SD:บทที่ 69 กินอย่างกับวัว

เหี้ย …(ทุกคนอยากตะโกนออกมาเมื่อได้ยินคำพูดนั้น)

เมื่อได้ยินคำพูดของจักรพรรดิฉิน ซู ฉิวไป่ อยากจะเตะเขาจริงๆ ฉันพยายามที่จะสร้างสันติภาพอย่างสันติตลอดเวลาแต่ดูเหมือนคุณพยายามที่จะก่อเรื่อง!!

แน่นอนว่าเมื่อได้ยินคำพูดนี้ผู้คนต่างหยิบอาวุธขึ้นมาเตรียมพร้อมอีกครั้ง

“เจ้ากล้ามากที่พูดแบบนี้ ราชวงศ์ถังของข้าปกครองมาเป็นเวลา 289 ปี  โดยธรรมชาติแล้วข้าคงไม่สามารถเปรียบเทียบกับราชวงศ์ฉินของท่านได้ ข้าได้ยินมาว่าท่านเป็นจักรพรรดิองค์แรกที่สามารถรวมอาณาจักรทั้ง 6 ไว้ได้ ดังนั้นข้าอยากจะเห็นว่าท่านจะเก่งแค่ไหนในวันนี้”

“แม้ว่าราชวงศ์ชิงจะไม่สามารถเปรียบเทียบได้กับราชวงศ์ถังแต่ก็ยังดำรงอยู่ถึง 268 ปี…”

“ข้าเคยได้ยินเกี่ยวกับนักสังหารระดับพระเจ้า ไป๋ฉี ผู้พิชิตแห่งประเทศจีน มาลองทดสอบความสามารถของเจ้ากันเถอะ”

“….”

โอ้ไม่ !พวกเขากำลังจะต่อสู้กัน!

ซู ฉิวไป่ รู้สึกเป็นทุกข์เมื่อเขาเห็นว่าทั้งสองฝ่ายเตรียมพร้อมที่จะต่อสู้ทันใดนั้นเขาก็ตะโกนขึ้นอีกครั้ง

“ผมขอเตือนทุกคน ใครก็ตามที่เริ่มต่อสู้อย่าคิดว่าจะได้กลับบ้าน!อย่าคิดแม้แต่จะคิดถึงภรรยาและลูกๆของพวกคุณอีกต่อไป!”

ซู ฉิวไป่ ตะโกนอย่างดังและจ้องมองทุกคน

ไม่ต้องคิดเยอะพวกคุณเป็นจักรพรรดิ แต่ทุกคนอยู่ในยุคปัจจุบันดังนั้นพวกคุณจะต้องทำตามกฎของฉัน! ในยุคปัจจุบันไม่มีระบบศักดินาอีกต่อไปมีแต่ประเทศสังคมนิยมเท่านั้น ถ้าคุณไม่ฟังฉันอย่าคิดว่าจะได้ขึ้นแท็กซี่!!

อันที่จริงคำพูดของเขามีผลกระทบกับเหล่าจักรพรรดิเหล่านั้นแม้กระทั่งจักรพรรดิฉินเองยังคงเงียบลง ภายในบาร์เต็มไปด้วยความเงียบสงบ  ซู ฉิวไป่ ถอนหายใจลึกๆ ไม่น่าจะมีปัญหาอีกแล้วในตอนนี้เขาวางแผนที่จะพาทุกคนไปจากที่นี่

ทันใดนั้นเขาก็หันไปมอง  เซียเซียวโม่ ที่นอนเป็นลมอยู่กับพื้น

หลังจากคิดอย่างรอบคอบ ซู ฉิวไป่ เข้าไปอุ้ม เซียเซียวโม่ ขึ้นโดยการจับเอวของเธอจากนั้นเขาส่งสัญญาณให้ทุกคนรอก่อนในขณะที่เขาเดินออกไปจากบาร์

