Immortal and Martial Dual Cultivation – ตอนที่ 175 โถงคุณความชอบ:ภารกิจของ นิกาย
ตอนที่ 175 โถงคุณความชอบ:ภารกิจของ นิกาย
“เจ้าคิดว่าจะทําไมอีกที่มีคนมากมายตรงตีนเขากําลังเปิดธุรกิจเช่นนี้ พวกเขาทั้งหมดตัดราคากันอย่างไร้ความปราณี”
เซี่ยวเฉินเข้าใจถึงปัญหาที่ไม่ใช่ความแข็งแกร่งของสัตว์อสูรวิญญาณ แท้จริงนั้นคือการสื่อสารที่ย่ําแย่ระหว่างเจ้าของมันต้องใช้วิธีพิเศษ
มันเป็นสิ่งที่มีเพียงตําหนักฝึกสัตว์อสูรของอาณาจักรต้าถังเท่านั้นที่สามารถทําได้ คนของอาณาจักรอื่นๆไม่ได้มีวิธีฝึกสัตว์ที่ยอดเยี่ยมนัก มันก็ดีมากแล้วที่พวกเขาสามารถฝึกสัตว์อสูรวิญญาณให้เข้าใจคําสั่งง่ายๆได้
อย่างไรก็ตาม,คนผู้นี้ดูตื่นเต้นเป็นอย่างมากเมื่อพูดคุยเกี่ยวกับมัน เซี่ยวเฉินไม่อยากขัดคอเขา,จึงปล่อยให้คนผู้นี้พูดต่อไปเรื่อยๆ หลังจากนั้น พวกเขาก็มาถึงยอด เซียวเฉินขอบคุณและจากนั้นก็ถามถึงตําแหน่งของโถงคุณความชอบทันที
ขนาดของฐานส่องสวรรค์เทียบได้กับเมืองขนาดเล็ก มีสิ่งปลูกสร้างสวยงามเรียงรายอยู่ทุกที่ แม้ว่ามันจะไม่ได้เป็นระเบียบเรียบร้อยนัก,มันก็มีเสน่ห์ของมัน มีผู้คนสัญจรไปมา,ช่างดูจอแจ
หลังจากที่เซี่ยวเฉินทราบตําแหน่งของโถงคุณความชอบ,เขาก็เริ่มมุ่งหน้าไปอย่างไม่รีบร้อน นี่เป็นครั้งแรกที่เขาไปที่แห่งนั้นเขาจึงไม่รู้ทาง หลังจากที่เดินมาเป็นเวลานาน,ในที่สุดเขาก็พบโถงคุณความชอบ
โถงคุณความชอบ…มันจะเป็นสถานที่เช่นไร? เซียวเฉินเดินเข้าไปพร้อมกับคาดเดาอยู่ในใจ มีผู้คนเดินเข้าออกโถงคุณความชอบไม่ขาดสาย
หรือว่าข้าจะมาผิดที่? เซี่ยวเฉินมองดูโดยรอบอย่างตกตะลึง เป็นห้องโถงขนาดใหญ่ที่เต็มไปด้วยโต๊ะที่นั่งและกลุ่มคน พวกเขาต่างกําลังกินดื่มและพูดคุยกันด้วยเสียงค่อย
หากว่ามันมีบริกร,มันก็คงจะเป็นร้านอาหารอย่างแน่แท้ นอกจากนั้นมันยังเป็นร้านอาหารธรรมดาที่ไม่ได้ตกแต่งหรูหรา
อย่างไรก็ตาม หากสังเกตอย่างรอบคอบ,พวกเขาจะพบว่าบรรยากาศที่นี่มันแตกต่างไปจากร้านอาหาร ไม่มีการพูดคุยเสียงดัง แม้ว่าจะมีคนหลายร้อยมารวมตัวกันที่นี่ก็ได้ยินเพียงเสียงกระซิบกระซาบ
กระนั้น,ทุกคนต่างปลดปล่อยรังสีฆ่าฟันหนาแน่นออกมา เมื่อรับสีฆ่าฟันหนาแน่นในห้องโถงมารวมกัน,มันราวกับสายน้ํานับร้อยเส้นที่ไหลมารวมกันเป็นมหาสมุทร
สําหรับคนที่ความแข็งแกร่งค่อนข้างตํา,พวกเขาอาจถึงกับหมดสติล้มลงไปในทันทีโดยรังสีฆ่าฟันที่พลุ่งพล่าน
เซียวเฉินนิ่งสงบและจดจ่อ
พร้อมกับรู้สึกได้ว่าสถานที่แห่งนี้ไม่ได้ธรรมดาอย่างที่เขาคิดเอาไว้ เขาจับกระบี่เงาจันทร์ไว้แน่นและค่อยๆเดินตรงไปที่เคาน์เตอร์อย่างช้าๆ
โต๊ะในห้องโถงขนาดใหญ่ถูกจัดเรียงอย่างเป็นระเบียบ มีทางเดินผ่ากลางเข้าไป เมื่อเซี่ยวเฉินกําลังเดินเข้าไปเขารู้สึกประหลาด เขาเป็นคนเดียวที่อยู่บนทางเดิน
“เครั้ง!”
