Carefree Path of Dreams – ตอนที่ 190
ตอนที่ 190 แบ่งแยกดินแดน
การตายของเย่ลู่ปู้ฮวานั้นเรียกได้ว่าเป็นจุดเริ่มต้นของหายนะเมืองหลงเชิง
มันเทียบไม่ได้เลยกับสิ่งที่เกิดขึ้นต่อจากนั้น
เพียงแค่ไม่กี่วัน ฟางหยวนก็ได้ไป “เยี่ยมเยียน” องค์ชายใหญ่ป้าถู องค์ชายรองอากกู้ต๋า อย่างต่อเนื่อง เขายังใช้ฐานะผู้นํากองกําลังร่วมกดดันให้พวกเขาเข้ารวมกองกําลัง
แน่นอนว่า ถ้าเป็นก่อนหน้าที่จะเกิดเรื่องทั้งหมดขึ้น คนของประเทศหยวนย่อมไม่สนใจเรื่องนี้ แต่ด้วยฝีมือของฟางหยวน กระทั่งสิงโตที่ตุร้ายที่สุดยังกลายเป็นแมวเชื่องๆได้
แม้แต่องค์ชายแปดก็ยังต้องทําตามหลังจากนักรบที่แข็งแกร่งที่สุดของประเทศหยวน จ้าวลี่เก่อถู พ่ายแพ้ให้แก่ฟางหยวนในสามกระบวนท่า โดยไม่ต้องเจรจาอะไรให้มากความ พวกเขาก็เข้าร่วมการประชุมที่จัดโดยราชาแห่งประเทศเซีย
นอกเมืองหลงเชิง
กองทัพทหารจากประเทศหยวนกําลังเคลื่อนพล และป้าถนั้นก็อยู่ตรงกลาง มีนักรบและหมอผีหลายคนอยู่รอบตัวเขา
“ทําไมถึงไม่จัดการประชุมที่ในเมืองกันนะ?
เขาบ่นด้วยความไม่พอใจ แต่ว่าในสายตาแฝงความหวาดกลัวเอาไว้
ป้าถูไม่ได้กลัวฟางหยวน ถ้าฟางหยวนต้องการสังหารเขา ก็ไม่มีที่ไหนที่เขาจะหลบไปซ่อนตัวได้!
เขากลัวพี่น้องหลายคนของเขาเหล่านั้น
“ไม่ต้องห่วง องค์ชาย การประชุมจัดขึ้นในค่ายทัพของคนจากทางใต้ ข้าใช้ชื่อของนักรบที่แข็งแกร่งที่สุดรับรองความปลอดภัยของพวกเรา!”
ที่ข้างตัวเขา หมอผีผู้หนึ่งพูด “มีท่านผู้นั้นอยู่ อากู๋ต๋าและเก่อรื่อถูย่อมไม่เสี่ยงลงมือสังหารท่าน! นอกจากนี้ หากการประชุมจัดที่ในเมืองหลงเชิง พี่น้องของท่านอาจจะไม่เห็นด้วย!”
ป้าถูยิ้มอย่างจนปัญญา เขารู้ว่าถ้าเป็นเช่นนั้น มันก็จะเป็นโอกาสอันหาได้ยาก เขาย่อมวางกับดักจับตัวทั้งอากู๋ต๋าแะเก่อรือถู
“คนจากทางใต้พวกนั้นรบไม่เก่ง แต่ข้าต้องยอมรับว่าต้านวิชาการก่อสร้างไม่เลวเลย! ต่อไป ถ้าพวกเรามีโอกาสได้ไปทางใต้ จําไว้ว่าให้จับตัวช่างไม้และช่างก่อสร้างมาเป็นทาสให้ได้สักหลายคนหน่อย!”
ตอนที่ไปถึงค่ายทัพ ก็พบว่ามีการสร้างยกพื้นสูงไว้หลายที่และป้าถูก็คิดกับตัวเองเงียบ ๆ
ที่ไม่ไกลนัก มิดินทรายฟังขึ้นเป็นสองเส้นตรงเข้ามา
“เป็นแตรสัญญาณของอากู๋ต๋าและเก่อรื่อถู!”
