ท้าทายลิขิตสวรรค์ – ตอนที่ 77 ไม่โอ้อวด
นิยาย ท้าทายลิขิตสวรรค์
ตอนที่ 77 ไม่โอ้อวด
ตอนที่ 77 ไม่โอ้อวด
“แม่คะ เมื่อวันก่อนหนูหาเงินให้แม่ได้แล้ว”
หยางซื่อเหมยหยิบธนบัตรเป็นจํานวนเงินแปดแสนห้าหมื่นบาทที่ซ่งซวงนํามามอบให้เธอหลังจากเสร็จสิ้นการประมูลในวันนั้น โดยเธอมอบเงินจํานวนนี้ให้กับมารดาทั้งหมด
ซึ่งมันเพียงพอสําหรับค่าใช้จ่ายในครอบครัวของเธอไปอีกนาน อีกทั้งยังมีเงินเพียงพอที่จะให้น้อง ๆ ไปโรงเรียนอนุบาลสองภาษาที่แพงที่สุดได้ ดังนั้นจึงไม่จําเป็นต้องกังวลในเรื่องนี้อีก
ตอนนี้หวงซิวลี่จ้องมองไปยังกองเงินตรงหน้าด้วยความตกใจและกระซิบถามว่า:
“ลูกไปเอาเงินมากมายขนาดนี้มาจากที่ไหน?”
“เมื่อสองสามวันก่อนหนูเจอวัตถุโบราณที่ถนนเหวินไหล และนี่คือเงินที่คุณซ่งประมูลวัตถุโบราณชิ้นนั้นให้หนู ดังนั้นแม่มั่นใจได้ว่ามันเป็นเงินบริสุทธิ์
“ซื้อเหมย…”
หวงซิ่วจ้องมองไปยังใบหน้าที่สวยงามของบุตรสาวตนเอง ขณะที่เกิดความรู้สึกมากมายในใจ โดยเธอทําไมตนเองถึงโชคดีที่ได้บุตรสาวประเสริฐเช่นนี้
อีกทั้งนักบวชหยูชิงเคยกล่าวว่า เธอเป็นบุตรสาวที่สวรรค์ประทานมาให้ และหากไม่ใช่เพราะบุตรสาวคนนี้ ป่านนี้พวกเขาคงยังอาศัยอยู่ในหมู่บ้านอย่างแร้นแค้นและถูกรังแกเหมือนที่ผ่านมา แต่ห้ามเธอใช้วิชาที่เธอศึกษามทําร้ายผู้คนเด็ดขาด เพราะมันจะส่งผลร้ายต่อชีวิตของเธออย่างรุนแรง
ตอนนี้เธอทําเงินได้มากมายอีกครั้ง ซึ่งสามารถช่วยแก้ไขปัญหาความเป็นอยู่ของครอบครัว หรืออาจกล่าวได้ว่าร่ํารวยขึ้นก็ว่าได้ ดังนั้นสิ่งนี้จึงรบกวนจิตใจของผู้เป็นมารดาอีกครั้ง
ในความคิดแบบเรียบง่ายของมารดาก็คือ หากบุตรสาวช่วยปัดเเคราะห์ร้ายเหล่านั้นได้ ต่อไปผลกรรมมันจะมาตกที่บุตรสาวของเธอเอง
“ซื้อเหมย…”
เธอจับมือของบุตรสาวและกล่าวอย่างกังวลว่า
“ในอนาคตลูกจะต้องเรียนหนังสือกับเรียนรู้เกี่ยวกับวัตถุโบราณกับคุณซ่ง และหางานที่มั่นคงทํา แต่ไม่ต้องคิดเรื่องการดูดวงหรือแก้ไขฮวงจุ้ยแล้ว ดูสิ! ลูกเป็นเด็กที่น่าอิจฉามากเลยที่สามารถหาเงินได้มากมายขนาดนี้ …”
“แม่…”หยางซื่อเหมยจ้องมองไปยังดวงตาที่บ่งบอกว่าเป็นห่วงของมารดาและไม่สามารถต้านทานคําขอร้องได้จึงพยักหน้า
“หนูจะเชื่อแม่ค่ะ!
