กำเนิดใหม่สาวนักเรียนเซียนธุรกิจ – ตอนที่ 15: เธอชอบฉันเหรอ?
เมื่อทุกคนในห้องเห็นกู้หนิงถูกเรียกตัวออกไป ทุกคนต่างมองมาที่เธอด้วยความงงงวย บางคนก็มองดูอย่างสะใจ โดยเฉพาะจ้าวเฟยเฟยและเพื่อนๆของเธอ จ้าวเฟยเฟยเชื่อว่าครูต้องตำหนิกู้หนิงเรื่องที่เธอขาดเรียนเมื่อวานแน่นอน
มีเพียงกู้หนิงคนเดียวที่ดูไม่เดือดเนื้อร้อนใจ เพราะเธอรู้จุดประสงค์ของครูดี
“กู้หนิง…” หยูหมิงซีเรียกเธอด้วยความกังวล
“ไม่มีอะไรหรอก” กู้หนิงหันมามองเธออย่างปลอบใจ
“ครูจาง ยินดีที่ได้เจอครูอีกครั้งค่ะ” กู้หนิงกล่าวทักทายจางฉิวฮวาอย่างสุภาพ
“กู้หนิง แม่ของเธอบอกครูว่าเธอประสบอุบัติเหตุถูกรถชนและต้องได้รับการผ่าตัดด่วน แล้วตอนนี้เธอไม่เป็นอะไรแล้วเหรอ?” จากฉิวฮวาถามอย่างสงสัย
เมื่อวานซืนกู้ม่านโทรมาหาเธอ และบอกว่ากู้หนิงถูกรถชนแต่ปรากฏว่าวันนี้กู้หนิงโผล่มาที่โรงเรียนด้วยอาการปกติ เธอจึงจำเป็นต้องถามว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่
กู้หนิงเข้าใจ ดังนั้นเธอจึงอธิบายให้ครูจางฟังว่า “หนูถูกรถชนจริงค่ะ สมองของหนูได้รับความกระทบกระเทือน และหนูก็หมดสติไป คุณหมอบอกว่ามีเลือดออกในสมอง ต้องได้รับการผ่าตัดด่วน แต่พอหนูตื่นขึ้นมาเช้าอีกวัน เลือดที่ออกในสมองก็ไม่มีแล้ว ดังนั้นตอนนี้หนูสบายดีค่ะ”
จางฉิวฮวาคิดว่ามันน่าเหลือเชื่อมาก แต่เธอก็ไมได้ถามอะไรอีก บางทีอาจมีปาฏิหาริย์เกิดขึ้น
“ครูดีใจที่เห็นเธอไม่เป็นอะไรแล้ว เธอต้องดูแลตัวเองดีๆ ถ้ารู้สึกไม่สบายก็มาบอกครูนะ เอาล่ะกลับเข้าไปในห้องเถอะ” จางฉิวฮวาพูดกับกู้หนิง เธอเป็นห่วงนักเรียนทุกคน โดยเฉพาะกู้หนิงที่เพิ่งหายดีจากอุบัติเหตุถูกรถชน
“ขอบคุณมากค่ะ” กู้หนิงขอบคุณคุณครูของเธอ และกลับไปในห้อง
เมื่อกู้หนิงกลับเข้ามาอีกครั้ง สายตาของทุกคนในห้องต่างพุ่งเป้ามาที่เธอ พวกเขาอยากรู้ว่าครูจางพูดอะไรกับเธอ?
กู้หนิงดูปกติเหมือนเช่นเคย จ้าวเฟยเฟยและเพื่อนของเธอรู้สึกผิดหวัง ครูจางไม่ได้เรียกเธอไปต่อว่าหรอกเหรอ?
ใช่แน่ๆ แม่นั่นต้องแกล้งทำ ครูจางต้องเรียกมันไปตักเตือนแน่นอน!