เพียงแค่มอง ป้าถูก็มีท่าทางเคร่งขรึมขึ้น
เมื่อพวกเขาใกล้เข้ามาเรื่อยๆ บรรยากาศก็เริ่มถึงเครียดมากขึ้น
คนจากทางใต้ดิตเอาไว้แล้วว่าจะเป็นเช่นนี้ ประตูต่ายนั้นเปิดอยู่ ทหารหลายพันหลั่งไหลเข้ามา ภายใต้การออกคําสั่งโดยจางเซี่ย หลี่ฮั่งหู และลิ่วซานชวง พวกเขาจัดแจงพื้นที่ได้อย่างเป็นระเบียบ
เก่อรื่อถูกระโดดลงจากหลังม้า และจ้าวลี่เก่อถูก็ตามลงมา นักรบที่แข็งแกร่งที่สุด” ของประเทศหยวนผู้นี้ดูซีดเซียวลงไปเล็กน้อยและยังกระแอมไออยู่หลายครั้ง เห็นได้ชัดว่าไม่ได้อยู่ในสภาพที่ดีที่สุด และทําได้เพียงตามหลังเก่อรื่อถมาอย่างอ่อนแรง
“ป้าถูเจ้ามันเป็นปีศาจตนใดกัน! เจ้าจะถูกสวรรค์สาปแช่งและตอนนี้ก็ควรจะรู้สํานึกที่สังหารบิดาของเจ้า เจ้ายังกล้ามาที่นี่อีกรึ?”
เก่อรื่อถูหรี่ตาและมีสีหน้าเย็นชา ขณะขานออกไปเบา ๆ “จ้าวลี่เก่อถู”
“องค์ชายแปด ข้าเข้าใจความตั้งใจของท่าน
จ้าวลี่เก่อถูไอก่อนจะพูดต่อ “จากระยะนี้ ถ้าไม่นับว่าข้าอาจจะตายตกลงไปได้ ข้าก็สามารถสังหารป่าได้ แต่ว่า คนจากทางใต้ย่อมไม่ปล่อยพวกเราไปเป็นแน่ นี้จะเป็นประโยชน์แค่กับพี่ชายของท่าน อากู๋ต๋า!”
“ข้ารู้ พวกเราถึงได้ต้องพยายามควบคุมตัวเองเอาไว้!”
เก่อรื่อถูมีสีหน้าจริงจังและเดินขึ้นไปบนยกพื้น สีหน้าของเขาก็เปลี่ยนไปอีกครั้ง
เขาคิดว่าจะได้พบราชาองค์อื่นๆ นั่งอยู่ตามตําแหน่งที่ได้รับจัดสรร แต่กลับมีผู้ที่ไม่คิดว่าจะมาอยู่ที่นี้ได้อีกสองคน
“องค์ชายสามและองค์ชายสี่!”
จ้าวลี่เก่อถูตอบ “ดูเหมือนว่าข่าวจะเป็นความจริง แม้จะมีกองทัพสองหมื่น แต่พวกเขาก็ต้องพ่ายแพ้ให้แก่คนจากทางใต้!”
“น่าอัปยศนัก! ข้าจะไม่มีวันลืมวันนี้ไปได้!”
เก่อรื่อถูกหมัดแน่น
ตอนที่องค์ชายทั้งสามมาถึง พวกเขาก็สบตากับองค์ชายอีกสองคนที่อยู่ที่นั่นก่อนแล้วและยังแลกเปลี่ยนสายตาดุร้ายกับคนอื่นๆ
“ประเทศหยวนและประเทศอู่เป็นเสาหลักที่แข็งแกร่งของการประชุมมาเสมอ!”
ทันทีที่ทุกคนมาพร้อมแล้ว ราชาแห่งประเทศเซียก็เริ่มพูดตามที่เตรียมตัวมา “… การสิ้นพระชนม์ของราชาแห่งประเทศหยวนนั้นน่าเศร้านัก แต่ประเทศหยวนก็จะขาดผู้นําไปมิได้”
“ฮื่ม! ท่านผู้นํากองกําลังตั้งใจจะเข้ามามีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องภายในของพวกเราใช่หรือไม่?”
เพราะเขาอายุน้อยที่สุด เก่อรื่อถูก็เป็นคนแรกที่ควบคุมตัวเองมิได้และโพล่งออกไป
“พวกท่านสวนเก่งกล้า ข้าจะเลือกโดยง่ายได้อย่างไร? แต่ว่าความวุ่นวายในประเทศหยวนนั้นไม่ใช่เรื่องดีเลยสักนิด! ข้ามีสิทธิ์ตัดสินใจเช่นนั้นใช่หรือไม่?
