Carefree Path of Dreams – ตอนที่ 188
บนผืนดินกว้างใหญ่ จากที่ไกล ๆ สามารถมองเห็นเมืองใหญ่โตโอ่อ่าเมืองหนึ่งได้
นั้นเป็นเมืองหลวงของประเทศหยวนเมืองหลงเชิง
เป็นหนึ่งในไม่กี่เมืองที่ประเทศหยวนมี และยังเป็นเมืองที่ใหญ่ที่สุด เป็นฐานที่มั่นของประเทศ และยังเป็นสถานที่ซึ่งประชาชนเชื่อมั่นและฝากชีวิตเอาไว้
ถึงตอนนี้ กองทัพของคนทางใต้ในที่สุดก็เข้าถึงจุดอ่อนของประเทศหยวน
“องค์ราชินี พวกข้าหวังว่าท่านจะโน้มน้าวให้เขาเข้าร่วมกับองค์ชายของพวกเราได้ มันเป็นสถานการณ์ที่ทุกฝ่ายล้วนได้ประโยชน์
ภายในกระโจม ตัวแทนประเทศหยวนยังยิ้มได้แม้ว่าจะถูกไล่ออกมา
“นี้ เป็นคนที่สามของวันนี้แล้วใช่หรือไม่?
เชี่ยหลิงอนนวดหน้าผากตัวเอง ถึงนางจะรู้สึกเหนื่อย แต่ก็รู้สึกยินดี
ตั้งแต่ทําลายกองทัพขององค์ชายทั้งสอง ฟางหยวนก็ได้ฉายาฉิวเท่อเก๋อแห่งดินแดนทุ่งหญ้า ทําให้การเดินทางตั้งแต่นั้นราบรื่น องค์ชายอื่น ๆ ก็เรียนรู้จากความผิดพลาดขององค์ชายสามและ องค์ชายสี่ และส่งผู้เดินสารมาคารวะ
“ไม่ใช่แค่องค์ชายรองอากู๋ต๋า และองค์ชายแปดเก่อรื่อถู แต่ยังองค์ชายใหญ่ป้าถูเองก็ด้วย เช่นกัน พวกเขาล้วนนอบน้อมและในที่สุดพวกเราก็ได้แก้แค้นแทนประเทศเล็ก ๆ พวกนั้น อาจารย์ ท่านพูดถูกจริง ๆ ด้วย! ถ้าหากพวกเราอยากเจรจา พวกเราต้องเอาชนะและบีบให้พวกเขายอมจํานนก่อน!”
ชัยชนะครั้งก่อนนั้นเป็นเหตุการณ์สําคัญที่ทําให้พวกเขามีสิทธิ์เลือกว่าจะสนับสนุนองค์ชายองค์ไหน!
“อาจารย์ แล้วท่านต้องการสนับสนุนองค์ชายผู้ใดเล่า?”
เซี่ยหลิงอวิ้นมองไปทางกระโจมของฟางหยวนอย่างสงสัย
แต่ว่า ฟางหยวนนั้นไม่ได้อยู่ในกระโจมของตัวเองแล้ว
“เมืองหลงเชิงช่างต่างไปจากเมืองอื่น ๆ นัก มันให้ความรู้สึกที่ต่างไป!”
ด้วยความสามารถและความกล้าของเขา เขาสอบเข้ามาในเมืองหลวงของประเทศหยวนแล้ว
กําแพงเมืองและยามที่เดินตรวจตราอย่างสม่ําเสมอก็เป็นแค่ตัวตลกสําหรับเขา
“ข้าคิดว่าเจ้าเมืองหลงเชิงคนปัจจุบันน่าจะเป็นป้าถู?”
ขณะที่เขาเดินตรงไปที่ลานกลางเมือง ดวงตาของเขาก็เต็มไปด้วยความสงสัย “เขาใช้ทุกวิถีทางเพื่อให้ได้มาซึ่งบัลลังก์! น่าสมเพชนัก!”