กู่จ้านชุน และตำรวจรออยู่ด้านนอกอย่างใจจดใจจ่อ มีผู้สื่อข่าวเพียงไม่กี่คนเท่านั้นที่รอทำข่าว กล้องของนักข่าวได้จับภาพฉากที่ ซู ฉิวไป่ อุ้ม เซียเซียวโม่ ออกมา ผู้ชมรู้สึกตื่นเต้นทันทีแม้แต่ กู่จ้านชุน ยังวิ่งเข้าไปอย่างกระตือรือร้น

“คุณซู…นี่คือ?” กู่จ้านชุน ถามขึ้นเบาๆ

“เธอคือตัวประกัน คุณคงรู้แล้วว่าอะไรเกิดขึ้นกับเธอ คนที่อยู่ข้างในเป็นเพื่อนของผม พวกเขาเกิดการเข้าใจผิดก่อนหน้านี้ ช่วยขอให้ตำรวจถอยออกไปและเตรียมรถคันใหญ่ไว้ให้กับผมผมจะพาพวกเขาไป ผมรับประกันได้ว่าเรื่องเหล่านี้จะไม่เกิดขึ้นอีก”

ถึงแม้ว่า ซู ฉิวไป่ จะไม่ชัดเจนเรื่องสถานะของ กู่จ้านชุน  แต่เขาสามารถเดาได้ว่าฐานะและตำแหน่งของ กู่จ้านชุน ค่อนข้างสูงและมีอำนาจในการที่จะสั่งตำรวจให้ทำตามคำสั่งของเขา นั่นยิ่งทำให้เขาสงสัยเกี่ยวกับตระกูลกู่มากยิ่งขึ้น แต่ในเวลานี้ไม่ใช่เวลาที่จะมาคิดเรื่องนี้ หลังจากที่ กู่จ้านชุน เห็นด้วยเขาจึงกลับเข้าไปยังบาร์อีกครั้ง

สถานการณ์ด้านนอกเริ่มเคลื่อนไหวตามแผนการของ ซู ฉิวไป่ รถตำรวจและรถคันอื่นๆเริ่มถอยออกไปฝูงชนเริ่มกระจายตัวออกไปเช่นกัน สุดท้ายแล้วไม่มีผู้บาดเจ็บสักคนเดียว

จากนั้นหลังจากที่ กู่จ้านชุน โทรหา กู่เทียน  ว่าเรื่องทั้งหมดได้รับการแก้ไขแล้ว  กู่เทียน รู้สึกอยากรู้อยากเห็นมากเกี่ยวกับความเป็นมาของคนเหล่านี้ แต่หลังจากที่รู้จัก ซู ฉิวไป่ แล้ว กู่เทียน รู้ดีว่าคนขับรถแท็กซี่คนนี้ไม่ใช่คนธรรมดา ดังนั้นจึงสั่งให้ กู่จ้านชุน ให้ดำเนินการสังเกตสถานการณ์ต่อไปหลังจากวางสาย

ในบรรดาผู้คนสองกลุ่มยังคงจ้องมองกันอย่างเงียบๆ  ซู ฉิวไป่ ไม่มีเวลาสนใจเรื่องนี้และขอให้พวกเขาติดตามตัวเองออกไป

กู่จ้านชุน ได้เตรียมรถคันใหญ่ไว้แล้วและเมื่อกลุ่มคนออกมาจากบาร์พวกเขาขึ้นไปยังรถและออกจากสถานที่แห่งนี้ทันที

ในขณะนี้พบกับผู้โดยสารทั้ง 5 คนของเขาแล้ว อย่างไรก็ตามปัญหาในตอนนี้คือพลังงาน พลังงานที่จำเป็นสำหรับเปิดช่องมิติเวลาคืออะไร?ฉันจะหาได้จากที่ไหน

หลังจากที่กลับมายังวิลล่าเขาได้มอบห้องพักให้แต่ละคน  ซู ฉิวไป่ รู้สึกพอใจกับ เฉา ตั้วเฟย มากดูเหมือนว่าการเช่าสถานที่แห่งนี้เหมาะสมไม่แออัดเกินไปแม้กระทั่งมีคนจำนวนมากอยู่ในวิลล่าหลังนี้

เช้าวันต่อมา ซู ฉิวไป่ สั่งอาหารและเดินออกจากวิลล่าพร้อมกับ เฉา ตั้วเฟย

“ บอสคนเหล่านี้..”