เซี่ยหลิงอวิ๋นขึ้นยืนขึ้นและยิ้ม “แม้ว่าพวกเราจะมีทหารที่ตรงนี้เพียงสามหมื่น แต่พวกเราก็ได้ส่งสัญญาณออกไปแล้ว ไม่ช้า พวกเราจะมีทหารอีกแสนนายจากชายแดนของดินแดนทุ่งหญ้ามาเข้าร่วมกับพวกเรา!”
เมื่อได้ยินเช่นนี้ ป้าและอากู้ต่ก็มองหน้ากัน รู้สึกได้ถึงปัญหา
ถ้าอีกฝ่ายสามารถรวมกําลังได้เช่นนั้น ก็จะไม่ใช่การต่อสู้ที่ง่ายดายแล้ว
แต่ว่า ฟางหยวนนั้นรู้ดีว่านี่เป็นการอวดโอ่เกินจริงของเซี่ยหลิงอวิ๋น แม้ว่าเขาจะมีความสามารถในการจัดการตัวแทนและราชาของทุกประเทศได้ เขาก็คงโชคดีเกินไปแล้วถ้าจะมีกองทัพนับแสนให้ใช้สอย
ตัวเลขนั่นเพียงพอที่จะทําให้ทุกคนหวาดกลัว
ทันใดนั้น หลายๆ คนจากประเทศหยวนก็รู้สึกพ่ายแพ้ “พวกท่านทั้งหมดต้องการอะไร?”
“พวกเราบอกไปแล้ว เพื่อสันติสุขในดินแดนทุ่งหญ้า พวกเราต้องมีแผนการที่ทุกคนจะเห็นด้วย!”
ฟางหยวนย้ำ
แม้ว่าเขาจะสวมเพียงขุดคลุมของตัวแทนประเทศ ตําแหน่งของเขาก็คือตําแหน่งสูงที่สุดโดยไม่ต้องสงสัย ดังนั้นจึงมีสิทธิ์ที่สุดแล้วที่จะพูด
ป้าและอากู๋ต๋าล้วนพูดไม่ออก ในที่สุด ก็ยังเป็นเก่อรื่อถูกที่ก้าวออกมา “พวกท่านตั้งใจจะ ทําอะไรกันแน่? พูดออกมาเลยดีกว่า!”
“ดีมาก!”
ราชาแห่งประเทศเซี่ยปรบมือ “องค์ชายทุกท่านส่วนองอาจแกล้วกล้า และเขาก็ไม่กล้าตัดสินใจ ถ้าพวกท่านทุกคนได้ขึ้นเป็นราชาและเป็นผู้ปกครองดินแดนของตนเองเล่า? นั่นฟังดูเป็นอย่างไร?
“อะไรนะ?”
คําแนะนํานี้ทําให้ทุกคนตระหนก
เก่อรื่อถทั้งโมโหทั้งตกใจในเวลาเดียวกัน คําพูดของเขาติดอยู่ในลําคอและพูดอะไรไม่ออก
นี่เป็นเพราะเขามองเห็นความสนใจในดวงตาของป้าถู อากู๋ต๋า และกระทั่งองค์ชายสามและ องค์ชายสี่ และดังนั้นจึงรู้สึกโดดเดี่ยวขึ้นมา
ในเมื่อเขาเคยเป็นรัชทายาทของประเทศหยวน เขาย่อมเคยมองปัญหาจากมุมของราชาผู้ปกครอง เขาจึงพบว่าการจัดการเช่นนี้นั้นยอมรับไม่ได้
แต่ว่า มันเป็นข่าวดีสําหรับองค์ชายอื่นๆ
ก็จริง แทนที่จะพยายามต่อสู้เพื่อโอกาสอันน้อยนิดที่จะได้เป็นราชา มันง่ายและเย้ายวนกว่าที่จะรับรางวัลตั้งแต่ตอนนี้
รางวัลที่เย้ายวนที่สุดสําหรับองค์ชายที่มีความหวังเพียงน้อยนิดที่จะได้เป็นราชา
“ถูกต้อง!”
