล่าวว่า
“ประมาณว่าก่อนที่ฉันจะจัดการผู้ชายคนนี้..เขาก็ถูกคนอื่นจัดการไปแล้ว”
“คุณพูดแบบนี้ได้ยังไง? รากฐานของหยางต้าเจี้ยในเมืองนี้ค่อนข้างมั่นคงมาเป็นเวลาหลายปีแล้ว ดังนั้นจึงไม่มีใครที่จะสามารถล์มเขาลงได้” เหลียงเซินเอ่ยถามอย่างงงงวย
มู่หรงหยุนชิงหัวเราะโดยได้ไม่ตอบอะไร ขณะที่ตอนนี้เขาได้รับโทรศัพท์ขอให้ เขาจัดสรรผลประโยชน์ทั้งหมดระหว่างเขากับหยางต้าเจียโดยเร็ว และการเรียกนี้เป็นข้อพิสูจน์ที่เพียงพอว่า หยางต้าเจี้ยจะไม่เอาเรื่องพวกเขาในครั้งนี้
“คุณมู่หรง เราจะทําอย่างไรกับเด็กสาวที่ทําร้ายลูกน้องของเรา”
เหลียงเซ็นรู้ว่ามีบางสิ่งที่ควรรู้และบางสิ่งที่ไม่ควรรู้ ดังนั้นเขาจึงเปลี่ยนเรื่อง
“ตอนนี้ยังไม่ต้องทําอะไรทั้งนั้น” ทันใดนั้นดวงตาของมู่หรงหยุนซึ่งก็เฉียบคม
“เหลียงเซิน ฉันขอเตือนแกก่อนนะว่า ถ้าไม่ได้รับค่าสั่งใด ๆ ห้ามทําอะไรผลีผลามเด็ดขาด!”
“คุณมู่หรง…”
เหลียงเซินกล่าวอย่างไม่เต็มใจว่า
“ไม่ว่าจะยังไงหลินตงหนานก็เป็นคนของเรา ในเมื่อเขาได้รับบาดเจ็บต่อหน้าสาธารณชนในหอไข่มุก ถ้าเขาไม่ได้รับความยุติธรรมกลับคืนมา ผมกลัวว่าต่อไปจะไม่มีใครเกรงใจเรา! ”
“เหลียงเซิน…”
ทันใดนั้นน้ําเสียงของมู่หรงหยุนซึ่งก็ช้าลงและมุมริมฝีปากของเขาปรากฏรอยยิ้มจางๆ
“แกกล้าดียังไงมาสั่งสอนฉัน!”
คอมเม้นต์