“กู้หนิงเธอเป็นอะไรรึเปล่า?” หยูหมิงซีเอ่ยถามขึ้นทันทีที่กู้หนิงนั่งลง
“ไม่เป็นไร ฉันสบายดี” กู้หนิงยิ้ม
หยูหมิงซีโล่งอกที่เห็นว่ากู้หนิงสบายดี เธอก้มลงอ่านหนังสือต่อเมื่อครูจางเดินเข้ามาในห้อง
ผ่านไปสักพักหยูหมิงซีตระหนักได้ว่ากู้หนิงเปลี่ยนไป แต่เธอไม่รู้ว่าเปลี่ยนไปที่ตรงไหน
อีกด้าน กู้หนิงกำลังขะมักเขม้นอ่านหนังสือ เธอพลิกหน้ากระดาษอ่านด้วยความรวดเร็ว เนื้อหาของแต่ละหน้าซึมซับเข้าสู่สมองของเธอเป็นที่เรียบร้อย
จ้าวเฟยเฟยหันไปมองดูกู้หนิงอย่างสนใจ เธอเห็นว่ากู้หนิงพลิกหน้ากระดาษหนังสืออ่านอย่างรวดเร็ว “ดูยัยนั่นสิ แกล้งทำเป็นอ่านหนังสือได้เร็ว คงนึกว่าตัวเองเรียนเก่งซะเต็มประดา”
“จริงด้วย ยัยนั่นแสร้งทำอย่างกับว่าตัวเองเรียนเก่ง” หยางหลูลู่เห็นด้วย
จ้าวเฟยเฟยตั้งใจจะก่อปัญหาทันทีที่คาบเรียนนี้จบ
“หลูลู่ ฉินหย๋า ฉันมีเรื่องอยากจะบอกพวกเธอ” จ้าวเฟยเฟยเรียกหยางหลูลู่และอู่ฉินหย๋าเสียงดังทำให้ทั้งห้องหันมามองเธออย่างสนใจ
ทุกคนดูหมือนจะรู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้น และพวกเขาก็คอยเงี่ยหูฟังอย่างตั้งใจ
“บอกมาเดี๋ยวนี้เลย!” หยางหลูลู่และอู่ฉินหย๋าให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี
“เมื่อวานฉันเจอคนบางคนที่ทั้งจน ทั้งยังไม่มีเงินกินข้าว อยู่ในร้านขายเครื่องประดับ คนในร้านไม่มีใครชอบแม่นั่นเลยนะ เพราะว่าหล่อนไม่มีเงินน่ะ และแม่นั่นก็ยังกล่าวหาคนอื่นว่าใส่ของปลอม ไม่ใช่เพราะหล่อนอิจฉาคนรวยหรอกเหรอ? พวกเธอคิดว่าไง?” จ้าวเฟยเฟยพูดกับหยางหลูลู่และอู่ฉินหย๋าแต่สายตาตวัดมองไปที่กู้หนิง เห็นได้ชัดว่าคำว่าใครบางใครของจ้าวเฟยเฟยก็คือกู้หนิง
ไม่มีใครสงสัยจ้าวเฟยเฟย แต่มองไปยังกู้หนิงด้วยสายตาดูถูกเหยียดยาม
ถึงแม้ใครหลายคนในห้องนี้จะมาจากครอบครัวคนรวยและใช้ชีวิตอย่างสุขสบาย แต่ก็ไม่มีใครกล้าเดินเข้าร้านขายจิวเวอรี่และเครื่องประดับซึ่งเป็นสถานที่สำหรับคนรวยจริงๆเท่านั้น
“แน่นอนว่าแม่นั่นต้องอิจฉาคนรวย” หยางหลูลู่และอู่ฉินหย๋าตอบกลับ
หยูหมิงซีมองไปที่กู้หนิงอย่างเป็นห่วง เธอรู้ว่ากู้หนิงไม่ใช่คนแบบนั้น และรู้สึกโกรธแทนเพื่อน
โดยเฉพาะจ้าวเฟยเฟยและเพื่อนของเธอ พวกเธอต่างรุมรังแกกู้หนิง
ร้านเปิดให้ทุกคนเข้าไปได้ไม่ใช่เหรอ? ใครกันที่บอกว่าคนจนไม่สามารถเข้าไปในร้านเครื่องประดับได้? และทำไมต้องซื้ออะไรเพียงเพราะว่าเดินเข้ามาในร้าน?