เสียงของฟางหยวนสั่งมา “ดินแดนทุ่งหญ้ากว้างใหญ่! ต่อให้แบ่งออกเป็นแปดสิบส่วนก็ยังเป็นไปได้หากพวกท่านต้องการ! หากแบ่งออกเป็น 2 ส่วน พวกท่านทุกคนก็สามารถได้เป็นราชา และเริ่มต้นก่อตั้งประเทศของตนเอง!”
ถึงตอนนี้ แผนการของเขาก็ขยายออกมาให้ทุกคนดู
ไม่ว่าองค์ชายองค์ไหนจะได้ขึ้นเป็นราชาแห่งประเทศหยวน เขาก็จะยังคงเล็งไปที่ประเทศ ทางใต้
ต่อให้ทําลายประเทศหยวน เขาก็คงได้รับช่วงเวลาอันสงบสุขเพียงไม่กี่ปีก่อนที่ประเทศใหม่จะ ก่อตั้งขึ้นมาอีกครั้ง
ดังนั้น การแก้ไขเดียวก็คือปล่อยให้คนของประเทศหยวนมีปัญหาภายในและเสียเวลาไปกับ อีกฝ่าย
“ดินแดนทุ่งหญ้ามีหลายเผ่าพันธุ์นัก และการกําจัดพวกเขาทั้งหมดออกไปก็เป็นไปไม่ได้ในทางปฏิบัติ พวกเราต้องการความเชี่ยวชาญของพวกท่าน ดังนั้นพวกเราจึงเห็นด้วยกับแผนการนี้”
เขาคิดกับตัวเองเงียบๆ
การแบ่งประเทศหยวนที่กว้างใหญ่ออกเป็นส่วนๆ และให้องค์ชายไปแย่งชิงกันเอง ช่วยผู้ที่อ่อนแอและจัดการกับผู้ที่แข็งแกร่ง ทั้งหมดนี้ก็เพื่อทําให้พวกเขาต้องเปลืองเวลาไป การแบ่งพวกเขาออกจากกันนั้นคือการไม่ให้โอกาสพวกเขารวมพลังความแข็งแกร่งเข้าด้วยกัน
นี่เป็นการจัดการอย่างละมุนละม่อมและต้องการความร่วมมือของประเทศใกล้เคียงกับดินแดนทุ่งหญ้าเพื่อสนับสนุนแผนการนี้ แต่ฟางหยวนก็อยากจะลองดูก่อน
ต่อให้มันล้มเหลว เขาก็ไม่ได้เสียอะไร แล้วจะมีอะไรให้ต้องกลัว
“แล้วพวกเราจะแบ่งดินแดน ผู้คน ทหารและมาอย่างไร?
เก่อรื่อถูถามขึ้น
“นี่ง่ายมาก องค์ชายที่เติบใหญ่แล้วทุกคนจะได้รับพลเมืองหนึ่งหมื่น และไปตั้งรกรากในดินแดนที่แบ่งให้ ส่วนดินแดนทุ่งหญ้านี้ ข้าได้แบ่งมันออกเป็น 2 ส่วน เชิญพวกท่านดูและตัดสินใจด้วยตัวเองว่าต้องการดินแดนส่วนไหน!”
ฟางหยวนสั่งให้นําแผนที่ขึ้นมา
บนแผนที่เป็นดินแดนของประเทศหยวน ดินแดนทุ่งหญ้าอยู่ใกล้กับประเทศทางใต้ที่สุด มันกว้างใหญ่และยังอุดมสมบูรณ์
แต่ตอนนี้ มันถูกแบ่งออกเป็น 3 ส่วนอย่างง่ายๆ และแต่ละส่วนก็มีป้ายติดเอาไว้
ป้าถู อากู๋ต๋า และเก่อรื่อมองแผนที่ทีละส่วน
ดูเหมือนว่าคนจากทางใต้นั้นเตรียมการให้พวกเขาแบ่งแยกประเทศเอาไว้เรียบร้อยแล้ว
และ
แต่ว่า ก็ไม่มีใครกล้าตัดสินใจและเป็นผู้ที่ต้องรู้สึกผิดในการแบ่งประเทศออกเป็นส่วนๆ นอกจากนี้ เหตุใดพวกเขาถึงถูกโน้มน้าวให้ทําเรื่องนี้โดยที่ไม่แม้แต่จะพยายามสู้กันเพื่อแย่งชิงบัลลังก์?
