Chapter 58: ปลุกพลังวิญญาณ (PART I)

แขนของหานเฟยปวดมากหลังจากโยนปลามาทั้งคืน

แต่เขาก็รู้สึกดีเมื่อตรวจสอบข้อมูลของเขา

เจ้าของ: หานเฟย

ระดับ: เจ็ด (นักตกปลาขั้นสูง)

พลังวิญญาณ: 38,112 (279)

มรดกทางจิตวิญญาณ: ระดับสองคุณภาพต่ำ (อัพเกรดได้)

อาวุธ: ก้านไผ่สีม่วง

ความสามารถหลัก: ตกความว่างเปล่า ลำดับที่ 1: ตะขอจูบ (ระดับมนุษย์คุณภาพระดับเทพ)

…

เขาใช้พลังวิญญาณมหาศาลในการทดสอบตกปลาและมีพลังเหลือไม่ถึงสองหมื่นเจ็ดพันคะแนนหลังจากนั้น หลังจากผ่านไปหนึ่งคืนเขาได้รับคืนเป็นหมื่น ซึ่งมันก็ไม่เลว

รุ่งเช้าจะมาถึงในอีกสองชั่วโมง หานเฟยสงสัยว่าเขาควรปรับปรุงมรดกทางจิตวิญญาณของเขาหรือไม่ หากพิธีกรรมการปลุกมีอะไรบางอย่างที่เกี่ยวข้องกับศักยภาพของหนึ่งมรดกทางวิญญาณจะมีความสำคัญมาก

เขารู้ว่าฟางเจ๋อต้องอยู่ใกล้ ๆ แต่เขาไม่แน่ใจว่าจะพบชายคนนั้นได้อย่างไร

คิดอยู่ครู่หนึ่งหานเฟยคิดว่าจะลองดูก็ได้ เขากล้าที่จะทำเช่นนั้นเพราะเขาคิดว่าฟางเจ๋อไม่ได้มีชื่อเสียงอย่างที่ผู้คนเชื่อ หมู่บ้านน้ำสวรรค์นี้เป็นเพียงหมู่บ้านเล็กๆ หมู่บ้านหนึ่ง มันยังมีหมู่บ้านอื่นๆ และเมืองใหญ่อีกมากมาย ถ้ามางเจ๋อมาที่นี่เพื่อจัดพิธีกรรมปลุกวิญญาณ นั่นหมายความว่าหมู่บ้านอื่น ๆ ทั้งหมดก็ต้องมีผู้เชี่ยวชาญที่คล้ายกันเป็นคนจัดด้วย

แม้ว่าฟางเจ๋อจะสังเกตเห็นบางอย่างผิดปกติเขาก็ยังสามารถสร้างเรื่องราวและหลอกเขาได้ หลังจากนั้นก็มีถังเกอเด็กชายอีกคนไม่สามารถทำร้ายเขาได้อย่างแน่นอน

เมื่อคิดถึงเรื่องนั้นหานเฟยก็ปีนขึ้นไปบนหน้าผาและเห็นว่าฟางเจ๋อกำลังเพลิดเพลินกับบาร์บีคิวและเหล้าอยู่บนหลังคาบ้านของเขา

เมื่อเขาเห็นหานเฟยเขาพูดอย่างสบายๆ ว่า “อาหารนี้ไม่เลว ฉันไม่รู้ว่าเลยผลไม้วิญญาณต่ำแบบนี้นั้นอร่อยมาก แล้วคุณทำแอลกอฮอล์ได้ยังไงเนี่ย บอกฉันมั่งสิ”

หานเฟยเกาหัวและทิ้งความคิดที่จะปรับปรุงมรดกทางจิตวิญญาณของเขา เขาจะทำเช่นนั้นต่อหน้าฟางเจ๋อได้อย่างไรโดยไม่ต้องเปิดเผยหม้อชำระล้างวิญญาณของปีศาจ

เขาพูดอย่างรีบร้อน “ถ้าคุณชอบฉันจะให้วิธีทำแอลกอฮอล์และบาร์บีคิวให้คุณเพิ่ม”

ฟางเจ๋อพยักหน้า เขาโบกมือและหยกโบราณชิ้นหนึ่งก็ปรากฏต่อหน้าหานเฟย

ฟางเจ๋อกล่าวว่า “ฉันจะไม่เอาเปรียบคุณ ฉันสัญญากับสามอันดับแรกของการทดสอบตกปลาไว้ว่าฉันจะให้ ‘การจดจ่อพลังวิญญาณ’ แก่พวกเขา แต่เนื่องจากคุณเป็นที่หนึ่งและยังเสนอตำราที่ไม่สมบูรณ์ 108 วิธีในการปรับสภาพร่างกายฉันจะให้ ‘หนังสือจิตวิญญาณ’ นี้แก่คุณ มันมีหลายวิธีในการฝึกฝนสำหรับการ ‘จดจ่อวิญญาณ’ ขึ้นอยู่กับตัวคุณเองว่าคุณจะเรียนรู้ได้มากแค่ไหน”