กระบี่พุ่งผ่าอากาศและลอยตรงมาทางเขา เซียวเฉินชักกระบี่เงาจันทร์ออกมาปัดป้องออกไปโดยง่าย
ขณะที่กระบี่เล่มนั้นกําลังจะตกถึงพื้น,มีแรงดูดแข็งแกร่งดึงมันไป เจ้าของกระบี่เล่มนั้นสวมเครื่องแบบของยอดเขา ว่านเหริน เขามองเหี่ยวเฉินอย่างเย็นชาและพูดขึ้น “เจ้าเด็กเหลือขอนี่โผล่มาจากไหนเจ้าไม่รู้กฎ? มันถึงตาของเจ้าที่จะเข้าไปรับภารกิจ?”
เซี่ยวเฉินมองไปในทิศทางของเสียง ในทิศทางนั้น,มีสานุศิษย์ประมาณสิบคนที่สวมชุดเครื่องแบบของยอดเขาว่านเหริน พวกเขาจ้องมองมาที่เซี่ยวเฉินพร้อมเจตนาฆ่าฟัน
ศาลากระบี่สวรรค์ไม่เคยห้ามให้สานุศิษย์เข้าต่อสู้กัน ตราบใดที่พวกเขาไม่ต่อสู้กันถึงตายหรือพิการ,โถงคุมกฏก็จะไม่เข้ามาสนใจเกี่ยวกับมัน
ไม่ไกลนัก มีบางคนเห็นเหรียญแสดงตนของยอดเขาฉิงหยุนของเซี่ยวเฉิน เขาอดไม่ได้ที่จะเยาะเย้ย “ข้าก็คิดว่า เป็นใครเจ้าคนที่ไม่รู้กฏที่แท้เป็นคนจากยอดเขาฉิงหยุน”
“เจ้ามาจากยอดเขานิ่งหยุน แค่เชื่อฟังและไปหาโต๊ะนั่งลงซะ วันนี้เป็นวันที่โถงคุณความชอบจะจ่ายภารกิจนิกายระดับสูง หลังจากศิษย์แก่นกลางของยอดเขาต่างๆรับภารกิจของพวกเขาไป จากนั้นโถงคุณความชอบก็จะกลับสู่ปกติ”
เนื่องจากเป็นภารกิจของนิกาย,พวกมันจึงแบ่งระดับความยากของรางวัลก็จะต่างกันไปด้วยเช่นกัน รางวัลของภารกิจระดับสูงปกติก็จะสูงอย่างน่าตกตะลึง
นอกจากนั้น,ภารกิจระดับสูงก็ไม่มีเข้ามาเป็นประจําความจริง,พวกมันค่อนข้างหายาก เหมือนกับคําพูดที่ว่า: “คนมากมาย แต่มีเนื้อน้อยชิ้น
เพื่อที่จะป้องกันไม่ให้ภารกิจระดับสูงถูกคนอื่นฉกเอาไป,สานุศิษย์ของห้ายอดเขาใหญ่จึงตั้งกฏกันขึ้นมาเอง ทุกครั้งที่มีภารกิจระดับสูงเข้ามา มันก็จะถูกจัดสรรกันระหว่างสานุศิษย์แก่นกลางของแต่ละยอดเขา
คนจากโถงความชอบก็ยังคงปิดตามองข้ามสิ่งนี้ไป ความยากของภารกิจระดับสูงนั้นสูง และมันยากกว่าภารกิจทั่วไปอย่างมาก หากสานุศิษย์แก่นกลางเป็นคนจัดการพวกมัน, พวกมันก็จะสําเร็จได้รวดเร็วยิ่งกว่า
