กำเนิดใหม่สาวนักเรียนเซียนธุรกิจ – ตอนที่ 22: เด็กไม่ดี

อ่านนิยายจีนเรื่อง กำเนิดใหม่สาวนักเรียนเซียนธุรกิจ Reincarnation Of The Businesswoman At School ตอนที่ 22 อ่านนิยายจีน.COM | อ่านนิยายจีนแปลไทย.

ตอนนี้ฉินเจิ้งเข้าใจแล้วว่าฉู่เพ่ยหานมาเพื่อช่วยกู้หนิง หากเขาไม่ยื่นมือเข้ามายุ่ง ดราม่านี้ก็คงจะไม่จบ

 

“แต่กู้หนิงตบจื่อเหยา…” กู้เซียวเซียวยังไม่ยอมรามือ

 

ก่อนที่ฉินเจิ้งจะตอบ กู้หนิงพูดขึ้นมาก่อนว่า “เธอสมควรได้รับแล้ว ถ้าเธอยังปากดีแบบนี้อีก ตบครั้งเดียวคงไม่พอ” จากนั้นส่งสายตาเย็นชาราวกับน้ำแข็งไปยังเฉินจื่อเหยา หล่อนขนลุกด้วยความกลัว ตอนนี้เฉินจื่อเหยาเกิดกลัวกู้หนิงขึ้นมาจริงๆแล้ว

 

“กู้หนิง แกคอยดูเถอะ เราจะได้เห็นดีกัน” แม้ว่าเฉินจื่อเหยาจะยังหวาดกลัว แต่เธอไม่ต้องการที่จะหนีออกไปอย่างนี้ เธอจึงแกล้งทำเป็นสงบและเดินจากไปพร้อมกู้เซียวเซียว

 

หรือหนีออกไป…..
ฉินเจิ้งและเพื่อนของเขามองกู้หนิงแวบหนึ่ง จากนั้นพากันเดินออกไปจากห้องอาหาร
พวกเขาคิดในใจว่าตอนนี้กู้หนิงเปลี่ยนไปอย่างกับคนละคน

 

เมื่อเห็นว่าพวกเขาจากไปแล้ว กู้หนิงจึงเดินกลับมานั่งที่โต๊ะของเธอ

 

นักเรียนที่เหลือต่างสลายหายตัวไปในทันใด

 

เด็กสาวอีกคนยังไม่จากไป เธอนั่งลงข้างกู้หนิง “หิวจะตายอยู่แล้ว อาหารบ้าของฉันอยู่ไหนเนี่ย”

 

น้ำเสียงหงุดหงิดเช่นเคย

 

กู้หนิงไม่ใส่ใจ

 

หยูหมิงซีประหม่าเมื่อฉู่เพ่ยหานนั่งร่วมโต๊ะกับพวกเธอ

 

เธอสับสนเช่นเดียวกันกับคนอื่น ก่อนหน้านี้ฉู่เพ่ยหานต่อว่ากู้หนิงไม่ใช่เหรอ? ทำไมตอนนี้ทำตัวสนิทสนมล่ะ?

 

“เธอไม่น่าปล่อยพวกมันไปง่ายๆแบบนั้นเลย ถ้าเป็นฉันนะ ฉันจะต่อยพวกมันให้หมด!! เธอต้องสอนบทเรียนพวกมันซะบ้าง พวกมันจะได้ไม่กล้ายุ่งกับเธออีก” ฉู่เพ่ยหานบ่น เธอไม่เห็นด้วยกับกู้หนิง

 

กู้หนิงยกมุมปากขึ้นยิ้ม ฉู่เพ่ยหานคนนี้ช่างเป็นผู้หญิงนิสัยไม่ดีจริงๆ ดูเหมือนว่าจะชอบหาเรื่องคนอื่นไปทั่ว

 