หานเฟยตกใจการ ‘จดจ่อวิญญาณ’ วิธีในการฝึกฝนสำหรับการจดจ่อวิญญาณ นั่นดีกว่ามากเลย

หานเฟยกล่าวว่า “ขอบคุณท่านทูตสวรรค์”

ฟางเจ๋อหยุดคุยกับหานเฟยและหานเฟยก็มาหาถังเกอกับเหอเสี่ยวยู ตอนนี้พวกเขาไม่ได้แค่เหงื่อออก พวกเขามีควันขึ้น เขาไม่ได้บอกว่าฟางเจ๋อมอบอะไรให้พวกเขา

อย่างไรก็ตามหานเฟยคาดเดาว่าพวกเขาเพิ่งหยิบผลไม้จิตวิญญาณเช่นผลไม้ทะเลสีแดงเข้มเพราะเขาได้กลิ่นหอม

หานเฟยก็ร่วมการฝึกฝนด้วย แต่เขาไม่ได้ขอผลไม้ทางวิญญาณจากฟางเจ๋อ เขาคิดว่าเรือลำหนึ่งมีความยุติธรรมเพียงพอแล้ว

แสงแดดยามเช้าย้อมท้องฟ้าให้เป็นสีแดง ทุกครั้งที่เขาเห็นวิวนี้หานเฟยพบว่าโลกนี้ช่างสวยงามและน่าอัศจรรย์

แคร๊ก!

เหอเสี่ยวยูมีท่าทางแปลกๆ มีสิ่งที่ไม่รู้จักมากมายโผล่ออกมาจากร่างกายของเธอราวกับว่าเธอกำลังลอกคราบ

หานเฟยจำมันได้อย่างรวดเร็ว สิ่งเดียวกันนี้เกิดขึ้นกับเขาเมื่อเขาอัปเกรดความสามารถของเขายกเว้นว่าผลของเหอเสี่ยวยู นั้นไม่ดีเท่าของเขาอาจเป็นเพราะเธอได้รับผลทางจิตวิญญาณเท่านั้น

“ตอนนี้ฉันระดับแปดแล้วเหรอ”

โครม…

เหอเสี่ยวยูล้มลงบนพื้น เธอเหนื่อยเกินไป การฝึกฝนการเคลื่อนไหวทั้งสิบแปดแบบเป็นสิ่งที่เหนื่อยที่สุดที่เธอทำมาตลอดชีวิต ในทางกลับกันถังเกอก็ไม่ได้หยุดจนกว่าเขาจะเสร็จสิ้นการเคลื่อนไหวครั้งสุดท้าย

“ฉันรู้สึกดีจัง”

ถังเกอแสยะยิ้มและกล่าวว่า “ฉันรู้สึกว่าความสามารถในการรับพลังวิญญาณของฉันเพิ่มขึ้นอย่างน้อยสามสิบจุด ความสามารถนี้น่าอัศจรรย์จริงๆ”

หานเฟยตกใจ “เท่าไหร่นะ”

ถังเกอกล่าวว่า “สามสิบ ..นายได้ไม่เหมือนกันเหรอ”

หานเฟยพูดไม่ออก เขาไม่ต้องการคุยกับถังเกอแล้ว นั่นคือความแตกต่างระหว่างมนุษย์กับอัจฉริยะหรอ เขาเพิ่มคะแนนได้เพียงหนึ่งโหลหลังจากเสร็จสิ้นการเคลื่อนไหวทั้งหมด 108 ครั้ง

เหอเสี่ยวยูกล่าวอย่างอิจฉาว่า “เยอะจังเลย ทำไมฉันรู้สึกว่าของฉันเพิ่มขึ้นแค่สิบจุดเอง”

หานเฟยพูดอย่างเศร้าโศก “ของฉันยังน้อยกว่านี้”

“ฮ่าฮ่าฮ่า…”

ฟางเจ๋อปรากฏตัวและหัวเราะ “นั่นคือพลังของมรดกทางจิตวิญญาณ ไม่เลวเลย หลังจากเรียนรู้การเคลื่อนไหว 108 ประการ ถังเกอก็ยังคงเก่งกาจในระดับของคุณ ฮ่าฮ่าฮ่า…”

เห็นได้ชัดว่าฟางเจ๋อรู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่ง หานเฟยรู้สึกได้ว่าอาจเป็นเพราะเขาสามารถเยาะเย้ยคนที่ส่งเขามายังสถานที่ซอมซ่อแห่งนี้หลังจากที่เขากลับมาที่เมือง

…

สถานที่ศักดิ์สิทธิ์ที่สุดบนเกาะลอยเป็นศูนย์กลางของมัน แม้แต่หัวหน้าหมู่บ้านก็ไม่มีคุณสมบัติที่จะอาศัยอยู่ที่นี่

