Immortal and Martial Dual Cultivation – บทที่ 134 พลังฉีแตกคลั่ง
ตอนที่ 134 พลังฉีแตกคลั่ง
ร่างของเซี่ยวเฉินจมลงและลอยไหลไปตามแม่น้ำ มังกรฟ้านั้นชื่นชอบธารน้ำขณะที่เซี่ยวเฉินหมดสติไป มันช่วยให้ เซี่ยวเฉินหายใจได้ เซี่ยวเฉินจึงไม่จมน้ำตาย
มันดําเนินต่อไปถึงสามวันเต็ม ความโกรธแค้นในจิตใจของเซี่ยวเฉินไม่ได้จางหายไป เหตุที่เขายังไม่ลืมตาตื่นขึ้น เป็นเพราะสติของเขาถูกรบกวน
ในที่สุด เซี่ยวเฉินไหลไปตามสายน้ำไปติดที่แอ่งก่อนที่จะหยุดนิ่ง ในสระน้ำเย็นเฉียบ มีพลังฉีเยือกเย็นพิเศษ
เมื่อเซี่ยวเฉินนอนลงไปบนสายน้ำ พลังฉีเยือกเย็นเข้าไปในผิวหนังของเขาและแทรกซึมไปตามร่างกายของเซี่ยวเฉิน พลังฉีเยือกเย็นนี้แตกต่างจากของพายุมังกรขาวมันไม่ได้กดข่มและมันจะให้สงบลงแทน
ภายใต้การบํารุงรักษาของพลังฉีเยือกเย็น เซี่ยวเฉินลืมตาขึ้นอย่างช้าๆ อย่างไรก็ตามความโกรธแค้นในจิตใจของเขายังไม่จาหายไป มันทรมานจิตใจของเขาทําให้เขาตกอยู่ในความเจ็บปวดเซี่ยวเฉินไม่อาจเคลื่อนไหวได้
เซี่ยวเฉินรู้ราวกับกําลังจะเสียสติ มีเสียงคํารามนับไม่ถ้วน ดังในใจของเขามันเหมือนกับมังกรขาวกําลังร้องคํารามเข้าไปในหูของเขา มันไม่อาจขจัดออกไปได้
เซี่ยวเฉินพยายามอย่างที่สุดเพื่อสงบใจลงพร้อมกับหมุนเวียนทักษะอัสนีม่วงศักดิ์สิทธิ์ เขาหวังว่าจะสามารถบรรเทา ความรู้สึกแปลกประหลาดนี้ลงไปได้ หลังจากผ่านไปครู่หนึ่ง พลังปราณในร่างของเขาเริ่มไหลเวียนอีกครั้งอย่างช้าๆ เซี่ยวเฉินเบาใจขึ้นเขารู้สึกดีขึ้นมาอย่างช่วยไม่ได้
“Pu ci!”
ขณะที่เซี่ยวเฉินกําลังเบาใจลง ความเจ็บปวดใจจิตใจของเขาก็ปะทุเพิ่มขึ้นไปหลายเท่าจนเขาอยากจะร้องตะโกนออกมา อย่างไรก็ตามเขาไม่อาจพูดอะไรออกมาได้ขณะที่อยู่ใต้น้ำ พลังปราณในร่างของเขาทันใดนั้นก็หลุดออกจากการควบคุม
พลังปราณเริ่มหมุนเวียนไปอย่างมั่วสุ่ม พลังปราณบางส่วนถึงกับหลุดออกจากการควบคุมโดยสมบูรณ์และไหลย้อนกลับ ความหวาดกลัวปรากฏขึ้นในจิตใจของเซี่ยว เฉิน พลังฉีแตกคลั่ง!