ถึงอย่างนั้นกู้หนิงก็รู้สึกประทับใจกับสิ่งฉู่เพ่ยหายพูด ตัวเธอรู้ดีว่าเธอไม่ใช่สาวน้อยมัธยม วิญญาณของเธอคือหญิงสาวอายุยี่สิบห้า

 

กู้หนิงไม่สู้กับใครถ้าไม่จำเป็นจริงๆ และเธอไม่ใช่คนขี้ขลาดตาขาวเสียด้วยสิ

 

“ถ้าฉันต่อยพวกเขา ฉันก็ต้องจ่ายค่ารักษาพยาบาลน่ะสิ ฉันไม่อยากเสียงเงินหรอกนะ”  กู้หนิงพูด

 

อืม…ก็มีเหตุผล

 

ฉู่เพ่ยหานนิ่งไปทันที จากนั้นคิดได้ว่ากู้หนิงไม่มีเงิน เธอรู้สึกละอายใจหน่อยๆ

 

ขณะนั้นอาหารก็ถูกเสิร์ฟวางบนโต๊ะ ฉู่เพ่ยหานจึงยุติหัวข้อสนทนาและเริ่มลงมือกินอาหารมื้อกลางวันแสนอร่อยของเธอ

 

อาหารมื้อนั้นเพียงพอสำหรับสามคน

 

อีกด้าน ฉินเจิ้งและเพื่อน พาเฉินจื่อเหยาที่บาดเจ็บไปห้องพยาบาล พวกเขาจึงยังไม่ได้ทานข้าว

 

หลังจากกินมื้อกลางวันเสร็จ ยังเร็วเกินไปสำหรับคาบบ่าย

 

นักเรียน ม.6 ส่วนใหญ่กลับเข้าห้องเรียนไปทบทวนเนื้อหา เนื่องจากการสอบเข้ามหาวิทยาลัยใกล้เข้ามาแล้ว

 

อย่างไรก็ตามมันไม่จำเป็นสำหรับกู้หนิงที่จะใช้เวลาว่างของเธอในการทบทวนบทเรียน ดังนั้นเธอจึงยังไม่กลับเข้าห้องเรียน

 

“เธอจะกลับไปที่ห้องเรียนเลย หรือว่าจะไปเดินเล่นกับฉัน?” กู้หนิงถาม
 

“ไม่ ฉันยังไม่เข้าห้องเรียนตอนนี้ โง่มากถ้าทำอย่างนั้นตอนเวลาพัก” ฉู่เพ่ยหานดูท่าจะไม่ชอบเรียน

 

เธอมักโดดเรียนออกไปเล่นข้างนอกและแน่นอนว่าคงโง่มากถ้าเธอเข้าไปเรียนในชั่วโมงพัก

 

ถึงอย่างนั้นฉู่เพ่ยหานมักทำคำแนนได้สูงถึงแม้ว่าเธอจะเกลียดการเรียนมากแค่ไหน

 

และจะมีนักเรียนบางคนที่ได้คะแนนต่ำเสมอไม่ว่าจะเรียนหนักแค่ไหน

 

จริงๆแล้วถ้าอยากทำคะแนนได้สูงคุณจำเป็นต้องฉลาดและคิดสร้างสรรค์แทนที่จะจดจำทุกสิ่งทุกอย่างในหนังสือ

 

ฉู่เพ่ยหานเป็นเด็กสาวฉลาดที่รู้วิธีใช้ความรู้ของเธออย่างเต็มที่

 

“ฉันไปด้วย!”

