Carefree Path of Dreams – ตอนที่ 195
ประเทศเอี๋ยน ทะเลสาบมังกรพิษ
นี่เป็นสถานที่ที่มีชื่อเสียงของประเทศเอี๋ยนและตั้งอยู่ลึกบนเขา มันปกคลุมไปด้วยหมอกพิษสีเขียว และยังมีหลายคนบอกว่าเคยเห็นมังกรที่นี่!
หมอกนั้นเป็นพิษร้ายแรงและไม่มีสัญญาณของสิ่งมีชีวิตในรัศมี 10 ลี้จากทะเลสาบ
ไม่ไกลนักมียอดเขายอดหนึ่ง
ผู้ฝึกยุทธ์ในชุดรัดกุมรออยู่อย่างมีความหวัง
ผู้ชายในชุดดําใบหน้ามีรอยแผลเป็นมองไปที่หมอกพิษ คว้าไก่ฟ้าสีทองตัวหนึ่ง โยนมันเข้าไปในหมอกพิษ
“กระต๊าก!”
ไก่ฟ้าสีทองกระพือปีกของมันเร็ว ๆ พัดหมอกพิษออกไป ตอนที่มันร้อง ก็ก่อเกิดความกลัวในหัวใจของผู้ฝึกยุทธ์ตรงนั้น
“ตุบ!”
มันฟุบลงกับพื้นและไม่ขยับอีกเลย
“ซ่า! ซ่า!”
ขณะที่สายลมพัด ขนเปรอะเปื้อนก็ปลิวไปทั่วและหายไปอย่างรวดเร็ว
ซากของไก่ฟ้าสีทองตอนนี้ก็เป็นแค่แอ่งเลือดหย่อมหนึ่งไหลไปตามพื้น
“บ้าชะมัด! เป็นสถานที่ที่อันตรายจริง ๆ !”
ชายแผลเป็นกลืนน้ำลาย “แม่นางหูซาน มีมรดกล้ำค่าซ่อนอยู่ที่นี่จริง ๆ หรือ?”
“แน่นอน!”
ผู้หญิงที่ข้าง ๆ เขาตอบ นางเป็นหญิงวัยกลางคนสวมชุดคลุมหนัง นางสวมเข็มขัดจากหนังวัวและบนเข็มขัดห้อยมีดบินสิบเล่มเอาไว้ มีดแต่ละเล่มนั้นคมกริบสะท้อนแสงเป็นประกาย
“หากไม่ใช่เพราะหมอกพิษจะมีรัศมีเพียงสิบล้ำนี้และไม่กระจายออกไป ข้าก็คงไม่กล้ามาที่นี่!”
แม่นางหูซานมองหมอกสีเขียวแล้วพูดอย่างหวาดกลัว
บรรพบุรุษของนางได้รับข้อมูลลับเกี่ยวกับมรดกนี้เมื่อร้อยปีก่อน ไม่มีใครสามารถฝ่าเข้าไปในหมอกได้แม้จะมีความพยายามมาหลายชั่วคนแล้ว อันที่จริง เรื่องนี้ทําให้ตระกูลของนางหมกมุ่นจนไม่ประกอบอาชีพอื่นและนํามาซึ่งความยากจนของตระกูล
ดังนั้น หลังจากสํานักหยวนก่อตั้งขึ้น แม่นางผู้นี้ก็สาบานตนเข้าร่วมสํานักอย่างกล้าหาญ
“แต่ว่า…. หากทําเรื่องนี้สําเร็จ ข้าก็จะได้รับแผ่นหยกพันความดี และข้าก็สามารถใช้มันแลกเปลี่ยนกับวิทยายุทธ์ดี ๆ จากสํานักได้!”
ชายแผลเป็นเลียริมฝีปากอย่างริษยา
“กระทั่งห้าผู้อาวุโสแห่งแม่น้ำหลี่ยังไม่สามารถรอดชีวิตกลับออกมาได้ ข้าเพียงหวังว่าตัวแทนสํานักจะไม่กล่าวโทษข้า!”
แม่นางหูซานยิ้มอย่างจนปัญญา
“แกร๊ก! แกร๊ก!”