สําหรับนักบ่มเพาะพลังทุกคน พลังฉีแตกคลั่งคือสภาวะหายนะ พูดได้ว่ามันจะทําให้คนถึงกับหน้าซีดเมื่อกล่าวถึง หากไม่ได้รับการแก้ไขอย่างเหมาะสม อย่างดีที่สุด ผู้บ่มเพาะพลังคนนั้นจะได้รับบาดเจ็บสาหัส แต่อย่างเลวร้ายที่สุดอาจถึงฆาต
ด้วยระดับพลังในปัจจุบันของเซี่ยวเฉิน พลังปราณแตกคลั่งเป็นสิ่งที่เขาไม่ควรจะพบเจอ เขาอยู่เพียงระดับขอบเขตเชียวชาญยุทธขั้นสูง เส้นปราณในร่างของเขาหลายเส้นยังไม่เปิดออก เส้นทางพลังปราณขณะที่กําลังหมุนเวียนมีจํากัด
มันไม่ครบเงื่อนไขที่จะเกิดพลังปราณแตกคลั่งขึ้น โดยทั่วไป มันจะเกิดขึ้นได้เมื่อก้าวถึงระดับขอบเขตนักบุญ ที่พวกเขาเปิดเส้นปราณไปแล้วอย่างน้อยครึ่งหนึ่งจากทั้งหมด
อย่างไรก็ตาม เป็นเพราะความขุ่นแค้นที่แสนแปลกประหลาดในจิตใจของเขา พลังปราณของเขากลายเป็นบ้าคลั่งไหลย้อนกลับและหลุดออกจาการควบคุม เห็นชัดว่ามันเป็นสัญญาณแรกเริ่มของพลังฉีแตกคลั่ง
เซี่ยวเฉินกังวลอย่างมาก แต่เขาไม่อาจรวบรวมสมาธิได้เนื่องจากความเจ็บปวดภายในจิตใจของเขา เขาไม่สามารถทําอะไรได้กับพลังปราณที่กําลังบ้าคลั่งในร่างของเขา
“ฟู่! ฟู่!”
ทันใดนั้นเอง มีร่างหนึ่งกระโดดจากด้านบนผิวไปในน้ำ เซี่ยวเฉินมองเห็นร่างที่พล่ามัวผ่านสายน้ำ
มันเป็นร่างเปลือยเปล่าที่แสนงดงามกําลังว่ายอยู่บนผิวน้ำ เซี่ยวเฉิน ผู้ที่ไม่เคยเห็นฉากเช่นนี้มาก่อน ถูกมันดึงดูดไปในทันทีทันใดนั้นเขาก็สามารถตั้งสมาธิจดจ่อ
หลังจากที่เข้าสามารถตั้งสมาธิได้ พลังปราณที่กําลังบ้าคลังภายในร่างของเขาเริ่มสงบลง ที่น่าประหลาดใจก็คือเมื่อทักษะอัสนีม่วงศักดิ์สิทธ์เริ่มหมุนเวียนอีกครั้ง ความเจ็บปวดในจิตใจของเขาก็เริ่มจางหายไป
“ซูม!”
มีสายน้ำสาดกระเซ็นขณะที่หญิงสาวนางนั้นหลับตาของนางและกระโจนว่ายดาลงมาด้วยท่าทีสบายๆ เซี่ยวเฉินตกตะลึงหญิงสาวนางนั้นกําลังว่ายตรงมาจากเขา
เมื่อเข้ามาใกล้มองเห็นได้ชัดเจนขึ้น ร่างเปลือยเปล่างดงามของหญิงสาวปรากฏขึ้นต่อหน้าของเขา ร่างกายบางส่วนของเซี่ยวเฉินถูกกระตุ้นขึ้นมาอย่างช่วยไม่ได้
“ฮู่!”
ทันใดนั้นหญิงสาวก็ลืมตาขึ้น เซี่ยวเฉินและหญิงสาวนางนั้นใบหน้าแทบจะชิดกัน พวกเขาทั้งสองมองจ้องตากันและกันโดยไม่ไหวนิ่ง
ทันใดนั้น หญิงสาวก็ขวยเขิลอย่างหนัก แหวนห้วงมิติบนนิ้วของนางเรืองแสงขึ้น และมีกระบี่เพรียวบางใบกระบี่กว้างประมาณสองนิ้วปรากฏขึ้น มันปลดปล่อยพลังฉีร้อนออ กมาทันใดนั้นน้ำในแม่น้ำเริ่มเดือดระเหย เกิดฟองนับไม่ถ้วนลอยขึ้นไปด้านบน
“บูม!”