เป็นครั้งแรกที่หานเฟยมาที่ใจกลางหมู่บ้านน้ำสวรรค์ มีรูปปั้นหินอยู่ในสถานที่แห่งนี้ เป็นผู้หญิงที่กำลังยกเบ็ดตกปลาขึ้นสูง เครื่องบูชาจำนวนมากวางอยู่หน้ารูปปั้น

“ลูกสาว”

เหอหมิงถังรู้สึกโล่งใจที่เห็นเหอเสี่ยวยูมาพร้อมกับหานเฟยและถังเกอ เขาสังเกตเหอเสี่ยวยูและพูดด้วยความตกใจ “ลูกสาวนี่เจ้าเป็นชาวประมงระดับแปดแล้วหรือ”

เหอเสี่ยวยูหน้าแดง “พ่ออย่าถามมากน่า”

เหอหมิงถังกล่าวว่า “ได้เลย ไม่ถามแล้วๆ”

เหอหมิงถังแทบจะหยุดยิ้มไม่ได้ ดูเหมือนว่าการไปไหนมาไหนกับหานเฟยและพี่น้องของเขาก็ไม่เลว! เขาคิดว่าทูตสวรรค์จะต้องมอบเทคนิคขั้นสูงสุดให้กับลูกสาวของเขาเพราะเธอเป็นเพื่อนของถังเกอ

เหอหมิงถังกล่าวว่า “เอาล่ะมาร่วมแสดงความยินดีกับเทพแห่งท้องทะเล คุณจะเป็นกลุ่มแรกในพิธีกรรมปลุกวิญญาณ”

หานเฟยรู้สึกประหลาดใจ “เทพแห่งทะเลไม่ใช่ผู้ชายหรอ”

ใบหน้าของเหอหมิงถังมืดลง “คุณกำลังพูดถึงอะไร อย่าพูดเรื่องไร้สาระแล้วจ่ายเครื่องบรรณาการมาน่า”

หานเฟยพึมพำว่าเทพแห่งทะเลที่เขารู้จักคือชายมีหนวดมีเคราที่ถือตรีศูลซึ่งน่าประทับใจยิ่งกว่าเบ็ดตกปลา

มันดูไม่มีกฎเกณฑ์ใดๆ เกี่ยวกับเครื่องราชบรรณาการ หานเฟยหยิบเบ็ดตกปลาออกมาและอธิษฐานเหมือนที่เหอเสี่ยวยูและถังเกอทำ

หลังจากจ่ายเครื่องบรรณาการให้เทพแห่งท้องทะเลแล้วพวกเขาก็เข้าไปในวงกลมและยืนอยู่ด้านหลังรูปปั้นของเทพแห่งท้องทะเล

มันเป็นหลุมที่มีพื้นที่สองร้อยตารางเมตร ก้นหลุมแบนมีลวดลายซับซ้อนมากมาย ดูเหมือนสระว่ายน้ำที่สวยงาม

รอบ ๆ สระว่ายน้ำมีบันไดเป็นแถวที่ดูเหมือนหอประชุมในสนามกีฬา ขณะนี้บันไดทั้งหมดมีคนนั่งอยู่ หลายคนเหมือนมางานเทศการประจำปี บางคนมากับลูกๆ และบางคนมาที่นี่เพื่อความสนุกสนาน

หานเฟยและพรรคพวกของเขาถูกนำไปที่ด้านหลังของรูปปั้นซึ่งมีช่องทางไปยังสระน้ำ

หานเฟยเห็นหวังไป่ยู,เซียงน่าน,เฉินซิง และคนอื่น ๆ อีกสองสามคนที่เขาไม่รู้จัก พวกเขาพยักหน้าให้กัน ท้ายที่สุดแล้วไม่มีใครในสิบอันดับแรกที่จะธรรมดาเลย พวกเขาเป็นชายหนุ่มที่โดดเด่นที่สุดบนเกาะนี้ท่ามกลางผู้คนกว่าหกแสนคน

ก่อนพิธีปลุกผู้คนต่างกู่ร้องชื่อสิบอันดับแรก

“ถังเกอ! ถังเกอ! ถังเกอ!”

“หวังไป๋หยู่! หวังไป๋หยู่! หวังไป่หยู่!”

“เซียงน่าน! เซียงน่าน! เซียงน่าน!”

เสียงเชียร์ดังก้องไปทั่ว

มีเพียงไม่กี่คนที่เชียร์ม้ามืดอย่างหานเฟยเพราะพวกเขาเพิ่งรู้เกี่ยวกับเขา แต่ถังเกอนั้นแตกต่างออกไปถังเกอเป็นแบบอย่างของเหอเสี่ยวยูอยู่แล้ว แม้แต่เหอเสี่ยวหยูก็ยังมีแฟน ๆ คอยเชียร์เธอ

ถังเกอ, หวังไป่ยู และเซียนน่านเป็นชื่อที่ได้รับเสียงเชียร์มากที่สุด

“หานเฟย!”

ทันใดนั้นเสียงคำรามก็ทำให้ผู้ชมเงียบลง ทุกคนมองไปที่คนที่เชียร์หานเฟย