ทันใดนั้น จุดสีดําก็ปรากฏขึ้นที่ขอบฟ้า
จุดสีดํานั้นบินข้ามฟ้ามาอย่างรวดเร็ว เมื่อมันใกล้เข้ามา พวกเขาถึงบอกได้ว่ามันเป็นนกวิญญาณขนาดยักษ์ มันมีขนสีขาว ดวงตาแดงก่ำ และมีท่าทางหยิ่งยะโส
ที่น่าตกใจที่สุดก็คือมันมีรัศมีพลังของผู้ฝึกยุทธ์ระดับประตูทองที่ 12!
“อ๋า! นกวิญญาณนี้ยังดูแกร่งกล้ากว่าห้าผู้อาวุโสแห่งแม่น้ำหลี่เสียอีก!”
ชายแผลเป็นใบหน้าซีดลง “ทําไมมันถึงมาปรากฏตัวที่นี่?”
แม้ว่าพวกมันหลายคนนั้นจะนับได้ว่ามีความสามารถ พวกมันทุกคนก็ยังเดาได้ว่าหากเจ้านกนี่คลั่งขึ้นมาก็สามารถจัดการกับพวกมันทั้งหมดได้!
ไม่สามารถรับมือกับนกตัวหนึ่งได้หลังจากฝึกวิทยายุทธ์มาเกินสิบปีงั้นหรือ?
“เจ้าคือแม่นางหูซาน?”
นกยักษ์ร่อนลงและไม่ขยับ เสียงหนึ่งดังมาจากบนตัวนก
“คารวะผู้อาวุโส!”
แม่นางหูซานเดินขึ้นหน้าและคารวะอย่างนอบน้อม ทันใดนั้น นางก็เห็นผู้ชายและผู้หญิงเดินลงมา ราวกับออกมาจากภาพวาด
“ ข้าคือหูซาน พวกท่านคือ?”
นางเอาไว้แล้วว่าทั้งสองคนนี้คือใคร ใบหน้าแดงเรื่อขึ้น
“พวกเรามาจากสํานักหยวน เหนื่อยพวกเจ้าแล้ว!”
ฟางหยวนยังคงเงียบอยู่ สืออวี้ถงก้าวออกมาและตอบอย่างสงบก่อนที่จะดึงหยกสีเขียวมรกตชิ้นหนึ่งออกมา “นี่เป็นแผ่นหยกพันความดี เจ้าสามารถเอามันไปแลกกับสิ่งที่เจ้าต้องการได้ที่สํานักหยวนทุกสาขา!”
“ขอบคุณมาก พี่สาว!”
แม่นางหูซานรับหยกพันความดีมาอย่างนอบน้อมและเก็บมันไว้อย่างดี เห็นสีหน้าอิจฉาของผู้อื่นรอบ ๆ ตัวแล้วนางก็แตะมือลงที่มีดบินของตัวเองอย่างไม่รู้ตัว
นางไม่สงสัยเลยว่าถ้าไม่เพราะตัวตนของอู่จงสองคนนี้ เหล่า “เพื่อนเก่า” ของนางคงเสี่ยงชีวิตแย่งชิงสมบัติชิ้นนี้ไป
“เล่าให้ข้าฟัง เรื่องที่เกิดขึ้นที่นี่เ”
เห็นแม่นางหูซานเก็บหยกพันความดีลงไป ฟางหยวนก็พูดขึ้น “อย่าได้หลงลืมรายละเอียดใด!”
“เจ้าค่ะท่าน!”
แม้ว่าเขาจะเงียบอยู่ตลอด แต่เมื่อเขาเปิดปากขึ้น สืออวี้ถงก้าวถอยไปที่ด้านข้างเขาอย่างเคารพไพล่มือไว้ที่ด้านหลัง ในตอนนี้ แม่นางหูซานก็สามารถบอกได้ว่านายท่านที่แท้จริงนั้นคือใคร และความเย็นเยือกสายหนึ่งก็แล่นไปตามสันหลัง
“รายงาน!”