เซี่ยวเฉินได้เข้ามาผิดเวลา,ช่างบังเอิญที่มีภาระกิจระดับสูงเข้าเข้ามาในวันนี้พอดี พวกสานุศิษย์จากยอดเขาใหญ่ต่างกําลังคุยกันนอกรอบว่าจะแบ่งสรรภารกิจระดับสูงกันเช่นไร
ก่อนที่จะสรุปผลได้,เหล่าสานุศิษย์ชั้นในต่างไม่กล้าลงมือทําอะไร พวกเขาเกรงว่าจะทําให้เกิดการเข้าใจผิด ทําให้ผู้คนต่างคิดว่าเขาจะเข้าไปเอาภารกิจระดับสูง
มีศิษย์ที่ใจดีที่อธิบายรายละเอียดให้เซียวเฉินฟัง เขาแนะนำให้เซี่ยวเฉินนั่งลงและรับภารกิจหลังจากที่ภารกิจระดับสูงถูกเอาไปแล้ว
“อย่าได้แนะนําเขาเขาไม่ได้ใจใส่ท่านเจ้ายอดเขาซื้อขึ้นแม้แต่น้อย พวกนั้นก็แค่ศิษย์แก่นกลางของห้ายอดเขาใหญ่ เขาจะไปใส่ใจทําไม?” มีบางคนที่จําเซียวเฉินได้
“เหะเหะ, จริงแท้,ข้าคิดว่าเขาตั้งใจทําเช่นนั้น”
“เป็นแค่ระดับขอบเขตปรมาจารย์ยุทธขั้นต้น ข้าคงจะสามารถขยี้เขาได้ด้วยมือเดียว ข้าไม่เชื่อว่าเขาจะสามารถแลกฝามือกับระดับขอบเขตกษัตริย์ยุทธได้” กล่าวโดยศิษย์ยอดเขาว่านเหรินที่ลงมือกับเซี่ยวเฉินเมื่อก่อนหน้านี้
เขาได้ก้าวขึ้นสูงระกับขอบเขตปรมาจารย์ยุทธขั้นสูงเรียบร้อยแล้ว,ขอบเขตพลังของเขาสูงกว่าเซี่ยวเฉินสองขั้น เขาจ้องมองไปที่เซี่ยวเฉินด้วยสายตายั่วยุ
ภารกิจระดับสูง? หากเป็นเช่นนั้นจริง,มันก็อาจจะทําให้ข้าได้รับ 500 แต้มภายในหนึ่งเดือน อย่างไรก็ตาม,ที่นี่เหมือนจะเสียงดังจริง
“หัตถ์จับมังกร!”
เซี่ยวเฉินสูดจมูกอย่างเย็นชาและเจตนาฆ่าฟันเข้มข้นปรากฏขึ้นในดวงตาของเขา มือขนาดยักษ์ปรากฏขึ้นมาจากความว่างเปล่าและลอยผ่านฝูงคนไป จากนั้นมันก็ตบลงไปที่ศิษย์ยอดเขาว่านเหงินผู้นั้น
ฝูงคนแตกกระจายออกไปในทันที มือยักษ์สีดําตบลงไปที่โต๊ะ ภายใต้พลังมหาศาล,โต๊ะแตกกระจายเกิดเป็นเสียงดัง,เติมเต็มอากาศไปด้วยเศษไม้
ภายในห้องโถงขนาดใหญ่ของโถงคุณความชอบ,ทุกคนล้วนมองไปที่เซียวเฉินอย่างตกตะลึง พวกเขาไม่คาดคิดว่าเซี่ยวเฉินจะลงมือ อย่างไรก็ตามเขาตัวคนเดียวเขาจะสามารถต่อกรกับศิษย์ยอดเขาว่านเหงินมากมายได้เยี่ยงไร?
