กำเนิดใหม่สาวนักเรียนเซียนธุรกิจ – ตอนที่ 12: ครอบครัวกู้ชิง
สีหน้าของกู้หนิงเปลี่ยนไปเล็กน้อย ไม่ใช่เพราะมู่เค่อ เธอรู้ว่าเขาห่วงใยเธอจริงๆ
กู้หนิงถามเขากลับอย่างนึกล้อเลียนว่า “ตอนนี้ฉันอยู่ในสภาพดีหรือไม่ดีล่ะ?”
มู่เค่อรู้สึกเหมือนโดนค้อนทุบ กู้หนิงตอนนี้ดูแข็งแรงดี ไม่อย่างนั้นเธอจะจะล้มผู้ชายตัวโตลงได้ยังไงตั้งสองคน
“ดีแล้วล่ะ เธอจะได้รู้ว่าเขาเป็นคนแบบไหน ดังนั้น…..” มู่เค่อตั้งใจจะบอกกู้หนิงให้เลิกเพ้อฝันถึงฉินเจิ้งซะ แต่ว่ามันไม่ใช่ธุระกงการอะไรของเขา
“มันจะไม่เกิดขึ้นอีกแล้วล่ะ ฉันยอมแพ้เรื่องฉินเจิ้งไปแล้ว” กู้หนิงรู้ว่ามู่เค่อคิดอะไรอยู่ เธอไม่สนใจฉินเจิ้งหรือใครหน้าไหนทั้งนั้น
“ดีแล้ว” มู่เค่อโล่งใจ
มู่เค่อไม่ได้ตกหลุมรักกู้หนิง เขาเพียงแต่ทนเห็นผู้หญิงไร้เดียงสาถูกรังแกไม่ได้
“สายแล้ว ฉันต้องกลับบ้านแล้วล่ะ” กู้หนิงพูดขึ้นมา
“อ้อ บ๊ายบาย” มู่เค่อตอบกลับ
วันนี้กู้หนิงได้เงินจากการขายของเก่ามาเยอะ เธอจึงเรียกแท็กซี่กลับบ้าน
กู้หนิงอยากจะแวะซื้อโทรศัพท์มือถือเครื่องใหม่ แต่ตอนนี้ใกล้ค่ำแล้ว เธอไม่อยากให้กู้ม่านเป็นห่วง จึงตรงกลับบ้านทันที
กู้ม่านโทรมา ตอนที่เธอนั่งแท็กซี่มาได้ครึ่งทาง อีกยี่สิบนาทีกู้หนิงก็มาถึงบ้าน
แท็กซี่ใช้เวลาเดินทางสั้นกว่ารถประจำทาง ดังนั้นกู้หนิงจึงใช้เวลาเพียงสี่สิบนาทีก็มาถึงบ้าน
เมื่อกู้หนิงกลับมาถึง เวลาขณะนั้นก็เกือบหกโมงเย็นแล้ว กู้ม่านจัดเตรียมอาหารเย็นไว้เรียบร้อยแล้ว ครอบครัวป้าชิงก็อยู่ที่นี่วันนี้ด้วย พวกเขามาเยี่ยมกู้หนิงที่เพิ่งออกจากโรงพยาบาล
ลุงกู้หนิงมีชื่อว่า ‘เจียงซู่’ และลูกพี่ลูกน้องของเธอชื่อว่า ‘เจียงซินหยู’
“หนิงหนิงกลับมาแล้ว”
วินาทีที่กู้หนิงเดินเข้าบ้าน เจียงซู่และกู้ชิงเอ่ยทักทายเธอ
“คุณป้า คุณลุง ซินหยู สวัสดีค่ะ ยินดีที่ได้เจออีกครั้งค่ะ” กู้หนิงเอ่ยทักทายตอบ
“พี่สาว” เจียงซินหยูทักทายกู้หนิง เธอเป็นเด็กขี้อาย