ในเมื่อนางไม่รู้ตัวตนแท้จริงของฟางหยวน แม่นางหูชานก็ตัดสินใจแสดงความเคารพสูงสุด “มรดกที่ในทะเลสาบมังกรพิษนั้นถูกพบครั้งแรกโดยบรรพบุรุษของข้า หูอิง จากในบันทึกของตระกูล นี่ทําให้บรรพบุรุษของข้ามาตั้งรกรากที่ในมณฑลชิงหลงเพื่อที่จะครอบครองมรดกนั้น แต่ว่าเพราะหมอกพิษนั้นอันตรายมาก พวกเราจึงไม่สามารถอยู่ในนั้นได้นานพอ แม้จะมียาวิเศษต้านพิษ มีเพียงผู้ฝึกยุทธ์ระดับประตูที่ขึ้นไปที่สามารถทนอยู่ได้ ระยะเวลานั้นก็ขึ้นกับความสามารถของคนผู้นั้น…”
“ข้าได้รายงานไปที่สํานักหยวนแล้วก่อนหน้านี้ ทางสํานักให้ห้าผู้อาวุโสแห่งแม่น้ำหลี่เข้าไปสํารวจ พวกเขาทุกคนนําหนอนเป็นตายไปด้วย หนอนเป็นตายคือหนอนสองชนิด ตัวผู้และตัวเมีย หากตัวหนึ่งตายอีกตัวก็ไม่รอดชีวิตไปได้…. หลังจากเข้าไปในหมอกพิษ ในตอนแรก ทุกอย่างก็ราบรื่นดี แต่ว่า หลังจากผ่านไปครึ่งชั่วโมง หนอนเป็นตายทั้งห้าที่ด้านนอกก็ตายลง นี่หมายความว่าพวกเขาทั้งห้าก็ตายตกไปแล้วเช่นกัน…. อภัยให้พวกเราด้วย!”
แม่นางหูซานรายงาน และรู้สึกหวาดกลัวขึ้นช้า ๆ
อย่างไรเสีย มันก็ไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะเฟ้นหาผู้ฝึกยุทธ์ระดับประตูทองที่ 12
“อืม เอาบันทึกนั่นให้ข้าดู!”
ฟางหยวนโบกมือ
แม้จะไม่ยินยอมนัก แต่แม่นางหูซานก็ดึงบันทึกเก่าคร่ำเล่มหนึ่งออกมาจากในเสื้อและส่งให้ฟางหยวน
สีหน้าของเขายังไม่เปลี่ยนแปลงขณะค่อย ๆ อ่านบันทึกช้า ๆ
หลังจากนั้นครู่หนึ่ง ฟางหยวนก็เงยหน้าขึ้นและโบกมือง่าย ๆ
“เอาละ ตอนนี้ข้าเข้าใจความอันตรายของที่นี่แล้ว ตั้งแต่นี้ไป นี่ไม่ใช่เรื่องของพวกเจ้าแล้ว กลับไปซะ!”
ฟางหยวนตรงไปที่หมอกพิษและเริ่มรวบรวมพลัง
“ซู่! ซู่!”
เขาชักนําพลังธาตุออกมาจากร่างกายและสร้างเป็นฟองอากาศล้อมรอบตัวเองไว้ ก้าวเท้าก้าวใหญ่ เดินเข้าไปในหมอกพิษ
“ซี่! ซี่!”
หมอกพิษหนาหนักดูมีชีวิตขึ้นมาและแนบตัวเองเข้ากับฟองอากาศพลังธาตุ พยายามลงมือตามปกติ นี้ทําให้พลังธาตุของฟางหยวนค่อย ๆ ถูกกร่อนไป
แต่ว่า เทียบกับปริมาณพลังธาตุอันแท้จริงที่เขามี นี่ไม่นับเป็นกระไรเลย
“ไปกันเถอะ!”
เมื่อเขาเรียก สืออวี้ถงก็ก้าวไปข้างหน้าและโบกมือ พลังธาตุสีเขียวปรากฏขึ้น นางเดินตามฟางหยวนไป พวกเขาหายเข้าไปในหมอกพิษอย่างช้า ๆ
“ก่อรูปลักษณ์ภายนอก?!”