ในที่สุด เฉา ตั้วเฟย ก็อดไม่ได้ที่จะกระซิบถามเบาๆ เขากำลังหวั่นเกรงกับความคิดในจิตใจของเขาแต่ดูเหมือนว่าการคาดเดาของเขาจะถูกต้อง!

ซู ฉิวไป่ พยักหน้าให้กับ เฉา ตั้วเฟย อย่างไม่ลังเล เขาไม่มีข้อแก้ตัวใดๆที่จะโกหกอีกต่อไป หลังจากเหตุการณ์ในวันนี้อย่างไรก็ตาม หลังจาก เฉา ตั้วเฟยได้รับการยืนยัน จาก ซู ฉิวไป่  ขาของเขาก็อ่อนลงอย่างกะทันหันจนเกือบนั่งลงกับพื้น

เวรแล้ว!วันนั้นฉันสอนคนเหล่านั้นในการเล่นไพ่และฉันยังเรียกพวกเขาว่าคนบ้า โอ้พระเจ้า!

ซู ฉิวไป่ ไม่ใส่ใจ เฉา ตั้วเฟย ที่ตกตะลึงอีกต่อไปเขารู้สึกหงุดหงิดเกี่ยวกับเรื่องที่เขาไม่สามารถหาพลังงานได้ ไม่มีคำใบ้เกี่ยวกับเรื่องนี้เลย ถ้ายังคงเป็นอย่างนี้ต่อไป.. 10 วัน…หรือจะเป็น 10 ปีเขาก็ไม่สามารถทำสิ่งนี้ได้สำเร็จ!

หลังจากที่ ซู ฉิวไป่ สูบบุหรี่ อาหารที่สั่งก็มาถึงดังนั้นเราจึงให้ เฉา ตั้วเฟย เข้าไปดูจักรพรรดิเหล่านั้นกินอาหาร ในขณะนี้เขาจึงรู้สึกขมขื่นเป็นอย่างมาก สำหรับจักรพรรดิเหล่านั้นมันเหมือนกับการเดินทางท่องเที่ยวที่ยอดเยี่ยมแต่สำหรับเขานั้น… มันเลวร้ายมาก!

เขาส่ายหัวและนอนลงกับพื้นจากนั้นเปิดระบบนำทางอีกครั้ง เขาวางแผนที่จะศึกษาระบบว่ามีเบาะแสใดๆที่เกี่ยวกับพลังงานหรือไม่

…..

ในเวลาเดียวกันในห้องของคาร์ล จอร์จกำลังมองชายหนุ่มคนหนึ่งผมยาวที่ยืนอยู่ตรงหน้าของเขาอย่างจริงจัง เมื่อไม่กี่ชั่วโมงที่ผ่านมาเขาได้รับข่าวสารจากสายลับในสมาคมนักแข่งและพบว่าคนที่แข่งรถกลับคาร์ลนั้นคือคนขับแท็กซี่ที่ชื่อ ซู ฉิวไป่

ไม่เพียงแค่นั้น เขายังรู้เกี่ยวกับเหตุการณ์ที่สนามแข่งนอกเมืองถนนคังจวงในเมือง ชิงเหออีกด้วย

คนขับรถแท็กซี่คนนี้ไม่ใช่คนที่สามารถจัดการได้อย่างง่ายๆ ตามรายงานที่เขาได้รับเกิดเหตุการณ์ประหลาดในระหว่างการแข่งขันจนถึงเรื่องที่พี่น้องที่น่ากลัวของ ซู ฉิวไป่ ต้องการจัดการกับ จุนเสี่ยวเตา

สำหรับเรื่องการแข่งขันนั้นไม่คุ้มค่าที่จะพูดถึงแต่สำหรับจอร์จเรื่องนี้สำคัญเป็นอย่างมาก

เพราะหลังจากผ่านเรื่องนี้ไปองค์กรของเขาได้แพ้เกมการแข่งขันนี้และคนที่พวกเขาโกรธแค้นมากที่สุดก็คือ ซู ฉิวไป่!