แม้ว่าจะได้ครอบครองเมืองหลงเชิง ป้าถูก็ยังมีรากฐานที่อ่อนแอที่สุดในบรรดาองค์ ชายทั้งหมด
“ข้าได้ยินมาว่าป้าถูผู้นั้นกลายเป็นบุตรชายที่นําความตายมาสู่บิดาของคน คนของเขาหลาย คนรังเกียจเขา ช่างน่าสงสารนัก…”
มองถนนว่างเปล่า ฟางหยวนก็ถอนหายใจเบา ๆ
รอบตัวเขา มีทหารยามจํานวนมากเดินลาดตระเวน แต่ว่า พวกเขาราวกับเป็นคนตาบอด ไม่สนใจการคงอยู่ของฟางหยวนเลยสักนิด
การฝึกตนเป็นจ้าวแห่งฝันส่วนแรกนั้นคือ “มายา” ต่อให้เป็นจอมยุทธ์ระดับกําลังภายใน พวกเขาก็ยังไม่สามารถมองเห็นหรือได้ยินฟางหยวน
“ด้วยการฝึกตนเป็นจ้าวแห่งฝัน ข้าไม่จําเป็นต้องเกรงกลัวว่าผู้ใดจะร่วมมือกันโจมตีข้า ขอบเขตเปิดชีพจรหลังจากอู่จงที่ทําให้ข้าสามารถจัดการกับผู้นําทัพทํามกลางทหารนับพันได้ เมื่อมีทั้งสองอย่าง ข้าก็ไร้ผู้ต่อต้าน! ในดินแดนนี้ ข้าอยากสังหารใครผู้นั้นก็ย่อมต้องตาย แม้จะเป็นราชา แห่งประเทศหยวนหรือตัวแทนประเทศเซียก็ตาม!”
ขณะที่คิดกับตัวเอง เขาก็มาถึงราชวังของประเทศหยวน
ราชวังแห่งนี้สง่างาม แต่ว่า ขาดชีวิตชีวา
โดยไม่ต้องพูดอะไร หมอกสะกดก็ลอยเข้ามาปกคลุมเขาเอาไว้ชั้นหนึ่งขณะเขาเข้าไปในราชวัง
ในหอตําราหลวง
“บัดซบ! เหตุใดเผ่าเย่อเหอและน่าเอี้ยนถึงไม่ฟังคําสั่งของข้า? ข้าต้องส่งกองทัพออกไปบดขยี้ พวกมันเสีย!”
ในตอนนี้ ทุกคนสามารถรับรู้ว่าเกรี้ยวกราดของป่าถูได้
ในฐานะบุตรคนโตขององค์ราชา ใบหน้าของเขานั้นคล้ายกับราชาผู้ล่วงลับมาก เขามีรูปร่างล่ําสันและเป็นตัวอย่างของชายหนุ่มผู้เติบโตในดินแดนทุ่งหญ้าได้
หลังจากระบายความโกรธออกมา เขาก็สงบลงอย่างช้า ๆ ทั้งหมดที่เหลืออยู่ในใจก็คือความรู้สึกจนหนทาง
“ผู้หญิงคนนั้น พวกเราหานางพบหรือยัง?”
ป้าถูเต็มไปด้วยความรู้สึกผิด
เขานึกถึงครั้งแรกที่เขาเห็นความงามของผู้หญิงคนนั้น เขาต้องระงับความต้องการและความละโมบของตนก่อนที่จะตัดสินใจยกนางให้แก่บิดาของเขา
มันเป็นความจงรักภักดีอย่างแท้จริง และเขาไม่ได้มีความมุ่งร้ายใด
“ใครจะรู้ว่าผู้หญิงคนนั้นจะ… ว่านางจะ… นางไม่ใช่มนุษย์! นางเป็นปิศาจ มีหัวใจของสุนัขจิ้งจอก ดวงตาของงู และยังเขี้ยวสุนัขป่าและยังพิษร้ายของแมงป่อง
เมื่อคิดถึงเรื่องนั้น ป้าถูก็รู้สึกว่าตัวเองโชคดีขึ้นมาเล็กน้อย
หากผู้หญิงคนนั้นมอบตัวให้กับเขา เช่นนั้นเขาก็คงเป็นผู้ที่ตายตกไปแล้ว
ไม่มีใคร ไม่มีผู้ใดต้านทานรอยยิ้มของนางได้!”