ที่ด้านข้าง แม่นางหูซาน ชายแผลเป็นและคนที่เหลือล้วนตะลึงงัน
ตอนที่ห้าผู้อาวุโสแห่งแม่น้ำหลี่มาที่นี่ก่อนหน้านี้ พวกเขาใช้เวลาเตรียมการเป็นครึ่งวัน กินยาต้านพิษและยาวิเศษ มันไม่ได้เรียบง่ายเช่นนี้
นอกจากนี้ หลังจากการเตรียมการทั้งหมด พวกเขาก็ยังคงไม่รอด
“อู่จง!”
แม่นางหูซานยังอึ้งอยู่อีกครู่หนึ่งก่อนจะถอนหายใจ “พวกเขาสองคนเป็นอู่จง! อันที่จริง ก็มีเพียงคนเช่นนี้จึงสามารถมีนกวิญญาณเช่นนี้ได้! สิ่งเดียวก็คือ… การปรากฏตัวของผู้อาวุโสและนกวิญญาณนี้”
ขณะที่ดวงตาของนางเปิดกว้าง นางก็คิดถึงความเป็นไปได้หนึ่ง
ใบหน้าแผลเป็นและคนที่เหลือก็สีหน้าเปลี่ยนไปเช่นกัน มองไปทางทะเลสาบมังกรพิษ ดวงตาของพวกมันก็เต็มไปด้วยความนับถือขณะพึมพํากับตัวเอง “มิใช่ท่านเจ้าสํานักมาด้วยตนเองหรอกหรือ?”
“ซ่า! ซ่า!”
ในหมอกพิษสีเขียว มีแต่ความเงียบ ยกเว้นเพียงแค่เสียงฝีเท้า และมันก็ประหลาดที่ได้ยินเสียงนี้ในความเงียบ
หลังจากเดินมาประมาณสามสิบจั้ง หมอกพิษก็เริ่มหนาทึบมากขึ้น และความกัดกร่อนต่อฟองอากาศพลังธาตุก็เริ่มรุนแรงมากขึ้น
ฟางหยวนนั้นไม่เป็นอะไร แต่ว่าสืออวี้ถงนั้นเดินเคียงข้างเขาได้อย่างลําบาก ขณะที่ฟองอากาศพลังธาตุของนางเริ่มส่องประกาย
“ยิ่งพวกเราเข้าไปใกล้ หมอกพิษก็เริ่มรุนแรงขึ้น!”
ฟางหยวนยกขาขึ้นมา บนพื้นนั้นเป็นโคลนหนา มันเหมือนพื้นดินที่นี่ถูกพิษกัดกร่อนจนเริ่มเปื่อยยุ่ย
หากไม่ใช่เพราะฟางหยวนนั้นใช้พลังธาตุปกคลุมรองเท้าเอาไว้ด้วย มันก็คงกร่อนไปแล้วเช่นกัน
“แม้ว่ามันจะเรียกว่าทะเลสาบมังกรพิษ แต่อันที่จริงแล้ว มันก็เป็นเพียงหนองน้ำ! นอกจากนี้…”
ฟางหยวนคว้ามือไปข้างหน้า
“ฝุบ!”
เพียงวูบเดียว มือของเขาก็เต็มไปด้วยหนอนสีเขียว
หนอนเหล่านี้ยาวประมาณครึ่งนิ้วและเปล่งประกายแสงสีเขียว พวกมันมีปีกใสสองคู่และมีลายตรงท้อง มันน่าขนลุกมาก
“เจ้าสิ่งนี้นั้นเป็นพิษและดูเหมือนจะมีความสามารถในการกัดกร่อนพลังธาตุของท่าน ระวังด้วย…”
เพียงแค่ดีดนิ้ว ก็ปรากฏรอยสีเขียวบนพื้น ควันสีขาวลอยออกมาและพื้นก็กร่อนไปกลายเป็นหลุมหนึ่ง
สืออวี้ถงถึงตกใจจนพูดไม่ออก สีหน้าเปลี่ยนไป
แม้ว่านางก็เป็นอู่จงเช่นกัน เทียบกับฟางหยวนแล้ว ก็ยังแตกต่างกันอีกช่วงใหญ่
หากหนอนสีเขียวเหล่านี้รุมโจมตีนาง นางย่อมไม่สามารถป้องกันตนเองได้
“ดูเหมือนว่าบรรพบุรุษของแม่นางหูซานไม่ได้บันทึกเรื่องเกี่ยวกับหนอนนี้เอาไว้”
ฟางหยวนยิ้ม ก้าวไปข้างหน้าหลายก้าวและเท้าขวาไปบนพื้น
“ครืน!”