 

ถึงแม้หนูหมิงซีจะเรียนหนัก เธอก็ต้องการเวลาพักผ่อนบ้างเช่นกัน

 

หยูหมิงซีเป็นหนึ่งในนักเรียนท็อปเท็นของห้องสี่ เธอมีความหวังว่าจะสอบเข้ามหาวิทยาลัยดีๆได้ ถ้าเธอสามารถทำข้อสอบได้ดี

 

หยูหมิงซีรู้ว่าเมื่อไหร่ที่จะผ่อนคลายและเมื่อไหร่ที่จะเรียนอย่างหนัก

 

ดังนั้นทั้งสามจึงเดินไปยังบริเวณป่าเล็กๆในโรงเรียน

 

ถึงแม้หยูหมิงซีจะรู้สึกไม่สบายใจเมื่ออยู่กับฉู่เพ่ยหาน เธอไม่ได้รับท่าทีที่เป็นมิตรจากฉู่เพ่ยหาน หยูหมิงซีจึงพยายามผ่อนคลายตัวเธอเอง

 

กู้หนิงสัมผัสได้ถึงความกลัวจากหยูหมิงซีต่อฉู่เพ่ยหาน แต่เธอไม่ได้กล่าวอะไรออกมา

 

เธอต้องการให้หยูหมิงซีรู้สึกและตัดสินใจด้วยตัวเอง

 

ในขณะเดียวกันเฉินจื่อเหยาที่ไปห้องพยาบาลและทายาลงบนแก้มของเธอ แก้มของเธอก็ยังบวมแดง เธอจึงต้องกลับบ้าน

 

เวลาพักผ่านไปอย่างรวดเร็ว เด็กสามคนจึงเดินกลับไปยังห้องเรียนของตัวเอง

 

ทุกครั้งที่กู้หนิงเดินเข้าห้องเรียนของเธอ เธอมักจะได้รับสายตาไม่เป็นมิตร แต่ครั้งนี้กู้หนิงพบว่าสายตาไม่เป็นมิตรนั้นดูน้อยลง

 

เพื่อนร่วมห้องของเธอส่วนใหญ่ต่างเป็นพยานรู้เห็นสิ่งที่กู้หนิงทำกับจ้าวเฟยเฟยในช่วงเช้า และยังได้ยินดราม่าที่โรงอาหารอีกด้วย พวกเขาตระหนักได้ว่านิสัยของกู้หนิงเปลี่ยนไปแล้ว

 

แต่ยังมีเพื่อนร่วมห้องบางคนที่เชื่อว่ากู้หนิงชอบหาเรื่องใส่ตัว

 

กู้หนิงไม่สนใจว่าใครจะคิดยังไง เธอแค่อยากอยู่เงียบๆโดยไม่ต้องมีใครมาก่อปัญหาให้เธอ

 

เธอจะสู้กับคนที่บังอาจมายืนขวางทางเธอเท่านั้น!

 

จ้าวเฟยเฟยและเพื่อนของเธอหลีกเลี่ยง ไม่สบสายตากู้หนิง
คาบเรียนบ่ายสิ้นสุดลง กู้หนิงไปหาอะไรกินกับหยูหมิงซี

 

พวกเธอไม่เจอฉินเจิ้ง แต่เจอมู่เค่อแทน

 

เมื่อมู่เค่อมองเห็นกู้หนิง ดวงตาพลันสดใส เขาวิ่งมาหากู้หนิงทันที

 

“กู้หนิง บังเอิญจัง ให้ฉันเลี้ยงข้าวเธอนะ” มู่เค่อพูด

 

“ทำไม?” กู้หนิงถาม เธอไม่ได้สนิทกับมู่เค่อสักหน่อย

 

เมื่อเห็นว่ามู่เค่อทำตัวสงบเสงี่ยม กู้หนิงรู้ว่าเขามีเรื่องอยากจะพูดกับเธอ

 

มู่เค่อเกาศีรษะอย่างอายๆ จากนั้นจึงตอบว่า “คือว่าเมื่อวาน ตอนนั้น…..ฉันอยากให้เธอช่วยสอนฉันหน่อย”

 

แม้ว่ามู่เค่อจะไม่ชอบชกต่อย แต่เขาชอบดูหนังแอ็คชั่นมาก

 

 

คอมเม้นต์

การแสดงความเห็นถูกปิด