เมื่อคิดถึงรอยยิ้มหยาดเยิ้มของนาง ป้าถูกสะบัดหัวอย่างแรงราวกับต้องการลบความทรงจําทั้งหมดเกี่ยวกับนางทิ้งไป
“ผู้หญิงคนนั้น พวกเราไม่มีเงื่อนงําของนางเลยตั้งแต่วันนั้น!”
ตรงหน้าป้าถูเป็นหมอผีที่คุกเข่าลงรายงาน น้ําเสียงฟังดูสิ้นหวัง
“นางน่าจะยังอยู่แถวนี้ ในเมืองหลงเชิง ในกําแพงวัง!!”
แม้ว่าป้าถูจะเป็นนักรบผู้สามารถ เขาก็เป็นเพียงพวกที่ชอบใช้กําลังโดยไม่คิดมาก ดวงตาของ เขาแดงก่ํา เขาทั้งร้อนใจและที่ในใจยังเต็มไปด้วยความกังวล
“ไม่ต้องห่วง องค์ชาย ด้วยการปกป้องของข้า นางปีศาจผู้นั้นเข้ามาไม่ได้ ไม่เพียงแค่นาง แต่ผู้อื่นก่อนหน้าก็เช่นกัน ไม่มีใครสามารถเข้ามาถึงที่นี่ได้โดยที่ข้าไม่รู้”
หมอผีตอบ เต็มไปด้วยความมั่นใจ
“ก่อนหน้า? นั่นหมายความว่ามีคนที่สามารถทําเช่นนั้นใต้อยู่? เป็นพวกคนชั่วจากทางใต้ใช่ หรือไม่?
ป้าถูพึมพำ
“ฟางหยวนผู้นั้นนับเป็นอันตรายต่อดินแดนทุ่งหญ้า แต่ว่ายังไม่ต้องกังวล องค์ชายของข้า พวกเราทุกคนสาบานตนปกป้องราชวงศ์ด้วยชีวิต!
“พี่ชายทั้งสองของข้าอาจจะตกลงตามเงื่อนไขของฟางหยวน และข้าก็ไม่รู้ด้วยซ้ําว่าอะไรเป็นอะไร! ฮืม…”
ป้าถูไม่ใช่คนธรรมดาทั่วไป เขามีพื้นฐานที่ดี และในไม่ช้า เขาก็เริ่มสงบลง “ข้าส่งคนไปแล้ว เพื่อสร้างความสัมพันธ์อันดีกับคนจากทางใต้ ก่อนที่เรื่องภายในนี้จะจบลง มันไม่ฉลาดนักที่จะสร้างศัตรูอื่น ในเมื่อพวกเขายังไม่ตอบเรา เจ้าก็รออีกสักระยะ บอกเขาว่าหากยินดีทํางานให้ข้า พวกเขาจะได้ทั้งชื่อเสียงเกียรติยศและทุกสิ่งอย่าง!”
“ขอรับ! ท่านเป็นนกอินทรีบินสูงบนฟ้า และพวกเราเป็นสุนัขล่าเนื้อที่ซื่อสัตย์ของท่าน!”
หมอผีตอบอย่างนอบน้อม
“อย่าคิดโง่ ๆ ว่านั่นคือความตั้งใจของข้า แต่ข้าก็ไม่ทําไม่ได้ ไม่อย่างนั้นเราจะมุ่งรับมือและ เอาชนะอากู้ตาและเก่อร่อถูได้อย่างไร?”
สีหน้าเจ้าเล่ห์ปรากฏขึ้นขึ้นชั่วครู่บนใบหน้าของป้าถู ราวกับสุนัขป่า “หลังจากข้ายึดครอง ทั้งดินแดนทุ่งหญ้าได้ พวกเราค่อยมุ่งหน้าลงใต้เพื่อปล้นสะดมจากพวกเขา ไม่อย่างนั้น พวกเราจะรับมือกับฤดูหนาวจัดได้อย่างไรกัน?”
“องค์ชาย ช่างเป็นแผนการอันล้ําเลิศ!”
หมอผีชื่นชมป้าถู แต่ทันใดนั้น สีหน้าของเขาก็เปลี่ยนไป เขามองออกไปทางหน้าต่าง “ใครอยู่ที่นั่น? ใคร?”