ขณะที่พื้นแยกออก โคลนก็ปลิวกระเด็นไปทั่ว เผยให้เห็นซากโครงกระดูก จากสภาพของมันและความกร่อน มันดูเหมือนว่าจะเป็นซากจากหลายปีก่อน
“ห้าผู้อาวุโสแห่งแม่น้ำหลี่?”
สืออวี้ถงเห็นแหวนโลหะและอุทานออกมาอย่างตกใจ
“อืม พวกเขาไร้สามารถและยังอวดดี แต่ก็ไม่มีใครคิดว่าพวกเขาจะมาตายอยู่ที่นี่!”
ฟางหยวนส่ายหน้าและเดินต่อ
“แซ่ก! แซ่ก!”
ยิ่งพวกเขาเดินเข้าไปลึก พื้นดินก็ยิ่งนุ่ม มีแอ่งน้ำสีเขียวเล็ก ๆ อยู่ทั่วไปในโคลน และยังมีฟองปุด พอฟองแตกออก ก็มีกลิ่นกํามะถันลอยขึ้นในอากาศ
หากที่อยู่ตรงนี้เป็นคนธรรมดาหรือเป็นผู้ฝึกยุทธ์ระดับประตูทองที่ 12 พวกเขาก็คงตกหล่มโคลนถูกกลืนกินทั้งเป็นไปแล้ว
โชคดี ฟางหยวนและสืออวี้ถงนั้นเป็นผู้ที่เหนือธรรมดา ทุกก้าวของพวกเขานั้นมั่นคงอย่างที่สุด
หลังจากนั้นครู่หนึ่ง ทะเลสาบสีเขียวก็ปรากฏขึ้นตรงหน้าคนทั้งคู่
ที่นี่ หมอกสีเขียวดูจางไปและการมองเห็นก็ดีขึ้น
แต่ว่า ฟองอากาศพลังธาตุของสืออวี้ถงนั้นกลับส่งเสียงสั่น ๆ ออกมา รูปร่างเดิมที่มันเคยเป็น ตอนนี้นั้นผิดรูปไปอย่างรุนแรงแล้ว
“ยิ่งไปได้ไกลเท่าไหร่ ก็ยิ่งได้มากขึ้น!”
ฟางหยวนพยักหน้า “หากนี่คือระยะไกลสุดที่ท่านมาได้ เช่นนั้นก็รอข้าที่นี่!”
โดยไม่รอให้สืออวี้ถงตอบ เขาก็ไปถึงผิวทะเลสาบแล้ว
“ซ่า!”
พอเท้าขวาของเขาแตะลงอย่างมั่นคงบนผิวทะเลสาบ ก็เกิดคลื่นแผ่ออกไปโดยรอบ แต่ทว่ากลับไม่ได้รับผลกระทบจากน้ำหนักของเขาเดินบนผิวน้ำ!
กระทั่งอู่จงยังพบว่านี่เป็นเรื่องยาก ไม่ต้องพูดถึงว่า ทะเลาสาบมังกรพิษนั้นไม่ได้เหมือนทะเลสาบทั่วไป
ฟางหยวนดูใจเย็นและไปถึงกลางทะเลสาบ
เขาปลดปล่อยพลังธาตุออกมา ใบหน้าของเขานั้นมีสีหน้าที่ดูราวจะเข้าใจบางอย่าง
“ฟ่อ!”
ทันใดนั้น เงาร่างราวกับลูกศรยาวเหยียดหยักไปมาก็ปรากฏขึ้นภายใต้ผิวหน้าของทะเลสาบ!
คอมเม้นต์