“ขอบคุณสําหรับความตั้งใจของพวกท่าน พวกเราสองคนยินดีลงนามในข้อตกลงของกองกําลังร่วม!”
องค์ชายสามและองค์ชายสี่ ทั้งคู่ที่แปรพักตร์ไปเรียบร้อยแล้วก็ก้าวออกมา
เขาพวกมีโอกาสเพียงน้อยนิดที่จะแย่งชิงบัลลังก์ได้ตั้งแต่แรก ตอนนี้กองทัพของพวกเขายังพ่ายแพ้แก่ฟางหยวน พวกเขาสูญเสียไปมาก มันจึงเหมือนเป็นเรื่องที่ในยามยากสําหรับพวกเขาที่จะได้รับรางวัลขดเขยเช่นนี้
“น่ารังเกียจ”
พวกเจ้ามันก็แค่หัวขโมยในหมู่พวกเราเท่านั้น!
เห็นภาพนี้แล้ว เก่อรื่อถูกัดฟันและกําหมัดแน่นอย่างโมโห
“พวกเรา ยอมรับแผนการนี้”
ถึงอย่างนั้น มันก็เป็นเหตุเป็นผลที่จะตอบรับข้อตกลงนี้
น้ําตาไหลอาบแก้มทันทีที่เขาออกปากเห็นชอบในแผนการ
“ยินดีด้วย อาจารย์! ท่านได้สร้างประวัติศาตร์ขึ้นอีกเรื่องหนึ่งแล้ว!”
มองส่งองค์ชายทั้งหลายจากไป เซี่ยหลิงอวิ๋นก็เก็บงําความตื่นเต้นต่อไปไม่ไหวและร้องออกมา
อู่เฉียนคุนกัดริมฝีปากและเงียบอยู่เช่นเดิม
ถ้าเพียงแต่เขาจะคิดได้ว่าแผนการแบ่งแยกพวกเขาออกจากกันนั้น เป็นวิธีการสลายภาวะคุกคามของประเทศหยวน
เขารู้สึกเสียดายที่ไม่สามารถคิดแผนการดีงามเช่นนี้ขึ้นมาได้ภายใต้การนําของเขา
“ถ้าทุกอย่างในดินแดนทุ่งหญ้าสงบลง และคนผู้นี้หันมาสนใจประเทศอู่ ข้าควรจะทําอย่างไร?”
คิดอย่างนี้แล้ว อู่เฉียนคุนก็หวาดกลัวขึ้นมา
ตอนที่เขากําลังกลัว ฟางหยวนก็บังเอิญหันไปรอบ ๆ และมองมาที่เขา ทําให้เขาพูดอะไรไม่ออก
“ยังเร็วเกินไปที่จะพูดอย่างนี้”
ฟางหยวนมองเมืองหลงเชิงและก็ใจลอยไป ส่งคําสั่งลงไปให้ทหารทุกคนเพิ่มการระวังตัว เตรียมตัวรับการสอบจู่โจมจากประเทศหยวน!”
“อะไรนะ? “
เซี่ยหลิงอวิ๋นตกใจ
“แม้ว่าพวกเขาจะไม่พอใจ แต่ก็ยังไม่ได้สูญเสียความหวังทั้งมวล หากไม่พ่ายแพ้ พวกเขาจะเชื่อฟังเราได้อย่างไร?
ฟางหยวนหัวเราะ ราวกับมองพวกเขาทั้งหมดออกได้อย่างชัดเจน
เที่ยงคืน องค์ชายรองอากู๋ต๋าและองค์ชายแปดเก่อรื่อถู ร่วมมือกันเตรียมโจมตีค่ายทัพ แต่ว่ากลับเจอกับการซุ่มโจมตีและพ่ายแพ้อย่างสิ้นเชิง จ้าวเก่อถูถูกสังหาร ในวันถัดมา องค์ชายใหญ่ป้าถู เปิดเมืองหลงเชิงและยอมจํานน เขาสถาปนาตัวเองขึ้นเป็นราชา และองค์ชายอื่นๆก็เช่นกัน ความขัดแย้งที่จะยาวนานเป็นร้อยปีระหว่างองค์ชายแต่ละคนของดินแดนทุ่งหญ้า ในที่สุดก็เริ่มต้นขึ้น…
คอมเม้นต์