“ดีแล้ว..พ่อของคุณมักจะบอกว่าลูกแตกต่างจากคนอื่นมาตั้งแต่เด็ก ดังนั้นแค่อย่าทะนงตัวเกินไป และถ้าไปโรงเรียนก็อย่าโอ้อวดความสามารถของตนเอง เพื่อไม่ใหคนหมั่นไส้และเกลียดชังลูกได้
แม่ได้ยินผู้หญิงคนหนึ่งพูดว่า ลูกชายเจ้าของบริษัทเธอถูกทุบตีบนถนนโดยไม่ทราบสาเหตุ เพราะคนอื่นเห็นว่าเขาร่ารวยและเพียบพร้อม ซึ่งอาจจะเป็นเพราะถูกคนอื่นหมั่นไส้”
“ค่ะแม่…หนูจะไม่โอ้อวด” หยางซื่อเหมยพยักหน้า
“นั่นเป็นเรื่องที่ดี แม่รู้ว่าลูกฉลาดและเป็นคนมีเหตุผลมากที่สุดมาโดยตลอด” หวงซิ่วลี พยักหน้าด้วยความพึงพอใจ
ตอนนั้นหยางซึ่งกลับมาจากข้างนอกพอดี และก่อนที่จะถอดรองเท้าเขากล่าวว่า
“วันนี้เกิดอุบัติเหตุที่มุมถนน…คุณคิดว่าเป็นใคร…มันก็คือลูกของหยางกัว”
“หยางอี้กัวยังบาดเจ็บไม่ใช่เหรอ?” หวงซิ่วลี่เอ่ยถาม
“ผมได้ยินมาว่า เขาจะเป็นอัมพาตไปตลอดชีวิต”
“เขาทําสิ่งเลวร้ายมากมายให้กับหยางเต๋อเจีย ดังนั้นจะต้องได้รับผลกรรมแน่นอน” คุณย่าที่นั่งอยู่ด้านข้างกล่าว
หยางซึ่งจ้องมองไปที่หยางซื่อเหมย พร้อมกับกล่าวด้วยน้ําเสียงที่ดูแข็งกร้าวและจริงจังมาก
“ซื้อเหมย วันนั้นลูกบอกว่าเขาจะประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์นี้ เรื่องนี้ไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกับลูกใช่หรือเปล่า? แม้ว่าหยางกัวจะไม่ใช่คนดี แต่…”
ก่อนที่จะกล่าวจบ เขาก็ถูกหยางซื่อเหมยขัดจังหวะ
“พ่อคะ หนูถือศีลและจะไม่สร้างบาปให้กับตัวเองเพราะคนอย่างหยางกัวเด็ดขาด แต่ที่เขาประสบอุบัติเหตุก็เป็นเพราะความโชคร้ายของเขาเอง ยิ่งไปกว่านั้นที่หนูเตือนเขาก็เพราะสงสาร
“ไม่ใช่ฝีมือลูกก็ดีแล้ว! ลูกต้องยึดมั่นในคาสั่งสอนที่ท่านอาจารย์สอนว่าจะไม่ใช้มันทําร้ายคนอื่น ลูกสาวของพ่อจะต้องเป็นคนดี” หยางซึ่งสอน
“ค่ะ” หยางซื่อเหมยพยักหน้า
อย่างไรก็ตามเธอไม่ใช่คนดื้อรั้น อีกทั้งเธอยังเป็นคนมีหลักการ ดังนั้นถ้าไม่มีใครมาทําร้ายเธอ เธอจะไม่ทําร้ายคนนั้นก่อนอย่างแน่นอน แต่หากใครกระทําผิดเธอ ก็จงเตรียมตัวรับมือเอาไว้ให้ดี เช่นเดียวกับหยางเต๋อเจียกับหลินตงหนาน
หลังจากอาบน้ําแล้วหยางซื่อเหมยก็เปลี่ยนเป็นชุดล่าลองสีขาวและลงไปที่บริเวณชั้นล่างและเห็นว่ามีรถยนต์หรูสีขาวของซ่งฆ่วนจอดอยู่ และยืนพิงประตูรถเพื่อมองดูระลอกคลื่นที่พัดมาบนแม่น้ํา
อันที่จริงแล้ววันนี้เขาสวมชุดกีฬาสีขาวที่มีสไตล์เหมือนกับหยางซื่อเหมยเช่นกัน ดังนั้นมันจึงดูเหมือนอาจารย์กับลูกศิษย์อย่างแท้จริง ทําให้หยางซื่อเหมยยิ้มอยู่ในใจพร้อมกับจ้องมอง ดูเขาอยู่ครู่หนึ่งก่อนที่จะวิ่งเหยาะ ๆ และร้องเรียก
“คุณซ่ง ฉันมาแล้วค่ะ”
ซึ่งซ่วนหันกลับมาและมองลงไปเห็นชุดกีฬาสีขาวของเธอจึงยิ้มอย่างอบอุ่น ขณะที่แรงกระเพื่อมในใจของเขานั้นรุนแรงยิ่งกว่าคลื่นในน้ํา
“ซื้อเหมยขึ้นรถ”
ซ่งซวนเปิดประตูที่นั่งผู้โดยสารด้านหน้าให้หยางซื่อเหมยเข้าไปนั่ง ส่วนเขาก็กลับมานั่งที่เบาะคนขับพร้อมกับเอนตัวลงดึงเข็มขัดนิรภัยและขับรถออกไป
มู่หรงหยุนซึ่งสวมชุดจีนรูปแบบโบราณสีน้ําเงินและสวมแว่นตาขอบสีทอง ทําให้ดูมีความอ่อนโยนและสง่างามมากยิ่งขึ้น และคนทั่วไปคงคิดไม่ถึงว่า เขาจะสามารถฆ่าคนที่เป็นศัตรูกับเขาได้อย่างเหี้ยมโหด
“คุณซึ่ง คุณหนูหยาง..ยินดีต้อนรับครับ!”
มู่หรงหยุนชิงทักทายพวกเขาอย่างอบอุ่นและเชื้อเชิญให้ไปยังที่นั่งวีไอพีสาหรับลูกค้าและมีบริกรยกน้ําชาชั้นดีมาให้ทั้งสองคน ขณะที่ดวงตาของมู่หรงหยุนชิงสั่นสะท้านชั่วขณะเมื่อเห็นร่างของหยางซื่อเหมย
“คุณหนูหยางครับ ผมสงสัยมาตลอดว่าทําไมวันนั้นคุณถึงต้องการให้ผมเลิกประมูลกระถางธูปหยกใบนั้น”
“เพราะกระถางธูปหยกใบนั้นมาจากดิน” หยางซื่อเหมยตอบ
คอมเม้นต์