สายน้ำโดยรอบไม่อาจหยุดยั้งการเคลื่อนไหวของนาง คมกระบี่ตัดผ่านสายน้ำมาอย่างรวดเร็วตรงไปที่คอของเซี่ยวเฉิน เซี่ยวเฉินตกตะลึง ภายใต้ความตายที่คืบคลานเข้ามา ร่างกายที่หยุดนิ่งของเขาทันใดนั้นก็เบี่ยงหลบไปด้านข้าง
คมกระบี่สร้างคลื่นกระแทก ระเบิดโคลนตมที่อยู่ใต้น้ำ สร้างคลื่นใหญ่สาดกระเซ็น หญิงสาวราวมัจฉาใต้น้ำ นางไล่ตามติดเซี่ยวเฉินในทันทีและส่งกระบี่มาทางเขา
หลังจากฟื้นคืนการเคลื่อนไหวกลับมาได้ เซี่ยวเฉินใช้ทักษะมังกรฟ้าเมฆาทะยานออกมาทันที เขาทะยานขึ้นผิวน้ำราวกับมังกรผงาด เซี่ยวเฉินสูดหายใจเข้าลึก ต้อนรับอากาศสดชื่น
“ป๊อง!”
หญิงสาวกระโดดขึ้นจากน้ำเช่นกัน สร้างคลื่นขนาดใหญ่ขึ้นมา คลื่นที่ราวกับใบมีดพุ่งเข้ามาหาเซี่ยวเฉิน เซี่ยวเฉินไม่กล้าเดินหน้าต่อ เข้าพุ่งออกจากผิวน้ำไปบนฝั่งแม่น้ำ
หญิงสาวใช้จังหวะนี้หยิบเอาเสื้อผ้าที่กองอยู่ริมแม่น้ำขึ้นมาสวม เมื่อนางเท้ากลับลงมาแตะพื้น นางได้แต่งตัวเสร็จเรียบร้อยแล้วปิดบังส่วนสําคัญทุกจุดบนร่างกาย
เมื่อคลื่นกระแทกไปบนผืนน้ำและสงบลงในที่สุดเซี่ยวเฉินก็ได้เห็นว่านางมีหน้าตาเช่นไร
ผมสีดําชุ่มน้ำทอดยาวลงบนหลังของนางนางแต่งกายด้วยชุดสีแดงเพลิง เนินสองลูกตั้งเด่นอยู่บนหน้าอกของนาง ประดับบนร่างกายอันงดงาม
นางบริสุทธิ์ราวกับหยกใสเนื้อหนังไร้ซึ่งส่วนเกิน ราวกับบุปผาที่เพิ่งโผล่ขึ้นมาจากผิวน้ำไร้การแต่งเติมใดๆ นี่คือหญิงสาวที่มีร่างกายระดับปีศาจและใบหน้าของทูตสวรรค์
อย่างไรก็ตาม ใบหน้าของนางแดงระรื่นอย่างเกรี้ยวโกรธ ดวงตาของนางดูราวกับกําลังจะปล่อยเปลวไฟออกมา ฝีปากของนางสั่นเทาขณะที่ส่งเสียงไพเราะออกมา “ให้ตายเถอะ! สารเลวโรคจิต! เจ้ากล้าแอบดูกุลสตรีผู้นี้ที่กําลังอาบน้ำ”
กระบี่ในมือนางสั่นเทิ้มและส่งเสียงไพเราะออกมา มันราวกับสัมผัสได้ถึงความเกรี้ยวโกรธของเจ้านาย มันสั่นสะเทือนอย่างต่อเนื่องส่งเสียงสะท้อนนับไม่ถ้วนในอากาศ
“ฟังเสียงของดาบและสื่อสารกับมัน?” เซี่ยวเฉินประหลาดใจมาก นางผู้นี้เหมือนกับอ่วเจียว ความเข้าใจในอาวุธของนางขึ้นไปถึงระดับฟังเสียงของดาบและสื่อสารกับมัน นี่เป็นขั้นที่ระดับขอบเขตกษัตริย์มากมายต่างแสวงหา
อย่างไรก็ตาม สถานการณ์ในตอนนี้ไม่มีเวลาให้เซี่ยวเฉิน ประหลาดใจนัก นั้นเพราะแม่นางผู้นี้ชักกระบี่ของนางออกมาและกระโดดข้ามสายน้ำเข้ามาถึงตรงหน้าของเขาอย่างรวดเร็ว
มีแสงระยิบระยับบนกระบี่ของนาง นี่เป็นทักษะที่เฉพาะ ระดับขอบเขตปรมาจารย์และสูงกว่าเท่านั้นที่จะทําได้ ผสมผสานพลังปราณลงในตัวกระบี่และเปลี่ยนให้เป็นกระบี่
แสง
“วาดกระบี่!”