เจียงซินหยูอายุสิบห้าปี เธออยู่ ม.3 และเป็นเด็กสาวที่ค่อนข้างสงบปากสงบคำ โชคดีที่เธอไม่เก็บตัวเงียบเหมือนกู้หนิงคนเก่า เธอเป็นเด็กเรียนเก่งและมีเพื่อนมากมาย
ในรุ่นหลานของตระกูลกู้ เจียงซินหยูชอบกู้หนิงคนเดียว ส่วนที่เหลือเธอไม่คุ้นเคยกับพวกเขา
เจียงซู่อายุมากกว่ากู้ชิงสองปี เขาอายุสี่สิบห้า แต่ดูแก่กว่าอายุจริงไปหลายเท่าตัว เขาทำงานเป็นคนขับรถบรรทุกในเขตก่อสร้าง เป็นงานที่ต้องใช้แรงงาน
เจียงซู่หาเงินได้หลายพันหยวนต่อเดือนบวกกับเงินเดือนกู้ชิง พวกเขาจึงมีชีวิตดีกว่ากู้หนิงและแม่ของเธอมากนัก
อย่างไรก็ตาม ครอบครัวของกู้ชิงก็ยังต้องประหยัดมัธยัสถ์ พวกเขาไม่มีกำลังพอจะซื้อบ้านได้ จึงเช่าอาศัยอยู่
แม้ว่าเมือง F จะเป็นเมืองระดับสาม ราคาของบ้านไม่ได้ต่ำตาม โดยเฉพาะในย่านตัวเมือง
แม้แต่เขตชานเมืองก็ต้องเสียค่าใช้จ่ายอย่างน้อยหลายแสนหยวนเพื่อซื้อบ้านสำหรับทั้งครอบครัว
พ่อแม่ของเจียงซู่เสียชีวิตไปนานหลายปี ดังนั้นเขาจึงไม่ต้องส่งเงินทองไปให้พ่อแม่ แต่ก็ยากสำหรับเขาที่จะเก็บออมเงิน เนื่องจากต้องจ่ายค่าเช่าบ้านและค่าเล่าเรียนของลูกสาว
ตราบใดที่พวกเขายังมีข้าวให้กิน มีเสื้อผ้าให้สวมใส่ และลูกของพวกเขาสามารถเข้าโรงเรียนได้ แค่นี้พวกเขาก็มีความสุขแล้ว
ถึงแม้ว่าครอบครัวกู้ชิงจะมีเงินใช้จ่ายอย่างจำกัด พวกเขาก็ให้ความช่วยเหลือกู้หนิงและกู้ม่านเท่าที่จะทำได้
ตอนกู้หนิงเข้าโรงพยาบาล สมาชิกครอบครัวกู้ส่วนใหญ่ไม่สนใจมาเยี่ยม แม้ว่ากู้ม่านจะโทรไปขอยืมเงิน พวกเขาปฏิเสธที่จะช่วยเหลือ
มีเพียงกู้ชิงและเจียงซู่ที่มาเยี่ยมกู้หนิง นอกจากนี้พวกเขายังให้ยืมเงินที่พวกเขาเก็บออมไว้ให้กู้ม่านเพื่อเป็นค่าผ่าตัดกู้หนิง
โชคดีที่กู้หนิงฟื้นขึ้นมาก่อน จึงไม่จำเป็นต้องใช้เงินก้อนนั้น
กู้หนิงไม่อยากบอกกู้ม่านว่าเธอหาเงินได้แลเว เธออยากรอจนกว่าจะสามารถซื้อบ้านหลังใหม่ได้
และเธอจะไม่ลืมความช่วยเหลือของครอบครัวกู้ชิงเช่นกัน! เธอจะช่วยให้พวกเขามีชีวิตที่ดีเมื่อเธอกลายเป็นเศรษฐีในวันข้างหน้า!