“เจ้ากล้าลงมือกับข้า หากข้าไม่สั่งสอนเจ้าให้หลาบจํา และมีความเคารพรุ่นพี่ ชื่อของข้าก็ไม่ใช่หลี่โหยว” คนหัวหน้าสาปด่าเมื่อเขาเห็นว่าเซี่ยวเฉินกล้าลงมือ
“ฮ่ะ!” ขณะที่เขากําลังเตรียมตัวนาศิษย์ยอดเขาว่านเหรินบุกขึ้นหน้าไปเมื่อยักษ์สีดําทันใดนั้นก็ยกขึ้นไปราวกับเงาปีศาจและกําเป็นหมัด หลี่โหยวที่ลดการป้องกันลงถูกมือนั้นจับตัวเอาไว้
เซี่ยวเฉินดึงเบาๆและมีพลังมหาศาลดึงตัวหลี่โหยวขึ้นหน้ามา เซียวเฉินชกไปที่หน้าอกของเขาอย่างรุนแรง
มือยักษ์สีดําจางหายไป เมื่อกําปั้นของเซี่ยวเฉินซัดเข้าที่หน้าอกของเขามันทําให้เขากระอักเลือดออกมาเต็มปากและตกตลงไปกองกับพื้น
“ปัง!” เมื่อหลี่โหยวดิ้นรนพยายามจะลุกขึ้นยืน,เซี่ยวเฉิน
ลงไปที่หน้าอกของเขาและกดเขากลับลงไปบนพื้น เซี่ยวเฉินใส่แรงลงไปทั้งหมดกดลงไป ทําให้หลี่โหยวกระอักเลือดออกมาอีกคําใหญ่
“ก็แค่ลอบโจมตี, จะเรียกว่ามากฝีมือได้เช่นไร? หากเจ้ากล้าพอก็ปล่อยข้าไปและสู้กับข้าอีกครั้ง!” หลีโหยวตะโกนออกมาอย่างหมดหนทาง;เขาพยายามอย่างที่สุดในการต่อต้านเท้าของเซียวเฉิน แต่ก็เปล่าประโยชน์
เซียวเฉินไม่ใช่เด็กน้อยสามขวบ,เป็นเรื่องปกติ,ที่เขาจะไม่หลงกลของหลีโหยว สานุศิษย์ยอดเขาว่านเหรินประมาณสิบคนรีบตรงเข้ามา แต่เนื่องจากมีหลี่โหยวอยู่ใต้เท้าของเซียวเฉิน พวกที่เหลือไม่กล้าผลีผลาม
เมื่อหลีโหยวเห็นสถานการณ์,เขาตะโกนขึ้น “ทําอะไรสักอย่าง! ที่นี่คือศาลากระบี่สวรรค์ มันไม่กล้าสังหารข้าหรอก”
“ฆ่า!”
เมื่อฝูงคนได้ยินเช่นนั้น พวกเขาไม่ลังเลอีกต่อไป พวกเขายกกระบี่ขึ้นมาพร้อมกับกระบี่แสงและพุ่งเข้าใส่เซียวเฉิน
เซี่ยวเฉินยิ้มบางๆและใช้ออกมโนภาพสามกระแสเมฆา โดยไม่แม้แต่จะชักกระบี่เงาจันทร์ออกมาจากฝัก เขากลายไปเป็นมหาสมุทรอันไร้ขอบเขต:เขาไม่ไหวนิ่งแม้แต่น้อย เผชิญหน้ากับการโจมตีที่เข้ามาไม่หยุด
กระบี่เงาจันทร์ราวกับสายน้ําไหล,สร้างรอยแยกขึ้นขณะที่มันเปลี่ยนตําแหน่งไปอย่างรวดเร็ว พวกคนที่เข้าโจมตีใส่เซี่ยวเฉินพวกเขารู้สึกราวกับกําลังฟันลงไปบนผิวน้ํา
พวกเขาทําให้ผิวน้ําสั่นไหว,สร้างคลื่นขนาดใหญ:มหาสมุทรโยกโยนแปลเปลี่ยน อย่างไรก็ตาม,หลังจากผ่านไปครู่หนึ่ง,ผิวน้ําก็กลับมานิ่งสงบมันกลับกลายมาเป็นผิวกระจกอีกครั้ง ไม่มีรอยแม้แต่น้อย
น้ํานิ่งสมบูรณ์,ตอบโต้โดยไม่ตอบโต้ การโจมตีที่ซัดเข้ามา ที่กระบี่ของเขาดีดกลับไปที่ตัวพวกเขาเอง ในจังหวะนั้นทุกคนล้วนตกตะลึง
ผ่านไปครู่หนึ่ง,การโจมตีอีกระลอกส่งไปที่เซี่ยวเฉิน เหมือนก่อนหน้านี้ เซี่ยวเฉินไม่ขยับแม้แต่นิ้วเดียว หัวใจของเขานิ่งสงบราวกับน้ํานิ่ง ฝักกระบี่ของเขาปัดป้องทุกการโจมตี
“เคร้ง! เครั้ง!”