แต่หยูหมิงซีอ่อนแอเกินกว่าจะตอบโต้กลับ เธอได้แต่กักเก็บความโกรธไว้ในใจ
“ฉันคิดว่าแม่นั่นก็รูปร่างหน้าตาดีนะ ถ้าหล่อนไม่มีปัญญาซื้อมันได้ด้วยตัวเอง หล่อนน่าจะไปหาผู้ชายเลี้ยง ตราบใดที่เขาพอใจหล่อน หล่อนอาจจะมีปัญญาซื้อสักชิ้นก็ได้” จ้าวเฟยเฟยพูดเสริมขึ้นมา
ได้ยินอย่างนั้น ทุกคนมองกู้หนิงด้วยสายตาแปลกๆ ราวกับว่าเธอมีผู้ชายเลี้ยงแล้วงั้นแหละ
ตอนนี้กู้หนิงเริ่มรู้สึกไม่พอใจขึ้นมาบ้างแล้ว เธอส่งสายตาเย็นชาไปยังจ้าวเฟยเฟย
ไม่กี่วินาทีต่อมา จ้าวเฟยเฟยรู้สึกเหมือนเธอถูกทำให้ขายหน้า เธอตะคอกใส่กู้หนิงว่า “แกคิดว่าแกเป็นใคร? ฉันไม่ได้พูดถึงแกสักหน่อย! ถ้าแกอยากจะรับก็ได้นะ ด้วยความยินดี!”
“โอ้ นี่ฉันยอมรับแล้วเหรอว่าเธอกำลังพูดถึงฉันอยู่? ฉันแค่แปลกใจว่าทำไมเธอเอาแต่มองฉันขณะที่กำลังเล่าเรื่องตัวเอง? เธอชอบฉันเหรอ? ขอโทษด้วยนะ พอดีฉันชอบแต่ผู้ชายน่ะ!” กู้หนิงทำสีหน้าจริงจัง
“ฮ่า ฮ่า”
“ฮ่าฮ่า ฮ่าฮ่า”
ทุกคนพลันระเบิดเสียงหัวเราะ จ้าวเฟยเฟยรู้สึกอับอาย เธอตบไปที่โต๊ะเสียงดัง ตะโกนใส่กู้หนิงว่า “กู้หนิง หุบปากแกเดี๋ยวนี้นะ! แกมันหน้าด้าน! ฉันไม่ได้ชอบแก! ถ้าแกยังขืนกล้าพูดแบบนี้อีกล่ะก็ ฉันจะฉีกปากแกซะ!”
ระหว่างที่พูด จ้าวเฟยเฟยก็ตั้งท่าพร้อมสู้
“กู้หนิง แกมันไร้ยางอาย! อยู่ให้ห่างเฟยเฟยนะ!” หยางหลูลู่พูดช่วยจ้าวเฟยเฟยและมองกู้หนิงด้วยสายตาน่ากลัว
“ใช่แล้ว กู้หนิง ทำไมแกถึงได้ไร้ยางอายแบบนี้!” อู่ฉินหย๋าทำใบหน้าถมึงทึง
“กู้หนิง….” หยูหมิงซีเรียก พยายามที่จะห้ามไม่ให้เธอต่อต้านจ้าวเฟยเฟย
แต่ก่อนที่หมิงซีจะพูดอะไร กู้หนิงปรามเธอด้วยสายตา
กู้หนิงรู้ว่าหยูหมิงซีเป็นห่วงเธอ แต่ตอนนี้กู้หนิงเปลี่ยนไปแล้ว เธอไม่กลัวจ้าวเฟยเฟยอีกต่อไป
และเธอต้องจัดการปัญหานี้ด้วยตัวเธอเอง!
คอมเม้นต์