เซี่ยวเฉินชักกระบี่ของเขาออกมาอย่างรวดเร็ว กระบี่เงาจันทร์ของเขาเข้าปะทะกับกระบี่แสงของนางเกิดเป็นระเบิดขึ้น พลังมหาศาลจากกระบี่แสงผลักเซี่ยวเฉินถอยกลับ
เซี่ยวเฉินตกใจอย่างสุดขีด นี่เป็นครั้งแรกที่ความแข็งแกร่งของเขาตกเป็นรองถึงเพียงนี้เมื่อเผชิญหน้ากับระดับขอบเขตปรมจารย์ยุทธ นอกจากนั้นเขายังใช้วาดกระบี่
“ฮ่ะ!”
เซี่ยวเฉินใช้ทักษะมังกรฟ้าเมฆาทะยาน และเขาก็หยุดลงที่กลางอะไรในท่าประหลาด จากนั้นเขาเปลี่ยนมุมและหายตัวไป
อาจจะกล่าวได้ว่าหญิงสางนางนี้ได้ช่วยชีวิตของเซี่ยวเฉิน เอาไว้เซี่ยวเฉินไม่อาจอธิบายให้นางฟังได้ในตอนนี้ หญิงสางนางนี้กําลังเดือดดาลและอาจไม่สนใจคําอธิบายของเขา ดูเหมือนเขาต้องห้อยป้ายสารเลวโรคจิต” ไว้ชั่วคราวและ อธิบายให้นางฟังในภายหลัง
“บูม!”
ในขณะที่เซี่ยวเฉินกําลังคิดว่าเขาสามารถหลบหนีไปโดย ใช้ทักษะมังกรฟ้าเมฆาทะยาน เขาพบว่าหญิงสาวปรากฏตัวขึ้นด้านหลังทางขวาของเขาราวกับผี นางใช้กระบี่อันน่าหวาดกลัววาดฟันลงไปที่เขาอีกครั้ง
แม้ว่าเจ้าเฉินจะประหลาดใจ แต่เขาก็ไม่ได้ตื่นตระหนก เขารีดทักษะมังกรฟ้าเมฆาทะยานออกมาจนถึงขีดสุด ร่างของเขาทะยานขึ้นไปบนอากาศ ซิกแซ็กซ้ายขวา ราวกับมังกรกําลังโผผงาด
“บูม! บูม! บูม! บูม!”
อย่างไรก็ตามหญิงสาวนางนี้ตามติดราวกับกาวเหนียว นางส่งกระบี่แสงอันน่ากลัวใส่เซี่ยวเฉินอย่างต่อเนื่อง นางซัดโดนเซี่ยวเฉินสองสามครั้ง
“เจ้าสาระเลวโรคจิต หากเจ้ากล้าพอก็หยุดมาสู้กับข้า หากเจ้ายังเป็นชาย หยุดหนีซะเดียวนี้” หญิงสาวสาปด่าขณะที่ไล่ตามติด
เมื่อกระบี่แสงเสียบลงบนพื้น มันสร้างรูเล็กๆจํานวนหนึ่ง เมื่อมองไปในรูอย่างละเอียดจะพบได้ว่ามีเต๋าบรรจุอยู่ในนั้น
เซี่ยวเฉินลากยาวไปไกลกว่าสองร้อยเมตร แต่เขาก็ยังคงสลัดหญิงสาวนางนี้ไม่หลุด ทันใดนั้นเขาก็นึกถึงหนึ่ง ในหกทักษะของต้นกําเนิดปัญญายุทธ ทักษะลักษณ์ตาม
ติด
ไม่ว่าฝ่ายตรงข้ามจะรวดเร็วถึงเพียงใด ตราบเท่าที่ใช้ทักษะลักษณ์ตามติดพวกเขาก็จะสามารถไล่ตามติดไปได้ มันเป็นทักษะเคลื่อนไหวที่น่าอัศจรรย์ที่สุดในโลก
เซี่ยวเฉินอดไม่ได้ที่จะประหลาดใจ หากมันเป็นเช่นนั้นจริงๆ ตราบใดที่ทักษะมังกรฟ้าเมฆาทะยานของเขายังไม่บรรลุไปถึงระดับสมบูรณ์ เขาก็ไม่อาจสลัดนางออกไปได้
นี้มันไม่ได้ผล นางจะไล่ตามทันไม่ช้าก็เร็ว เซี่ยวเฉันคิดกับตัวเองอย่างจดจ่อ
เซี่ยวเฉินหลบเลี่ยงกระบี่แสงและคิดหาทางอื่น ทันใดนั้นเขาก็หันไปมองที่หญิงสาว เขาพูดขึ้น “มองตาข้า!”