คิดได้อย่างนั้น กู้หนิงจึงเปิดปากพูดขึ้นทันทีว่า “แม่ ป้า ลุง หนูสัญญาว่าหนูจะทำให้ทุกคนมีชีวิตที่สะดวกสบายเมื่อหนูประสบความสำเร็จในอนาคต”
ทุกคนถูกกู้หนิงทำให้ประหลาดใจ
ไม่ว่าจะเป็นจริงหรือไม่ พวกเขารู้สึกมีความสุขที่กู้หนิงใส่ใจพวกเขา และกู้หนิงเพิ่งจะเติบโต อนาคตข้างหน้าจึงยังไม่แน่นอน
“ดี พวกเราจะรอจนกว่าวันนั้นจะมาถึงนะจ้ะ หนิงหนิง พวกเราเชื่อว่าหนูจะต้องประสบความสำเร็จแน่นอน”
“จริง พวกเราทั้งหมดเชื่อหนู”
กู้ชิงและเจียงซู่ขยับตัวเข้ามาให้กำลังใจกู้หนิง
กู้ม่านพลันรู้สึกว่ากู้หนิงเปลี่ยนไป เธอเปิดเผยมากขึ้นกว่าแต่ก่อน
เพราะพวกเขาต่างรักกันเหมือนครอบครัวเดียวกัน คืนนั้นจึงเป็นช่วงเวลาดีๆคืนหนึ่ง
กู้หนิงนอนอยู่บนเตียง ก่อนที่จะนอน เธอหยิบสมุดเรียนออกมาอ่าน
แม้ว่าถังอันหนิงจะเรียนได้คะแนนดี แต่ยังไม่ดีพอ มันจึงยากสำหรับกู้หนิงในเวลานี้ที่จะสอบเข้ามหาวิทยาลัย ดังนั้นกู้หนิงจึงต้องใช้เวลาอ่านหนังสือให้มากขึ้น
เธอเปิดดูสมุดเรียน อ่านสิบบรรทัดในคราวเดียว เธอจำเนื้อหาได้ทั้งหมด
พลังจากดวงตาแห่งหยกไม่ธรรมดาเลยจริงๆ
วันที่สองหลังออกจากโรงพยาบาลคือวันจันทร์
กู้ม่านโทรไปแจ้งครูประจำชั้นของกู้หนิง ขอลาป่วยสักสองสามวันเนื่องจากกู้หนิงประสบอุบัติเหตุ ถึงแม้ตอนนี้กู้หนิงจะสบายดีแล้ว กู้ม่านก็ยังอยากให้เธอพักอยู่ที่บ้าน
แต่กู้หนิงต้องการไปโรงเรียน กู้ม่านจึงเห็นด้วยในที่สุด
เมื่อวานกู้หนิงพบกับจ้าวเฟยเฟยโดยบังเอิญ เธอไม่อยากให้ครูรู้ว่าเธอหายดีแล้วแต่ไม่ยอมไปโรงเรียน
กู้หนิงไม่สนใจหากต้องเจอเรื่องยุ่งยากที่โรงเรียน เธอเพียงแต่ไม่อยากเพิ่มความยุ่งยากให้ตัวเองมากไปกว่าเดิมก็เท่านั้นเอง
คาบเรียนแรกเริ่มตอนหกโมงห้าสิบ กู้หนิงใช้เวลาประมาณยี่สิบนาทีในการนั่งรถประจำทาง ปกติกู้หนิงจะตื่นนอนตอนหกโมงเช้า
ส่วนกู้ม่านเริ่มงานตอนแปดโมงครึ่ง เพราะโรงงานที่ทำงานอยู่ไม่ไกลจากบ้าน กู้ม่านใช้เวลาสามสิบนาทีในการเดินทาง เธอจึงออกจากบ้านตอนเจ็ดโมงสี่สิบ
เพื่อให้กู้ม่านได้มีเวลานอนมากขึ้น กู้หนิงจึงไม่กินข้าวเช้าที่บ้าน แต่ไปกินข้าวที่โรงเรียนแทน เธอจะกลับมาบ้านหลังจากเรียนจบคาบแล้ว
คอมเม้นต์