การโจมตีห้าระลอกถูกตีกลับไป เซี่ยวเฉินหมดความอดทน และชักกระบี่เงาจันทร์ออกมาพร้อมเสียง “ชะเว้ง มีแสงเย็นเสียดแทงเมื่อมันถูกชักออกมาจากฝัก
เซียวเฉินแทงลงไปที่หลี่โหยวด้วยกระบี่เงาจันทร์ในมือขวาของเขา
ด้วยเสียง “ฟุ่วฟิ่ว”, ปลายกระบี่แทงลงไปห่างหนึ่งนิ้วจากหัวใจของหลี่โหยว มันทําให้เลือดพุ่งกระฉุดออกมาอย่างต่อเนื่อง
ในโถงใหญ่ที่แต่เดิมก็เงียบอยู่แล้วกลายเป็นเงียบอย่างสมบูรณ์ ทุกๆคนในโถงใหญ่ปากเปิดกว้าง พวกเขาทั้งหมดนิ่งอึ้ง,ราวกับว่ามีการลัดวงจรในสมองของพวกเขา
ด้วยมุมมองด้านข้าง,ทุกคนคิดว่าเซี่ยวเฉินได้แทงทะลุหัว ใจของหลี่โหยวด้วยกระบี่ของเขา พวกเขาทั้งหมดคิดว่าเซี่ยวเฉินได้ไปกินดีหมีตับมังกรมา เขากล้าสังหารคนในโถงคุณ ความชอบ
เซี่ยวเฉินดึงกระบี่กลับมาจากร่างของหลีโหยวอย่างรวดเร็วเกิดเป็นเลือดมากมายพุ่งกระฉูด ในทันทีที่สานุศิษย์ยอด เขาว่านเหรินกําลังวอกแวกเขาใช้ออกมโนภาพสามกระแสเมฆา
ร่างของเซียวเฉินกลายเป็นเลือนลาง มันราวกับว่าทั่วทั้งพื้นที่เติมเต็มไปด้วยร่างภาพของเซียวเฉิน เมื่อร่างภาพทั้งหมดกลับมาผสานกัน,กระบี่ได้ซัดไปที่หน้าอกของสานุศิษย์ ยอดเขาว่านเหรินทุกคน มีกระแสไฟฟ้าแตกตัวอยู่บนบาดแผลของพวกเขาพร้อมกับเลือดที่ไหลออกมาอย่างต่อเนื่องมันเจ็บปวดอย่างมาก
สานุศิษย์ยอดเขาว่านเหรินทุกคนล้มลงไปกองกับพื้น,ส่งเสียงอิดโรยด้วยความเจ็บปวด มันช่างเสียดแทงไปในห้องโถงใหญ่ที่เงียบสงัด
“ฟุ! ฟู!”
ทันใดนั้นก็มีคนสองคนปรากฏตัวออกมาจากความว่างเปล่าและตรวจดูอาการบาดเจ็บของหลีโหยว พวกเขารีบกดลงไปบนจุดชีพจรของเขาและแลกเปลี่ยนสายตากัน พวกเขาเมินเฉยกับอาการบาดเจ็บของคนที่เหลือและถอยกลับไป
เซี่ยวเฉินเข้าใจว่าคนพวกนั้นคือยามของโถงคุณความชอบ หากเขาลงมือสังหารหลี่โหยวจริงๆ พวกเขาจะไม่นิ่งเฉย
เซี่ยวเฉินเดินหน้าต่อไป
เมินเฉยกับสายตาทุกคู่ เขาเมินเฉยกับทุกสิ่งอย่างสมบูรณ์,รวมถึงกฏที่ยอดเขาใหญ่ตั้งขึ้นมาเพื่อพวกเขาเอง เขาอยากจะไปดูว่ามีภารกิจระดับสูงเช่นไรบ้าง
ในความคิดเห็นของเซียวเฉินในเมื่อมันเป็นภารกิจจากโถงคุณความชอบ,ทุกคนก็มีสิทธิ์ที่จะรับมัน การผูกขาดภารกิจเช่นนี้เป็นการข่มขู่
นอกจากนั้น เซี่ยวเฉินต้องการแต้มสะสมอย่างเร่งด่วน แม้ว่าเขาได้ไปยั่วยุคนพวกนั้นมันก็ไม่ได้สําคัญ เขาได้ยั่วยุคนพวกนี้ตั้งแต่เรื่องที่ฐานสวรรค์ลอยฟ้า,ดังนั้นเรื่องนี้ก็ไม่ได้สร้างความแตกต่างไปสักเท่าไหร
คอมเม้นต์