“ หัวหน้าพูดว่ายังไงบ้าง?”

จอร์จหายใจเข้าลึกๆและถามคนที่อยู่ตรงหน้า

“พวกเขาสั่งให้ฆ่าชายคนนั้นเสีย!”

“จะเอาอย่างนั้นหรอ?แต่ความแข็งแกร่งของเขา..”เมื่อพูดออกมาได้เพียงเท่านี้เขาก็ถูกขัดจังหวะ

“ไม่ต้องกังวล พวกเราไม่จำเป็นต้องลงมือเอง หมาป่าดำกลับปีศาจจันทราจะจัดการในเรื่องนี้เอง!”

จอร์จรู้สึกเป็นกังวลเล็กน้อย หลังจากที่เขารู้ว่าพี่น้องของ ซู ฉิวไป่ นั้นทรงพลังอย่างน่ากลัว อย่างไรก็ตามหลังจากได้ยินว่าหมาป่าดำกับปีศาจจันทราจะจัดการเรื่องนี้เขาจึงรู้สึกผ่อนคลายขึ้นทันที

ทั้งสองคนนี้มีชื่อโด่งดังระดับโลก  หนึ่งคือสุดยอดนักฆ่าและอีกหนึ่งคือสุดยอดนักรบ หมาป่าดำกับปีศาจจันทราทั้งสองคนอยู่ในอันดับต้นๆของรายชื่อ พวกเขามีชื่อเสียงในโลกใต้ดิน!

การอยู่ระดับต้นๆของระดับนั้นไม่ใช่เรื่องธรรมดาที่คนทั่วไปจะสามารถมาถึงตำแหน่งนี้ได้ และเนื่องจากพวกเขาเป็นคนจัดการดังนั้นจึงไม่จำเป็นต้องกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์ที่ไม่คาดคิด แน่นอนว่า ซู ฉิวไป่ ไม่ใช่นักสู้ระดับโลก งานในครั้งนี้คงไม่ใช่เรื่องยากสำหรับทั้งสองคน

ซู เซี่ยวเซี่ยว ได้เวลาที่จะออกจากโรงพยาบาลแล้วดังนั้นเราจึงตั้งใจที่จะไปรับเธอมายังวิลล่าหลังนี้แต่เมื่อเขาเข้ามาในบ้านเขาก็พบกับ กล่องอาหารทั่วพื้น

นี่มันคืออะไร?

ในขณะที่เขากำลังสงสัย เฉา ตั้วเฟย ก็เดินออกมาเงียบๆ

“บอสผมให้คุณทายผมซื้ออาหารเข้ามากี่อย่าง?”

ซู ฉิวไป่ มองไปที่ เฉา ตั้วเฟย จากนั้นมองไปยังกล่องที่กระจัดกระจายอยู่บนพื้น บรรพบุรุษทุกคนต่างนอนขี้เกียจอยู่บนโซฟาทันใดนั้นเขาก็เข้าใจทันทีว่าเกิดอะไรขึ้น

150 จาน! คุณพอจินตนาการได้ไหมว่าคน 11 คนกินอาหารไป 150 จาน?ไม่ได้แปลกใจเลยในนิยายเคยกล่าวถึงว่าเซียงหยูกินเหมือนวัวในแต่ละวัน…นี่มันคือเรื่องจริง!

ซู ฉิวไป่ โบกมือของเขาอย่างพูดไม่ออก ทั้งสองคนเริ่มช่วยกันเก็บถุงพลาสติกและกล่องที่กระจัดกระจายอยู่บนพื้น  ซู ฉิวไป่ บ่นพึมพำด้วยความโกรธในขณะที่เขาทำความสะอาด คนเหล่านี้ช่างไร้ประโยชน์จริงๆ!

ในเวลาเดียวกันนักสู้ทั้งสองคนหมาป่าดำกับปีศาจจันทราก็มาถึงเมืองตงไห่

——————————————–