“ข้าเอง!”
ฟางหยวนเผยตัวออกมาขณะเดินเข้ามาก้าวใหญ่ เขาถามด้วยน้ําเสียงเห็นขัน “เจ้าคือป้าถู? ข้าอยู่ที่นี่แล้วไง! เจ้าสามารถเสนอเงื่อนไขของเจ้าออกมาได้เลย!”
“กล้าดีอย่างไร!”
เมื่อเห็นว่าจู่ ๆ ก็มีคนแปลกหน้าเดินออกมา ป้าถูก็คว้ามีดสั้นที่เอวขึ้นมาโดยไม่รู้ตัว สีหน้าเปลี่ยนไป “นี่ไม่ถูกต้อง เจ้าคือ…”
มีเพียงผู้เดียวที่มีความสามารถที่จะเข้ามาในเขตราชวังได้โดยไม่ถูกพบเห็น
ฉิวเท่อเก๋อชุดขาว – ฟางหยวน
“เจ้าฉลาดดีนิ !”
ป้าถูรีบปรับท่าทางและฟางหยวนก็พยักหน้า
เพียงเท่านี้ก็เห็นได้ว่าป้าถูกไม่ใช่คนวู่วาม
“ข้าผนึกที่นี่เอาไว้แล้ว ไม่ว่าเจ้าจะตะโกนดังไหนก็จะไม่มีผู้ใดได้ยิน!”
ฟางหยวนเดินตรงไปหาเขาช้า ๆ
“ฟางหยวน ท่านมาที่ต้องการอะไร?”
เพียงแค่คิด ป้าถูกกังวลขึ้นมา
“ข้ามาที่นี่เพียงเพื่อเตือนเจ้าว่าข้ามีความสามารถพอที่จะทําลายทุกอย่างได้”
ฟางหยวนตอบโดยไม่สงวนท่าที่ และจู่ ๆ เงาร่างของเขาก็กะพริบวูบ
“ไม่ดีแล้ว!”
หมอผีตกตะลึง โบกไม้กลองในมือครั้งหนึ่ง ประกายแสงสีแดงก็ค่อย ๆ แผ่ไปทั่วห้อง
“เจ้ามันก็แค่นิ่งห้อยตัวหนึ่ง ยังกล้าสู้กับแสงจันทร์เร็ว!”
ฟางหยวนยิ้มและหันเข้าหา ชีพจรศักดิ์สิทธิ์บนร่างของเขาปรากฏขึ้น แรงกดดันมหาศาลสลายคาถาเวทย์ของหมอผีไป หมอผีระดับรวมธาตุคํารามออกมาเมื่อปรากฏรูหนึ่งขึ้นบนไม้ตีกลอง ตามหนึ่งของเขา ความเสียใจนั้นเกินบรรยายเป็นคําพูดได้
“ครืน!”
ขณะที่ประกายแสงสีแดงจางหายไป ฟางหยวนก็ตรงเข้าไปหาป้าถู ใช้นิ้วของเขาคีบมีดสั้น โยนทิ้งไปและคว้าจับเข้าที่สําคอราวกับกําลังหิวไก่ไร้ทางสู้สักตัวหนึ่ง
“ข้ามาที่นี่เพื่อเตือนเจ้าว่าหากข้าตัดสินใจจะเอาชีวิตของเจ้า เจ้าก็หนีจากข้าไม่รอด!”
ฟางหยวนขยับเข้าไปใกล้เขามากขึ้น “ข้าเตรียมจะลงนามในสัญญาพันธมิตรกับเจ้า หากเจ้ากล้าละเมิดข้อตกลง ก็ให้คิดถึงวินาทีนี้”
“ข้า เข้าใจแล้ว!”