ทันใดนั้นหญิงสาวก็หยุดมือลง เห็นได้ชัดว่านางงงงวยกับท่าทีของเซี่ยวเฉิน “ฮู่!” ทันใดนั้นเปลวเพลิงสีม่วงยิงออกมาจากตาขวาของเขา
“สารเลว!”
หลังจากตกใจไปครู่หนึ่ง หญิงสาวก็ส่งกระบี่แสงไปที่เปลวเพลิงสีม่วง เกิดระเบิดขึ้นเสียงดัง สร้างคลื่นกระแทกพลุ่งพล่าน หญิงสาวถูกผลักถอยกลับไป
เมื่อคลื่นกระแทกสลายไป เซี่ยวเฉินใช้อัสนีหลบเลี่ยงและ ปรากฏตัวขึ้นอีกครั้งหลายร้อยเมตรห่างออกไป เขาเรียกเรือสงครามสีเงินออกมาและทะยานขึ้นไปบนท้องฟ้า
หญิงสาวคิดถึงการกระทําก่อนหน้าของเซี่ยวเฉินและอดไม่ได้ที่จะดุด่าตัวเอง เขาขอให้นางมอง และนางก็มอง? เจ้าควรจะสังหารเขาเสียในกระบี่เดียว จะไปพูดคุยกับเขาให้มากความทําไม?
“วันนี้ข้าได้ทําให้เจ้าโกรธเคือง ข้าจะตอบแทนที่ช่วยชีวิต ข้าไว้ในอนาคต ยิ่งกว่านั้น ข้าไม่ใช่สารเลวโรคจิต โปรดอย่าได้เข้าใจข้าผิด” เสียงของเซี่ยวเฉินดังมาจากด้านบน
หญิงสาวกระทืบเท้าอย่างรุนแรงใบหน้าของนางแดงระรื่นถึงใบหู นางมองดูเซี่ยวเฉินที่กําลังจากไปพร้อมกับสาปด่า “เจ้ายังกล้าพูดว่าเจ้าไม่ใช่สารเลวโรคจิต? แม้แต่เรือของเจ้ายังเป็นสีเงิน ข้ามองผ่านที่เดียวก็รู้ว่าไม่ใช่เรื่องดี”
TLไม่แน่ใจนะครับว่าสีเงินนี้มันไม่ดียังไง
”นายน้อยหญิง! เกิดอะไรขึ้น! ท่านเป็นอะไรหรือไม่?” ไม่นานหลังจากที่เซี่ยวเฉินจากไป ปรมจารย์ยุทธหญิงสองคนพุ่งเข้ามา
หญิงสาวมองไปในทิศทางที่เซี่ยวเฉินจากไปและพูดขึ้น “ข้าไม่เป็นไรเพียงแค่ไปเจอเข้ากับอันธพาล”
เซี่ยวเฉินนั่งเรือสงครามสีเงินและลอยสูงขึ้นไปบนฟ้า เขาไม่ได้ยินที่หญิงสาวนางนั้นพูดมิฉะนั้น เขาคงจะทาสีเรือสงครามสีเงินลํานี้ใหม่เป็นสีอื่น
ไม่นานนัก เซี่ยวเฉินก็พบถนนใหญ่และหยุดลง ตอนนี้มีหลายคนที่รู้ว่าเซี่ยวเฉินมีเรือสงครามสีเงิน มันจะเป็นการดีกว่าที่จะเก็บเอาไว้ใช้ยามจําเป็น
คอมเม้นต์