ใบหน้าของป้าเปลี่ยนเป็นสีม่วงคล้ำขณะฝืนเค้นคําออกมา
ความบีบคั้นจนหายใจไม่ออกและความตายเริ่มทําให้สติของเขาเลือนราง
ฟางหยวนปล่อยมือ และป้าถูก็รีบใช้มือประคองลําคอของตนไว้ เขารีบอ้าปากหาย ใจเอาอากาศเข้าไปอย่างตะกราม น้ําตาเกือบจะไหลออกมา
เขาไม่เคยคิดเลยว่าการหายใจได้อย่างปกตินั้นจะเป็นเรื่องวิเศษเพียงนี้
เห็นความทรมานของป้าถูแล้ว เขาก็รู้ว่าได้ทิ้งรอยประทับลึกล้ําเอาไว้ให้ป้าถูเรียบร้อยแล้ว ฟางหยวนหัวเราะก่อนจะถาม “องค์หญิงจือเพิ่งผู้นั้น นางมาจากไหน? นางมีสิ่งของอะไรติ ดมาด้วยหรือไม่? พาข้าไปพบนาง!”
“ ท่าน ไปเถอะ!”
ป้าถูโบกมือ
หมอผีตกตะลึง เขาคารวะฟางหยวนอย่างนับถือ “ท่านผู้มีเกียรติจากทางใต้ เชิญตามข้ามา!”
เมื่อเงาร่างของฟางหยวนสับหายไป ใบหน้าของป้าถูกเปลี่ยนเป็นเขียวคล้ํา
“ลองคิดดูแล้ว แม้การสร้างฝันนั้นไม่ได้ซับซ้อน ข้าก็ไม่จําเป็นต้องทุ่มเทมากถึงเพียงนั้น?”
ฟางหยวนตามหมอผีไป เดินผ่านราชวังไปอย่างราบรื่น พร้อมความรู้สึกเสียดายเล็ก ๆ
ระดับสุดท้ายของการสร้างฝันนั้นทําให้จ้าวแห่งฝันสามารถปรับเปลี่ยนความทรงจําเก่าและ นําเอาภาพมายาและความเป็นจริงมาผสมผสานกัน ผลลัพธ์ที่ได้นั้นเกินคาดคิด
แต่จิตใจและความทรงจําของมนุษย์นั้นซับซ้อนเกินไป! การเปลี่ยนแปลงจิตใจและความ ทรงจํานั้นวุ่นวายเกินไป และยังแทบจะเป็นไปไม่ได้ที่จะใช้กับคนระดับผู้นํามันต้องใช้เวลามากเกินไป
นอกจากนี้ แม้ว่าพวกเขาจะไม่ใช่ผู้ฝึกตน คนระดับผู้นําทัพเช่นนี้ก็ยังมีองครักษ์ที่มีวิทยายุทธ์สูงส่ง พวกเขาสามารถตรวจจับความผิดปกติและลงมือได้ทันท่วงที พวกเขายังมีตัวตายตัวแทนถ้าหากเกิดอะไรขึ้นกับพวกเขาด้วย!
ดังนั้น สําหรับฟางหยวน การพยายามแฝงเข้าสู่ความฝันของคนรับใช้และองครักษ์เหล่านี้นั้น เป็นเรื่องเสียเวลา! ถึงจะเป็นกลยุทธ์ที่มีเป้าหมายเป็นการกําจัดผู้นําทัพ จุดประสงค์หลักแล้วก็เพื่อสร้างความหวาดกลัว
ถ้าหากเขาต้องลงมือถึงเพียงนั้น ฟางหยวนก็ต้องทําใจเอาไว้ว่าจะกลายเป็นศัตรูของคนทั้งโลก
“พวกเรามาถึงแล้ว นี่เป็นที่ที่องค์หญิงจื่อเพิ่งเคยพักอยู่”
ข้ามสวนแห่งหนึ่งมา ผ่านทางเดินหลายชั้น หมอผีก็นฟางหยวนมาถึงกระโจมหรูหราแห่งหนึ่ง “กระโจมนี้และเครื่องเรือนด้านในนั้นนํามาจากเผ่าตะวันดับโดยตรง!”
ฟางหยวนไม่กลัวว่าหมอผีจะแอบวางแผนตุกติกอะไร และเดินเข้าไปข้างในโดยตรง
การตกแต่งข้างในกระโจมนั้นธรรมดา สิ่งเดียวที่สะดุดความสนใจของเขาก็คือกระจกแก้วที่ใสเป็นประกาย
เมื่อเรียกใช้พลังเวทย์ เขาก็ตรวจพบพลังเวทย์ในรูปแบบที่เขาคุ้นเคย
คอมเม้นต์